"ที่มาของรองเท้าพระ"
เรื่องแต่สมัยพุทธกาล
บุตรเศรษฐีตระกูลโกฬิวิสะชื่อโสณะ เป็นหนุ่มหน้าตาดี ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา
ได้ชื่อว่าเป็นสุขุมาลชาติ เกิดมาก็พิเศษกว่าชาวบ้าน คือที่ฝ่าเท้าทั้งสองมีขน
ตั้งแต่กำเนิด เป็นเรื่องประหลาดจนเลื่องลือไปไกล แว่วถึงพระกรรณพระเจ้า
พิมพิสารเลยทีเดียว
ตระกูลโกฬิวิสะนี้อยู่ในเมืองจัมปา และเมืองจัมปาเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งใน
แคว้นอังคะ แคว้นอังคะในเวลานั้นอยู่ในปกครองของพระเจ้าพิมพิสารผู้เป็
นราชาแห่งแคว้นมคธ
คราวที่พสกนิกร ๒ แว่นแคว้นร่วมประชุมกันครั้งใหญ่ โดยมีพระเจ้าพิมพิสาร
ทรงเป็นประธาน จากนั้นพระองค์พร้อมด้วยพสกนิกรทั้งปวงได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์
เพื่อสดับพระพุทธโอวาทที่เขาคิชฌกูฎ โสณะบุตรเศรษฐีก็ได้ตามเสด็จคราวนี้ด้วย
วันนั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมด้วยอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔ พสกนิกรทั้งหมด
หายสงสัยในพระรัตนตรัย จึงขอเป็นอุบาสกอุบาสิกา มอบกายถวายชีวิตแก่พระพุทธ
พระธรรม และพระสงฆ์
โสณะบุตรเศรษฐี ซาบซึ้งในพระสัจธรรมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อได้
โอกาสผู้คนเขากลับหมดแล้ว เขาจึงคลานเข่าเข้าเฝ้า กราบทูลขออุปสมบท
ณ ที่ตรงนั้น เมื่ออุปสมบทแล้วก็ระดมความเพียรอย่างหนักทั้งกลางคืนและ
กลางวัน ซึ่งในขณะนั้นท่านได้พำนักอยู่ที่ป่าสีตวัน เดินจงกรมจนฝ่าเท้าอัน
บอบบางละเอียดอ่อนปริแตกทั้ง ๒ ข้าง มีรอยเลือดเป็นทางเปื้อนอยู่ที่ทางจงกรม
กระนั้นก็ยังไม่บรรลุธรรม ภิกษุหนุ่มเกิดความท้อแท้ รำพึงในอกว่า ตัวเราไร้
บุญวาสนาบารมีธรรมเสียแล้ว จึงคิดจะสึก พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณ
จึงเสด็จไปโปรด ทรงแสดงธรรมและทรงให้กำลังใจ จนเกิดความมุมานะและไ
ด้บรรลุอรหันต์ในที่สุด
พระพุทธองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นทางจงกรมเปื้อนรอยเลือดเป็นทางของ
พระโสณะด้วย
ในเวลาต่อมา ได้รับสั่งกับพระโสณะว่า ท่านปรารภความเพียรอย่างหนักจนเท้า
ทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บ จึงอนุญาตให้ใช้รองเท้าชั้นเดียวได้ เมื่อสิ้นพระกระแส
รับสั่งลง พระโสณะนั่งกระหย่งประนมมือกราบทูลพระพุทธองค์ว่า “ข้าพเจ้าทิ้ง
กองเงิน ๘๐ เล่มเกวียน ทิ้งกัมพลเป็นอันมาก ทิ้งช้าง ๗ เชือกและคฤหาสถ์
ออกมาบวช อาจมีคนพูดกันว่า โสณะอุตส่าห์ออกบวช ทิ้งสมบัติพัสถานมหาศาล
ก็ยังมาติดข้องกับรองเท้าชิ้นเดียว ดูไม่เหมาะไม่ควรเอาเสียเลย หากจะเป็น
พระกรุณา ก็โปรดได้ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งปวง ได้ใช้รองเท้าได้ด้วยกันเถิด
ข้าพระพุทธเจ้าเองก็จะรับพระกรุณา ใช้รองเท้าตามที่ทรงอนุญาต หาไม่ก็มิบังอาจ
ที่จะน้อมรับพระกรุณาอนุญาตได้”
ด้วยคำกราบทูลนี้เอง จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายใช้รองเท้าชั้นเดียวได้
ตั้งแต่บัดนั้น
ที่มาของรองเท้าพระก็มีมาด้วยประการฉะนี้ครับ
จากหนังสือนิตยสารน่านฟ้า เล่มที่ ๓๑ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ (ผู้เขียนเด็กวัดเก่า)