บก.ปอศ.ลั่นเอาจริงค้นร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน ประเดิมจับ 6 ร้าน ตามหัวเมืองใหญ่...
สำนักงานตำรวจแห่งชาติลุยจับร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ตามหัวเมืองใหญ่ หลังตรวจพบใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายมาให้บริการลูกค้าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ล่าสุดล้อมจับ 6 ร้านเน็ต ทั้งในเชียงใหม่ ขอนแก่น และร้อยเอ็ด ตะลึงมูลค่าความเสียหายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์รวมกว่า 6 ล้านบาท เตือนจับเพิ่มอีกแน่ถ้ายังไม่หยุดละเมิดลิขสิทธิ์
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. เมื่อเร็วๆ นี้ นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจอินเทอร์เน็ตคาเฟ่สี่ร้านดังกลาง เมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย ร้านไอเพลย์ ตั้งอยู่ในโรงแรมมาลิน เรสซิเดนซ์ ถนนห้วยแก้ว ร้านเลิฟออนไลน์ ถนนเวียงบัว ร้านฮอไรซอนเน็ต ถนนสิรินธร และร้านมดอินเทอร์เน็ต ตำบลช้างเผือก ทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 188 เครื่อง มีการลักลอบลงโปรแกรมเถื่อนเพื่อให้บริการกับลูกค้า โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 4 ล้านบาท
อีก 2 ราย ที่ถูกจับดำเนินคดีโดย บก.ปอศ.เป็นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ในจังหวัดขอนแก่น ชื่อร้านวอร์บ (ขอนแก่น) ตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้ายูพลาซ่า ถนนมิตรภาพ ซึ่งตำรวจตรวจค้นพบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการลงโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ จำนวน 40 เครื่อง และปรากฏมูลค่าความเสียหายจากการละเมิดที่ประมาณ 1,100,000 บาท ทั้งนี้ อีกร้านหนึ่งชื่อ ร้านติ๊กแอนด์แต๊บ ตั้งอยู่ถนนศรีเทวา อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ตรวจค้นพบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการลงโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน 35 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายจากการละเมิดสูงกว่าที่ประมาณ 831,600 บาท เจ้าของร้านจะถูกดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป เว้นแต่จะสามารถตกลงกับเจ้าทุกข์คือบริษัทซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ได้
บก.ปอศ.เตือนร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ทั่วประเทศให้หลีกเลี่ยงการ ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ โดยจะมีการเข้าตรวจค้นแบบปูพรม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกภาคของประเทศ และหากพบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษภายใต้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ปี พ.ศ.2537 ว่าด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการขาย การถือครองเพื่อขาย หรือการนำเสนอขายโปรแกรมเหล่านั้น โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 800,000 บาท และศาลอาจมีคำสั่งให้ปิดกิจการของผู้กระทำความผิดได้
พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจ กล่าวว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้จากภาษีอากรใน แต่ละปีเป็นจำนวนมหาศาล และยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของต่างประเทศ
"ผู้บริโภคมิได้ตระหนักว่าการกระทำดังกล่าวถือเสมือนการสนับสนุนให้เป็นมิจฉาชีพ ขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งบางครั้งซอฟต์แวร์ที่นำไปใช้เป็นการผลิตจากฝีมือของคนไทยด้วยกันนั่นเอง ทั้งนี้ ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์เถื่อนทราบดีว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีบทลงโทษอย่างชัดเจนแต่กลับเพิกเฉยเสีย" พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าว
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนในปี 2558 ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศสมาชิกจะต้องจัดการกับปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทาง ปัญญาได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และในส่วนของ บก.ปอศ.เอง ก็จะมุ่งเน้นในการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ โดยเมื่อไม่นานมานี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามความร่วมมือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ประสานการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และส่งเสริมให้ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับภาคเอกชนได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้การละเมิดในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ (พื้นที่สีแดง) และพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง (พื้นที่สีเหลือง) ลดน้อยลง.
http://www.thairath.co.th/content/tech/256649ถึงข่าวจะเก่าแต่ยังไงก็ระวังตัวไว้นะคร๊าบ