เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 00:06:46
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  ปลูกยางหรือลำไย ดีครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ปลูกยางหรือลำไย ดีครับ  (อ่าน 2670 ครั้ง)
peekeng
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 11:19:07 »

ขอเเชร์ความคิดเห็นกับทุกท่านที่ทำเกษตร ด้วยกันครับ ในส่วนตัวผมมีสวนยางพาราที่กรีดได้ประมาณ 50 กว่าไร่ และมีสวนลำไยอยู่ประมาณ  400 กว่าต้น ปีนี้ดอกแล้วครับ ผมมีที่ว่างอยู่อีกนิดหน่อยประมาณ 50 กว่าไร่ รบกวนท่านที่มีประสบการณ์ช่วยกันตอบทีว่าผมน่าจะลงยางพาราหรือว่าลำไย ดี เพราะว่าดูแนวโน้มแล้ว ราคาผลิต จะต่ำลงเรื่อย ๆ หรือว่าน่าจะล้มลำไยลงยางดีครับ รบกวนท่านช่วยตอบหน่อยน่ะครับ ก่อนที่จะเริ่มเข้าฝนนี้  ขอบขอบคุณทุกท่านที่ตอบมาครับ
IP : บันทึกการเข้า
ลุงใจ
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 12:20:30 »

ผมว่าผสมผสานน่าจะลงตัวที่สุดนะครับ ถึงราคาผลผลิตตอนนี้จะดี แต่พรุ่งนี้ก็ตกได้(ตามกลไกตลาดน่ะคับ) ปลูกพืชชนิดเดียวยังไงก็เสี่ยงกว่าหลายอย่างครับ แต่ถ้ายางดูแลง่ายกว่าก็ปลูกยางมากกว่าลำใย ก็น่าจะสะดวกกับเรามากกว่านะครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
~pong03~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 899



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 21:26:01 »

ขอเเชร์ความคิดเห็นกับทุกท่านที่ทำเกษตร ด้วยกันครับ ในส่วนตัวผมมีสวนยางพาราที่กรีดได้ประมาณ 50 กว่าไร่ และมีสวนลำไยอยู่ประมาณ  400 กว่าต้น ปีนี้ดอกแล้วครับ ผมมีที่ว่างอยู่อีกนิดหน่อยประมาณ 50 กว่าไร่ รบกวนท่านที่มีประสบการณ์ช่วยกันตอบทีว่าผมน่าจะลงยางพาราหรือว่าลำไย ดี เพราะว่าดูแนวโน้มแล้ว ราคาผลิต จะต่ำลงเรื่อย ๆ หรือว่าน่าจะล้มลำไยลงยางดีครับ รบกวนท่านช่วยตอบหน่อยน่ะครับ ก่อนที่จะเริ่มเข้าฝนนี้  ขอบขอบคุณทุกท่านที่ตอบมาครับ

น๊าน!! บ่าลำไย 400 ต้น =16ไร่ 400 ต้นจะไปฝั่งล้มมันเตี่ย เอาไว้เยี๊ยะใส่สารเล่นๆ
ต๋อน ยางพาราผลัดใบ บ่าลำไย อายุ เกิน 10 ปีได้ตังค์เป็นล้านหนา "ขอบอก"
ข้อเสียก็มีนักอยู่ ค่าสะป๊ะ ไม้ก้ำ ปุ๋ยฯลฯ เยี๊ยะดีๆ ก็คุ้มอยู่เน้อ
ยางพารา เอาไว้เป๋นตัวช่วย ขายพ้องเก็บพ้อง ก็พอไปได้ แต่!!อนาคต จะเด่นกว่า
สวนตี่เหลือ หาทางลงทุน ที่ลงทุนน้อยแต่ตอบแทนค่อนข้างสูง เจ่น บ่าขามเปรี้ยวยัก

ไผ่นอกฤดู มะนาวนอกฤดู สะป๊ะเน้อ แห๊ะๆ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Facebook -https://www.facebook.com/pin.manora
Line Pin manora
ลุงใจ
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 22:20:32 »


น๊าน!! บ่าลำไย 400 ต้น =16ไร่ 400 ต้นจะไปฝั่งล้มมันเตี่ย เอาไว้เยี๊ยะใส่สารเล่นๆ
ต๋อน ยางพาราผลัดใบ บ่าลำไย อายุ เกิน 10 ปีได้ตังค์เป็นล้านหนา "ขอบอก"
ข้อเสียก็มีนักอยู่ ค่าสะป๊ะ ไม้ก้ำ ปุ๋ยฯลฯ เยี๊ยะดีๆ ก็คุ้มอยู่เน้อ
ยางพารา เอาไว้เป๋นตัวช่วย ขายพ้องเก็บพ้อง ก็พอไปได้ แต่!!อนาคต จะเด่นกว่า
สวนตี่เหลือ หาทางลงทุน ที่ลงทุนน้อยแต่ตอบแทนค่อนข้างสูง เจ่น บ่าขามเปรี้ยวยัก

ไผ่นอกฤดู มะนาวนอกฤดู สะป๊ะเน้อ แห๊ะๆ  ยิงฟันยิ้ม
หันตวยขนาดหนักคับปี่น้อง
ปี๋หน้าลุงใจบ่ก้าบนเจ้าตี่แล้ว ลำใยออกนักแก่ กั๋วได้โล 5 บาท ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 06:07:38 »

ยางดีกว่าครับ
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
~pong03~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 899



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 06:51:59 »


น๊าน!! บ่าลำไย 400 ต้น =16ไร่ 400 ต้นจะไปฝั่งล้มมันเตี่ย เอาไว้เยี๊ยะใส่สารเล่นๆ
ต๋อน ยางพาราผลัดใบ บ่าลำไย อายุ เกิน 10 ปีได้ตังค์เป็นล้านหนา "ขอบอก"
ข้อเสียก็มีนักอยู่ ค่าสะป๊ะ ไม้ก้ำ ปุ๋ยฯลฯ เยี๊ยะดีๆ ก็คุ้มอยู่เน้อ
ยางพารา เอาไว้เป๋นตัวช่วย ขายพ้องเก็บพ้อง ก็พอไปได้ แต่!!อนาคต จะเด่นกว่า
สวนตี่เหลือ หาทางลงทุน ที่ลงทุนน้อยแต่ตอบแทนค่อนข้างสูง เจ่น บ่าขามเปรี้ยวยัก

ไผ่นอกฤดู มะนาวนอกฤดู สะป๊ะเน้อ แห๊ะๆ  ยิงฟันยิ้ม
หันตวยขนาดหนักคับปี่น้อง
ปี๋หน้าลุงใจบ่ก้าบนเจ้าตี่แล้ว ลำใยออกนักแก่ กั๋วได้โล 5 บาท ยิงฟันยิ้ม

น๊านนะครับ เยี๊ยะไปใจอ่อนไป กร๊ากๆ จะกอยฝ่อ แฮมสักปีสองปี
ถ้าราคา มันต่ำล้ำไป ก๊อจะเอากาแฟมาปลูก เอาบ่าลำไยเป๋นโฮ่มหื้อ กาแฟเสียเลย
เหมียนกับป้อเลี้ยง ตี้บ้านผมเปิ้ลเยี๊ยะ แต่ก่อนเปิ้ลปลูกมะขามหวานกับมะม่วงเขียวเสวย
ฟ้าลั่นโตย ราคาตอนใหม่ๆดีขนาด 10ปีต่อมา ราคาบ่ดีเลย เลือกเกรดแฮม ต่างหาก
ป้อเลี้ยงเปิ้ล เลยเอากาแฟ มาลงหมดเลย ทั้งสวน มะขามหวานทั้งสวนมะม่วง เอามะขามกับมะม่วง เป็นโฮมหื้อมัน ต๋อนนี้ เปิ้ลผลิตกาแฟ ส่งไปกรุงเทพฯ
รายได้ก็ดีหนาครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Facebook -https://www.facebook.com/pin.manora
Line Pin manora
peekeng
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 07:01:36 »

อ่านแล้ว  เข้าท่าครับปี่น้อง ใจ๋แข็งมาแหมจาดนัก ครับ ขอบคุณหลาย ๆ ต๋อนแรกก๊ะว่าจะแบ่งตี่ขายไปฝ่อง แต่ต๋อนนี้ท่าจะบ่าขายแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า
ลุงใจ
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 11:18:46 »

อ่านแล้ว  เข้าท่าครับปี่น้อง ใจ๋แข็งมาแหมจาดนัก ครับ ขอบคุณหลาย ๆ ต๋อนแรกก๊ะว่าจะแบ่งตี่ขายไปฝ่อง แต่ต๋อนนี้ท่าจะบ่าขายแล้วครับ
โป๊..........จะไปขายเน้อ ตี่ดินมันเป็นเหมือนอู่เข้าอู่น้ำของหมู่เฮาหนา เก็บไว้เต๊อะ
อย่างสวนยางผม ป่ออยากขายขนาด บ่สนเหตุผลหยังซักอย่าง(เขามาฮื้อไร่ละแสน) แต่ถ้าเฮากรีดคนเดว 3-4 ปี๋ ยางไร่เดวกะได้เงินแสนเหมือนกัน
แหมอย่าง ราคาตี่....บ่เกยเต่าเก่า ขึ้นอย่างเดว ถ้าดูของตี่มีก่านักขึ้นเรื่อยๆกะจะมีก่า ทอง กับตี่ดินอั้นเน๊าะ ต๋อน 5-10 ปี๋ตี่แล้ว ทองกับราคาเต่าได แล้วต๋อนนี้เต่าได ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ผมบ่ขายเด็ดขาด ถึงจะได้เงินก้อน แต่มันบ่งอกเงยได้ถึงขนาดตอนตี่เกยเป็นตี่ บ่แหนมจะลดลงติกๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 12:30:28 »

ปลูกยางเตอะครับ  ยางมีราคา ลำใยถูกลงๆ ถ้าใส่สารก่อเก็บได้ปีสองเตื้อแถมต้นโทรมแหม
IP : บันทึกการเข้า
กระเจียว
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 721



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 14:34:07 »


น๊าน!! บ่าลำไย 400 ต้น =16ไร่ 400 ต้นจะไปฝั่งล้มมันเตี่ย เอาไว้เยี๊ยะใส่สารเล่นๆ
ต๋อน ยางพาราผลัดใบ บ่าลำไย อายุ เกิน 10 ปีได้ตังค์เป็นล้านหนา "ขอบอก"
ข้อเสียก็มีนักอยู่ ค่าสะป๊ะ ไม้ก้ำ ปุ๋ยฯลฯ เยี๊ยะดีๆ ก็คุ้มอยู่เน้อ
ยางพารา เอาไว้เป๋นตัวช่วย ขายพ้องเก็บพ้อง ก็พอไปได้ แต่!!อนาคต จะเด่นกว่า
สวนตี่เหลือ หาทางลงทุน ที่ลงทุนน้อยแต่ตอบแทนค่อนข้างสูง เจ่น บ่าขามเปรี้ยวยัก

ไผ่นอกฤดู มะนาวนอกฤดู สะป๊ะเน้อ แห๊ะๆ  ยิงฟันยิ้ม
หันตวยขนาดหนักคับปี่น้อง
ปี๋หน้าลุงใจบ่ก้าบนเจ้าตี่แล้ว ลำใยออกนักแก่ กั๋วได้โล 5 บาท ยิงฟันยิ้ม
5555 จะไปลืมไปแก้โตยเน้อ
IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 22:58:29 »

สวนผม ปลูกทั้งยาง ปลูกทั้งลำไย
แต่ตอนนี้กำลังหาที่ทางจะปลูกยางเพิ่มขึ้น  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
pama
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 138


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 14:45:38 »

ปลูกกาแฟดีมั้ยค่ะ  ปีนี้ว่าจะลงซัก 2 ไร่ก่อน
IP : บันทึกการเข้า
artfactory
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 708



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 14:48:03 »

ผมมีความเห็นว่า

จะปลูกอะไรก็ตามก็ควรศึกษาดังต่อไปนี้
1. สภาพดิน ภูมิศาสตร์ น้ำ
2. ตลาด และ แหล่งรับซื้อ
3. ทุน
4. ความพร้อมของเจ้าของสวน

คนที่พร้อม ปลูกหญ้าเฉยๆ ยังมีเงินเลยครับ
IP : บันทึกการเข้า

0888-4888-35
ขี้เหล้าอาวุโส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,062



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 15:05:30 »

สั้นๆ ยาง
IP : บันทึกการเข้า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
peekeng
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2012, 21:26:54 »

ผมตัดสินใจปลูกมะขามเปลี้ยวกับลำไยแล้วครับ แต่พอดีอ่านเจอข้อความอยู่บทหนึ่ง รบกวนพี่น้องชาวเกษตรทุกท่านลองช่วยกันคิด หน่อยน่ะครับท่าน ....................อย่าหาว่าผมเป็นมาร "ขวางทางรวย" เลยนะครับ แต่อยากจะติงทั้งรัฐบาล และเตือนทั้งเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำสวนยาง แต่กำลังตัดสินใจจะแปลงเรือกสวน-ไร่นาของท่านไปเป็นสวนยางสักเล็กน้อย
 ข้อแรก เรื่องสินค้าพืชผลทางการเกษตรนั้น เราจะยึดราคา ณ วันนี้ ทึกทักตายตัว แล้วใช้เป็นฐานคำนวณผลได้เพื่อตัดสินใจปลูกพืชผลชนิดนั้นเป็น "อาชีพหลัก" ไม่ได้หรอกครับ
 ข้อที่สอง เรื่องยางนั้น ปลูกวันนี้ อีก ๗ ปีโดยประมาณจึงจะกรีดให้น้ำยางขายได้ แล้วแน่ใจหรือว่า ใน ๗ ปีข้างหน้า ราคายางยังจะดีเหมือนวันนี้?
 ข้อที่สาม พืชยางพารานั้น เป็นพืชให้ผลิตผลทางใช้สอย ไม่ใช่เพื่อเอาไปกินเหมือนข้าว มัน ถั่ว หรือผักหญ้าทั้งหลายที่มนุษย์ต้อง "กินทุกวัน" ดังนั้น มั่นใจได้อย่างไรว่า อุตสาหกรรมของจีนยังจะต้องบริโภคยางพารามากมายเช่นนี้ตลอดไป
 ข้อที่สี่ คิดสักนิดไหมว่า เมื่อเฮโลเปลี่ยนท้องไร่-ท้องนาไปเป็น "สวนยาง" กันหมด อีกไม่ช้ายางที่แข่งกันปลูกก็จะเต็มตลาด ถึงตอนนั้นยางก็จะถูก ขณะเดียวกัน พืชสวนไร่นา ข้าวปลาอาหารที่คนปลูกกันน้อย แต่คนบริโภคมากจะขาดแคลน ราคาก็จะแพงขึ้น จะเฮโลโค่นยางทิ้งแล้วกลับมาปลูกข้าว ปลูกพืชไร่ มันก็ไม่ทันกินแล้ว
 ข้อที่ห้า เท่าที่เป็นอยู่เวลานี้ ราคายางแพงด้วยดีมานด์-ซัพพลาย ไม่ได้แพงด้วยฝีมือบริหาร-จัดการในระบบตลาดของรัฐหรือของเอกชนรายใด โอเปกยางที่ทักษิณเคยทำไว้ ทักษิณเองก็หักหลังอินโดฯ-มาเลย์ เทยางขายคนเดียวจนเขาเลิกเชื่อถือไทย "ล้มไปแล้ว"
 ถึง ณ วันนี้ รัฐบาลก็เก่งแต่ส่งเสริมปลูกอย่างเดียว แต่ไร้เดียงสาในด้านการตลาดด้วยประการทั้งปวง ในภาวะที่หลายประเทศรุมทำสวนยาง เมื่อยางได้ผลเต็มตลาดพร้อมๆ กัน แล้วจะทำอย่างไรกับการแย่งขาย-แย่งลดราคา ชาวสวนยางไม่แห่กันเอาน้ำยางมาเทหน้าทำเนียบฯ หรือ?
 ข้อที่หก อันนี้สำคัญมาก และคิดว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่รัฐบาลควรตระหนัก ควรบอกให้เกษตรกรใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะปลูกพืชไร่อื่นต่อไป หรือจะเฮโลมาปลูกยางตามกันไปทั้งหมด
 นั่นก็คือ ถ้าติดตามข่าวสารมาเรื่อยๆ จะทราบว่า เมื่อ ๓-๔ ปีที่ผ่านมา จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อยางรายใหญ่เวลานี้ ได้เข้าไปทั้งส่งเสริม ทั้งเช่าพื้นที่ปลูกยางเองในประเทศลาว ในประเทศเวียดนาม และในประเทศเขมร รวมแล้วเรียกว่าเป็นแสน-เป็นล้านไร่ ยังไม่รวมที่ปลูกในหลายๆ พื้นที่ในประเทศจีนเอง
 ก็อีกราวๆ ๒-๓ ปีข้างหน้านี้ ยางที่จีนจ้างปลูกและปลูกเองก็จะให้ผลิตผล กรีดน้ำยางได้ จีนจะลดดีมานด์จากตลาดทั่วไปแน่นอน เมื่อเป็นอย่างนั้น ยางพาราที่เราหลับหู-หลับตาส่งเสริมปลูกกันยกใหญ่ เกิดราคาไหลลงมาเหลือกิโลฯ ละ ๒๐-๓๐ บาทเป็นอย่างสูง แล้วจะทำอย่างไรกัน
 ทั้งรัฐบาล โดย สกย.และทั้งพี่น้องเกษตรกรเอง ช่วยกันคิดประเด็นนี้ด้วยนะ อย่าคิดง่ายๆว่า...รอให้ถึงวันนั้นเสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน!
IP : บันทึกการเข้า
sineenuch
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2012, 22:59:48 »

จริงทีเดียวครับ ผมคิดมานานแล้วเหมือนกัน อีกอย่างยางพาราเนี่ยตัวทำลายป่าธรรมชาติเลยนะ  เพราะชาวบ้านถูกกว้านซื้อที่หมด  ก็ไปรุกป่าเพิ่มเพื่อหาที่ทำกิน  ป่าธรรมชาติกับสวนยางคนละอย่างนะครับ ป่าธรรมชาติ หนึ่งตารางเมตรอาจมีต้นไม้ได้นับสิบต้น  แต่สวนยาง 18-21 ตารางเมตรมีต้นยางแค่ 4 ต้น การซึมซับน้ำเวลาฝนตกจึงต่างกันมาก  วันข้างหน้าถ้าฝนตกน้ำจะไหลลงที่ลุ่มอย่างเดียวซึมลงผิวดินได้น้อยมาก โดยเฉพาะที่ลาดเอียงหรือดอยต่างๆ  การปลูกพืชต่างๆที่ทางการส่งเสริม  ต้องคิดให้มากๆ เพราะนักการเมือง  ข้าราชการของไทย ทำงานตามกระแส ไม่มองอนาคตยาวๆเหมือนประเทศอื่นๆ เช่นจีน เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น  เป็นต้น  จ้องแต่จะหาผลประโยชน์  ถ้าทำงานเก่งเหมือนโกงเก่งประเทศเจริญนานแล้วพี่น้อง   
IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2012, 23:39:48 »

เคยได้ยินมาหลายกระแส บางกระแสก็บอกว่าแถวจีนปลูกได้ แต่น้ำยางไม่ดี
เพราะอากาศหนาวเกินไป
น้ำยางที่ดีต้องมาแถวอินโด มาเลย์ เขมร ลาว ไทย ซึ่งภูมิอากาศเหมาะสม
ทำให้ยังไง ๆ จีนก็ต้องมาซื้อเราอยู่ดี
IP : บันทึกการเข้า
~pong03~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 899



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 01 มีนาคม 2012, 05:35:31 »

ผมตัดสินใจปลูกมะขามเปลี้ยวกับลำไยแล้วครับ แต่พอดีอ่านเจอข้อความอยู่บทหนึ่ง รบกวนพี่น้องชาวเกษตรทุกท่านลองช่วยกันคิด หน่อยน่ะครับท่าน ....................อย่าหาว่าผมเป็นมาร "ขวางทางรวย" เลยนะครับ แต่อยากจะติงทั้งรัฐบาล และเตือนทั้งเกษตรกรที่ยังไม่ได้ทำสวนยาง แต่กำลังตัดสินใจจะแปลงเรือกสวน-ไร่นาของท่านไปเป็นสวนยางสักเล็กน้อย
 ข้อแรก เรื่องสินค้าพืชผลทางการเกษตรนั้น เราจะยึดราคา ณ วันนี้ ทึกทักตายตัว แล้วใช้เป็นฐานคำนวณผลได้เพื่อตัดสินใจปลูกพืชผลชนิดนั้นเป็น "อาชีพหลัก" ไม่ได้หรอกครับ
 ข้อที่สอง เรื่องยางนั้น ปลูกวันนี้ อีก ๗ ปีโดยประมาณจึงจะกรีดให้น้ำยางขายได้ แล้วแน่ใจหรือว่า ใน ๗ ปีข้างหน้า ราคายางยังจะดีเหมือนวันนี้?
 ข้อที่สาม พืชยางพารานั้น เป็นพืชให้ผลิตผลทางใช้สอย ไม่ใช่เพื่อเอาไปกินเหมือนข้าว มัน ถั่ว หรือผักหญ้าทั้งหลายที่มนุษย์ต้อง "กินทุกวัน" ดังนั้น มั่นใจได้อย่างไรว่า อุตสาหกรรมของจีนยังจะต้องบริโภคยางพารามากมายเช่นนี้ตลอดไป
 ข้อที่สี่ คิดสักนิดไหมว่า เมื่อเฮโลเปลี่ยนท้องไร่-ท้องนาไปเป็น "สวนยาง" กันหมด อีกไม่ช้ายางที่แข่งกันปลูกก็จะเต็มตลาด ถึงตอนนั้นยางก็จะถูก ขณะเดียวกัน พืชสวนไร่นา ข้าวปลาอาหารที่คนปลูกกันน้อย แต่คนบริโภคมากจะขาดแคลน ราคาก็จะแพงขึ้น จะเฮโลโค่นยางทิ้งแล้วกลับมาปลูกข้าว ปลูกพืชไร่ มันก็ไม่ทันกินแล้ว
 ข้อที่ห้า เท่าที่เป็นอยู่เวลานี้ ราคายางแพงด้วยดีมานด์-ซัพพลาย ไม่ได้แพงด้วยฝีมือบริหาร-จัดการในระบบตลาดของรัฐหรือของเอกชนรายใด โอเปกยางที่ทักษิณเคยทำไว้ ทักษิณเองก็หักหลังอินโดฯ-มาเลย์ เทยางขายคนเดียวจนเขาเลิกเชื่อถือไทย "ล้มไปแล้ว"
 ถึง ณ วันนี้ รัฐบาลก็เก่งแต่ส่งเสริมปลูกอย่างเดียว แต่ไร้เดียงสาในด้านการตลาดด้วยประการทั้งปวง ในภาวะที่หลายประเทศรุมทำสวนยาง เมื่อยางได้ผลเต็มตลาดพร้อมๆ กัน แล้วจะทำอย่างไรกับการแย่งขาย-แย่งลดราคา ชาวสวนยางไม่แห่กันเอาน้ำยางมาเทหน้าทำเนียบฯ หรือ?
 ข้อที่หก อันนี้สำคัญมาก และคิดว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่รัฐบาลควรตระหนัก ควรบอกให้เกษตรกรใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะปลูกพืชไร่อื่นต่อไป หรือจะเฮโลมาปลูกยางตามกันไปทั้งหมด
 นั่นก็คือ ถ้าติดตามข่าวสารมาเรื่อยๆ จะทราบว่า เมื่อ ๓-๔ ปีที่ผ่านมา จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อยางรายใหญ่เวลานี้ ได้เข้าไปทั้งส่งเสริม ทั้งเช่าพื้นที่ปลูกยางเองในประเทศลาว ในประเทศเวียดนาม และในประเทศเขมร รวมแล้วเรียกว่าเป็นแสน-เป็นล้านไร่ ยังไม่รวมที่ปลูกในหลายๆ พื้นที่ในประเทศจีนเอง
 ก็อีกราวๆ ๒-๓ ปีข้างหน้านี้ ยางที่จีนจ้างปลูกและปลูกเองก็จะให้ผลิตผล กรีดน้ำยางได้ จีนจะลดดีมานด์จากตลาดทั่วไปแน่นอน เมื่อเป็นอย่างนั้น ยางพาราที่เราหลับหู-หลับตาส่งเสริมปลูกกันยกใหญ่ เกิดราคาไหลลงมาเหลือกิโลฯ ละ ๒๐-๓๐ บาทเป็นอย่างสูง แล้วจะทำอย่างไรกัน
 ทั้งรัฐบาล โดย สกย.และทั้งพี่น้องเกษตรกรเอง ช่วยกันคิดประเด็นนี้ด้วยนะ อย่าคิดง่ายๆว่า...รอให้ถึงวันนั้นเสียก่อน แล้วค่อยว่ากัน!

จริงๆ แล้วเนี๊ย!! ที่ราคายางพาราที่แพงขึ้น มันมาจาก ประเทศมาเลย์และประเทศ อินโด
เขาล้มยางพาราทิ้งหมดครับ แล้วหันมาปลูก ปาล์มน้ำมันแทน จำได้ไหมครับ เมื่อ20ปีที่แล้ว ราคายางไม่ดีเลย พอเขาล้มยางปุ๊บ ราคายางพารา พุ่งทะลุเลย แต่!! ในอนาคต
มันคือสิ่งที่ไม่แน่นอน พูดง่ายๆเลยครับผม "การลงทุนมันก็คือการเล่นการพนันอย่างหนึ่ง"
IP : บันทึกการเข้า

Facebook -https://www.facebook.com/pin.manora
Line Pin manora
~pong03~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 899



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 01 มีนาคม 2012, 05:56:08 »

จริงทีเดียวครับ ผมคิดมานานแล้วเหมือนกัน อีกอย่างยางพาราเนี่ยตัวทำลายป่าธรรมชาติเลยนะ  เพราะชาวบ้านถูกกว้านซื้อที่หมด  ก็ไปรุกป่าเพิ่มเพื่อหาที่ทำกิน  ป่าธรรมชาติกับสวนยางคนละอย่างนะครับ ป่าธรรมชาติ หนึ่งตารางเมตรอาจมีต้นไม้ได้นับสิบต้น  แต่สวนยาง 18-21 ตารางเมตรมีต้นยางแค่ 4 ต้น การซึมซับน้ำเวลาฝนตกจึงต่างกันมาก  วันข้างหน้าถ้าฝนตกน้ำจะไหลลงที่ลุ่มอย่างเดียวซึมลงผิวดินได้น้อยมาก โดยเฉพาะที่ลาดเอียงหรือดอยต่างๆ  การปลูกพืชต่างๆที่ทางการส่งเสริม  ต้องคิดให้มากๆ เพราะนักการเมือง  ข้าราชการของไทย ทำงานตามกระแส ไม่มองอนาคตยาวๆเหมือนประเทศอื่นๆ เช่นจีน เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น  เป็นต้น  จ้องแต่จะหาผลประโยชน์  ถ้าทำงานเก่งเหมือนโกงเก่งประเทศเจริญนานแล้วพี่น้อง    

ผมว่าทางการ น่าจะส่งเสริม มากกว่า "ห้าม" นะครับ เหตุผลเพราะ
หากจะห้าม มนุษย์ ไม่ให้ทำโน่นทำนี้ มันยากครับ และอีกข้อ ชาวบ้านเอง
ที่ทำไร่สวน ข้าวโพดตลอด ชาวบ้านไม่ได้รวยหรือมีกินมีใช้หรอกครับ มีแต่!!พ่อค้าคนกลางรวยเอาๆ เพราะรับซื้อในราคาที่ต่ำ และกักเก็บเอาไปขายในราคาที่แพง
ทำให้ชาวบ้านติดหนี้สินปีต่อปี เหมือนโดนบีบบังคับ และที่ไร่สวนข้าวโพด
ไม่ได้มีต้นไม้ใหญ่เอาไว้คอยดูดซับดินเวลาฝนตกก็จะโล่งทำให้น้ำฝนไหลลงห้วยอย่างรวดเร็ว หากจะยึดที่ของชาวบ้านก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะที่ของชาวบ้าน
ทำเขามาก่อนที่กฏหมายป่าไม้จะออกมาบังคับใช้ "จะให้พวกเขาเหล่านี้ทำอย่างไรครับท่าน" ถ้าไม่ส่งเสริม มันก็จะเป็นแบบนี้ทั้งชาติ และเป็นปัญหาระดับชาติ และเป็นปัญหา
เรื้อรังมานาน คู่กับสังคมไทยเลยทีเดียว และไม่มีหน่วยงานไหนมาคอยดูแล
รัฐเอง ควรจะออกมาส่งเสริมทางใดทางหนึ่ง และเปิดตลาดให้ชาวบ้านลืมตาอาปากได้
ให้ทัดเทียมกับประเทศ ใต้หวัน สักที

(ผมหมายถึง ส่งเสริมในที่ไร่ข้าวโพดหรือไร่หมุนเวียนนะครับ ไม่ได้ส่งเสริมให้ล้มป่าครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 มีนาคม 2012, 06:16:19 โดย ~pong03~ » IP : บันทึกการเข้า

Facebook -https://www.facebook.com/pin.manora
Line Pin manora
kai015
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 204


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 01 มีนาคม 2012, 13:58:14 »

ผมมีความเห็นว่า

จะปลูกอะไรก็ตามก็ควรศึกษาดังต่อไปนี้
1. สภาพดิน ภูมิศาสตร์ น้ำ
2. ตลาด และ แหล่งรับซื้อ
3. ทุน
4. ความพร้อมของเจ้าของสวน

คนที่พร้อม ปลูกหญ้าเฉยๆ ยังมีเงินเลยครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่ง
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!