เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 10:28:56
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ข้อคิดสะกิดใจ..ในธรรมะ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 พิมพ์
ผู้เขียน ข้อคิดสะกิดใจ..ในธรรมะ  (อ่าน 42816 ครั้ง)
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #100 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 12:08:53 »

บทสรรเสริญ...

เริ่มแรกต้องตีหัว เพื่อปลุกตัวตื่นจากหลง
ยิ้มยื่นดอกไม้ดง ยังคงเป็นปริศนาธรรม
ชีวิตคือละคร สะท้อนได้เหมือนจริงจัง
สรรพสิ่งสู่จิตตัง ท่องสวรรค์แลยมบาล

ตีความหมายไม่ออกจริงๆใครพอทราบความหมายบทกลอนนี้บ้างนะ


* sm68.gif (8.93 KB, 55x48 - ดู 801 ครั้ง.)

* 544746_2566761427436_1103203072_n.jpg (56.25 KB, 720x540 - ดู 827 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 กันยายน 2012, 12:17:04 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #101 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 12:12:13 »

 ;Dสัมมาอาชีพ

ห้าอาชีพ ควรจำไว้ ให้ละเว้น
เพราะว่าเป็น การงานผลาญ อายุขัย
พระสัมมา นำพา สอนว่าไว้
ให้เตือนใจ อยู่ห่าง ห้าประการ

หนึ่งนั้นหรือ ห้ามซื้อขาย จำหน่ายสัตว์
เพราะถูกจัด ว่าเบียดเบียน เป็นกรรมผลาญ
เลี้ยงเพื่อขาย เพื่อฆ่าเขา เราร้าวราญ
ควรให้ทาน ชีวิตไป ในทุกครา

สองอาชีพ ค้ามนุษย์ สุดสังเวช
เพลิงกิเลส กิเลสัณ บวกตัณหา
ทำนาบน หลังคน แลกเงินตรา
งานนี้พา ลุ่มหลง ลงอบาย

สามท่านว่า อาชีพ นี้ก็ขัด
คือการจัด ศัตรา มาค้าขาย
เป็นอาวุธ ใช้ห้ำหั่น อันตราย
ใครค้าขาย ลงไปนั้น มันไม่ดี

สี่อาชีพ ค้าสุรา หรือยาเมา
คนขายเหล้า มอมคนไป ใกล้เผาผี
งานนี้หนอ ขอบอกว่า ไม่มีดี
ขายของที่ มอมเมาเขา เรารับกรรม

ห้าท่านว่า อาชีพ ค้ายาพิษ
เสพแล้วติด กินแล้วตาย มิวายช้ำ
รวมถึงยา กำจัดสัตว์ เห็นจัดกัน
อาชีพมัน ไม่ดี ที่เบียดเบียน

ห้าอาชีพ ควรห่าง อย่าสร้างต่อ
เพราะจะก่อ เวรกรรม ทำชีพเปลี่ยน
ตอนแรกรวย ตอนหลังม้วย โรคเบียดเบียน
ใช่ติเตียน อาชีพใคร ให้คิดตรอง (ดูนะ)


อาชีพต้องห้ามที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้ห้าอย่าง
หลีกได้ให้หลีกกันนะ


* 380733_2509202788506_1900464025_n (1).jpg (23.5 KB, 352x400 - ดู 582 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 มกราคม 2013, 20:21:10 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #102 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 12:17:04 »

ท่านจะบอกว่าสรรพสิ่งเกิดจากจิต
ต้องกระเทาะจิตให้ตื่นจากความหลง
นรกสวรรค์จิตเป็นตัวกำหนดหนทางหรือเปล่าครับ ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #103 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 12:38:25 »

ท่านจะบอกว่าสรรพสิ่งเกิดจากจิต
ต้องกระเทาะจิตให้ตื่นจากความหลง
นรกสวรรค์จิตเป็นตัวกำหนดหนทางหรือเปล่าครับ ยิ้ม
ขอบคุณครับ เคยเอาไปสอบถามผู้รู้หลายคนนะ
แต่คำตอบที่ได้ก็ไม่เคลียร์ หรือคำตอบของท่านทั้งหลายก็ตอบแบบนี้แหละครับ
คือไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องมากน้อยแค่ไหน อิอิ ยิ้มกว้างๆ


* m177.gif (15.97 KB, 50x50 - ดู 627 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #104 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 19:11:57 »

ผมเคยได้ยินจากพระท่านหนึ่งท่านบอกว่า
ในสมัยพุทธกาลมีพระภิกษุสงสัยเรื่องธรรมะ
เลยตรัสถามพระพุทธองค์ว่าธรรมะนี้มีประมาณเท่าไหร่
พระพุทธองค์ตอบว่า เธอจงดูใบไม้พร้อมกับชี้ไปที่ต้นไม้
พระภิกษุก็ถามว่าธรรมะมีเท่ากับใบไม้บนต้นไม้หรือขอรับ
พระพุทธองค์ตรัสว่าธรรมะมีเสมือนใบไม้ในป่าใหญ่ไม่อาจประมาณได้ ยิ้ม
คงต้องตามหาผู้ที่รู้จริงจึงจะตอบปัญหาธรรมของท่านได้
พระอรรหันต์ท่านลึกล้ำดีแท้ ยากที่ปัญญาของมนุษย์จะหยั่งถึง ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #105 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2012, 21:43:41 »

ข้อคิดในตอนหนึ่งของหลวงปู่มั่น ที่เคยอ่านเจอมา ยิงฟันยิ้ม
ที่ภูเขาใหญ่ทางเหนือของเชียงใหม่ มีถ้ำมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อีกที่ยังเป็นที่จาริกของพระกรรมฐาน ที่ปฏิบัติธรรมในถ้ำ ว่ากันว่าทางตอนใต้
เป็นเมืองของชาวนาค ซึ่งทางใต้นั้นก็มีถ้ำหนึ่งที่พระกรรมฐานเข้าไปปฏิบัติธรรมกัน
ในบันทึกบอกไว้ว่าในถ้ำแห่งนั้นมีพยานาคตนหนึ่งปลีกตัวอยู่ในถ้ำแห่งนั้น เธอมัก
จะมองดูพระภิกษุผ่านทางช่องรูที่เธออยู่ เมื่อมีพระเข้าไปปฏิบัติธรรมไม่ว่าท่านจะทำกริยาอันได
เธอก็มักจะติติงอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่หลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตาแสดงธรรมสั่งสอน
แต่เธอก็ยังยึดมั่นถือมั่นในตัวเธออยู่ ดังนั้นหลวงปู่จึงได้ออกจากถ้ำและได้บอกกับเหล่า
สานุศิษย์ว่าในถ้ำนั้นมีพญานาคอาศัยอยู่ขอพวกเธออย่าได้เข้าไปในถ้ำนั้นเลย เพราะนาค
นั้นมักติติงพระภิกษุอยู่เสมอ ถึงแม้เธอจะไม่ทำร้ายแต่การเข้าไปให้เธอติติงจะเป็นการสร้างบาปให้กับเธอ
ดังนั้นพวงเธอทั้งหลายจึงงดเสีย หลวงปู่บอกว่ามีเพียงท่านเดียวเท่านั้นที่พญานาคในถ้ำนั้นไม่ติติง
คื่อหลวงปู่บัว (ผมเอ็งก็ไม่รู้ว่าหลวงปู่บัวคือใคร) อาจเพราะเธอชอบในจริตของท่านจึงไม่ติติง
ธรรมของหลวงปู่มั่นในตอนนี้คื่อ ความมีเมตตา กรุณา และปราถนาดีต่อผู้อื่น ยิ้ม

 ยิ้ม หากบทความที่ผมพิมพ์ผิดเพี๊ยนไปจากหนังสือที่ท่านๆได้อ่านโปรดอโหสิในความผิดพลาดด้วยเถิด ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 กันยายน 2012, 21:45:51 โดย สบายแมน » IP : บันทึกการเข้า
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #106 เมื่อ: วันที่ 01 ตุลาคม 2012, 07:22:59 »

ธรรมะยามเช้า___
น้ำที่ใสสะอาดจนเกินไปย่อมไร้ซึ่งมัจฉา บุคคลที่เข้มงวดจนเกินไปย่อมไร้ซึ่งบริวาร...พะนะ
IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #107 เมื่อ: วันที่ 01 ตุลาคม 2012, 07:29:47 »

เอามาฝาก


* DSC_0172.jpg (341.22 KB, 1000x669 - ดู 689 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #108 เมื่อ: วันที่ 02 ตุลาคม 2012, 21:52:45 »

ธรรมะก่อนนอน_____
ทุกคนในโลกเคยทำผิดและขึ้นอยู่กับว่าเรารู้ไหมว่าเราทำผิดแล้วเราตั้งใจที่จะแก้ไขหรือแก้ตัว...พะนะ
IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #109 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 07:34:52 »

ข้อคิดในตอนหนึ่งของหลวงปู่มั่น ที่เคยอ่านเจอมา ยิงฟันยิ้ม
ที่ภูเขาใหญ่ทางเหนือของเชียงใหม่ มีถ้ำมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อีกที่ยังเป็นที่จาริกของพระกรรมฐาน ที่ปฏิบัติธรรมในถ้ำ ว่ากันว่าทางตอนใต้
เป็นเมืองของชาวนาค ซึ่งทางใต้นั้นก็มีถ้ำหนึ่งที่พระกรรมฐานเข้าไปปฏิบัติธรรมกัน
ในบันทึกบอกไว้ว่าในถ้ำแห่งนั้นมีพยานาคตนหนึ่งปลีกตัวอยู่ในถ้ำแห่งนั้น เธอมัก
จะมองดูพระภิกษุผ่านทางช่องรูที่เธออยู่ เมื่อมีพระเข้าไปปฏิบัติธรรมไม่ว่าท่านจะทำกริยาอันได
เธอก็มักจะติติงอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่หลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตาแสดงธรรมสั่งสอน
แต่เธอก็ยังยึดมั่นถือมั่นในตัวเธออยู่ ดังนั้นหลวงปู่จึงได้ออกจากถ้ำและได้บอกกับเหล่า
สานุศิษย์ว่าในถ้ำนั้นมีพญานาคอาศัยอยู่ขอพวกเธออย่าได้เข้าไปในถ้ำนั้นเลย เพราะนาค
นั้นมักติติงพระภิกษุอยู่เสมอ ถึงแม้เธอจะไม่ทำร้ายแต่การเข้าไปให้เธอติติงจะเป็นการสร้างบาปให้กับเธอ
ดังนั้นพวงเธอทั้งหลายจึงงดเสีย หลวงปู่บอกว่ามีเพียงท่านเดียวเท่านั้นที่พญานาคในถ้ำนั้นไม่ติติง
คื่อหลวงปู่บัว (ผมเอ็งก็ไม่รู้ว่าหลวงปู่บัวคือใคร) อาจเพราะเธอชอบในจริตของท่านจึงไม่ติติง
ธรรมของหลวงปู่มั่นในตอนนี้คื่อ ความมีเมตตา กรุณา และปราถนาดีต่อผู้อื่น ยิ้ม

 ยิ้ม หากบทความที่ผมพิมพ์ผิดเพี๊ยนไปจากหนังสือที่ท่านๆได้อ่านโปรดอโหสิในความผิดพลาดด้วยเถิด ยิ้ม
สาธุครับ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #110 เมื่อ: วันที่ 14 พฤศจิกายน 2012, 09:59:35 »

 ยิ้มเท่ห์


* 32332_434527026612004_243434568_n.jpg (59.53 KB, 480x351 - ดู 4213 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #111 เมื่อ: วันที่ 25 มกราคม 2013, 20:16:47 »

กรรมฐานคืออะไร
กรรมฐาน มาจากคำ ๒ คำ คือคำว่า กรรม + ฐาน

กรรม แปลว่า การกระทำก็ได้ หรือแปลว่าการงานก็ได้
ส่วน ฐาน นั้นแปลว่า ที่ตั้ง

ฉะนั้น ในเมื่อเอาคำ ๒ คำนี้ มารวมกัน แล้วแปลให้ได้ความ
ก็ควรจะแปลว่า อารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งการงาน ทางใจ
คือพูดง่ายๆ หางานให้ใจมันทำซะ อย่าปล่อยใจให้ว่างงาน
ไม่เช่นนั้น เดี๋ยวมันจะฟุ้งซ่านแล้วนำความรำคาญ มาสู่จิตใจ ยิงฟันยิ้ม


* 559404_645_n.jpg (61.65 KB, 309x421 - ดู 540 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #112 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013, 22:56:14 »

่ท่าน พี หายไปนาน
อยากให้กระทู้ดีๆ แบบนี้มีเยอะๆครับ (ช่วงนี้มีแต่แรงๆ ยิงฟันยิ้ม)
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #113 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2013, 11:27:16 »

ข้อคิดในตอนหนึ่งของหลวงปู่มั่น ที่เคยอ่านเจอมา ยิงฟันยิ้ม
ที่ภูเขาใหญ่ทางเหนือของเชียงใหม่ มีถ้ำมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อีกที่ยังเป็นที่จาริกของพระกรรมฐาน ที่ปฏิบัติธรรมในถ้ำ ว่ากันว่าทางตอนใต้
เป็นเมืองของชาวนาค ซึ่งทางใต้นั้นก็มีถ้ำหนึ่งที่พระกรรมฐานเข้าไปปฏิบัติธรรมกัน
ในบันทึกบอกไว้ว่าในถ้ำแห่งนั้นมีพยานาคตนหนึ่งปลีกตัวอยู่ในถ้ำแห่งนั้น เธอมัก
จะมองดูพระภิกษุผ่านทางช่องรูที่เธออยู่ เมื่อมีพระเข้าไปปฏิบัติธรรมไม่ว่าท่านจะทำกริยาอันได
เธอก็มักจะติติงอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่หลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตาแสดงธรรมสั่งสอน
แต่เธอก็ยังยึดมั่นถือมั่นในตัวเธออยู่ ดังนั้นหลวงปู่จึงได้ออกจากถ้ำและได้บอกกับเหล่า
สานุศิษย์ว่าในถ้ำนั้นมีพญานาคอาศัยอยู่ขอพวกเธออย่าได้เข้าไปในถ้ำนั้นเลย เพราะนาค
นั้นมักติติงพระภิกษุอยู่เสมอ ถึงแม้เธอจะไม่ทำร้ายแต่การเข้าไปให้เธอติติงจะเป็นการสร้างบาปให้กับเธอ
ดังนั้นพวงเธอทั้งหลายจึงงดเสีย หลวงปู่บอกว่ามีเพียงท่านเดียวเท่านั้นที่พญานาคในถ้ำนั้นไม่ติติง
คื่อหลวงปู่บัว (ผมเอ็งก็ไม่รู้ว่าหลวงปู่บัวคือใคร) อาจเพราะเธอชอบในจริตของท่านจึงไม่ติติง
ธรรมของหลวงปู่มั่นในตอนนี้คื่อ ความมีเมตตา กรุณา และปราถนาดีต่อผู้อื่น ยิ้ม

 ยิ้ม หากบทความที่ผมพิมพ์ผิดเพี๊ยนไปจากหนังสือที่ท่านๆได้อ่านโปรดอโหสิในความผิดพลาดด้วยเถิด ยิ้ม
       หลวงปู่บัว  ในที่นี้  คือ  หลวงตาบัว   ญาณสมปนฺโน  อรหันต์ วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี  ผมพอทราบมาเช่นนี้ ครับ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
sabaidree
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 565


« ตอบ #114 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2013, 20:06:06 »

ข้อคิดในตอนหนึ่งของหลวงปู่มั่น ที่เคยอ่านเจอมา ยิงฟันยิ้ม
ที่ภูเขาใหญ่ทางเหนือของเชียงใหม่ มีถ้ำมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
อีกที่ยังเป็นที่จาริกของพระกรรมฐาน ที่ปฏิบัติธรรมในถ้ำ ว่ากันว่าทางตอนใต้
เป็นเมืองของชาวนาค ซึ่งทางใต้นั้นก็มีถ้ำหนึ่งที่พระกรรมฐานเข้าไปปฏิบัติธรรมกัน
ในบันทึกบอกไว้ว่าในถ้ำแห่งนั้นมีพยานาคตนหนึ่งปลีกตัวอยู่ในถ้ำแห่งนั้น เธอมัก
จะมองดูพระภิกษุผ่านทางช่องรูที่เธออยู่ เมื่อมีพระเข้าไปปฏิบัติธรรมไม่ว่าท่านจะทำกริยาอันได
เธอก็มักจะติติงอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่หลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่ก็ได้เมตาแสดงธรรมสั่งสอน
แต่เธอก็ยังยึดมั่นถือมั่นในตัวเธออยู่ ดังนั้นหลวงปู่จึงได้ออกจากถ้ำและได้บอกกับเหล่า
สานุศิษย์ว่าในถ้ำนั้นมีพญานาคอาศัยอยู่ขอพวกเธออย่าได้เข้าไปในถ้ำนั้นเลย เพราะนาค
นั้นมักติติงพระภิกษุอยู่เสมอ ถึงแม้เธอจะไม่ทำร้ายแต่การเข้าไปให้เธอติติงจะเป็นการสร้างบาปให้กับเธอ
ดังนั้นพวงเธอทั้งหลายจึงงดเสีย หลวงปู่บอกว่ามีเพียงท่านเดียวเท่านั้นที่พญานาคในถ้ำนั้นไม่ติติง
คื่อหลวงปู่บัว (ผมเอ็งก็ไม่รู้ว่าหลวงปู่บัวคือใคร) อาจเพราะเธอชอบในจริตของท่านจึงไม่ติติง
ธรรมของหลวงปู่มั่นในตอนนี้คื่อ ความมีเมตตา กรุณา และปราถนาดีต่อผู้อื่น ยิ้ม

 ยิ้ม หากบทความที่ผมพิมพ์ผิดเพี๊ยนไปจากหนังสือที่ท่านๆได้อ่านโปรดอโหสิในความผิดพลาดด้วยเถิด ยิ้ม
       หลวงปู่บัว  ในที่นี้  คือ  หลวงตาบัว   ญาณสมปนฺโน  อรหันต์ วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี  ผมพอทราบมาเช่นนี้ ครับ

น่าจะเป๋น
หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
วัดราษฎรสงเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง)
ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวชอ จ.อุดรธานี
ซึ่งเป๋นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น อีกรูปหนึ่งนะคับ(รึป่าว ยิงฟันยิ้ม)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #115 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013, 20:53:49 »

ท่านว่าความจริงมีสองอย่าง จริงแท้ และจริง แต่ไม่แท้
 ยิงฟันยิ้ม


* 3ar0y.jpg (254.59 KB, 456x644 - ดู 1481 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #116 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013, 20:55:52 »

บทสรรเสริญ...

เริ่มแรกต้องตีหัว เพื่อปลุกตัวตื่นจากหลง
ยิ้มยื่นดอกไม้ดง ยังคงเป็นปริศนาธรรม
ชีวิตคือละคร สะท้อนได้เหมือนจริงจัง
สรรพสิ่งสู่จิตตัง ท่องสวรรค์แลยมบาล

ตีความหมายไม่ออกจริงๆใครพอทราบความหมายบทกลอนนี้บ้างนะ

เริ่มแรกต้องตีหัว เพื่อปลุกตัวตื่นจากหลง = ต้องรู้ตัวตื่นตัว ไม่หลงคิดว่า ร่างกายนี้รูปนี้เป็นของเราของเขา สิ่งของนี้เป็นของเราของเขา คือไม่หลงคิดยึดติดยึดมั่นถือมั่นครับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนั้นไม่เที่ยงแท้ ย่อมมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปครับ ไม่ว่าจะสิ่งของใดๆ หรือแม้แต่ตัวเราเองก็ตามครับ สิ่งของก็ตามครับอย่าได้ยึดติด มี เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป มีเกิด แก่ ตาย บวกกับเจ็บ

ยิ้มยื่นดอกไม้ดง ยังคงเป็นปริศนาธรรม(อันนี้ยากครับนั่งพิจารณานานเลย) = ยื่นดอกไม้ คือ ดอกบัวสี่เหล่าครับ ว่าจะยื่นพ้นน้ำได้แค่ไหน จะเป็น บัวที่จมอยู่ในโคลนตม บัวใต้น้ำ บัวปริ่มน้ำ หรือบัวพ้นน้ำ ดอกบัวพระพุทธองค์ก็เปรียบเหมือนคนเราว่าเป็นบุคคลประเภทไหน จะรับฟังและเข้าใจธรรมะได้มากน้อยแค่ไหน จึงเป็นที่มาของคำว่า "ยังคงเป็นปริศนาธรรม"ในบทประพันธ์นี้ครับ

ชีวิตคือละคร สะท้อนได้เหมือนจริงจัง = เหมือนละครไงครับ ที่สะท้อนเรื่องราว ก็เปรียบเสมือนผลกรรมที่สะท้อนให้เรา ให้เขาต้องมีชีวิตเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เช่น ชาติก่อนมักให้ทาน ชาตินี้ชีวิตเกิดมารวย ชาติก่อนมักทรมานสัตว์ ชาตินี้ชีวิตมีร่างกายพิกลพิการ กล่าวคือผลกรรมสะท้อนออกมาเป็นละครชีวิตส่งผลแก่เรา

สรรพสิ่งสู่จิตตัง ท่องสวรรค์แลยมบาล = สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่จิตยังไม่หลุดพ้น ยังไม่บรรลุซึ่งอรหัตผล ยังไม่ถึงมรรคผลนิพพาน ย่อมเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร พอตายไปก็ขึ้นสวรรค์-ตกนรก ตามกรรมที่ทำมา เกิด แก่ เจ็บตาย พอตายไปก็ขึ้นสวรรค์-ตกนรก  เกิด แก่ เจ็บตาย พอตายไปก็ขึ้นสวรรค์-ตกนรก ฯ เป็นอย่างนี้ครับ จนกว่าจะตัดภพชาติ ไม่เวียนว่ายตายเกิด อีกต่อไป

ผมตอบโดยที่นำเอาคำตอบของผู้อื่นมาตอบอีกที่ครับ ท่านได้ตอบไว้ก่อนผมเมื่อ 2500 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งผู้ตอบ คือพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านได้ตอบไว้ครับ ผมเพียงแต่นำคำตอบมาต่อยอดแถลงไขในบทประพันธ์นี้ครับ

ขอบคุณมากครับ
เครดิต ท่าน "ละอ่อนเจียงของ"
IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนเจียงของ
บทเรียนนอกห้องเรียน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120


เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป


« ตอบ #117 เมื่อ: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013, 21:23:53 »

อนุโมทนาสาธุ ถูกผิดช่วยชี้แจง ขอบคุณครับ ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013, 21:34:56 โดย ละอ่อนเจียงของ » IP : บันทึกการเข้า

หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #118 เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2013, 01:51:47 »

"ที่มาของรองเท้าพระ" ยิ้มกว้างๆ

เรื่องแต่สมัยพุทธกาล ตกใจ

บุตรเศรษฐีตระกูลโกฬิวิสะชื่อโสณะ เป็นหนุ่มหน้าตาดี ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา
ได้ชื่อว่าเป็นสุขุมาลชาติ เกิดมาก็พิเศษกว่าชาวบ้าน คือที่ฝ่าเท้าทั้งสองมีขน
ตั้งแต่กำเนิด เป็นเรื่องประหลาดจนเลื่องลือไปไกล แว่วถึงพระกรรณพระเจ้า
พิมพิสารเลยทีเดียว

ตระกูลโกฬิวิสะนี้อยู่ในเมืองจัมปา และเมืองจัมปาเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งใน
แคว้นอังคะ แคว้นอังคะในเวลานั้นอยู่ในปกครองของพระเจ้าพิมพิสารผู้เป็
นราชาแห่งแคว้นมคธ

คราวที่พสกนิกร ๒ แว่นแคว้นร่วมประชุมกันครั้งใหญ่ โดยมีพระเจ้าพิมพิสาร
ทรงเป็นประธาน จากนั้นพระองค์พร้อมด้วยพสกนิกรทั้งปวงได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์
เพื่อสดับพระพุทธโอวาทที่เขาคิชฌกูฎ โสณะบุตรเศรษฐีก็ได้ตามเสด็จคราวนี้ด้วย
วันนั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมด้วยอนุปุพพีกถาและอริยสัจ ๔ พสกนิกรทั้งหมด
หายสงสัยในพระรัตนตรัย จึงขอเป็นอุบาสกอุบาสิกา มอบกายถวายชีวิตแก่พระพุทธ
พระธรรม และพระสงฆ์

โสณะบุตรเศรษฐี ซาบซึ้งในพระสัจธรรมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อได้
โอกาสผู้คนเขากลับหมดแล้ว เขาจึงคลานเข่าเข้าเฝ้า กราบทูลขออุปสมบท
ณ ที่ตรงนั้น เมื่ออุปสมบทแล้วก็ระดมความเพียรอย่างหนักทั้งกลางคืนและ
กลางวัน ซึ่งในขณะนั้นท่านได้พำนักอยู่ที่ป่าสีตวัน เดินจงกรมจนฝ่าเท้าอัน
บอบบางละเอียดอ่อนปริแตกทั้ง ๒ ข้าง มีรอยเลือดเป็นทางเปื้อนอยู่ที่ทางจงกรม
กระนั้นก็ยังไม่บรรลุธรรม ภิกษุหนุ่มเกิดความท้อแท้ รำพึงในอกว่า ตัวเราไร้
บุญวาสนาบารมีธรรมเสียแล้ว จึงคิดจะสึก พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณ
จึงเสด็จไปโปรด ทรงแสดงธรรมและทรงให้กำลังใจ จนเกิดความมุมานะและไ
ด้บรรลุอรหันต์ในที่สุด

พระพุทธองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นทางจงกรมเปื้อนรอยเลือดเป็นทางของ
พระโสณะด้วย

ในเวลาต่อมา ได้รับสั่งกับพระโสณะว่า ท่านปรารภความเพียรอย่างหนักจนเท้า
ทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บ จึงอนุญาตให้ใช้รองเท้าชั้นเดียวได้ เมื่อสิ้นพระกระแส
รับสั่งลง พระโสณะนั่งกระหย่งประนมมือกราบทูลพระพุทธองค์ว่า “ข้าพเจ้าทิ้ง
กองเงิน ๘๐ เล่มเกวียน ทิ้งกัมพลเป็นอันมาก ทิ้งช้าง ๗ เชือกและคฤหาสถ์
ออกมาบวช อาจมีคนพูดกันว่า โสณะอุตส่าห์ออกบวช ทิ้งสมบัติพัสถานมหาศาล
ก็ยังมาติดข้องกับรองเท้าชิ้นเดียว ดูไม่เหมาะไม่ควรเอาเสียเลย หากจะเป็น
พระกรุณา ก็โปรดได้ทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งปวง ได้ใช้รองเท้าได้ด้วยกันเถิด
ข้าพระพุทธเจ้าเองก็จะรับพระกรุณา ใช้รองเท้าตามที่ทรงอนุญาต หาไม่ก็มิบังอาจ
ที่จะน้อมรับพระกรุณาอนุญาตได้”

ด้วยคำกราบทูลนี้เอง จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายใช้รองเท้าชั้นเดียวได้
ตั้งแต่บัดนั้น

ที่มาของรองเท้าพระก็มีมาด้วยประการฉะนี้ครับ

จากหนังสือนิตยสารน่านฟ้า เล่มที่ ๓๑ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ (ผู้เขียนเด็กวัดเก่า)


* oot.jpg (8.68 KB, 234x215 - ดู 498 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #119 เมื่อ: วันที่ 07 เมษายน 2013, 21:05:40 »

 ยิ้ม


* 524567_419741358113457_858513685_n.jpg (29.66 KB, 350x350 - ดู 8508 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!