เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 18:03:13
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ประสบการณ์ เรื่องเล่า ฯลฯ บารมีหลวงพ่อเกษม เขมโก
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน ประสบการณ์ เรื่องเล่า ฯลฯ บารมีหลวงพ่อเกษม เขมโก  (อ่าน 56800 ครั้ง)
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« เมื่อ: วันที่ 02 เมษายน 2012, 22:13:50 »

...ผมตั้งกระทู้ไว้สำหรับรวบรวม ประสบการณ์ เรื่องเล่า ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น จากผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อเกษม เขมโก ซึ่งได้รวบรวมทั้งภาพถ่าย ประวัติ ฯลฯ มากมายหลาย 100 เรื่อง ทั้งจากหนังสือและเรื่องเล่าในเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยจะทยอยลงเรื่อย ๆ ครับ และโดยส่วนตัวแล้วทั้งจากการศึกษาข้อวัตร จากข้อปฏิบัติขององค์หลวงพ่อฯ และได้ประสบพบเจอด้วยตนเอง ทำให้อยากแบ่งปันเรื่องราว ภาพถ่ายของหลวงพ่อฯ ผ่านกระทู้ที่ตั้งขึ้น...

...เป็นความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคคลนะครับ ขออภัยท่านที่เห็นว่าไม่เหมาะ ไม่ควรด้วยนะครับ (ถ้ามีประการใด ๆ ก็ตาม)....

....ภาพและเรื่องราวต่าง ๆ บางภาพ บางเรื่อง ไม่อาจจะหาเจ้าของเรื่อง เจ้าของภาพได้ จึงขออนุญาตมา ณ ที่นี้ครับ...




เรื่องเล่า ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา
แต่นำมาเผยแพร่ เนื่องจากต้องการให้ระลึกถึงคุณความดีของพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ล้วนเกิดจากการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และเกิดจากผู้ที่ศรัทธาได้นำมาเผยแพร่ เล่าต่อ
ซึ่งองค์ท่านไม่ได้รู้เห็นหรืออวดอ้างแต่ประการใด

>>>>...อโห มหัณณะโว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ...<<<<
>>>>...ความศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ ก็รู้ได้เฉพาะตน...<<<<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 26 เมษายน 2012, 19:48:24 โดย ❤。◕‿◕。เชียงแสน。◕‿◕。❤ » IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 02 เมษายน 2012, 22:31:05 »

...ที่มาของภาพยิ้มเมตตา...

...สำหรับผู้ที่มีรูปบูชาของหลวงพ่อเกษม  เขมโก มีอยู่ภาพหนึ่งครับ มีประวัติของภาพอย่างน่าสนใจ ผมไปซื้อนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ของปี พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นหนังสือเก่าวางขายข้างฟุตบาท ถนนคนเดินลำปาง (กาดกองต้า) เล่มละ 5 บาท เข้าไปอ่านทำให้พบที่มาของภาพภาพนี้ จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง และหากผู้ที่สนใจอยากนำภาพไว้บูชา สามารถหาบูชาภาพต้นฉบับได้จากสุสานไตรลักษณ์ หรือ คัดลอกแล้วนำไปล้างอัดกรอบเองก็ได้ครับ ภาพภาพนี้ ชื่อภาพว่า "ยิ้มเมตตา" ดังนี้ครับ.....

 
"ภาพยิ้มเมตตา" หลวงพ่อเกษม  เขมโก



ที่มาของภาพ “ยิ้มเมตตา”

กมล  เอกมโนชัย ผู้อำนวยการและเจ้าของนิตยสารศักดิ์สิทธิ์ ได้ปรารภกับสุวิทย์  เกิดพงษ์บุญโชติ เนื่องจากอยากได้รูปภาพสวย ๆ ของหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม  เขมโก มาลงปกศักดิ์สิทธิ์ เพราะเรายังไม่เคยมีภาพสวย ๆ ซึ้ง ๆ ของหลวงปู่ท่านเลยสักภาพเดียว

   ด้วยบารมีหลวงปู่ ที่ล่วงรู้ลึกเข้าไปถึงความตั้งใจมั่นของเรา อีกไม่กี่วันต่อมา เจ้าประเวทย์  ณ ลำปาง ประธานคณะศิษยานุศิษย์หลวงปู่ ได้บอกมาทางโทรศัพท์ กับท่านกมลว่า วันเกิดปีนี้หลวงปู่จะไปเทศน์ที่บ้านเจ้าประเวทย์ ถ้าว่างก็ให้ไปที่บ้านด้วย ทั้งผมและผอ.กมล ขนลุกซู่ด้วยความปีติสุดขีด
   ผอ.กมล กับผม รีบเคลียร์งาน พอถึงวันนัดหมายก็ออกเดินทางทันที  ระหว่างเดินทางผมและผอ.กมลต่างสนทนาวาดหวังกันไปตลอดทางจากรุงเทพฯ เราคุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระ จนกระทั่งขับไปถึงนครสวรรค์ ก็วกเรื่องเข้าหาจุดมุ่งหมายที่จะเดินทางไปบ้านเจ้าประเวทย์ในวันนั้น
   ตอนหนึ่งของการสนทนา ผอ.กมล บอกว่า หลวงปู่ไม่ค่อยจะอนุญาตให้ใครถ่ายภาพของท่าน เท่าที่ได้เห็น แม้ท่านจะอนุญาตให้ถ่าย ก็มักได้ภาพที่ไม่ชัดบ้าง ภาพก้มหน้าบ้าง มองไปทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง ไม่เคยเห็นภาพที่ท่านมองกล้องเลยสักภาพเดียว และส่วนมากหลวงปู่ท่านอยู่แต่ภายในกุฏิ มักไม่ห่มผ้า จะสวมแต่เพียงอังสะตัวเดียว ผู้ที่มีโอกาสเข้าไปถ่ายภาพหลวงปู่ แม้จะได้ภาพของท่าน แต่ก็ไม่สมบูรณ์ ตรงที่ท่านไม่ได้ห่มจีวร

   ผมก็บอก ผอ.กมลว่า ถ้าคราวนี้หลวงปู่ท่านเมตตาอนุญาตให้เราได้เข้าไปถ่ายภาพของท่านในตอนที่ไม่มีใครอยู่ด้วยก็ดี เพราะเวลาถ่ายภาพ ขณะคนเยอะ ๆ มักไม่ค่อยได้ภาพที่สมบูรณ์นัก ติดแขนคนนั้นบ้าง ติดศีรษะคนนี้บ้าง บางคนยิ้มแป้นเข้ามาอยู่ในภาพ หน้าเต็มจอทีเดียว ผอ.กมล เปรยเชิงบ่นเบา ๆ ว่า ทำยังไงจะได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุด สวยที่สุดนะ ผมก็บอกไปด้วยความหวังแบบลม ๆ แล้ง ๆ ว่า ถ้าเรามีโอกาสได้เข้าไปถ่ายรูปท่านตรงหน้า ถ้าหลวงปู่ท่านมองกล้องแล้วยิ้ม ให้ผมได้ถ่ายภาพของท่านสักภาพ ผมคงช็อกแน่ ๆ  
   เรา ผมหมายถึงทั้ง ผอ.กมล และผม ต่างยกมือไหว้ สะมะณัง วันทามิ จบเหนือหัว ด้วยความหวังว่าจะให้คำพูดของเราได้ยินไปถึงหลวงปู่ ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ก็ตาม แต่ใจของเราในขณะนั้นคิดอย่างนั้นจริง ๆ แล้วการสนทนาของเราก็มาถึงจุดสำคัญ
   ผมพูดกับผอ.กมลว่า เวลาใครถ่ายรูปหลวงปู่ออกมา มักปรากฏว่าหลวงปู่ท่านปิดผ้าก๊อดไว้ที่ศีรษะของท่านเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่ท่านเป็นอะไร และใครเห็นรูปนี้ก็มักถามกันเสมอ ถ้าเกิดบังเอิญวันนี้หลวงปู่ท่านไม่ปิดผ้าก๊อดให้เราถ่ายรูปหลวงปู่ก็ดี ผู้อ่านก็จะได้เห็นกันเองว่า หลวงปู่ท่านเป็นอะไรถึงปิดผ้าก๊อดไว้

   วันนั้น ผอ.กมลขับรถไปถึงบ้านเจ้าประเวทย์ที่ลำปาง เย็นพอดี หลังจากเข้าอวยพรเจ้าประเวทย์แล้ว ก็ได้ทราบว่าหลวงปู่ท่านมาอยู่ที่บ้านเจ้าประเวทย์แล้วที่บนบริเวณบ้านเต็มไปด้วยผู้คน ประตูห้องหลวงปู่ปิดสนิท ทั้งผมและผอ.กมล ต่างชะเง้อชะแง้คอยืดยาวเพียรพยายามคอยดูว่า เมื่อไหร่ประตูห้องของหลวงปู่จะเปิดออกมา เพื่อที่ว่าจะได้หาโอกาสถ่ายภาพหลวงปู่
   และแล้วไม่นานเกินรอ ประตูห้องของหลวงปู่ก็เปิดออก สายสิญจน์ถูกโรยออกมาจากในห้อง เสียงบอกต่อ ๆ กันว่า หลวงปู่จะเป่าสายสิญจน์ ผู้คนที่อยู่บนบ้านเจ้าประเวทย์ ต่างก็แย่งกันจับสายสิญจน์กันอลหม่าน สักครู่ พอหลวงปู่เป่าสายสิญจน์เสร็จ ผอ.กมลถามเจ้าประเวทย์ว่า หลวงปู่จะเทศน์คืนนี้ไม่ใช่หรือ เจ้าประเวทย์ท่านบอกว่า หลวงปู่ไม่เทศน์แล้ว
   ทั้งผมและทั้ง ผอ.กมล หน้าจ๋อยซีดลงทันที เหี่ยวกันแน่แล้ว
   เจ้าประเวทย์ก็บอกว่า คืนนี้คุณพักกันที่ไหน ผอ.กมลบอกว่า พักโรงแรม เจ้าประเวทย์ก็บอกว่า ถ้ายังไม่กลับ พรุ่งนี้เช้า หลวงปู่ท่านฉัน คุณมาใหม่ซี ผอกับผอ.กมลรับปากเจ้าประเวทย์เสียงเหี่ยวเต็มที ตอนนั้น

   รุ่งเช้า ผอ.กมลและผมเตรียมของที่จะถวายหลวงปู่ทั้งของฉันและเงินเป็นแบงก์ห้าร้อย ทั้งของผมและของคุณศิรินทร ที่ใส่ซองฝากไปจากบ้าน รวมทั้งที่ ผอ.กมลและคุณชิโนรสภรรยาของท่าน ซึ่งใส่ซองเดียวกัน ที่จะขาดไม่ได้ก็คือ พวงมาลัยดอกมะลิ
   คนเต็มบ้านเจ้าประเวทย์ตั้งแต่เช้า ผอ.กมล และผมไปนั่งรอกันอยู่หลังสุด ตอนนั้นใจไม่กล้าคิดกล้าหวังกันแล้วว่า จะได้ภาพหลวงปู่ เหมือนอย่างที่ได้นั่งคุยกันมาในรถ เราตั้งความหวังกันไว้สูงมากเกินไปซะแล้ว นั่งคิดโน่นคิดนี่ และแล้ว จู่ จู่ เสียงใครก็ไม่รู้ยืนเรียกอยู่หน้าห้องของหลวงปู่ เสียงดังว่า ศักดิ์สิทธิ์สองคน หลวงปู่ให้เข้าไปถ่ายรูปในห้อง
   ทั้งผมและผอ.กมล ตกตะลึงตัวชาไปหมด อย่างไม่แน่ใจว่าเป็นความจริง หลวงปู่ท่านเรียกให้เข้าไปถ่ายรูปของท่านในห้อง ที่ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย จริง ๆ หรือ ผมยังไม่แน่ใจนัก จึงยังนั่งนิ่งอยู่กับที่ เสียงคุณอมร  วงศ์แหลมทอง จากหนังสือ “เซียนพระ” ยืนเรียกอีกว่า “ศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อให้เข้าไปถ่ายรูปในห้อง” นั่นแหละทั้งผมและผอ.กมล จึงลนลานกันเข้าไปในห้องของหลวงปู่

   ภายในห้องของหลวงปู่ทั้งผมและผอ.กมลถึงกับเข่าอ่อน ผอ.กมล นั้นทรุดลงกราบแทบเท้าหลวงปู่ทีเดียว เพราะอะไรหรือครับ
   หลวงปู่ท่านห่มจีวรเรียบร้อย นั่งประสานมือ ตามองจับมาที่ผมและผอ.กมลเป๋งเลยทีเดียว เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมและในชีวิตของผอ.กมลก็ว่าได้ที่ได้สัมผัสกับกระแสแห่งเมตตาจิตอันรุนแรงที่สุดจากสายตาของหลวงปู่ ซึ่งไม่เคยสัมผัสกับกระแสจิตเช่นนี้จากใครมาก่อนเลย เป็นกระแสจิตที่ทรงพลังอำนาจรุนแรงมาก เช่นนี้นี่เอง ที่ไม่ว่าใครจึงกลัวเกรงหลวงปู่ท่านมาก แม้แต่เจ้าประเวทย์ก็เองเถอะ
   ทั้งผมและผอ.กมล ต่างรีบถ่ายภาพหลวงปู่ ถ่ายเอา ถ่ายเอ ราวกับคนที่หิวโหย อดอยากกันมาแต่ไหนแล้วมาเจอเข้ากับอาหารทิพย์ตั้งอยู่ตรงหน้าอย่างนั้น ผอ.กมลยืนอยู่เบื้องหน้าของหลวงปู่พอดี ผมยืนอยู่ด้านข้าง ๆ ของหลวงปู่เยื้องออกมา หลวงปู่นั่งประสานมือ หันหน้าไปมอง ผอ.กมลที พอ ผอ.กมลถ่ายเสร็จ หลวงปู่ก็หันมามองผมที ผมกดฉับ ไฟสว่างวาบ หลวงปู่ก็หันหน้าไปมองทาง ผอ.กมล หลวงปู่ท่านนั่งหันไปหันมา ให้ผมและ ผอ.กมลถ่ายสลับกันอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานพอสมควร

   ยอมรับครับว่ามือไม้สั่นไปหมด ตื่นเต้นกันสุดชีวิตทีเดียว ถ่ายรูปหลวงปู่เสร็จถึงกับหอบ
   มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ท่านหันหน้ามามองผม ซึ่งผมได้เตรียมปรับหน้ากล้องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พอผมเห็นหลวงปู่ท่านยิ้มให้ ก็รับกดชัตเตอร์กล้องทันที ไฟสว่างวาบ เสียงหลวงปู่ท่านพูดขึ้นว่า

   “ถ่ายไปทำไมเยอะแยะ หลวงปู่ไม่ใช่นางงามนะ”

   ผมเข่าอ่อนพอดี และภาพนี้ก็ดูเหมือนว่าเป็นภาพสุดท้ายที่ผมไมได้คิดไม่ได้หวังว่า ภาพนี้จะดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่ที่ผมตั้งใจและวาดหวังไว้เป็นที่สุด ก็คือภาพที่หลวงปู่ท่านนั่งประสานมือ อย่างสงบสำรวม และหันไปหันมาให้ผมและผอ.กมลถ่ายคนละทีนั่นแหละครับ
   เวลาพกพาฟิล์มทั้งหมดกลับกรุงเทพฯ ด้วยความหวังที่สูงสุด อิ่มใจที่สุด ผมเคยเชื่อมั่นฝีมือการถ่ายภาพของตัวผมเองเสมอ ค่าที่มีครูบาอาจารย์ชื่อ ท่านศาสตราจารย์พูน  เกษจำรัส  อดีตนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ที่เคี่ยวเข็ญผมมาตลอด ซึ่งผมเองก็เคยคว้ารางวัลชนะเลิศการถ่ายภาพ จากมือท่านอาจารย์พูนมาแล้วด้วยความภาคภูมิใจ เป็นเกียรตินิยมที่ทำให้ผมมั่นใจตัวเองมาก และได้สอนคนมาก็มาก

   แต่ ฝีมือการถ่ายภาพของผมตกต่ำมาก เมื่อมาถ่ายภาพหลวงปู่ในวันนี้

   รับรูปที่ล้างอัดไว้จากร้าน “อาภากร” ฝีมือเยี่ยม แล้วทั้งผมและผอ.กมล ก็ขึ้นไปบนชั้นจำหน่ายอาหารที่มาบุญครองเซ็นเตอร์ รับประทานอาหารและที่จะขาดไม่ได้คือ โอเลี้ยง ที่หอมหวนที่สุดขาประจำที่ถูกคอกัน
   พอเปิดอัลบั้มรูปภาพทั้งหมดออกดู ทั้งผมและ ผอ.กมล แทบหมดแรง พลิกดูจนหมดอัลบั้ม ทุกอัลบั้ม ใจหาย ภาพที่วาดหวังไว้นั้นมัวซัวไปหมด เพราะไฟแฟล็ชไม่ทำงานหรือเพราะเหตุใดก็ไม่ทราบ
   โอเลี้ยงที่เคยหอมหวานมาตลอด นานนับหลายปีสำหรับเรา กลับกลายเป็นโอเลี้ยงที่ขมปี๋ฝืดคอ จนดูเหมือนจะมีกลิ่นทะแม่ง ๆ เอาเสียด้วย คนเราที่ผิดหวังรุนแรงเป็นเช่นนี้เองหนอ ทั้งผมและผอ.กมล ซึมเซาลงถนัดใจ ความมั่นใจตัวเองของผมหายไปเกือบหมดสิ้น
   รุ่งขึ้น เราตัดสินใจเลือกเอาภาพที่เห็นว่า น่าจะดีที่สุด แล้วในสภาพที่ซึมเซาผิดหวังเช่นนั้นเป็นภาพขึ้นหน้าปก คือในฉบับที่ 223 ที่เราตั้งใจจะขึ้นปก ภาพของหลวงปู่ท่านเป็นสิริมงคล เพราะเป็นฉบับที่ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 ของนิตยสารศักดิ์สิทธิ์พอดี
   หนังสือฉบับนั้นพิมพ์เสร็จ วางตลาดเรียบร้อย ทั้งผมและผอ.กมล ก็มีเรื่องที่จะต้องขึ้นลำปางไปในงานของหลวงปู่ท่านกันอีก พอเจอะหน้าเจ้าประเวทย์เข้า ผมเอานิตยสารศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 223 มอบให้เจ้าประเวทย์ด้วยความสงบเสงี่ยมซึมเซา แต่กลับพลิกล็อกครับ
   เจ้าประเวทย์ท่านยิ้มบอกว่าผมว่า ผมซื้อแล้ว ปกเล่มนี้สวยมาก เดี๋ยวผมจะเอาไปให้หลวงพ่อดู แล้วจะถามท่านว่า รูปใคร
   เป็นความชื่นชมที่เราไม่แน่ใจนักว่า จริงจังแค่ไหน เจอะคุณพงษ์สิน  หริณวรรณ ประธานจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่อีกท่านหนึ่ง เห็นปกศักดิ์สิทธิ์ฉบับนี้เข้าร้องว่า ขอผมสักภาพเถอะ จะเอาไปทำล็อกเก็ต
   เจ้าประเวทย์เอาภาพนั้นเข้าไปหาหลวงปู่ ถามท่านว่า หลวงพ่อนี่รูปใคร
   หลวงปู่ยิ้ม บอกว่าก็รูปเราน่ะซี
   เราขยายภาพขนาดใหญ่ ไปขอเมตตาหลวงพ่อจารลายมือบนภาพให้ นั่งรอหน้ากุฏิตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น หลวงปู่นั่งค่อย ๆ บรรจงจารลายมือให้ เยนไปท่านก็เพ่งพิศไป หลวงปู่เขียนเสร็จก็บอกกับพี่เสริฐ “ผอมไปนะ”  แล้วหลวงปู่ก็ชี้ให้พี่เสริฐ คนรับใช้หลวงปู่ดูที่รูปนี้

   หลวงปู่ท่านเขียนให้สองรูป ให้ผมไปบูชาที่บ้านรูปหนึ่ง ผอ.กมลรูปหนึ่ง สัมผัสทางใจส่วนลึกอันเร้นลับ บอกเราว่าหลวงปู่ให้เราพิมพ์รูปนี้ของท่านแจก ผอ.กมลปรึกษาเจ้าประเวทย์ ท่านก็บอกว่าดี  พอกลับถึงกรุงเทพฯ ก็รีบพิมพ์ทันที เสร็จแล้วก็ติดต่อเจ้าประเวทย์อีกที เจ้าประเวทย์กราบเรียนหลวงปู่ แล้วเจ้าประเวทย์ก็บอกมาว่า หลวงปู่ให้นำรูปไปให้ท่านมนต์ที่สุสานไตรลักษณ์ เราขนรูปทั้งหมดด้วยรถบรรทุก 6 ล้อคันหนึ่งและขับรถตามไปอีกคันหนึ่ง
   ไปถึงกุฏิหลวงปู่ตามเวลานัดหมาย ทั้งผมและผอ.กมลก็ถึงกับตกตะลึงกับความตื่นเต้นของคนที่นั่น กับรูปถ่ายของหลวงปู่รูปนี้ เจ้าประเวทย์ตื่นเต้นมากกว่าใครเพื่อน อย่างชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยถึงกับเอ่ยปากขอไว้ที่สุสานไตรลักษณ์และบอกว่า รูปหลวงปู่รูปนี้ สวยซึ้งที่สุดเท่าที่มีการถ่ายรูปหลวงปู่ทั้งหมด
   เมื่อเราขนรูปหลวงปู่ทั้งหมดเข้าไปวางอยู่ต่อหน้าหลวงปู่ ขณะที่ท่านกำลังปลุกเสกให้นั้น ทั้งผมและผอ.กมลน้ำตาคลอ เมื่อสำนึกถึงความเมตตาสูงสุดของหลวงปู่ ทุกอย่างที่เรานั่งคุยกันมาในรถ ก่อนที่จะได้มีโอกาสถ่ายภาพหลวงปู่ภาพนี้ เป็นอย่างที่เราพูดไว้ทั้งสิ้น ตั้งแต่พูดว่าหลวงปู่ห่มผ้าจีวรเรียบร้อย นั่งมองกล้องยิ้มให้น้อย ๆ ด้วยเมตตาอันยิ่งใหญ่ และที่สำคัญที่สุด หลวงปู่ท่านยังเอาผ้าก๊อดออกจากศีรษะของท่านอีกด้วย ผมไม่กล้าที่จะพูดอะไรพาดพิงก้าวล่วงหลวงปู่อีกแล้ว พูดไว้อย่างไรก็ได้ไปเห็นเป็นอย่างนั้นไปหมด
              
หลวงปู่เกษม  เขมโก อธิษฐานจิตภาพยิ้มเมตตา ในกุฏิที่สุสานไตรลักษณ์
วันที่  25 ก.ค.2535 นานถึง 49 นาที



   เสร็จพิธีปลุกเสกซึ่งหลวงปู่ได้เมตตาให้เป็นพิเศษอย่างสมคุณค่าทีเดียว ด้วยการปรกอธิษฐานจิตให้นานถึง 49 นาทีพอดีอย่างไม่น่าเชื่อ เสร็จแล้วหลวงปู่รับสายสิญจน์ทั้งลูก ที่โยงมาพันล้อมรอบรูปภาพหลวงปู่ทั้งหมด ไปอธิษฐานจิตแล้วเป่าให้เต็มอึดใจ เสร็จแล้วก็ขนกันออกมานอกห้องหลวงปู่ไปขึ้นรถ ตอนนี้แหละครับค่อนข้างชุลมุนพอสมควร ผู้คนที่อยู่ในพิธีต่างก็เข้าไปห้อมล้อม ผอ.กมล ทั้งขอรูปขอจองหนังสือกันวุ่นวายไปหมด
   ก่อนกลับ หลังจากได้รับน้ำที่หลวงปู่ท่านสรงแล้ว ผอ.กมลและผมก็เอาธูปเทียนแพไปนั่งอธิษฐานจิตภาวนาคำขอขมาหลวงปู่ข้างกุฏิ เพื่อไม่ให้รบกวนหลวงปู่อีก พอตั้งจิตกล่าวเสร็จ สายลมเย็นประหลาดพัดวูบมาเต็มแรง จน ผอ.กมลและผมขนลุกซู่ ความรู้สึกขณะนั้น คล้ายดังกับว่าจิตส่วนลึกได้สัมผัสกับกระแสจิตของหลวงปู่ ที่ท่านแผ่เพ่งทะลุฝาห้องกุฏิของท่านออกมา และเป่าหัวให้เป็นการรับรู้การขอขมาลาโทษ ที่จะพึงมีในการรบกวนท่านครั้งนี้ ผมรู้สึกได้ในทันทีนั้นเองว่า กระแสจิตอันอบอุ่นด้วยเมตตาธรรมของหลวงปู่ที่แผ่ทะลุฝาห้องออกมานี้เป็นญาณทิพย์ของหลวงปู่ท่านนั่นเอง...

...ในส่วนของปาฏิหาริย์ หรือ การสัมผัสได้ถึงบารมีต่าง ๆ ของหลวงพ่อเกษม  เขมโก บ่อยครัังที่มีคนนำไปพูด หรือ เล่าไป ต่าง ๆ นานา หลวงพ่อฯ ท่านจะพูดว่า "ขี้โม้" หรือ "ไม่จริง" เมื่อมีใครพูดว่าท่านเป็นอรหันต์ หรืออะไรก็ตาม ท่านจะปฏิเสธ ไม่โอ้อวด ไม่แสดงออก เช่นครั้งหนึ่ง ท่านได้เขียนถึงศิษย์ที่ท่านให้ ฉายาว่า "ย.ม.ท." ไว้คือ



ท่านสั่งให้ปิด 3 เดือน ซึ่งหมายถึงห้ามลูกศิษย์ท่านนี้เข้าพบหลวงพ่อเป็นเวลา 3 เดือน...ครับ
      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 30 เมษายน 2012, 07:53:30 โดย ❤。◕‿◕。เชียงแสน。◕‿◕。❤ » IP : บันทึกการเข้า
Boyloso
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,389



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 03 เมษายน 2012, 00:37:34 »

ผมก็เป็นอีกคนที่ศรัทธาในองค์หลวงพ่อเกษมมากเหมือนกันครับ

แต่ก็ไม่มีประสบการณ์อะไร ขอตามอ่านละกันครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

รับถ่ายภาพบุคคล, พรีเวดดิ้ง, งานรับปริญญา, ถ่ายพระเครื่อง ราคากันเองครับ 081-6737998 บอยครับ ^^"
Facebook : http://www.facebook.com/boy.crutdfc
mutu
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสมบัติที่ควรมีของทุกคน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 447



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 05 เมษายน 2012, 11:37:07 »

สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

mutu คนแม่สรวย
ซื้อจริง  ขายจริง  ไม่คดโกง  บริการด้วยความซื่อตรง
poupoushop.com
~..Rose Apple..~
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 719


แม่ค้า-คนเชียงใหม่.


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 06 เมษายน 2012, 02:18:27 »

ขอบคุณค่ะ  สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

ชุดผ้าปูที่นอนราคาถูก http://poupoushop.com
ร้านLine https://shop.line.me/@poupoushop
rangsan_mobile
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,464



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 07 เมษายน 2012, 12:08:48 »

ตอนเด็กผมได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงพ่อ พร้อมครอบครัว ( และวงศ์ตระกูล )
ไปกับบรรดาญาติ
คุณมานิตย์ บำรุงวงศ์ และ คุณมุจรินทร์ บำรุงวงศ์ ( นามสกุลเดิม ณ.ลำปาง )
( ปัจจุบันเสียชีวิตทั้งสองท่าน)

สมัยก่อนเป็นกล้องฟิล์มที่ใช้อยู่
เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปกราบหลวงพ่อ
ก็ผลัดกันถ่ายรูปเป็นครอบครัว เพื่อเก็บไว้บูชาเป็นมงคลชีวิต
พอมาถึงครอบครัวผมได้เข้าไปถ่าย ได้ประมาณ 2 ภาพ

แย่แล้ว....ผมเงยมองที่กล้อง ปรากฎว่าฝาครอบเลนส์ไม่ได้เอาออก
( ซึ่งภาพที่ถ่ายก่อนหน้านี้ทั้งหมด เสีย!!!! )
ทุกคนอยู่ในอาการลนลาน รีบเปิดฝาครอบเลนส์ออก  แล้วขอหลวงพ่อถ่ายรูป
เท่าที่จำได้ น่าจะถ่ายได้ครอบครัวละ 1 ภาพเท่านั้น

ตอนนั้นหลวงพ่อกดกริ่ง เพื่อเรียกคนที่รอเข้ากราบหลวงพ่อให้เข้ามาได้
พวกเราจึงต้องออกมาด้วยความเสียดาย
คุณมานิตย์ บำรุงวงศ์ (กุ้ง) จึงบอกผมว่า
" ไม่เป็นไรเรามากราบท่านบ่อยแล้ว เดี๋ยวก็ได้มาอีก"

เมื่อกลับมาถึงก็ได้เอาฟิล์มไปล้างที่ร้าน เพื่อที่จะได้เอารูปไปให้แต่ละครอบครัว

ปรากฎว่าฟิล์มทั้งม้วน ถ่ายติดทุกภาพ
เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ที่ผมและครอบครัวทุกคนที่ได้ไปกราบหลวงพ่อ
จะไม่มีวันลืม ซึ่งหลวงพ่อได้แสดงปาฏิหารย์ให้เห็นแล้ว........



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 เมษายน 2012, 13:44:25 โดย rangsan_mobile » IP : บันทึกการเข้า
mountain
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 08 เมษายน 2012, 07:29:58 »

ใครมีคาถาที่ใช้สำหรับกราบไหว้บูชา หลวงพ่อเกษม
ช่วยกรุณาบอกหน่อยครับ สาธุ
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2012, 14:28:04 »

คาถาบูชาหลวงพ่อเกษม  เขมโก

"โอกาสะ โอกาสะ อาจาริโย เมนาโถ ภัณเต โหตุ อายัสมา เขมะโกภิกขุ เมนาโถ ภัณเต โหตุ
อาจาริยัง วันทามิหัง"

หรือ

"บูชารูปถ่าย" หลวงพ่อแนะให้กล่าวคำบูชาว่า "รูปะ สังฆัง วันทามิหัง"

IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2012, 20:18:54 »

อนุโมทนากับ ท่าน จขกท.ครับ ทีนำเรื่องอันเป็นมงคลมาบอกกล่าว...

_/\_ _/\_
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2012, 20:24:23 »

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา รวบรวมข้อมูลมาโพสท์ คงต้องขออาศัยใบบุญจากเพื่อนสมาชิก...
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 11 เมษายน 2012, 08:03:51 »

 :)เกี่ยวกับหลวงพ่อเกษม  เขมโก ยิ้ม

หลวงพ่อเกษม เขมโก (เชื้อสายสกุล ณ ลำปาง)
กำเนิด 28 พฤศจิกายน 2455
มรณภาพ 15 มกราคม 2539

 :)พระพุทธเจ้าต้องสูงที่สุด
มี พระเดชพระคุณเจ้าบางรูปได้นำเอาพระพุทธรูปวางไว้ในที่ต่ำ เช่น วางไว้บนพื้นพระอุโบสถ ชั้นล่างของกุฏิ หรือพื้นของอาคารฯ ถ้าหลวงพ่อฯ ไปเห็น ท่านก็จะกราบพระพุทธรูปแล้วจะรีบเดินไปที่อื่น มีอยู่หลายครั้งที่ท่านไปหาพระเดชพระคุณเจ้าผู้ที่มีอาวุโสกว่า พอท่านเดินเข้าไปในวัดและเดินตรงไปหาพระเดชพระคุณเจ้าเหล่านั้นและได้เห็น พระพุทธรูปวางอยู่ใต้กุฏิ หลวงพ่อฯ จะหยุดในท่าสงบ แล้วก้มลงกราบพระพุทธรูป แล้วท่านไม่พูด ไม่ตำหนิ ไม่แนะนำ และไม่รอคอยหรือบอกพระเดชพระคุณเจ้าเหล่านั้นเลย ปกติท่านจะเอามือชี้ให้สามเณรเวทย์ฯ (เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง) ดูแล้วก็เดินทางออกจากวัดนั้นไป
เรื่อง นี้แม้จะเข้าใจว่าพระพุทธรูปต้องอยู่บนที่สูง สามเณรประเวทย์ฯ ก็ได้อธิบายให้ชัดเจนจากหลวงพ่อฯ โดยท่านอธิบายบอกว่า พระสงฆ์จะนั่ง จะนอน หรืออยู่ในสถานที่สูงกว่าพระพุทธรูป ไม่เหมาะสม นี่เอาพระพุทธรูปวางไว้ชั้นล่างของกุฏิแล้วจะให้หลวงพ่อฯ ก้าวขึ้นบันไดไปชั้นบนกุฏินั้น ท่านทำไม่ได้ ไม่เหมาะสม รีบเดินออกจากวัดไปจะดีกว่า

 :)ห้ามกราบหลวงพ่อฯ ลงพื้น
ท่าน ได้บอกกับลูกศิษย์ของท่านเสมอว่า ผู้ที่จะเข้าไปนมัสการท่านจะต้องไปกราบพระพุทธรูปก่อน การกราบโดยรวมก็คือ กราบพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ต้องกราบลงกับพื้นอย่างเต็มฝ่ามือ
แต่ การเข้าไปกราบหลวงพ่อฯ ให้ยกมือไหว้หรือจบหน้าอกหรือหน้าผาก พร้อมกับกล่าวว่า “สังฆัง นะมามิ” ท่านให้ไหว้หรือจบเพียงครั้งเดียว ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ ท่านเป็นพระสงฆ์จะเอาไปเปรียบเทียบเสมอกับพระพุทธไม่ได้ ประการที่สอง เวลาที่ท่านไปในที่ต่าง ๆ ศรัทธาญาติโยมมักจะก้มลงกราบกับพื้นดิน ทำให้มือเปื้อนฝุ่นละออง เรื่องนี้ยังมีคนเข้าใจผิดอยู่มากที่มักจะเอาไปแนะนำผู้กราบไหว้หลวงพ่อฯ โดยบอกให้จบหรือไหว้เพียงแค่หน้าอกเท่านั้น ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ผิด ที่ถูกต้องคือ “ห้ามกราบพื้นและให้ไหว้ครั้งเดียวเท่านั้น”

 :)การสรรเสริญเยินยอหลวงพ่อ

ท่านเคยเขียนบอกลูกศิษย์ที่ท่านให้ฉายาว่า “ยมท.” ข้อความบางส่วนว่า
“ห้าม พูดว่าขอบารมีท่านแล้ว ช่วยอะไรต่าง ๆ ได้ให้คนอื่น คือบอกให้เขาทำตามไม่ได้-จะเป็นตัวอย่างต่อไป เป็นการเกินไปมาก-รู้ไว้เฉพาะตัวก็ดีละ-บอกเขาทำไม-เป็นการโอ้อวดเกินไป”


 :)กฐิน-ผ้าป่า ก็เพาะกิเลสได้
เมื่อ ครั้งหลวงพ่อฯ เป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน อ.เมือง จ.ลำปาง สภาพของวัดเก่าและชำรุด มีศรัทธาญาติโยมหลายท่านมีความประสงค์ที่จะทอดกฐิน-ผ้า เพื่อรวบรวมเงินไปบูรณะซ่อมแซม หลวงพ่อฯ ได้เขียนป้ายประกาศไว้มีข้อความว่า “ห้ามทอดผ้ากฐินผ้าป่าวัดนี้” มีคนเรียนนมัสการถามหลวงพ่อฯ หลวงพ่อฯ ได้อธิบายว่า “วัดไม่เหมาะสมกับเรา ไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่จะต้องสร้างวัด กฐินผ้าป่าไม่จำเป็นสำหรับเรา กฐินผ้าป่าก็เพาะกิเลสเราได้”
ด้วย เหตุผลนี้ ก็อาจเป็นไปได้ที่หลวงพ่อฯ ไม่จำพรรษาในวัด ไม่ปฏิบัติกิจที่จะได้รับชั้นยศต่าง ๆ ไม่ติดใจเอาเรื่องเหล่านี้มาประดับตัวเองไม่ว่าใครจากไหนมายกยอท่าน ท่านจะปฏิเสธติดตลกว่า โม้ หรือ ขึ้โม้ ท่านจะไม่โอ้อวดตนเองเลยแม้แต่นิด ไม่มีรถประจำตำแหน่ง ไม่มีกุฏิหลังโตพำนัก แต่หลวงพ่อฯ ก็ได้ช่วยคน ช่วยด้านสาธารณกุศลต่าง ๆ หากคิดเป็นจำนวนเงินแล้วหลายพันล้านบาท

 :)คำภาษิตของหลวงพ่อเกษม เขมโก

คำภาษิตของอาตมาภาพ มีอยู่ดังนี้
การเห็นเป็นเหตุแห่งการคิด
การคิดเป็นเหตุแห่งการเห็น
ถ้าคิดดีก็เป็นทางเย็น
หากคิดไม่เป็นก็เย็นสบาย
ตายเป็นเหม็นเน่า เราเขาเหมือนกัน
อยู่ไปทุกวัน ใครได้ก็ดี ใครมีก็ได้


รายการอายุขัยหลวงพ่อเกษม เขมโก
หากพิจารณาแล้ว หลวงพ่อเกษม เขมโก ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเก็บศพของท่านไว้ ท่านได้เขียนรายการอายุขัย ของท่านบางส่วนว่า
- ห้ามทำปราสาท (ปราสาทประดับศพสำหรับศพของคนทางภาคเหนือ)
- ห้ามมีฆ้องกลอง
- ห้ามมีบอกไฟ (บั้งไฟ)
สิ่งเหล่านี้ไม่สมควรเหมาะสมแก่สมณะกัมมัฏฐาน
ให้ทำตามที่เขียนบอกนี้ดีมาก
กฎอัยการมัจจุราช
- เอาผ้าเหลืองใหม่ติดหีบ (โลงศพ) ดีเหมาะสม
- มอบให้คุณประเวทย์ เป็นผู้อำนวยการ (เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง)


รับรู้ประวัติของหลวงพ่อเกษม เขมโก แม้จะเพียงน้อยนิด หากมีโอกาสลองศึกษาประวัติของท่านอย่างละเอียด และหาโอกาสสักครั้งในชีวิตครับ กราบสักการะศพของหลวงพ่อฯ ณ สุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง ทุกอย่างท่านสัมผัสและรับรู้ได้ด้วยตนเองครับ
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 12 เมษายน 2012, 14:47:20 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ;Dเหรียญบำบัดทุกข์บำรุงสุข ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


    ปี พ.ศ.2537 ด้วยบุญฤทธิ์ของหลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านปลุกเสกพระเครื่องกับพระบูชาเท่าไรก็ไม่มีเหลือ เมื่อชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในจังหวัดลำปาง มานมัสการขอให้หลวงพ่อฯ ปลุกเสกพระเครื่องรูประฆังรุ่นบำบัดทุกข์บำรุงสุข เพื่อนำไปให้ชาวบ้านเช่าบูชา หาเงินให้กับชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยจัดสร้างเหรียญรูประฆัง 1 คันรถ 6 ล้อ ตัวถังยาว หลวงพ่อฯ มีเมตตาอนุญาตให้สร้างพระเครื่องรุ่นนี้ได้ เป็นที่ดีอกดีใจของกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้เกี่ยวข้องและซาบซึ้งในเมตตาของหลวงพ่อฯ เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับวันเวลาหลวงพ่อฯ ได้กำหนดให้ทำพิธีปลุกเสกโดยทำความสะอาดบริเวณสุสานไตรลักษณ์เป็นอย่างดี เตรียมสถานที่ปลุกเสกด้วยดอกไม้ ธูป เทียน ต้นกล้วย ต้นอ้อย รวมทั้งเส้นด้ายสายสิญจน์ตามพิธีการปลุกเสกพระเครื่องที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล
ส่วนพระเครื่องรูประฆังรุ่นนี้ได้บรรจุไว้ในกล่องกระดาษตั้งเรียงกันไว้เต็มคันรถบรรทุก 6 ล้อ จอดไว้ด้านนอกของสถานที่ที่หลวงพ่อฯ ทำการปลุกเสก ใช้วิธีโยงด้ายสายสิญจน์ที่ปลุกเสกไปหาพระเครื่องที่รถยนต์บรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว
ณ สุสานไตรลักษณ์ ตอนเช้าของวันปลุกเสกก่อนที่หลวงพ่อฯ จะมาทำพิธี อากาศแจ่มใสดีมาก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
แต่ในทันทีที่ลูกศิษย์เข็นเก้าอี้ที่หลวงพ่อฯ นั่งเข้ามาในบริเวณที่จะทำการปลุกเสก ปรากฏว่าเกิดมีเมฆมาบดบังแสงแดด เกิดเป็นร่มเงาและมีลมโหมพัดแรงมาก ท้องฟ้ามืดและมีลมพัดแรงมาก หลวงพ่อฯ มาถึงสถานที่ปลุกเสกท่านก็ทำพิธีปลุกเสกโดยลำพัง ไม่มีพระสงฆ์รูปอื่นมาร่วมปลุกเสก หลวงพ่อฯ ทำพิธีเสร็จ ลมก็หยุดพัด แสงแดดก็มีเป็นปกติ
นับเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ก่อนที่หลวงพ่อฯ จะออกจากห้องท่านลงมา ท้องฟ้าแจ่มใส มีแสงแดดในตอนเช้าเป็นปกติ แล้วพอท่านทำพิธีเกิดลมโหมพัดอย่างแรงทั่วบริเวณนั้น แสงแดดที่เคยมีก็หายสิ้นไป เรื่องนี้มีผู้คนได้รู้ได้เห็นประกอบด้วยชาวบ้านผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ตลอดจนกำนัน สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั่วทุกหมู่บ้านตำบลชองลำปาง
นี่คือเรื่องที่เล่าโดยคุณเลื่อน แมะบ้าน อดีตผู้ใหญ่บ้านดอนแก้ว อ.เมืองปาน จ.ลำปาง และเหรียญรุ่นนี้ต่างเป็นเหรียญที่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้ที่ได้รู้เห็นต่างเรียกหากันจ้าละหวั่น...


ที่มา : หนังสือประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก รวบรวมและเรียบเรียงโดยคุณบุญหลง ถาคำฟู ปีที่พิมพ์ พ.ศ.2549


“อะโห มหัณณะโว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ”


ความศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2012, 17:49:07 »

คาถาบริกรรมภาวนา บางบท ลูกหลานขอ โอกาส กราบไหว้สาครูบาเจ้าเกษมเขมโก ขอ สมมาการวะ นำมาเผยแพร่ ด้วยครับ

นะโม 3 จบ ในการเริ่มว่าพระคาถาใน ครั้งแรก ของวันนั้น
เพื่อ นอบน้อมพระบรมศาสดาในวันนั้นๆ ให้ท่านเป็นใหญ่ เป็นประธาน ในการทำความดี ของเรา

ทาน ศีล ภาวนา ตามฆราวาสวิสัย เบื้องต้น

ต่อแต่นั้นไป จะภาวนาเฉพาะ พระบาลี อย่างเดียว
 หรือ พร้อมคำแปล หรือไม่ ก็ได้

โดยไม่ต้องตั้งนะโม อีกก็ได้

เพื่อเป็นอุบายภาวนา ฝึกจิต
ผมเคยเดินจงกรมภาวนาพระคาถานี้ รู้คำแปล ประกอบกับ มีความเชื่อ ศรัทธาเป็นเหตุด้วย

ลองทำดู ไม่ได้ ก็ไม่เสียหายใดๆครับ



 นะโม 3 จบ โดยน้อมใจไปบูชา พระศาสดา

  มหาลาโภ ภวันตุเม
ขอลาภก้อนใหญ่  จงมี แก่ ข้าพเจ้า (....อาจระลึกภาพ หน้าตา ตัวเรา หรือ หากยังไม่ชำนาญ เอาบัตรประชาชน รูปถ่าย มาประกอบก็ได้... หรือ เอ่ยชื่อ นามสกุล ด้วย ก็ได้...)

จะภาวนาในใจกี่รอบ ก็ได้ ในแต่ละวัน

ทำจิตให้สบาย ๆ

สาธุครับ

หนานธง  081  87  54 209



IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2012, 19:03:25 »

คุณถวิล 086 399 30 82 ชาวอุดร
อาชีพ ขับรถ พาแขกเที่ยว

โทรถามจากปากเขาได้ อย่าพึ่งเชื่อ ผม
ฟังเขาเล่าจากเขา เจอ ก็ยัง ไม่ จริง
 เท่าเจอเอง จริง ๆ

แกหงุดหงิด กับ แขก 9 คน

เชียร์ ไปเที่ยว ไม่ได้ผล

 ในพัทยา 25เมษา 2555

แกเอาคาถา มาอ่าน ก่อนโทร ถึงผม ปรึกษางานทัวร์

 พอเสร็จจาก การขายทัวร์ อัลคาซาคาบาเรต์โชว์ พัทยา ได้ สบายใจ
จึงโทร มาเล่า เหตุ ปาฏิหาริย์ สดๆ ร้อน ๆ ให้ฟัง
ผมว่า กำลังพิมพ์ ไปเผยแพร่อยู่

จึง ขออนุญาต เขามาเป็นตัวอย่าง โทรคุยกับเจ้าตัว เขาเลยครับ

ลองภาวนาเองด้วย ล่ะ่
บุญ สำเร็จ ด้วยการภาวนามีในบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ ครับ

สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2012, 19:32:00 »

...คำไหว้ พระธาตุรวม...เขียนโดยหลวงพ่อเกษม  เขมโก...ซึ่งท่านได้เขียนบอกว่า
"...สวดทุก ๆ วันดีมาก.." ดังนั้น จึงขอนำคำไหว้พระธาตุรวมที่หลวงพ่อได้เขียนไว้ ดังนี้ครับ

"...วันทามิ เจติยัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา
สะรีระธาตุง มหาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง สะทา
นาคะโลเก เทวะโลเก ตาวะติงเส พรัหมะโลเก
ชัมภูทีเป ลังกาทีเป สะรีระธาตุโย เกสาธาตุโย
อรหันตาธาตุโย เจติยัง คันธะกุฏิ จตุราสีติสะธัมมักขันธา
ปาทะเจติยัง นะระ เทเวหิปูชิตา
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิทูระโต
อะหังวันทามิ สัพพะโส.."


@คำไหว้พระธาตุรวมหมดเท่านี้ เอาไหว้สวด ทุก ๆ วันดีมาก@

อานิสงส์ของการบูชาพระธาตุ โดยทั่วไปมีอานิสงส์ ดังนี้ครับ

1. ทำให้เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิด ได้บารมีวิมุตติธรรมจากพระบรมธาตุ
    สู่วิสุทธิมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น
2.ไม่ตายด้วยคมศาสตราอาวุธของศัตรูผู้มุ่งร้าย
3.ปัญหาอุปสรรคผ่านพ้น ขอให้ตั้งใจจริงบูชาจริง
4.ประกอบการค้าพาณิชย์ จะเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์
5.รับราชการ ยศ ตำแหน่งจะเจริญขึ้นเร็ว และเจริญขึ้นเรื่อยๆ
6.มีเมตตาเสน่ห์มหานิยม มหาโชค-มหาลาภ และคลาดแคล้ว
7.เทวดาอารักษ์คุ้มครองรักษาตลอดกาล
8.ครอบครัวเป็นสุข สงบ ร่มเย็น และเจริญรุ่งเรือง
9.มีฤทธิ์เดช อำนาจ วาสนา บารมีแผ่ไพศาล บริวารจะเคารพ
   หมู่ชนจะยำเกรง อานิสงส์เป็นไปตามอธิษฐาน
                                       ฯลฯ

....อะโห มหัณณะโว ปัจจัตจัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ...
...ความศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ ก็รู้ได้เฉพาะตน...
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2012, 20:07:48 »

...คำไหว้ พระธาตุรวม...เขียนโดยหลวงพ่อเกษม  เขมโก...ซึ่งท่านได้เขียนบอกว่า
"...สวดทุก ๆ วันดีมาก.." ดังนั้น จึงขอนำคำไหว้พระธาตุรวมที่หลวงพ่อได้เขียนไว้ ดังนี้ครับ

"...วันทามิ เจติยัง สัพพัฏฐาเนสุ ปะติฏฐิตา
สะรีระธาตุง มหาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง สะทา
นาคะโลเก เทวะโลเก ตาวะติงเส พรัหมะโลเก
ชัมภูทีเป ลังกาทีเป สะรีระธาตุโย เกสาธาตุโย
อรหันตาธาตุโย เจติยัง คันธะกุฏิ จตุราสีติสะธัมมักขันธา
ปาทะเจติยัง นะระ เทเวหิปูชิตา
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิทูระโต
อะหังวันทามิ สัพพะโส.."


@คำไหว้พระธาตุรวมหมดเท่านี้ เอาไหว้สวด ทุก ๆ วันดีมาก@

อานิสงส์ของการบูชาพระธาตุ โดยทั่วไปมีอานิสงส์ ดังนี้ครับ

1. ทำให้เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิด ได้บารมีวิมุตติธรรมจากพระบรมธาตุ
    สู่วิสุทธิมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น
2.ไม่ตายด้วยคมศาสตราอาวุธของศัตรูผู้มุ่งร้าย
3.ปัญหาอุปสรรคผ่านพ้น ขอให้ตั้งใจจริงบูชาจริง
4.ประกอบการค้าพาณิชย์ จะเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์
5.รับราชการ ยศ ตำแหน่งจะเจริญขึ้นเร็ว และเจริญขึ้นเรื่อยๆ
6.มีเมตตาเสน่ห์มหานิยม มหาโชค-มหาลาภ และคลาดแคล้ว
7.เทวดาอารักษ์คุ้มครองรักษาตลอดกาล
8.ครอบครัวเป็นสุข สงบ ร่มเย็น และเจริญรุ่งเรือง
9.มีฤทธิ์เดช อำนาจ วาสนา บารมีแผ่ไพศาล บริวารจะเคารพ
   หมู่ชนจะยำเกรง อานิสงส์เป็นไปตามอธิษฐาน
                                       ฯลฯ

....อะโห มหัณณะโว ปัจจัตจัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ...
...ความศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ ก็รู้ได้เฉพาะตน...



สาธุ สธุ สาธุ

ติดตามอ่านตลอดครับ....
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 19:40:06 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม...เรื่องจริง : แรงศรัทธาของโยมปอ.... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม (เสี่ยปอ ประตูน้ำ)

    ;Dความเคารพศรัทธาของคุณไพจิตร  ธรรมโรจน์พินิจ (หรือเสี่ยปอ ประตูน้ำ) ที่มีต่อหลวงพ่อเกษม  เขมโก ได้แสดงออกมาเป็นข่าวดังผ่านสื่อมวลชนเป็นระยะ ๆ นั้นเป็นเรื่องของลูกผู้ชายที่พูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น บางครั้งเขาก็ออกมาบอกผ่านสื่อมวลชนว่าเขาจะบวชให้หลวงพ่อฯ และจะจำพรรษาที่ลำปาง แล้วเขาก็ปฏิบัติได้ตามคำพูดที่ให้ไว้ ยิ่งถ้าหากมีงานทำบุญวันคล้ายวันเกิดกับวันคล้ายวันมรณภาพด้วยแล้ว เขาจะออกแรงทำบุญทุกอย่างที่ทำได้ จะเหนื่อยอย่างไรเพียงใดก็จะไม่บ่น ยิ่งถ้ามีค่าใช้จ่ายครั้งละ 2-3 ล้านบาท ก็อย่าไปถาม  เพราะคำว่าหลวงพ่อฯ เท่าไหร่เท่ากัน หลวงพ่อฯ เป็นพระประจำใจและจะจัดให้เขาเป็นพวกหลวงพ่อเกษมลิซึ่มก็ได้ ยิ่งเป็นคำประทับใจมาก
   
        ยิงฟันยิ้ม เสี่ยปอประตูน้ำ เป็นคนกรุงเทพมหานคร ไม่ได้เกิดในลำปางหรือไม่ใช่คนลำปางโดยกำเนิด แต่เคารพศรัทธาหลงพ่อฯ มาก โดยมีเรื่องเป็นขั้นเป็นตอนดังนี้
   
        ;Dแรกเริ่มคุณไพจิตรฯ หรือ เสี่ยปอประตูน้ำ เป็นพ่อค้าที่ทำมาค้าขายอยู่ในกรุงเทพฯ เขาได้ติดตามเรียนรู้เรื่องของหลวงพ่อฯ มากจนกระทั่งเคารพศรัทธาและอยู่กรุงเทพฯ ไม่ติด ได้เดินทางเข้ามานมัสการหลวงพ่อฯ ที่สุสานไตรลักษณ์หลายครั้ง แต่ไม่ได้เข้าไปนมัสการท่านเลย  เพราะไม่รู้จักผู้ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อฯ อีกทั้งใจค่อนข้างร้อนประเภทรอคอยนานไม่ได้ ในระหว่างนั้น การทำธุรกิจการค้าก็ไม่ค่อยจะดีนัก
   
       ;Dต่อมาในปี พ.ศ.2518 เขาได้ติดต่อกับคุณก๊กเซ้ง ร้านเย็นซ่า ขายน้ำแข็ง ตลาดเก่า ลำปาง ขอให้ติดต่อลูกศิษย์หลวงพ่อฯ ขอให้ได้เข้านมัสการหลวงพ่อฯ  ในที่สุดก็ติดต่อขออนุญาตผ่านเจ้าประเวทย์  ณ ลำปาง โดยได้ขออนุญาตให้เขาได้เข้านมัสการท่านให้ได้ ผลปรากฏว่าหลวงพ่อฯ อนุญาตให้เข้าไปนมัสการท่านได้เลย ดังนั้น ก๊กเซ้ง จึงติดต่อเขาโดยทางโทรศัพท์ เขาทราบก็ดีใจและตรงมาหาหลวงพ่อฯ ทันที พอมาถึงโรงพยาบาลเมืองลำปาง (ปัจจุบันคือ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง) ที่ท่านพักรักษาตัวอยู่ เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เป็นคนพาเข้าไปไหว้หลวงพ่อฯ ในตึกทิวารี พอเข้าไปถึงหลวงพ่อฯ ท่านก็พยักหน้าต้อนรับ เขามาคนเดียว หลวงพ่อฯ สอนให้ไหว้ครั้งเดียว ให้กล่าวว่า “สังฆัง นะมามิ” เขาได้นมัสการหลวงพ่อฯ ว่า “ผมมาขอบารมีหลวงพ่อฯ เป่าหัวให้ผมหน่อยแล้วหลวงพ่อฯ ก็ให้กล่าวคำวันทา แล้วหลวงพ่อฯ ก็เป่าหัวให้ เสี่ยปอปลื้มใจจนน้ำตาไหลซึมอาบแก้ม นับแต่นั้นมา เขาดำเนินธุรกิจการค้าอันใดก็เจริญก้าวหน้ามีกำไร ร่ำรวยเงินทอง หลังจากนั้น เสี่ยปอฯ  ก็ได้ขึ้นมานมัสการหลวงพ่อฯ เป็นประจำ เหมือนกับบ้านพักของเขาอยู่ในจังหวัดลำปาง นั่นเอง
   
         ;Dในปี พ.ศ.2519 เขาได้ขึ้นมาบวชเป็นพระภิกษุให้หลวงพ่อฯ ในวันเกิดของท่าน 28 พฤศจิกายน 2519 โดยเจ้าคุณอินทวิชาจารย์ (เจ้าคุณหล้า) เจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นองค์อุปัชฌาย์ บวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่ศาลาเจ้าแม่สุชาดา 1 พรรษา แล้วก็ลาสิกขาจากสมณเพศไป
   
        ;Dคนทำธุรกิจการค้าบางครั้งก็มีปัญหาความยุ่งยากเกิดขึ้น บางทีก็มีการขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ ดังนั้นเสี่ยปอฯ ก็เคยมีปัญหาดังกล่าว เขาถูกมือปืนปองร้ายหลายครั้ง แต่กลุ่มมือปืนรับจ้างที่ตามประกอบยิงต้องหยุดชะงักทุกครั้ง จนมีการเล่าสู่กันฟังในวงการมือปืนว่า พอตามประกอบยิงเสี่ยปอประตูน้ำครั้งใดก็ยิงไม่ได้สักที เพราะมีพระสงฆ์นั่งโดยสารอยู่เต็มรถ ถ้าขืนยิงก็อาจถูกพระสงฆ์ ก็จะเป็นบาปกรรมเปล่า จนมีเรื่องเล่าในกลุ่มผู้คิดจะปองร้ายว่า เวลาเขาไปไหน ทำไมต้องนิมนต์พระสงฆ์โดยสารไปเต็มรถยนต์นั่งส่วนตัว นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น
   
        ;Dการทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายหลวงพ่อฯ ในวันคล้ายวันเกิดกับวันคล้ายวันมรณภาพ เป็นงานใหญ่ระดับประเทศที่มีคนนับหมื่นหลั่งไหลมาร่วมทำบุญโดยไม่มีการบอกกล่าวป่าร้องเชิญชวนและไม่มีบัตรเรียนเชิญใคร งานนี้จะนิมนต์พระภิกษุสามเณร 84 วัด แต่จะมีพระภิกษุสามเณรจากทั่วประเทศมาร่วมทำบุญเฉพาะพระภิกษุก็เป็นจำนวนพันรูปแล้ว ประชาชนทั่วสารทิศได้เข้าร่วมทำบุญ วันนั้นถือว่าเป็นวันอิ่มเอิบ คือเครื่องถวายไทยทานกับอาหารการกินมากมาย คืออิ่มทั้งบุญกุศล อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มทั้งอาหารการกิน
   
        ;Dในด้านกำลังแรงศรัทธาจากประชาชนทั่วไป บริษัทห้างร้าน ข้าราชการทุกหมู่เหล่า อาสาสมัครทุกคนจะร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกัน คุณไพจิตรหรือเฮียปอ ก็จะเป็นแรงสำคัญที่คอยดูแลเอาใจใส่การจัดงานดังกล่าว จะไม่ให้เกิดความผิดตกบกพร่องเป็นอันขาด เขาจะเอาใจใส่เฝ้าดูแลงานตั้งแต่วันสุกดิบไป จนกระทั่งปิดงานแล้วเสร็จ
    ;Dนับแต่ได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ พฤติกรรมแห่งความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อฯ ได้เป็นเรื่องจะต้องปฏิบัติอยู่เป็นประจำตลอดมา เป็นตัวอย่างอันดีงามของศิษยานุศิษย์ อีกทั้งได้แสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตาต่อหลวงพ่อเกษม  เขมโก อย่างไม่มีวันลืมเลือนจนปัจจุบัน

“อะโห มหัณณะโว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ”
ความศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน

เรื่องเล่า ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา
แต่นำมาเผยแพร่ เนื่องจากต้องการให้ระลึกถึงคุณความดีของพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ล้วนเกิดจากการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และเกิดจากผู้ที่ศรัทธาได้นำมาเผยแพร่ เล่าต่อ
ซึ่งองค์ท่านไม่ได้รู้เห็นหรืออวดอ้างแต่ประการใด

เรื่องเล่า : จากหนังสือประวัติหลวงพ่อเกษม  เขมโก จัดพิมพ์ พ.ศ. 2549 โดยคุณบุญหลง  ถาคำฟู
ได้ขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่เรียบร้อยแล้วเมื่อ พ.ศ.2551
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 26 เมษายน 2012, 19:50:32 โดย ❤。◕‿◕。เชียงแสน。◕‿◕。❤ » IP : บันทึกการเข้า
THANAPUT
เชียงรายบ๊อช คาร์ เซอร์วิส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,444



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 23:14:20 »

ผมเองมีกับตัวเองแบบเจ๋งๆเลย เรื่องหวย..
กับเรื่องที่ให้ไปหาที่สุสาน
(มาในฝันนะครับ พี่น้องงงง...)
ไว้จะมาเล่าให้ฟัง...
[/color]
IP : บันทึกการเข้า

บริการ  ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ระบบหัวฉีด รับประกัน 5 ปีเต็ม  จำหน่าย สินค้า  BOSCH  ทั้งปลีกและราคาขายส่ง
http://www.chiangraiboschcarservice.com
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 23:45:41 »

...ภาพเก่า ๆ ที่ควรค่าแก่การบูชาครับ...



...คำภาษิตที่หลวงพ่อเขียนไว้...


IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 26 เมษายน 2012, 23:58:40 »

...หลวงพ่อเกษม  เขมโก...ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มุ่งปฏิบัติ ไม่โอ้อวด
ไม่ติดในลาภยศหรือสรรเสริญใด ๆ บ่อยครั้งที่ศิษย์ของท่านพูดโอ้อวดต่าง ๆ นานา
ว่าบารมีของหลวงพ่อฯ ช่วยอะไรต่าง ๆ ได้ ท่านเคยเขียนให้ศิษย์ที่ท่านให้ชื่อว่า
ย.ม.ท. ไว้ บางส่วน ดังนี้


ท่านก็จะสั่งลงโทษศิษย์ท่านนั้นโดยสั่งปิด 3 เดือนบ้าง 1 เดือนบ้าง ซึ่งก็คือ
การสั่งปิด ห้ามศิษย์ท่านนั้นไปเยี่ยมหลวงพ่อฯ เป็นเวลา 3 เดือน ครับแล้วแต่ความผิด
เป็นแบบอย่างที่ดีให้พระทั้งในยุคนั้นและยุคนี้ได้เป็นอย่างดีครับ ไม่ต้องโอ้อวด
ไม่ต้องอะไร ขอแค่ให้ตั้งใจปฏิบัติเป็นพอ

ข้อสังเกตอีกอย่างหลวงพ่อเกษม  เขมโก ไม่รับยศใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
มุ่งปฏิบัติอย่างเดียวเพื่อความหลุดพ้น คณะศิษยานุศิษย์จึงเรียกท่านว่า
"หลวงพ่อเกษม เขมโก" หรือ "ครูบาเจ้าเกษม  เขมโก" โดยที่ไม่มียศใด ๆ ครับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!