เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 20:27:26
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  เกี่ยวกับคำว่า "ครูบา"
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน เกี่ยวกับคำว่า "ครูบา"  (อ่าน 27178 ครั้ง)
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 14 กันยายน 2012, 04:48:48 »

ผมอ่าน ความไม่มีโรค เป็น ลาภอย่างยิ่ง มาโพสต์ โดย ท่านเมฆพัตร

ยังมีคำว่า  ปาจารย์

ปาจารย์  คือ  ผู้เป็น อาจารย์  ของ  อาจารย์



สาธุ ครับ

จาก หนานธง
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 14 กันยายน 2012, 07:43:14 »

อ่านผ่านๆไม่ได้ ขอแจมสักกะหน่อย  ยิ้มเท่ห์
ครูบา มันไม่ได้มาจากพระหรอกคับ จะว่าท่านอุปโรกขึ้นเองก็ไม่ได้ มันเกิดขึ้นหรือจุดกำเนิดจากศรัทธาประชาชนมากกว่า ที่จะมีความศรัทธาในตัวของพระรูปๆนั้น แล้วก็มีการเรียกพระรูปนั้นว่าครูบาแทนชื่อของท่าน มันก็กลายเป็นจุดกำเนิดในการเรียกต่อๆกันไป มันไม่มีพระที่ไหนหรอกคับที่เรียกตัวเองว่าครูบาแทนชื่อของท่าน มีแต่ญาตโยมทั้งนั้นที่สมมติขึ้นมาเอง เห็นพระนั่งปฏิบัติธรรม ก็สมมติขึ้นว่านั้นคือครูบา เห็นพระใส่ผ้าสีแดง ก็สมมติว่านั้นคือครูบา โดยไปอ้างหรือได้ยินมาตามข้อยึดติดสมัยก่อนว่าถ้าพระถือเคร่อง หรือใส่ผ้าสีนี้นะ หรืออาไรก็แล้วแต่ เรียกว่าครูบา นั้นพระที่บ้านเราค่อนค่างจะปฏิบัติแบบนั้น ฉันก็เรียกพระที่บ้านว่าครูบา
 ( สรุป มันไม่ได้เป็นการอุปโรกของพระหรอก เป็นความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระรูปนั้นมากกว่า (หรือ) เป็นการเรียกไปตามๆกัน โดยไม่รู้หรอกว่าครูบา คืออะไร เห็นเขาเรียกแบบนั้นฉันก็เรียกไปตามเขา ) มันก็อย่างว่าแหละโลกเรา มีคนรักก็ต้องมีคนชักเป็นธรรมดา..พะนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 กันยายน 2012, 19:57:51 โดย samurai_ฅนเมือง » IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
jirapraserd
magdafVE
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 692


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 14 กันยายน 2012, 17:15:02 »

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 กันยายน 2012, 19:11:46 โดย jirapraserd » IP : บันทึกการเข้า

พอใจ
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 299



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 17 กันยายน 2012, 10:17:45 »

คนเหนือ จะนับถืบพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นครูบาเจ้า 
เป็นตำแหน่งคนที่นับถือยกย่องพระ สมัยนี้อาจจะหายาก เพราะเป้นพระครูง่ายกว่า 555
อีกอย่างยุคนี้เป็นยุคไอที บุคคลใดที่อยากเด่นอยากดังก็ใช้การโฆษณา ประชาสัมพันธ์
เหมือนกับดีเจที่อยากให้เพลงติดตลาดก็เปิดบ่อยๆ ให้คุ้นหู มีคนพูดถึงมากๆ
ก็จะรู้จักกันแพร่หลาย
 พิจารณาเอาเองจ้า ว่าจะเลือกรับแบบไหน ต้องไตร่ตรองและค้นหาข้อมูลมากๆ ใครไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องก็อาจตัดสินใจผิดได้
IP : บันทึกการเข้า

"อย่าใจร้อน มันจะร้อนใจ"
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 01:09:59 »

หนานธง ขอทวน คำว่า

ครูบา อาจารย์   น่าจะมาจาก  บาลี        ครุปิ  อาจาริโย

ทางลาวโสร่ง คือ อิสาน
ครูบา  คือ  ภิกษุ หย่อน  10 พรรษา                อาจารย์ พรรษา เกิน 10

ลาวยวน ไตยวน ล้านนา  มี  คำว่า  ครูบา  ครูบาเจ้า

ครูบา  คือ  เจ้าวัด ที่ไทยน้อย  เรียก สมภาร  แปลว่า  เจ้าอาวาส

ครูบาเจ้า  ไม่ได้  จำกัด  ว่า  มีเชื้อเจ้า หรือ ไม่มีเชื้อ ก็เรียกได้

ไม่เหมือน  พระสังฆราชเจ้า    
พระสังฆราชเจ้า  คือ  ประมุข แห่ง พระภิกษุ ในพระราชอาณาจักร  ที่มีเชื้ิอพระวงศ์

พระสังฆราช จาก  สามัญชน เรียก  พระสังฆราช  เฉยๆ

ส่วน คำว่า    พระราชาคณะ คือ.......
  พระภิกษุ ที่ เป็นพวก  ของ  พระราชามหากษัตริย์ ๆ ถวายยศ ตำแหน่ง ได้โดยตรง ตาม พระราชอำนาจ  โดยตรง และ/หรือ โดยอ้อม
 หรือ เช่น ใน ปัจจุบัน อาจผ่านจาก คนเป็นราชพัฏ คือ พระราชาเลี้ยง(น่าจะได้แก่ พวกข้าราชการ ข้าราชบริพาร )  ไป สู่ สำนักพระพุทธศาสนา แห่ง ชาติ  มหาเถระสมาคม สู่ พระมหากษัตริย์  ตาม ลำดับ  ขั้นตอน การถวาย ยศพระราชาคณะ

สำหรับ ประเทศ  ที่  ประมุข ไม่ได้  สืบต่อ แบบขัติยประเพณี หรือ  ราชวงศ์  แบบ ประเทศไทย เขมร ในปัจจุบัน นี้  นั้น

เช่น  เมียนม่า ลาว ศรีลังกา  เวลา ผู้อ่านข่าว เรียก พระสังฆราช  คือ อนุโลมเป็น พระสังฆราช
แท้จริงแล้ว ท่าน  คือ  พระสังฆนายก

นายก แปล ว่า ผู้เป็นใหญ่  แต่ ไม่ใช่  พระราชา  

แม้นว่า เป็น ประธานาธิบดี หรือ  ประธานประเทศ  แต่งตั้ง ให้เป็น  ประมุข แห่ง  พระภิกษุ  ก็ตาม


ด้วยใน ประเทศ  นั้นๆ ประมุขประเทศ ไม่ ใช่ พระราชามหากษัตริย์ หรือ  เทียบเท่า ได้ หรือ ดั่งพระราชา ที่สืบ พระสันตติวงศ์

ประธาน  แปลว่า  ผู้เป็นใหญ่ ในหมู่ ในคณะ  เช่น  ประธาน นักศึกษา รุ่นนั้น รุ่นนี้  เป็นต้น

ประธานาธิบดี( หรือ ประธานประเทศ เช่น ลาว) คือ ตำแหน่งอันเป็น ประมุข ชั่วคราว ไม่ใช่ การสืบราชสมบัติ

ครูบาเจ้า  คือ  การยกย่อง  พระภิกษุผู้ปฎิบัติดี ประพฤติชอบ  เป็น ที่ยอมรับ นับถือ  ของสาธุชน โดยทั่วไป  ในธรรมเนียม
  ของ  หมู่เฮาลาวยวน
 หรือ ถูกเรียกกลืนกลายเป็น  ล้านนาไทย  ในหม่าเดี่ยวนี้



พระเรียกตนเอง  ว่า  ครูบา หรือ  อาจารย์ ได้ใหม

ผมเห็นว่า  ได้ครับ

                                                    ขึ้นกับ กาละ เทศะ บุคล  สถานที่ และ อื่นด้วยก็ได้  ครับผม
 
อย่าพึ่ง เหมาเอาว่า ท่าน อุปโลก ตนเองขึ้นมาเอง เสมอไป  จักได้  โทษบาป หยาบหนา ติดตาม ข้ามภพชาติ ไปลงอบายได้

สมมุติ ว่า พระชาวเหนือ ไปอิสาน     พรรษา ท่านต่ำ 10 เขาก็เอิ้น ครูบา           พอ ไป ภาคกลาง เขาเรียก ว่า  อาจารย์   พออยู่เจียงฮาย เขาว่า ตุ๊เจ้า

พระคุย กับ ญาติ โยม ก็ต้อง แทน ตนเอง ว่า  ครูบาอย่างโน้น อย่างนี้ กับ  ชาวอิสาน       พูดกับไทย ก็แทน ตนว่า อาจารย์ หรือ อาตมา   อู้กับคนยวน ก็ ฮ้องตั๋วเก่า ว่า ตุ๊ ..... จ๊ะอี้  จ๊ะอั้นไป ตาม ประสา

พูด กับ คนปักษ์ใต้ ก็ อนุโลม ไปกับ ธรรมเนียมเขา      พระพูดอังกฤษ ก็ต้อง แทน ตัวว่า ไอ หรือ ไอ แอม( I am)

ทุกอย่างอยู่ที่ ความพอใจ หรือ เจตนา หรือ จิตใจ

ที่เห็น อาจใช่ หรือ ไม่ใช่

เห็น เขียวๆ อย่า นึกว่า พระอินทร์ เสมอไป อาจเป็น งูเขียว ก็ได้

งูเขียวธรรมดา  ยังไม่เท่าไร  ระวังเจอเขียวหางไหม้ เข้าให้ล่ะ

ไม่ว่า  ครูบา หรือ พระอาจารย์  ก็คน กลาย  เป็น พระ ห่มเหลือง

พระจริงๆ อยู่  ภายใน  คือ  ใจ ที่ประเสริฐ  เรียก ใจพระ (พระ คือ ประเสริฐ)

พระวินัย พระธรรม  มีไว้ ควบคุม จิตใจ  มโนกรรม         การพูด จา การสื่อสาร  การขีดเขียน  วจีกรรม     การควร กระทำ  หรือ  ควรละ  ลด  งด  เว้น  ของนักบวช สาวก ของ พระศาสดา

การกระทำ  บางอย่าง  มีผิด และ  ไม่ผิด  ตามกาละ  เทศะ บุคคล สถานที่   เหตุ  ปัจจัย          

 อย่าง  พระ กินเหล้า  ตุ๊เจ้า  เอาเมีย    เป็นต้น  

  ต้อง นำไป พิจารณา การกระทำ  ของท่าน  อย่า ด่วนตัดสิน  ว่า ตุ๊เจ้า ผิด โดย ไม่ได้ ไตร่ตรอง


ผ้านุ่ง ผ้าห่ม สีกรัก สีเหลือง สีแก่นขนุน ขอให้ ถูก ต้องตามพระธรรมวินัย  ก็จะถูกตามพระบรมพุทธานุญาต  ทำได้ตามนี้ ก็ เป็นการ เคารพ พระศาสดา  

ครองผ้า เป็น ปริมณฑล สบงนุ่งลงแค่ กลางหน้าแข้ง ไม่สั้นเต่อ แบบ นุ่งกระโปรงหญิง ไม่ยาวกรอมตาตุ่ม แบบ นุ่งซิ่น  ออกแนว พระตุ๊ด  เณรแต๋ว ซึ่ง เป็น มารตัวเป็น ๆ แฝงมาบวช บ่อนทำลาย ศาสนาพระศาสดา
 ไม่ เวิกผ้าจีวร มายองไว้ บนบ่า ปาน คนขี้ร้อน หรือ นักเลง

 พระ  เณร  ผู้บวชมา ในภายหลัง หรือ ก่อนหน้า ที่มาเห็น  อาจทำตามอย่างได้ ด้วยรู้ หรือ ไม่รู้เท่าถึงการณ์  จัก  กลายเป็น การต้องผิดอาบัติ โดย รู้ ก็ตาม  ด้วย ไม่รู้ ก็ตาม


หากเห็น  ว่า  แก้ไข ตนได้  ท่าน จะเรียก ตนเอง  ว่า  ครูบา  หรือ  อาจารย์  ด้วยตนเอง คือ อุปโลก ตน  แบบ พระอุปโลก ตน ใน การรับกฐินทาน  หรือ  รับสังฆทาน

ทำเหตุ ด้วย กุศลจิตเจตนา  (เหตุ)            สิ่งที่ ตามมา          อย่างน้อยก็ มี  กามาวจรกุศลวิบาก รอให้ผลอยู่ (ผล)

ที่ ผมว่า  มานี้  อย่างน้อย  มันโดน ตัวผมเอง หนานธง  นี่แหละ       เป็นได้ ทั้ง  พระ  ทั้ง  มาร   two  in  one ทู อิน วัน  
 แบบ แชมพู ผสม ครีมนวดผม       เผลอ ๆ ก็  three  in  one  ทรี อิน  วัน อย่างกาแฟผงปรุงสำเร็จ


เป็น ชาวบ้าน      เป็น เณร และ พระ  แถม      บางที ก็เป็น สาวกมาร หรือ  พาลชน ใน คนๆเดียวกัน  นี่แหละ


เป็น มาทั้ง เณร(ก่อนเป็น พระ ต้อง รับศีล 10 เสียก่อน)  ตุ๊เจ้า  ฮอด เป็น  ครูบา เพราะ ไป อยู่ อิสาน 1 พรรษา ได้ ออกบิณฑบาตร แดนลาว ที่ ช่องเม็ก หลายๆเช้า  
                 อยู่อิสาน  เขา จึงเอิ้น ว่า  ครูบา  โดยชอบธรรม

กลับ มา อยู่เหนือ เป็น ตุ๊เจ้า เหมียนเก่า  ก็แค่  สมมุติ  ครับ


สถานภาพ ปัจจุบัน  คือ  ทิดธง      คนเหนือเรา    เรีียก    หนาน    ครับผม


ไม่ได้ เป็น ครูบา หรือ  ครูบาเจ้า  แบบ พระ คนยวน        แต่  ก็ เคยเป็น    ครูบา   ที่  อิสาน โน่นนนนนนนนนนนน
 
 

สาธุ ครับ
หนานธง คน ขี้โม้(คือ ขี้คุย โอ้อวด)




ขออภัย หาก ไปกระทบ เสียดสี ใจ โดยตรง โดยอ้อม หรือ ล่วงเกิน บุคคล สมมุติบุคคล  
ก็ตาม

 แมงแสนตีน ยังรู้พลาด  เขียด ตั้บปาบ  ยังรู้ตกน้ำบ่อ

ผมอาจ ผิดพลาด  โดย  ตั้งใจ  หรือ  ไม่ตั้งใจ      จงให้  อภัย  เพื่อ  เป็น  ทาน ของท่าน  แก่  ผม ลูกหลาน ปู่เฒ่า จูจะกะ(ชูชก) เจ่มเนอ........
  

อินดู  ปี่ หนาน เตอะ  ต่าน
บ่  ดี  โขด      

  วันพระ ไม่มีหนเดียว  

วันนี้  คนอื่น  ผิด   วันหน้า   เราอาจ  ผิด เองก็ได้





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 กันยายน 2012, 20:00:21 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 17:21:48 »

ขอฝากผู้ดูแลบอร์ด ลบกระทู้นี้ด้วย
ถ้าเกิดว่า จขกท ได้อ่านแล้วเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ถามแล้ว ขอฝากให้ผู้ดูแลบอร์ดลบกระทู้นี้ด้วยนะคับ
เพราะเนื่อหา สาระเริ่มไปกันใหญ่แล้ว มีการยกตัวบุคคลมาพูด (คือพระ) และได้ยกตัวอย่างว่า ไม่ใช่  ตุ๊หลั่น  ขี้โม้( หมายถึง นักเทศน์ ตัวยง) คือ  ท่าน ว.วชิรเมธี  พระนักปราชญ์ชาวเชียงราย คำว่าขี้โม้ ฟังดูมันไม่ค่อยเพราะหูเท่าไหร่ (ในความหมายนี้แสดงให้เห็นว่า
ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นคนขี้โม้)...พะนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 กันยายน 2012, 17:22:54 โดย samurai_ฅนเมือง » IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 20:24:16 »

ขอฝากผู้ดูแลบอร์ด ลบกระทู้นี้ด้วย
ถ้าเกิดว่า จขกท ได้อ่านแล้วเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ถามแล้ว ขอฝากให้ผู้ดูแลบอร์ดลบกระทู้นี้ด้วยนะคับ
เพราะเนื่อหา สาระเริ่มไปกันใหญ่แล้ว มีการยกตัวบุคคลมาพูด (คือพระ) และได้ยกตัวอย่างว่า ไม่ใช่  ตุ๊หลั่น  ขี้โม้( หมายถึง นักเทศน์ ตัวยง) คือ  ท่าน ว.วชิรเมธี  พระนักปราชญ์ชาวเชียงราย คำว่าขี้โม้ ฟังดูมันไม่ค่อยเพราะหูเท่าไหร่ (ในความหมายนี้แสดงให้เห็นว่า
ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นคนขี้โม้)

...มันอยู่ที่การตีความครับ บางอย่าง บางเรื่องถ้าตีความ (คิดมากจนเกินไป) มันก็แปลได้หลายประเด็น  อ่านดูแล้วไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าสังเกตบทความต่าง ๆ บางท่านนำมาบอกกล่าวเป็นการประดับความรู้เป็นอย่างดี..
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 21:25:21 »

ความเห็นส่วนตัวครับ ยิงฟันยิ้ม
ครูบา บ่าเดี่ยวบ้านเฮามีนักเกินบ่าฮู้จะศรัทธาไผดี
ผมว่านักเข้าจะเป็นครูบาตกไม้โท หรือครูบา อุ๊กแก๊ส เหียละก้าครับ
(ครูบา+ไม้โท) ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 21:36:49 »

ขอฝากผู้ดูแลบอร์ด ลบกระทู้นี้ด้วย
ถ้าเกิดว่า จขกท ได้อ่านแล้วเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ถามแล้ว ขอฝากให้ผู้ดูแลบอร์ดลบกระทู้นี้ด้วยนะคับ
เพราะเนื่อหา สาระเริ่มไปกันใหญ่แล้ว มีการยกตัวบุคคลมาพูด (คือพระ) และได้ยกตัวอย่างว่า ไม่ใช่  ตุ๊หลั่น  ขี้โม้( หมายถึง นักเทศน์ ตัวยง) คือ  ท่าน ว.วชิรเมธี  พระนักปราชญ์ชาวเชียงราย คำว่าขี้โม้ ฟังดูมันไม่ค่อยเพราะหูเท่าไหร่ (ในความหมายนี้แสดงให้เห็นว่า
ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นคนขี้โม้)

...มันอยู่ที่การตีความครับ บางอย่าง บางเรื่องถ้าตีความ (คิดมากจนเกินไป) มันก็แปลได้หลายประเด็น  อ่านดูแล้วไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าสังเกตบทความต่าง ๆ บางท่านนำมาบอกกล่าวเป็นการประดับความรู้เป็นอย่างดี..
ท่านมาอ่านเร็วเกินไปหรือป่าวคับ ข้อความถูกแก้ไขหมดแล้ว (มันคงจะไม่เหลือที่เสียหายให้ท่านได้อ่านแล้วล่ะ)
ยกตัวอย่างข้อความข้างบนที่ว่า ความเห็นส่วนตัวครับ ครูบา บ่าเดี่ยวบ้านเฮามีนักเกินบ่าฮู้จะศรัทธาไผดี ผมว่านักเข้าจะเป็นครูบาตกไม้โท หรือครูบา อุ๊กแก๊ส เหียละก้าครับ (ครูบา+ไม้โท) มันไม่ตรงกับหัวข้อ คำว่า "ครูบา" ได้มาอย่างไร ตามที่ท่านตั้งไว้เลย มันเป็นความเห็นแบบทางลบอย่างเห็นได้ชัด หรือความเห็นอาจจะขำๆ ลำพังผมไม่มีปัญหาหรอก แต่คนเข้ามาอ่านข้างหลังสิ เขาจะคิดขำๆ เหมือนกับเราหรือป่าว (แล้วฝากถึงข้อความด้านบนนะคับที่ว่า เป็นครูบาเจ้าสมัยนี้อาจจะหายาก เพราะเป้นพระครูง่ายกว่า คำว่าพระครูไม่ใช่ให้ใครได้ง่ายๆอย่างที่ท่านคิดนะ เจ้าอาวาสบางวัดก็ยังไม่ได้เลย เพราะจะเป็นพระครูได้ ต้องพรรษา10 ขึ้น แล้วมีวัยวุฒิคุณวุฒิและคุณสมบัติต่างๆ เพียบพร้อม ที่สำคัญต้องไปผ่านการพิจารณาของมหาเณรสมาคมอีกทีว่าจะได้หรือไม่)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 กันยายน 2012, 22:20:07 โดย samurai_ฅนเมือง » IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 21:39:00 »

ก็อย่างที่ลุงหนานว่าละคับ  แมงแสนตีน ยังรู้พลาด  เขียด ตั้บปาบ  ยังรู้ตกน้ำบ่อ
ลุงหนานบอกว่า อินดูปี่หนานเตอะต่าน บ่ดีโขด  แต่มีตกท้ายว่า วันพระ ไม่มีหนเดียว(แต่ในใจปี่หนานยังแอบโขดผมอยู่นิสๆ ยิงฟันยิ้ม )
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 ธันวาคม 2012, 08:02:16 โดย samurai_ฅนเมือง » IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
settawat
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24



« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 30 พฤศจิกายน 2012, 11:03:27 »

"เพชรแท้อย่างใดมันก็คือเพชรแท้ จะเอาดินมาป้อกไว้หนาขนาดไหนมันก็ยังคงเป็นเพชรแท้อยู่วันยังค่ำ ต่างกั๋นกับเพชรเทียม ตี้พยายามทำตั๋วหื้อคนอื่นเปิ้นหันและเจื้อว่า ตั๋วเก่าเป๋นเพชรแท้ แถมเป็นได้เร็วกว่าเพชรแท้แหมตวย"
IP : บันทึกการเข้า

บุญรักษา เตวดาคุ้มครอง
teetee2011
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 664


« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 01 ธันวาคม 2012, 02:53:56 »

หนานธง ขอทวน คำว่า

ครูบา อาจารย์   น่าจะมาจาก  บาลี        ครุปิ  อาจาริโย

ทางลาวโสร่ง คือ อิสาน
ครูบา  คือ  ภิกษุ หย่อน  10 พรรษา                อาจารย์ พรรษา เกิน 10

ลาวยวน ไตยวน ล้านนา  มี  คำว่า  ครูบา  ครูบาเจ้า

ครูบา  คือ  เจ้าวัด ที่ไทยน้อย  เรียก สมภาร  แปลว่า  เจ้าอาวาส

ครูบาเจ้า  ไม่ได้  จำกัด  ว่า  มีเชื้อเจ้า หรือ ไม่มีเชื้อ ก็เรียกได้

ไม่เหมือน  พระสังฆราชเจ้า    
พระสังฆราชเจ้า  คือ  ประมุข แห่ง พระภิกษุ ในพระราชอาณาจักร  ที่มีเชื้ิอพระวงศ์

พระสังฆราช จาก  สามัญชน เรียก  พระสังฆราช  เฉยๆ

ส่วน คำว่า    พระราชาคณะ คือ.......
  พระภิกษุ ที่ เป็นพวก  ของ  พระราชามหากษัตริย์ ๆ ถวายยศ ตำแหน่ง ได้โดยตรง ตาม พระราชอำนาจ  โดยตรง และ/หรือ โดยอ้อม
 หรือ เช่น ใน ปัจจุบัน อาจผ่านจาก คนเป็นราชพัฏ คือ พระราชาเลี้ยง(น่าจะได้แก่ พวกข้าราชการ ข้าราชบริพาร )  ไป สู่ สำนักพระพุทธศาสนา แห่ง ชาติ  มหาเถระสมาคม สู่ พระมหากษัตริย์  ตาม ลำดับ  ขั้นตอน การถวาย ยศพระราชาคณะ

สำหรับ ประเทศ  ที่  ประมุข ไม่ได้  สืบต่อ แบบขัติยประเพณี หรือ  ราชวงศ์  แบบ ประเทศไทย เขมร ในปัจจุบัน นี้  นั้น

เช่น  เมียนม่า ลาว ศรีลังกา  เวลา ผู้อ่านข่าว เรียก พระสังฆราช  คือ อนุโลมเป็น พระสังฆราช
แท้จริงแล้ว ท่าน  คือ  พระสังฆนายก

นายก แปล ว่า ผู้เป็นใหญ่  แต่ ไม่ใช่  พระราชา  

แม้นว่า เป็น ประธานาธิบดี หรือ  ประธานประเทศ  แต่งตั้ง ให้เป็น  ประมุข แห่ง  พระภิกษุ  ก็ตาม


ด้วยใน ประเทศ  นั้นๆ ประมุขประเทศ ไม่ ใช่ พระราชามหากษัตริย์ หรือ  เทียบเท่า ได้ หรือ ดั่งพระราชา ที่สืบ พระสันตติวงศ์

ประธาน  แปลว่า  ผู้เป็นใหญ่ ในหมู่ ในคณะ  เช่น  ประธาน นักศึกษา รุ่นนั้น รุ่นนี้  เป็นต้น

ประธานาธิบดี( หรือ ประธานประเทศ เช่น ลาว) คือ ตำแหน่งอันเป็น ประมุข ชั่วคราว ไม่ใช่ การสืบราชสมบัติ

ครูบาเจ้า  คือ  การยกย่อง  พระภิกษุผู้ปฎิบัติดี ประพฤติชอบ  เป็น ที่ยอมรับ นับถือ  ของสาธุชน โดยทั่วไป  ในธรรมเนียม
  ของ  หมู่เฮาลาวยวน
 หรือ ถูกเรียกกลืนกลายเป็น  ล้านนาไทย  ในหม่าเดี่ยวนี้



พระเรียกตนเอง  ว่า  ครูบา หรือ  อาจารย์ ได้ใหม

ผมเห็นว่า  ได้ครับ

                                                    ขึ้นกับ กาละ เทศะ บุคล  สถานที่ และ อื่นด้วยก็ได้  ครับผม
 
อย่าพึ่ง เหมาเอาว่า ท่าน อุปโลก ตนเองขึ้นมาเอง เสมอไป  จักได้  โทษบาป หยาบหนา ติดตาม ข้ามภพชาติ ไปลงอบายได้

สมมุติ ว่า พระชาวเหนือ ไปอิสาน     พรรษา ท่านต่ำ 10 เขาก็เอิ้น ครูบา           พอ ไป ภาคกลาง เขาเรียก ว่า  อาจารย์   พออยู่เจียงฮาย เขาว่า ตุ๊เจ้า

พระคุย กับ ญาติ โยม ก็ต้อง แทน ตนเอง ว่า  ครูบาอย่างโน้น อย่างนี้ กับ  ชาวอิสาน       พูดกับไทย ก็แทน ตนว่า อาจารย์ หรือ อาตมา   อู้กับคนยวน ก็ ฮ้องตั๋วเก่า ว่า ตุ๊ ..... จ๊ะอี้  จ๊ะอั้นไป ตาม ประสา

พูด กับ คนปักษ์ใต้ ก็ อนุโลม ไปกับ ธรรมเนียมเขา      พระพูดอังกฤษ ก็ต้อง แทน ตัวว่า ไอ หรือ ไอ แอม( I am)

ทุกอย่างอยู่ที่ ความพอใจ หรือ เจตนา หรือ จิตใจ

ที่เห็น อาจใช่ หรือ ไม่ใช่

เห็น เขียวๆ อย่า นึกว่า พระอินทร์ เสมอไป อาจเป็น งูเขียว ก็ได้

งูเขียวธรรมดา  ยังไม่เท่าไร  ระวังเจอเขียวหางไหม้ เข้าให้ล่ะ

ไม่ว่า  ครูบา หรือ พระอาจารย์  ก็คน กลาย  เป็น พระ ห่มเหลือง

พระจริงๆ อยู่  ภายใน  คือ  ใจ ที่ประเสริฐ  เรียก ใจพระ (พระ คือ ประเสริฐ)

พระวินัย พระธรรม  มีไว้ ควบคุม จิตใจ  มโนกรรม         การพูด จา การสื่อสาร  การขีดเขียน  วจีกรรม     การควร กระทำ  หรือ  ควรละ  ลด  งด  เว้น  ของนักบวช สาวก ของ พระศาสดา

การกระทำ  บางอย่าง  มีผิด และ  ไม่ผิด  ตามกาละ  เทศะ บุคคล สถานที่   เหตุ  ปัจจัย          

 อย่าง  พระ กินเหล้า  ตุ๊เจ้า  เอาเมีย    เป็นต้น  

  ต้อง นำไป พิจารณา การกระทำ  ของท่าน  อย่า ด่วนตัดสิน  ว่า ตุ๊เจ้า ผิด โดย ไม่ได้ ไตร่ตรอง


ผ้านุ่ง ผ้าห่ม สีกรัก สีเหลือง สีแก่นขนุน ขอให้ ถูก ต้องตามพระธรรมวินัย  ก็จะถูกตามพระบรมพุทธานุญาต  ทำได้ตามนี้ ก็ เป็นการ เคารพ พระศาสดา  

ครองผ้า เป็น ปริมณฑล สบงนุ่งลงแค่ กลางหน้าแข้ง ไม่สั้นเต่อ แบบ นุ่งกระโปรงหญิง ไม่ยาวกรอมตาตุ่ม แบบ นุ่งซิ่น  ออกแนว พระตุ๊ด  เณรแต๋ว ซึ่ง เป็น มารตัวเป็น ๆ แฝงมาบวช บ่อนทำลาย ศาสนาพระศาสดา
 ไม่ เวิกผ้าจีวร มายองไว้ บนบ่า ปาน คนขี้ร้อน หรือ นักเลง

 พระ  เณร  ผู้บวชมา ในภายหลัง หรือ ก่อนหน้า ที่มาเห็น  อาจทำตามอย่างได้ ด้วยรู้ หรือ ไม่รู้เท่าถึงการณ์  จัก  กลายเป็น การต้องผิดอาบัติ โดย รู้ ก็ตาม  ด้วย ไม่รู้ ก็ตาม


หากเห็น  ว่า  แก้ไข ตนได้  ท่าน จะเรียก ตนเอง  ว่า  ครูบา  หรือ  อาจารย์  ด้วยตนเอง คือ อุปโลก ตน  แบบ พระอุปโลก ตน ใน การรับกฐินทาน  หรือ  รับสังฆทาน

ทำเหตุ ด้วย กุศลจิตเจตนา  (เหตุ)            สิ่งที่ ตามมา          อย่างน้อยก็ มี  กามาวจรกุศลวิบาก รอให้ผลอยู่ (ผล)

ที่ ผมว่า  มานี้  อย่างน้อย  มันโดน ตัวผมเอง หนานธง  นี่แหละ       เป็นได้ ทั้ง  พระ  ทั้ง  มาร   two  in  one ทู อิน วัน  
 แบบ แชมพู ผสม ครีมนวดผม       เผลอ ๆ ก็  three  in  one  ทรี อิน  วัน อย่างกาแฟผงปรุงสำเร็จ


เป็น ชาวบ้าน      เป็น เณร และ พระ  แถม      บางที ก็เป็น สาวกมาร หรือ  พาลชน ใน คนๆเดียวกัน  นี่แหละ


เป็น มาทั้ง เณร(ก่อนเป็น พระ ต้อง รับศีล 10 เสียก่อน)  ตุ๊เจ้า  ฮอด เป็น  ครูบา เพราะ ไป อยู่ อิสาน 1 พรรษา ได้ ออกบิณฑบาตร แดนลาว ที่ ช่องเม็ก หลายๆเช้า  
                 อยู่อิสาน  เขา จึงเอิ้น ว่า  ครูบา  โดยชอบธรรม

กลับ มา อยู่เหนือ เป็น ตุ๊เจ้า เหมียนเก่า  ก็แค่  สมมุติ  ครับ


สถานภาพ ปัจจุบัน  คือ  ทิดธง      คนเหนือเรา    เรีียก    หนาน    ครับผม


ไม่ได้ เป็น ครูบา หรือ  ครูบาเจ้า  แบบ พระ คนยวน        แต่  ก็ เคยเป็น    ครูบา   ที่  อิสาน โน่นนนนนนนนนนนน
 
 

สาธุ ครับ
หนานธง คน ขี้โม้(คือ ขี้คุย โอ้อวด)




ขออภัย หาก ไปกระทบ เสียดสี ใจ โดยตรง โดยอ้อม หรือ ล่วงเกิน บุคคล สมมุติบุคคล  
ก็ตาม

 แมงแสนตีน ยังรู้พลาด  เขียด ตั้บปาบ  ยังรู้ตกน้ำบ่อ

ผมอาจ ผิดพลาด  โดย  ตั้งใจ  หรือ  ไม่ตั้งใจ      จงให้  อภัย  เพื่อ  เป็น  ทาน ของท่าน  แก่  ผม ลูกหลาน ปู่เฒ่า จูจะกะ(ชูชก) เจ่มเนอ........
  

อินดู  ปี่ หนาน เตอะ  ต่าน
บ่  ดี  โขด      

  วันพระ ไม่มีหนเดียว  

วันนี้  คนอื่น  ผิด   วันหน้า   เราอาจ  ผิด เองก็ได้

ชอบกำนี้ของปี่หนาน ข้าเจ้าก็เกยกึ๊ดเหมือนกั๋นกำนี้  ตุ๊เจ้าจะเป๋นอย่างใด ลูกสาวใผ  ลูกบ่าวไผจะเป๋นอย่างใด เพราะความผิดพลาดหรือความคึงคะนอง  ข้าเจ้าอู้ถึงว่าเอาเป๋นตั๋วอย่างเตื๋อนสติตั๋วเฮา ทุกคนมีส่วนดีและส่วนเสียเหมือนกั๋น  สิ่งที่คุณมี ผมบ่ามี  สิ่งตี๊ผมมีคุณอาจบ่ามีก็ได้  เรื่องตุ๊เรื่องพระก็เหมือนกั๋น   เฮาไปผ่อเปิ้นด้านเดียวอย่างถูกหวยถูกแซเนี๊ยะกึ๊ดเหียว่าเปิ้นก็เป๋นปุถุชนอย่างอย่างเฮา  ขณะนี้บ่าว่าเปิ้นว่าเฮาทำโจทย์เหมือนกั๋น  วันหน้ากำเฉลยก็ออกมา   ส่วนเืรื่องครูบานั้น สีของผ้าตี๊สวมใส่บ่าได้บอกว่าเป๋นครูบา  เป๋นเพียงยูนิฟอร์มที่สวมใส่เท่านั้น  เกยได้ยินหลวงพ่อพระธรรมราชานุวัตร (จภ 6)
วัดพระแก้วเชียงรายว่า  พระดีต้องมีกรอบโตยถึจะราคางาม เช่นพระสมเด็จหรือพระอะหยังต่าง  ถ้ามีกรอบทองแล้วราคาก็จะอัพไปต๋ามตั๋ว   ส่วนพระตี๊เป๋นสมมติสงฆ์ก็เหมือนกั๋นต้องมีกรอบอยู่แล้ว กรอบนั้นคือศีล  สมาธิ ปัญญา  นั้นแหละคือกรอบของพระ  บ่าได้อยู่ตี๊ใส่บ่านับ ก๋ำไม่เต๊า ก๋ำพัดเกี้ยวอะหยังสักอย่าง  แต่บางครั้งก็ต้องอาศัยโลกยุคปัจจุบันพ่องเช่น โทรศัพท์? ไอแพ็ด  ไอโพน อะหยังเหล่านี้
เพราะบ่าเดี๋ยวนี้เฮาเข้าสู่ยุคครึ่งพุทธกาลแล้ว   บ่าว่าตุ๊พระ  บ่าว่าคนบ้านก็เหมือนกั๋น  จะหื้อมันเข้มข้นเหมือนสมัยครั้งพุทธกาลย่อมบ่ามี  ผ่อเอาเฮากั้นน้ำกระทิ  1-2 - 3 น้ำแรกยังข้นอยู่แต่ว่าป๋าย  ๆ  ก็จ่๋างไป   ขอบคุณครับ




IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2012, 22:09:16 »

ผม ขอ ทบทวน เล่ากันใหม่

        คำว่า  ครูบา  อาจารย์

เท่าที่ ได้ข้อมูลมา
  มาจากคำว่า

            ครุปิ  อาจาริโย
   ครู  บวกกับ  อาจารย์     กลายเป็น    ครูบา



คนล้านนา คนไตยวน  ครูบา หมายถึง  เจ้าอาวาส
ส่วน ครูบาเจ้า จะพิเศษ กว่า  ครูบาทั่วไป
          

ครูบาเจ้า  คือ  เจ้าสำนัก  ที่ได้รับ การยกย่อง จาก พระ เณร
นักพรต นักบวชศรัทธาสาธุชน คนบ้าน  คนวัด 

โดย
เอาคุณงาม  ความดี ของท่าน เป็น  บาทฐาน ในการยกย่องสรรเสริญ



 โดย  ไม่จำเป็น  ว่าท่าน  จักมาจาก  ฐานะการเงิน  สถานภาพครอบครัวเดิม แบบใด


มีเชื้อเจ้า หรือ
ไม่มีเชื้อเจ้า ก็เรียกเป็น  ครูบาเจ้า ได้

นี่เป็น  เสน่ห์ มหานิยม ของ  ครูบาเจ้า


ซึ่งต่างจาก พระสังฆราชเจ้า
         
 เราใช้เรียก

             
             พระสังฆราช ผู้มีเชื้อพระวงศ์ เท่านั้น



ครูบาเจ้าศรีวิไจย  มาจาก ครอบครัวเชื้อสายคนยาง
คือ  กะเหรี่ยง บ้านปาง เมืองลี้ ลำพูน

ครูบาเจ้าเกษม สุสานไตรลักษณ์
มาจาก เชื้อสายเจ้าเมืองละกร คือ ลำปาง

ครูบาเจ้าไจยะวงศาพัฒนา  
 ครูบาวัดพระบาทห้วยต้ม เมืองลี้ ลำพูน
  ผู้ศิษย์ของ สองครูบา

 คือ ครูบาพรหมจักร พระบาทตากผ้า พระอริยสงฆ์
 กับ  ครูบาเจ้าศรีวิไจย ต๋นบุญ โปธิสัตวเจ้า ผู้ผาถะนาเป็น พระเจ้า
(พระโพธิสัตว์ ผู้ปรารถนา เป็น พระพุทธเจ้า
คำว่า  พระเจ้า คนเหนือ หมายถึง
 พระพุทธเจ้า ตลอดถึง พระพุทธรูป)

ท่านมาจาก  ครอบครัวยากจนมาก
 น่าจะมีเชื้อสาย อีก้อ ชาวดอย อีกต่างหาก
จึง เป็น ที่รังเกียจ  โดนกลั่นแกล้ง
จาก พระ(เณร) จากตุ๊เจ้า(ภิกษุ)
 เมื่อ ครั้งยัง อายุน้อย ของ  ท่าน


ผมหนานธง เมื่อ  ครั้งออกเดินสายแสวงธรรม
ท่านครูบาเจ้าไจยะวงศาพัฒนา มีส่วนส่งเสริม ให้ผมบวช
 แล้ว  ท่านยังเมตตาสั่งพระหน้อย(เณร)ท่านหนึ่ง
 ผมจำชื่อ ไม่ได้แล้ว
         
          ว่า

ให้ผมไปร่วมจำพรรษา ที่วัดท่าน หลังจาก ผมได้ บวชแล้ว
  
 ผมทราบจากเณรท่านนั้น เมื่อ ผมยังเป็น พระ
 ก็เป็นปลาบปลื้ม ดีใจ
จนถึง ทุกเมื่อ ที่คิดถึง คำสั่งนี้  




           

         คำว่า  ครูบา.................


ขอหมู่ ญาติธรรม หมู่เรา  อย่ากล่าววาจา

 คำว่า  ครูบา
 ใน ทางลบ  ตำหนิ ครูบา ทั้งหลาย

    ตนตัว หมู่ครูบา ก็อย่า ทำตัว ให้ พุทธบริษัท 
เขา ว่าเอาได้


       เราควรฟื้น คำว่า  ครูบา 

 ตามแบบ หม่าเก่า

เวลาเรียก เจ้าวัด  (คือ เจ้าอาวาส ในคำไทยกลาง)
 วัดวาอาฮาม(อาราม แปลว่า  วนาราม คือ วัดป่า)
หรือ วัดบ้าน ก็ตาม


         

                       ครูบา  คือ เจ้าวัด (เจ้าอาวาส)





  การบวช           ว่ายาก          การบวช นานด้วย ยากกว่า        
การบวช แล้ว มีศีลาจารวัตร การปฎิบัติที่ดีงาม ยากว่า การบวชนาน ๆไปอีก

    

   การบวช แล้ว  มุ่งสู่ การทำ กัมมัฎฐาน ภาวนา

ได้ความสงบจิต คือ สมาธิ มีความสุข ชั่วคราว ก็ยอด......
 ได้มี สมถะ มีฌาน จิตดีมีกำลังมาก ยิ่งเยี่ยม..........................
 วิปัสสนาญาณ มีปัญญา  อันเแียบคาย ยิ่งดีกว่า........................

           การบวช  เมินนานร้อยปี ที่มีศีลวัตรปฏิบัติดีงามแล้ว แต่ ไม่เน้นการเจริญภาวนา




พระท่าน  ว่า  การบวช แล้ว เป็น ผู้มีสติ อยู่  แม้ เพียงราตรี เดียว   ยังน่าชม




ส่วน ที่ว่า............
  
ได้เป็น  ครูบาเจ้าวัด    ยากกว่า  การบวชนาน.....


การเป็น   ครูบา เจ้าวัด     ว่า   ยากแล้ว  
 
 หากได้เป็น  ครูบา  ตายขำ กาผ้าเหลือง  ยิ่งดี ยิ่งกว่า  

          ได้เป็น  ครูบา  แต่  สิก ออกไป เป็น  หนาน



อันนี้  แม้น  พระเจ้า  ท่าน  ไม่ได้  ตรัสเอาไว้ ในธรรม

  แต่   ก็น่า  จะมีส่วนจริง  อยู่ ไม่มาก  ก็ น้อยหนึ่ง      





               การเป็น   ครูบา    มีอาถรรพ์          






 ไม่เชื่อ   ก็แล้วแต่    วิจารณญาณ

จาก

หนาน ขี้อู้  หำยาน
ธง 2012

  








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 ธันวาคม 2012, 22:39:45 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
maco
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 325



« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 08 มกราคม 2013, 00:47:24 »

ครูบาที่ผมได้ยินมาเปิ้นว่าต้องไปเป้กที่เจียงตุ๋งปุ้นว่าคับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยโตย แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น
IP : บันทึกการเข้า

อย่านำคนอื่นมาเปรียบกับตัวเรา  ให้เอาตัวเรานั้นเปรียบกับตัวเราก่อน
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2013, 14:01:45 »

ครูบาที่ผมได้ยินมาเปิ้นว่าต้องไปเป้กที่เจียงตุ๋งปุ้นว่าคับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยโตย แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น
บ่  ได้ จ๋ำกัด ครับ ว่า เป๊ก ตางใด
ผมเป๊ก เมืองเหนือ เฮา แล้ว มีพระอ๋าจารย์จากอิสาน มาขอ จากครูบา(เจ้าอาวาส)ไปอยู่อิสาน เมืองอุบลราชธานี
ฮีตเขาฮ้อง  ตุ๊ (ต่ำ 5 พรรษาลงมา )ว่า ครูบา กับกำว่า  หม่อม แหมตวย   
 ผมกะเลย  ได้เป๋นตึง ครูบา  กะตึง  หม่อม (หม่อม ใน พระศากยวงศ์ ฯ เหีย หละก้า ?)
ป๋าย บ่ ปอ ไปเตียวกุ๋มบาตร ต่างประเทศ (ลาว) หลาย ๆ เจ้า    ตุ๊ลาว กะเข้า มาเิตียวกุ่มบาตร สวนกับ  ครูบาธง คือ กั๋น

ลองอ่าน กำอู้ ผมในกระทู้ นี้ โม้มากะนักแล้ว คับ      ฮอดต่านซามูไร ขอวานปิด กระทู้ เนาะ  ฯ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
ขี้เหล้าอาวุโส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,062



« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2013, 18:46:25 »

น่ะครับพระบางรูปบวชได้บ่ากี่พรรษาก่อฮ้องครูบ่าล่ะ ฮืม ยังล่ะอ่อนอยู่เลย
IP : บันทึกการเข้า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
teetee2011
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 664


« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2013, 07:52:48 »

เอ่อ ? กิ๋น ๆ ตาน ๆ ไปเต๊อะ เปิงใจ๋ไหนก็ไปหั้น ? บ่าเด่วนี้ 2,600 กว่าปี๋มาแล้วเกิ่งป๋ายแล้วจะหื้อหมดใสเปล่งวะเหมือนตะก่อนนั้นคงมีน้อยนักแกตึงจาวบ้านจาววัด  เหมือนเฮากั้นน้ำกระทิน้ำตังป๋ายจ๋างไปติ๊ก ๆ  ก็คงหื้อมันเป๋นไปต๋ามน้ำนั้นนะก่าหา  (เพ็ชรก็คือเพ๊ชรทำเทียมแม้งามเปียงใดก็ของเทียมอยู่ดี)   สุดท้ายมันก็อยู่ตี๊เฮาแหมกำตี๊จะเลือกเสพอันใด เพราะว่าโลกวันนี้มี 2 อย่าง (กึ๊ดเอาคนเดียวเน้อ) 1 "ความอยาก" ตี๊มันยุ่งมันยากก็เพราะมีความอยากทำหื้อสับสนโลกเปลี่ยนแปลงคนเปลี่ยนแปลง  2. "ความจริงใจ"  ถ้าทุกคนมีความจริงใจ๋ต่อกั๋นมีจะยะจะทำมีเมตต๋าต่อกั๋น  ก็ยะหื้อโลกนี้มีความสุขกันกู่คน   " โลโก  ปัตถัมพิกา  เมตฺตา "  เมตตาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก อย่างตี๊พระพุทธองค์ตรัสไว้  (นอกประเด็นคนเดียวเน้อ)   จาก คนห่างวัด
IP : บันทึกการเข้า
yowit
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 488


« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 04 ตุลาคม 2015, 11:28:21 »

ผมหันตุ๊เจ้าบ่าเดี่ยวเปิ่นหยังมาห่มผ้าสีก้ำหมดครับทั้งๆตี่ตะก่อนห่มสีเหลือง รูปเดียวกันนะครับ แต่พอห่มผ้าสีก้ำก็ฮ้องครูบาเลยแล้วก็ดังเลยครับ ผมเลยหันตุ๊เจ้าบ่าเดี่ยวมาห่มสีก้ำหมดครับตามวัดตามวาบ่าเดี่ยว
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!