เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 23 เมษายน 2024, 16:20:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  อยุธยาร้างย้อนสงคราม แต่สุโขทัยกับศรีสัชนาลัยร้างย้อนย้ายเมือง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน อยุธยาร้างย้อนสงคราม แต่สุโขทัยกับศรีสัชนาลัยร้างย้อนย้ายเมือง  (อ่าน 3396 ครั้ง)
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« เมื่อ: วันที่ 16 พฤษภาคม 2012, 23:20:41 »

เกยสงสัยกั๋นก่อครับว่าใจใด "สุโขทัย" กับ "ศรีสัชนาลัย" เถิงเป๋นเมืองร้าง
คนส่วนใหญ่จะกึ๊ดว่าตึง 2 เมือง ร้างไป ย้อนสงคราม เหมือนตี้เกิดกับอยุธยา
แต้ๆแล้วบ่เหมือนกั๋น ตึง 2 เมืองร้างไปย้อนก๋ารอพยพย้ายเมืองครับ
ชัยภูมิของเมืองเก่าสู้เมืองใหม่บ่ได้น่อ


ประวัติศาสตร์ตี้เฮาเฮียนๆกั๋นมา มันบอกเฮาบ่เสี้ยง เลือกตี้จะบอก แลเลือกตี้จะปิด
เวลาอ่านหนังสือหรือหาข้อมูล ก็ต้องผ่อดีๆเน่อครับ

เครดิตฮูป
http://th.wikipedia.org
http://travel.thaiza.com


* เมืองเก่าสุโขทัย.jpg (111.46 KB, 800x556 - ดู 827 ครั้ง.)

* วัดช้างล้อม เมืองเก่าศรีสัชนาลัย.jpg (90.18 KB, 524x380 - ดู 2491 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 พฤษภาคม 2012, 23:39:06 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 16 พฤษภาคม 2012, 23:37:37 »

สุโขทัย

สุโขทัยเป๋นรัฐอิสระจนถูกอยุธยายึด
ในสมัยอยุธยาเรืองอำนาจ เมืองสุโขทัยยังบ่ถูกย้าย แต่ก็เป๋นเมืองหน้อย
มีความสำคัญสู้ "สวรรคโลก" กับ "พิษณุโลก" บ่ได้


ต่อมา สมัยรัชก๋าลตี้ 1 (พ.ศ.2325-2352) เมืองสุโขทัยก็ถูกย้ายมาตี้บ้านธานี
เซิ่งก็คือตั๋วเมืองสุโขทัยในปัจจุบันหั้นแล บ้านธานีอยู่ติดน้ำยม ไปไหนมาไหนง่าย
ก๋ารก้าขายก็ดีกว่าเมืองเก่าน่อ

สุโขทัยย้ายเมืองกั๋นเตื้อเดียว แต่ศรีสัชนาลัยย้ายกั๋นหลายเตื่อ
แถมยังเปลี่ยนจื่อโตยน่อ


* เมืองเก่าสุโขทัยแลเมืองสุโขทัยใหม่.jpg (96.84 KB, 805x557 - ดู 602 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 21:52:11 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
natta2533
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 199


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 12:56:47 »

สุดยอดครับ  ถ้าเป๋นเฟสบุ๊คต้องฮ้องว่ากระทืบไลค์ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 21:06:10 »

สรียินดีกับความฮู้ใหม่ๆครับ
หายหน้าตาจากเวปฯไปนานเลยครับ
ท่านเชียงรายพันธุ์แท้ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 23:15:39 »

ศรีสัชนาลัย / เชียงชื่น / สวรรคโลก

เมืองศรีสัชนาลัย บางเตื้อก็ฮ้องว่า เมืองเชลียง
ตั้งอยู่ฮิมน้ำยม ตั๊ดตี้เป๋นอุทยานผะวัติศาสตร์ศรีสัชนาลับหั้นแล
ต่อมาเมื่ออาณาจักรสุโขทัยโดนอยุธยายึด ศรีสัชนาลัยก็เปลี่ยนมาอยู่ในอำนาจกษัตริย์อยุธยา

พ.ศ. 1994 พระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา ได้ยกทัพมายึดเมืองศรีสัชนาลัย
และเปลี่ยนจื่อเมืองหนี้เป็น "เมืองเชียงชื่น"

ต่อมา พ.ศ. 2017 พระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา ตี๋เมืองเชียงชื่นคืน
แลทรงเปลี่ยนจื่อเมืองเชียงชื่นเป็น "เมืองสวรรคโลก"

ก๋ารย้ายเมืองเตื้อตี้ 1
สมัยกรุงธนบุรีเถิงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ เมืองสวรรคโลกนั้นถูกพม่าเข้ามาตี๋หมั่น
เจ้าเมืองสวรรคโลกเลยย้ายเมืองไปตั้งอยู่ตี้บ้านท่าชัย (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอศรีสัชนาลัย)

ก๋ารย้ายเมืองเตื้อตี้ 2
ต่อมา พ.ศ. 2379 สมัยรัชก๋าลตี้ 3 เมืองสวรรคโลกมีปลัดปกครองจื่อว่า "นาค"
ได้เอางาจ๊างเนียมไปถวายรัชก๋าลตี้ 3 เกิดความดีความชอบ เลยได้ฮับแต่งตั้งเป็น
พระยาสวรรคโลก มีบรรดาศักดิ์เป๋น "พระยาวิชิตภักดี" (ต้นตระกูลวิชิตนาค)
เปิ้นใจ้บ้านพักตี้ "บ้านวังไม้ขอน" เป็นตี้ว่าก๋ารเมืองสวรรคโลก
ลุกหั้นมาเมืองสวรรคโลกเลยย้ายลุก "บ้านท่าชัย" มาตั้งตี้ "บ้านวังไม้ขอน"

ปัจจุบัน บ้านวังไม้ขอนก็คือตั๋ว อำเภอสวรรคโลก ฮ้องว่าสวรรคโลกใหม่ก็ได้

____________________________________________________________________

ประวัติอำเภอศรีสัชนาลัย
ตะก่อนอำเภอนี้บ่ได้จื่อว่าศรีสัชนาลัยเน่อ แต่ใจ้จื่ออื่นมาก่อน
พ.ศ.2441 สมัยรัชก๋าลตี้ 5 ราชก๋ารเปิ้นตั้งตี้ว่าก๋ารอำเภอตี้บ้านปล๋ายนา ตำบลบ้านตึก
ใจ้จื่ออำเภอว่า "อำเภอด้ง" (ในประวัติเปิ้นว่ามีดอยแวดเหมือนกระด้งอี้หนา)

พ.ศ.2453 ราชก๋ารย้ายอำเภอมาตี้บ้านป่างิ้ว หล่ายวันออกฮิมน้ำยม
(ปัจจุบันอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลป่างิ้ว อำเภอศรีสัชนาลัย) และยังใจ้จื่ออำเภอว่า “อำเภอด้ง”

พ.ศ.2458 ย้ายที่ว่าก๋ารอำเภอไปบ้านหาดเชี่ยว (บ้านหาดเสี้ยว)
ย้อนว่าอำเภอตี้ป่างิ้วโดนโจรปล้น เอาไฟเผา

พ.ศ.2460 พ.ศ. ๒๔๖๐ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสเสด็จวัดโพธิ์ไทย
(วัดหาดเสี้ยว) เปิ้นเปลี่ยนจื่อบ้านเป๋น "บ้านหาดเสี้ยว" ตางอำเภอเลยรวดเปลี่ยนจื่อเป๋น
"อำเภอหาดเสี้ยว"

พ.ศ.2476 หลังปฏิวัติสยาม ผู้นำประเทศต้องก๋ารสร้างความเป๋นไทย ปลุกกระแสประวัติศาสตร์
เลยเปลี่ยนจื่ออำเภอหาดเสี้ยว เป๋น "อำเภอศรีสัชชนาลัย" โตยจื่อเมืองร้างตี้อยู่ในเขตปกครองของอำเภอ

พ.ศ.2510 เปลี่ยนจื่ออำเภอศรีสัชชนาลัยเป๋น "อำเภอศรีสัชนาลัย" มี ช.ตั๋วเดียว


* ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก.jpg (256.78 KB, 566x1192 - ดู 584 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 23:23:15 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 23:28:41 »

แผนตี้จั๋งหวัดสุโขทัยในปัจจุบันครับ


* จังหวัดสุโขทัย.jpg (118.77 KB, 772x1182 - ดู 1933 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2012, 23:44:12 »

...ไปแอ่วสุโขทัยบ่ดีลืมแวะไปไหว้พระอจนะเน้อครับ...

...งดงาม ยิ่งใหญ่...
...ไหว้เพื่อเตือนอกเตือนใจ ไม่ให้หวั่นไหวต่อสิ่งใด ๆ ให้มากนัก..

"อจนะ" แปลว่า ผู้ไม่หวั่นไหว
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 18 พฤษภาคม 2012, 03:42:53 »


เห็นว่าเข้ากับกระทู้นี้ได้ ขออนุญาตเอามาลงแบ่งกันอ่านครับ

ประวัติอำเภอศรีสัชนาลัย
ที่ราบลุ่มริมแร่น้ำยมและที่ลาดเชิงเขาพระศรีเขาใหญ่ เขาสุวรรณคีรี เขาพนมเพลิง เป็นพื้นที่เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน เนื่องจากมีแม่น้ำ และภูเขาเป็นปราการล้อมรอบ ไม่เฉพาะทำเลดีเท่านั้น แต่ความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำยมและคลองเล็กคลองน้อยที่ไหลเชื่อมดยงในพื้นที่ดังกล่าว จึงทำให้มีชุมชนก่อตัวขึ้นบริเวณนี้ตลอดมา มีหลักฐานเอกสารโบราณของไทยและจีนประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ ได้กล่าวถึงเมืองโบราณแห่งหนึ่งอยู่ระหว่างบริเวณแถบเมืองสุโขทัย โดยเอกสารจีนโบราณราชวงศ์ซุงเรียกว่าเมืองเฉิงเหลียง พงศาวดารโบราณเรียกว่า แดนเฉลียง ก่อนช่วงเวลาที่พ่อขุนศรีอินทราทิตยืจะเป็นกษัตริย์ปกครองสุโขทัยนั้นมีเหตุการณ์ที่ปรากฏในศิลาจารึกตำนานและพงศาวดารยืนยันว่าปรากฏมีเมืองโบราณ ๒ เมืองในลุ่มแม่น้ำยมอยู่ก่อนแล้ว คือ เมืองสุโขทัย กับเมืองเชลียง พระมหากษัตริย์ไทยองค์หนึ่งทรงพระนามว่าพ่อขุนศรีนาวนำถม ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์ผาเมือง กับเมืองเชลียง พระมหากษัตริย์ไทยองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พ่อขุนศรีนาวนำถม ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์ผาเมือง เคยเป็นเจ้าเมืองเชลียงก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ที่สุโขทัย เมื่อพ่อขุนศรีนาวนำถมสิ้นประชนม์ ขอมสบาด โขลญลำพงใช้กำลังยึดทั้งเมืองสุโขทัยและศรีสัชนาลัย ต่อมา โอรสพ่อขุนศรีนามนำถมร่วมกับพ่อขุนบางกลางหาวได้ยึดเมืองทั้งสองกลับมาได้จนในที่สุดพ่อขุนบางกลางหาวได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองสุโขทัย โดยมีพระนามว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ต่อมาพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ได้ส่งพระราชโอรสองค์ใหญ่ของพระองค์ คือ พ่อขุนบาลเมืองไปครองเมืองศรีสัชนาลัย ต่อมาพ่อขุนบาลเมืองขึ้นครองราชย์ที่สุโขทัยแล้วพ่อขุนรามคำแหงก็ได้ปกครองเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของคำว่าเมืองลูกหลวง เมืองศรีสัชนาลัยคงดำรงความเป็นเมืองบูกหลวงของสุโขทัยต่อมาอีกหลายชั่วกษัตรยิ์แม้เมืองกรุงสุดขทัยตกอยู่ภายใต้อำนาจของกรุงศรีอยุธยาในช่วงต้น ๆ ของการเสียอิสรภาพเชื้อพระวงศ์ผู้สูงศักดิ์ แห่งราชวงศ์พระร่วงก็คงได้รับเกียรติปกครองดูแลเมืองศรีสัชนาลัยอยุ่ตามเดิม จนมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยาเมืองนี้กลายเป็นสมรภูมิการรบครั้งสำคัญ และเป็นเมืองรับศึกระหว่างสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยาและพระเจ้าติโลกราชแห่งเชียงใหม่ชัยชนะของอยุธยาในศึกครั้งนั้นก่อให้เกิดวรรณคดีสำคัญ ลิลิตยวนพ่าย ผลอันสำคัญหลังศึกยวนพ่ายคือเมืองศรีสัชนาลัย
ตกอยู่ในการควบคุมของอยุธยาอย่างจริงจัง ชนกลุ่มแรกที่ถือได้ว่าเป็นกลุ่มแตกของการก่อตั้งอำเภอศรีสัชนาลัยในปัจจุบัน จากตำนานคงถือได้ว่าเป็นชนชาวบ้านตึกในปัจจุบันนี้เอง ซึ่งจากตำนานได้กล่าวไว้ว่าเมืองครั้งอดีตมีชายแก่คนหนึ่งได้เดินทางเข้ามรถึงบ้านแห่งนี้ (บ้านตึกในปัจจุบัน) เมื่อครั้งหมู่บ้านแห่งนี้ยังไม่มีชื่อบ้าน โดยมุ่งหน้าจะไปตั้งหลักฐานทำมาหากินใจท้องที่ที่อุดมสมบูรณ์ พอถึงหมู่บ้านแห่งนี้แล้วก็คิดว่าคงเดินทางต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีภูเขาล้อมรอบกั้นขวางอยู่ข้างหน้าอีกด้วย กอร์ปกับในเวลานั้นมีฝนตกชุกมาก จึงได้เอ่ยขึ้นว่า ที่นี่ตึ๊กแล้ว ฝนก็ตึ๊กอย่างอื่นก็คงตึ๊กด้วย และจึงหยุดเดินทางต่อไปและได้ตั้งหลักฐานมั่นคงอยู่ที่บ้านแห่งนี้และต่อมาชาวบ้านแห่งนี้จึงได้เรียกชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ว่า "บ้านตึ๊ก" ซึ่งต่อมาได้เรียกเพี้ยนมาเป็น "บ้านตึก" ในที่สุด (คำว่า "ตึ๊ก" คงมีความหมายว่า สิ้นสุดแล้ว เช่นอร่อยที่สุด ไกลที่สุด ดีที่สุด ฯลฯ ประชาชนจึงเรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่าบ้านตึ๊กในที่สุดจนใช้อยู่จนปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๑ บ้านตึกได้ตั้งเป็นที่ว่าการอำเภอครั้งแรก ตั้งอยู่ที่บ้านปลายนา (หมู่ที่ ๓ ตำบลบ้านตึกในปัจจุบัน)
เดิมชื่ออำเภอด้ง อยู่ห่างไปทางทิศเหนือของที่ว่าการอำเภอปัจจุบันประมาณ ๑๒ กิโลเมตร สาเหตุที่ใช้ชื่อว่า "อำเภอด้ง" เนื่องจากบริเวณที่ตั้งอำเภอเป็นที่ราบและมีภูเขาล้อมรอบด้วยภูเขาเป็นรุปวงกลม คล้ายรูปกระด้ง จึงได้ตั้งชื่อว่า อำเภอด้ง ชื่อตั้งอยู่ได้นานถึง ๑๒ ปี โดยมี นายอำเภอ ๒ คน คือ คนที่ ๑ ชื่อพระเมืองด้ง คนที่ ๒ ชื่อหมื่นด้งนคร แต่ประชาชนนิยมเรียกนายอำเภอว่า เจ้าพ่อเมืองด้นหรือเจ้าปู่เมืองด้ง ต่อมาเมื่อนายอำเภอคนที่ ๓ ชื่อขุนศรีทิพบาลมารักตำแห่งใหม่ได้พิจารณาเห็นว่าการคมนาคมไม่สะดวก เพราะในสมัยนั้นต้องใช้ลำนี้เป็นเส้นทางติดต่อคมนาคมกันเป็นส่วนใหญ่ จึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งใหม่ที่บ้านป่างิ้ว ฝั่งตะวันออกริมแม่น้ำยม (ปัจจุบันอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลป่างิ้ว อำเภอศรีสัชนาลัย) และยังคงใช้ชื่ออำเภอว่า "อำเภอด้ง" เหมือนเดิมตั้งอยู่ได้นานประมาณ ๕ ปี เมื่อขุนศรีทิพบาลเกษียณอายุราชการและนายอำเภอคนใหม่ยังไม่มาเข้ารับตำแหน่งนั้น ผู้ร้ายได้เข้าปล้นที่ว่าการอำเภอด้ง และได้เผาที่ว่าการอำเภอด้งด้วย และต่อมานายอำเภอคนที่ ๔ คือ พระยาพิศาลภูเบท หรือพระยาพิศาลคีรี มารับตำแหน่งใหม่จึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอลงมาตั้งที่บ้านหาดเซียว
เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๕๘ และยังใช้ชื่อว่า "อำเภอด้ง" เหมือนเดิม ซึ่งหมู่บ้านหากเซียวนี้เดิมชื่ออะไรไม่ปรากฏ แต่มีหลักฐานเป็นที่น่าเชื่อถือว่า ในสมัยนั้นพระธิดาสาวเจ้าเมืองเชียงรายเสด็จจากเชียงรายมาลงเรือมาก (เรือชุดแบบพื้นเมืองขนาดใหญ่ ๔ แจว) ที่เมืองแพร่เสด็จตามลำน้ำยมลงมาเพื่อไปเยี่ยมพระสหาย คือพระธิดา เจ้าเมืองตาก ผ่านมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ (บ้านหาดเซี้ยว) บังเอิญเรือรั่วจึงแวะจอดยาเรือที่หมู่บ้านแห่งนี้ ประกอบกับแม่น้ำในช่วงนั้นได้ไหลเป็น ๒ สาย โดยมีเกาะกลางน้ำเป็นสาดทรายอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำที่แยกไหลเป็น ๒ สาย และบริเวณหาดทรายนั้นเองมีต้นส้นเสี้ยวเกิดขึ้นมากมาย เมื่อพระธิดาสาวเจ้าเมืองเชียงรายกำลังรอให้ลูกเรือยาเรือที่รั่วอยู่ และมีเวลาว่าง จึงเสด็จขึ้นไปชมการทอผ้า การตีเหล็กที่หมู่บ้านแห่งนี้และได้สอบถามชาวบ้านแห่งนี้ชื่อว่าบ้านอะไร ปรากฏว่าไม่มีใครทราบ เพราะชาวบ้านแห่งนี้ไม่เคยเรียกชื่อบ้านของตนเองเลยพระธิดาจึงทรงแนะนำให้หัวหน้าหมู่บ้านตั้งชื่อหมู่บ้านว่า "บ้านหาดเซี่ยว" เป็นสำเนียงของชาวเหนือ ซึ่งเปลว่า น้ำไหลแรง ด้วยเหตุดังกล่าวหมู่บ้านแห่งนี้จึงได้เชื่อว่าบ้านหากเซี่ยวมาตลอดจนถึง พ.ศ. ๒๔๖๐
สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสเสด็จที่วัดโพธิ์ไทย (วัดหาดเสี้ยวปัจจุบัน) ได้ทรงพิจารณาเห็นว่าอักษร ซ ไม่เหมาะสม เพราะขัดต่อหู เวลาฟังชาวบ้านพูดประกอบกับแม่น้ำได้แยกเป็น ๒ สาย (กระแก) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าผ่าเสี้ยว จึงโปรดรัดสั่งให้เปลี่ยนแปลงชื่อหมู่บ้านเสียงซึ่งต่อมาข้าราชการและประชานชนได้พร้อมในการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านหากเซี่ยวเป็นบ้าน "หาดเสี้ยว" และได้เปลี่ยนชื่ออำเภอด้งเป็น "อำเภอหาดเสี้ยง" และยังเปลี่ยนชื่อวัดโพธิ์ไทร เป็น "วัดหาดเสี้ยว" ในปัจจุบัน และเปลี่ยนชื่อวัดโพธิ์ทองเป็นวัดหาดสูง ฯลฯ หลักฐานคำไทยพวน จากราษฎรไทยพวนบ้านหาดเสี้ยวที่มาชุมนุมต้อนรับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรศที่เสด็จมาที่วัดโพธิ์ไทรในครั้งนี้มีตอนหนึ่งกล่าวว่า "ฝูงชนรำฟ้อนไปต้อนเสด็จฯ พาเข้ามาวัดโพธิ์ไทย อำเภอหาดเซี่ยว แม่น้ำหาดเสี้ยว ๒ ตอน คนสะล้อนพา ไปแห่สมเด็จฯ เพิ่นสังวาจีเห้อ ถึกแท้ชื่อบ้านแก้เป็น สอ เสือ ซอ โซ่ ชอ ช้าง เอาไว้หั้น จำให้มันซ่อยกันแต่แปลงแล้วแถลงหือถี่ตาม ฮีต ซ้อยกันคิดแล้วแต่งตามคอม จึงพอกันฮ้องชื่อบ้านหาดเสี้ยว ยาได้คดเคี้ยวจำสืบต่อกันไป" หลังจากได้ย้ายที่ว่าการอำเภอด้งมาอยู่ที่หมู่บ้านหาดเสี้ยว (บ้านหาดเซี่ยว) แล้วต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนชื่ออำเภอเป็น "อำเภอหาดเสี้ยว" ตามที่กล่าวมาข้างต้นจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๖ หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว คณะรัฐบาลสมัยพระยาพหลพลพยุหเสนาพิจารราเห็นว่า ควรจะนำปูชนียสถาน หรือสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งเป็นชื่ออำเภอ/จังหวัด จึงได้มีการเปลี่ยนชื่ออำเภอหาดเสี้ยวใหม่เป็น "อำเภอศรีสัชนาลัย" เพราะเมืองศรีสัชนาลัยเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คู่กับเมืองเช่ลี้ยง ซึ่งปัจจุบันนี้เมืองศรีสัชนาลัยได้ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสัชนาลัย ได้ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสัชนาลัย ชาวบ้านเรียกว่าเมืองเก่า คำว่าศรีสัชนาลัยเดิมเขียนมีตัว ช. ๒ ตัว จนถึงวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๐ สมัยรัฐบาลชุดจอมพลถนอม กิตติขจร คณะราชบัณฑิตยสถาน ได้นำเอาชื่ออำเภอ/จังหวัดต่าง ๆ ขึ้นมาพิจารณาให้เข้ากับอักษรโรมัน ซึ่งอำเภอศรีสัชนาลัย ในสมัยนั้นก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงด้วยโดยให้ตัดตัว ช. ออก ๑ ตัว จึงเขียนเป็น "ศรีสัชนาลัย" ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานิเบกษาฉบับพิเศษ หน้า ๒ เล่นที่ ๘๔ ตอนที่ ๕๖ ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๑๐ และได้ใช้มาจนถึงทุกวันนี้


ที่มาข้อมูล
http://sukhothaitoday.freeservers.com/HTML/menu/sisatchanalai%20history.htm
IP : บันทึกการเข้า
pp_momram
งานหนักไม่เคยฆ่าคน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 164



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 23 พฤษภาคม 2012, 20:18:35 »

อ่านไปอ่านมา ตาลาย แต่ก็อ่านจนจบ ม่วนดีเหมือนกันน่อ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 25 พฤษภาคม 2012, 20:49:52 »

เวียงกุมกามก่อย้ายเมืองเพราะชัยภูมิไม่เหมาะสมครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!