เป็นคำถามที่ผมไปอ่านเจอมา แล้วก็มีคนถามเยอะพอสมควร
และก็มีคำตอบที่หลากหลายมากมาย บางคำตอบก็ทำเอาเจ้าของรถลำบากไปเลยทีเดียว
เอาเป็นว่าผมสรุปแบบเผด็จการเลยละกัน ว่าดับเครื่องได้เลยครับ และไม่จำเป็นต้องเปิดฝากระโปรงครับ
และคู่มือก็ไม่ได้บอกว่าให้พักรถ และเปิดฝากระโปรงรถทุกๆกี่ชั่วโมง
ผมตอบแบบนี้หลายๆท่านคงค้านในใจ มรึง เป็นใครวะทำมาเป็นอวดรู้.. ชิมิ
ผมก็เป็นวิศวกรเครื่องกลธรรมด๊า ธรรมดาคนนึง ที่พอดีได้จบช่างยนต์(ปวช.,ปวส.) และได้มีโอกาศไปฝึกงานที่นิสสัน UD ประเทศไทยมาครับเลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผ่านๆ(น๊านนน นานน) มาก็เท่านั๊นนนน
เอาละมาว่ากันต่อเลยละกันนะครับ เรื่องการดับเครื่องยนต์เมื่อวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วต้องทำการ
Cool Down เหตุผลเนื่องมาจาก
รถเครื่องยนต์เทอร์โบที่ต้อง Cool Down(ติดเครื่องยนต์เอาไว้ 1-2 นาที)ก่อนดับเพราะเค้าห่วงแกนเทอร์โบที่หมุนเป็นแสนๆรอบ แล้วเมือดับเครื่องแล้วน้ำมันเครื่องและน้ำที่ไปเลี้ยงแกนเทอร์โบมันจะไม่หมุนเวียน
(เพราะเครืองไม่ติดน้ำมันและน้ำไม่หมุนวน) ทำให้น้ำมันเครื่องที่แกนเทอร์โบใหม้ เป็นคราบแข็งที่แกน เมื่อบ่อยๆ จะทำให้แบริ่งที่แกนเทอร์โบสึกหรอครับ ดังนั้นเมื่ออัดมาหนักๆ จึงจำเป็นต้องติดเครื่องเอาไว้เพื่อให้แกนเทอร์โบได้ระบายความร้อน ไม่ไช่เครื่องยนต์ระบายความร้อนครับ
มาดูกันต่อที่เครื่องยนต์ทั่วๆไป
รถยนต์ทั่วไปวิ่งที่ความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป พัดลมระบายความร้อนก็แทบจะไม่ได้ทำงานแล้วครับ
เพราะลมที่มาปะทะก็ระบายความร้อนได้มากแล้ว และการเปิดฝากระโปรงนอกจากเสี่ยงต่อมิจฉาชีพแล้ว การระบายความร้อนออกจากโลหะอย่างรวดเร็วก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีนะครับ
อากาศร้อนจะขึ้นสู่ด้านบน อากาศเย็นจะไหลมาแทนที่ เมือโลหะร้อนๆ เจออากกาศเย็นทันทีถ้าสังเกตุดีๆจะมีเสียง เปรี๊ยๆ ดังมาแถวๆท่อไอเสีย เนืองจากมีการหด และขยายตัวของชิ้นส่วนนั่นเองครับ
(ถ้าสงสัยตัวอย่างง่ายๆ ก็คือเมื่อเราลงเขามานานๆ เบรคร้อนแล้วเราเอาน้ำราด ก็จะเกิดอาการควัญขโมงและ จานคดนั่นเองครับ เพียงแต่ในเคสเครื่องยนต์มันไม่ได้หนักหนาเหมือนเอาน้ำมาราดเท่านั้นเองครับ)
รถยนต์ไม่ได้ใช้โลหะแบบเดียวกันทั้งหมด และขนาดก็ไม่เท่ากัน การระบายความร้อนอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า การระบายแบบทันทีทันใดครับ
เอาเวลาที่ดับเครือ่งพักคนและพักรถ หมันสังเกตุ คนแปลกหน้า ที่เดินไปเดินมา หรือถ้าต้องไปกินข้าว
ก่อนขึ้นรถให้เดินรอบรถ สำรวจร่องรอยต่างๆ
ดูแถวๆยางทั้ง 4 ล้อ ว่ามีเศษอะไรวางดักหรือไม่
บริเวณหน้ารถมีน้ำไหลนองผิดปกติหรือไม่
ดีกว่านะครับ ปลอดภัยกว่า สมัยนี้คนเลวมันเยอะ น่ากลัวกว่าเครื่องร้อนครับ
ผมเดินทางลงใต้ยิงรวดเดียว 900 กิโลเมตร รอบแรกใช้เวลา 7 ชั่วโมง ไม่ได้ดับเครื่องเลย
เที่ยวอีก 4 วันรวมเดินทางกลับ ใช้ระยะทางเกือบ 4 พันกิโลเมตร ทุกอย่าก็ปกติดีครับ
จะไม่ปกติก็ตรงค่าน้ำมันหมื่นกว่าบาท
อันนี้ปวดวิงเวียน คล้ายจะเป็นลมครับ...
รอบล่าสุดเดินทาง 900 กิโลเมตร ขาไปใช้เวลา 10 ชั่วโมงขับแบบชิวๆ เพราะน้ำท่วมภาคใต้เลยไม่ได้ไปเที่ยวไหน กลับบ้านเฉยๆ ใช้เวลาพักรถ 15 นาทีครับ ขากลับ 7 ชั่วโมงเพราะคิดถึงบ้านละไม่ได้พักเลย ยกเว้นจอด ฉี่ อย่างเดียวไม่ได้ดับเครื่องครับ ทุกอย่างปกติดีครับ ยกเว้นคนขับกลับถึงบ้านหลับยาวเลยย