เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 14:34:10
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  ซื้อขายสินค้าจิปาถะ-ทั่วไป (ผู้ดูแล: JAMES ..., NOtis, Krit_66)
| | |-+  ปิดการขาย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 [68] 69 70 71 พิมพ์
ผู้เขียน ปิดการขาย  (อ่าน 54471 ครั้ง)
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1340 เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2016, 10:46:58 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1341 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2016, 10:55:37 »



ข้าวโพดสุก ต้านมะเร็ง ได้จริงๆ เหรอ

จริง เพราะตอนที่แม่เรากำลังรักษามะเร็งช่วงใกล้ๆหาย เริ่มจะทานอาหารได้ เค้าจะกินข้าวโพดต้มทุกวัน ไปเหมาจาก Supermarket ทุก week แล้วเค้าก็ ฟื้นตัวเร็วมาก ช่วงนั้น ลิ้นเค้าจะ Anti เนื้อสัตว์ กลืนไม่ลง ทานได้แต่ผักกะผลไม้ และจะอยากกินข้าวโพดทุกวัน การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็งมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า ข้าวโพด หวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด

เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป สู้ กินดิบๆ ไม่ได้ แต ่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้ แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป

เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชรา ต่างๆ อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมาก ขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวก

พฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่าง อื่น การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น
[/b]
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1342 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2016, 10:41:04 »


เห็ด
      เห็ดเป็นพืชที่มีไฟเบอร์ หรือว่าเส้นใยสูง สามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายดี สามารถช่วยล้างพิษในร่างกาย แล้วก็เสริมสร้างระบบคุ้มกันโรค ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว และอยู่ท้อง ไม่ต้องทานอาหารมากก็อิ่มได
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1343 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2016, 10:48:08 »

มะละกอ เป็นผลไม้แบบไทยๆที่จะกินแบบดิบหรือสุกก็ได้ ข้อดีของมันก็คือมีวิตามินเอ,เบต้าแคโรทีนสูงมากช่วยบำรุงตับและบำรุงสายตา ส่วนเอนไซม์จากมะละกอช่วยย่อยให้ลำไส้ทำงานไม่หนักนักมักมีในผลอ่อน ในผู้ที่ร้อนในไม่ขับถ่ายสามารถใช้มะละกอสุกเป็นยาระบายอ่อนๆได้ครับ
[/b][/color]
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1344 เมื่อ: วันที่ 12 กรกฎาคม 2016, 15:40:37 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1345 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2016, 10:27:59 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1346 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2016, 11:24:14 »

IP : บันทึกการเข้า
กมล ช.
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ :ป.โท
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,784


Id line : Kamol_2529


« ตอบ #1347 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2016, 21:45:57 »

กล้องสายลับมีมั้ยครับแบบปากกาหรือแว่นตาอะไรทำนองนี้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

รักษาคำพูดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดไม่ต้องวางมัดจำถ้าบอกว่าเอายังไงก็เก็บไว้ให้
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1348 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2016, 11:59:22 »

IP : บันทึกการเข้า
maddog58
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,652



« ตอบ #1349 เมื่อ: วันที่ 30 กรกฎาคม 2016, 09:26:01 »

ไฟฉายแรงสูงและเครื่องช็อตไฟฟ้าในตัว  รูปทรง Tactical ราคารวมส่งเท่าไหร่ครับ เชียงราย
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1350 เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2016, 12:00:28 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1351 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2016, 11:18:45 »



สตรอว์เบอร์รี
          
          ในสตรอว์เบอร์รีอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มากกว่าในส้มหรือเกรปฟรุต ซึ่งจะช่วยต่อต้านริ้วรอยและผิวเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะกินเพื่อให้ผิวดีจากภายในแล้ว ก็ยังสามารถนำผลสด ๆ มามาสก์หน้าได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้อีกด้วย
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1352 เมื่อ: วันที่ 05 สิงหาคม 2016, 10:51:27 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1353 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2016, 15:12:39 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1354 เมื่อ: วันที่ 09 สิงหาคม 2016, 10:28:42 »

มะระขี้นก

มะระขี้นก สมุนไพรไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องการลดระดับน้ำตาลในเลือด เรียกว่าเป็นสมุนไพรที่เป็นมิตรกับผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างแท้จริง ด้วยเพราะสารซาแรนติน (Charatin) ในผลมะระขี้นกที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ต้านอาการของโรคเบาหวาน และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน เพิ่มความทนทานต่อกลูโคสของร่างกาย และช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด

นอกจากนี้มะระขี้นกยังช่วยยับยั้งเอนไซม์แอลฟากลูโคซิเดส (Alpha-glucosidase) อันเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ขณะที่การรับประทานมะระขี้นกเป็นประจำก็สามารถชะลอความผิดปกติของไต และความเสื่อมของเส้นประสาทในร่างกายจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงสะสมเป็นเวลานาน ไม่เพียงเท่านั้นยังชะลอการเกิดโรคต้อกระจกในผู้ป่วยเบาหวานด้วย นอกจากนี้มะระขี้นกยังมีคุณประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกายอีกมากมาย และสามารถนำมารับประทานได้แบบสด ๆ เป็นผักเคียงน้ำพริกได้เลย ดีแบบนี้ไม่หามาลองก็คงจะไม่ได้แล้วล่ะ
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1355 เมื่อ: วันที่ 10 สิงหาคม 2016, 10:56:50 »





กะเพราช่วยลดน้ำตาลและไขมัน

หากพูดถึงสมุนไพรไทยๆ อย่างใบกะเพรา หลายๆ คนนึกไปถึงข้าวผัดกะเพราหอมอร่อยกันใช่หรือไม่คะ แต่ทราบหรือไม่ว่าเจ้าใบกะเพราใบเล็กๆ มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากเลยทีเดียวเช่น ใบสดของกะเพรามีน้ำมันหอมระเหยอยู่ ซึ่งประกอบด้วย linalool และ methyl chavicol เป็นยาแก้ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง บำรุงธาตุ ขับผายลม หากเรานำใบมาคั้นเอาน้ำ น้ำที่ได้มานั้นสามารถนำมาดื่มช่วยขับเสมหะ ขับเหงื่อ หรือใช้ทาภายนอกแก้โรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้ด้วยนะคะ

นอกจากนี้เมล็ดกะเพรา เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดก็จะพองตัวเป็นเมือกขาวให้ใช้พอกในบริเวณตา เมื่อตามีผงหรือฝุ่นละอองเข้า ผงหรือฝุ่นละอองจะออกมาซึ่งจะไม่ทำให้ตาของเราช้ำ ในขณะเดียวกัน รากกะเพราใช้รากที่แห้งแล้วชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิการ ทั้งนี้มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่ากะเพรา มีฤทธิ์ในการลดน้ำตาลในเลือด และลดไขมันได้อีกด้วยค่ะ

ขอขอบคุณ ที่มา : นิตยสารเรื่องผู้หญิง ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1356 เมื่อ: วันที่ 15 สิงหาคม 2016, 12:56:30 »



เมนูทูน่าอิ่มอร่อยไม่อ้วน

      การที่เราจะลดน้ำหนักได้นั้นต้องทำควบคู่กันไประหว่างการออกกำลังกายและการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แคลอรี่ต่ำ ไม่ทำให้อ้วน ทูน่าเป็นอาหารที่ทำให้เราอิ่มและไม่อ้วนด้วย

ทูน่าอาหารเพื่อสุขภาพ

      ทูน่ากระป๋องเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่กำลังลดน้ำหนัก ในทูน่าประกอบไปด้วยโปรตีน มีโอเมก้า 3 สารอาหารที่ช่วยเพิ่มในการเผาผลาญพลังงาน ทำให้อิ่มท้องได้นาน หากเลือกรับประทานแต่ทูน่าเพียวๆ แนะนำให้เลือกทูน่าในน้ำเกลือหรือในน้ำแร่นะคะ จะได้ลดแคลอรี่จากไขมันลงไป หรือจะพลิกแพลงเป็นเมนูยำทูน่าก็แซ่บ น้ำพริกทูน่า ประเด็นคืออย่ารับประทานกับข้าวที่มากเกินไปนะคะ อร่อยเพลินแทนที่จะน้ำหนักจะลดกลับจะเพิ่มอย่างน่าเสียดาย"
IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1357 เมื่อ: วันที่ 18 สิงหาคม 2016, 10:54:47 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1358 เมื่อ: วันที่ 22 สิงหาคม 2016, 10:40:32 »

IP : บันทึกการเข้า
signalsport
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,183


« ตอบ #1359 เมื่อ: วันที่ 27 สิงหาคม 2016, 11:39:03 »

แก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ ด้วยเคล็ดลับสุดเด็ด
ปัญหาผ้าเหม็นกลิ่นอับไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศอับชื้นเพียงอย่างเดียว แต่การหมักผ้าที่ปั่นเสร็จแล้วไว้ในเครื่องซักผ้าข้ามคืน หรือการเก็บผ้าพับเข้าตู้ทั้ง ๆ ที่ผ้ายังแห้งไม่สนิทดี รวมทั้งปัญหาเชื้อราในเครื่องซักผ้าเองก็มีส่วนทำให้เสื้อผ้าของเราเหม็นอับได้เหมือนกัน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับเป็นปัญหาใหญ่ของเราเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นเราก็ควรหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาด้วยวิธีเหล่านี้กันเลยค่ะ

กำจัดเชื้อราในเครื่องซักผ้า

          อย่างที่บอกว่าเครื่องซักผ้าก็อาจจะมีเชื้อราที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นอับบนเสื้อผ้าได้เหมือนกัน เราก็เลยต้องป้องกันเอาไว้ก่อนด้วยการเดินเครื่องซักผ้าเปล่า ๆ ในระบบน้ำร้อนตามปกติ จากนั้นก็สอดส่องดูเชื้อราและคราบสกปรกที่ติดอยู่ที่บริเวณถังซักผ้า ถ้าพบว่ามีเชื้อราอยู่ ให้ผสมสารฟอกขาวกับน้ำสะอาด แล้วนำผ้าหรือฟองน้ำมาจุ่มสารละลายที่ผสมไว้ เสร็จแล้วก็นำไปเช็ดทำความสะอาดเชื้อราที่ติดอยู่กับตัวถังให้หมดไป เมื่อเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมเปิดฝาเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกด้วยนะจ๊ะ

วิธีกำจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้า

          ตามปกติถ้าเสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ เราก็จะนำเสื้อผ้าเหล่านั้นไปซักทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อกำจัดกลิ่นอับให้หมดไป และตากแดดให้ช่วยฆ่าเชื้อ แต่ถ้าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล ให้ลองกำจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้าด้วยวิธีอื่นดู เช่น

  เติมน้ำส้มสายชู

          ถ้าจะนำผ้าไปซักอีกครั้ง ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงลงไปกับน้ำยาซักผ้าด้วย หรือถ้าผ้าที่คุณซักเป็นผ้าขาว จะผสมน้ำยาฟอกขาวลงไปแทนน้ำส้มสายชูก็ได้ แต่สำหรับผ้าหนา เช่น ผ้าเช็ดตัว หรือผ้ายีนส์ อาจจะนำผ้าเหล่านี้ไปแช่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วงตวงต่อน้ำ 1 แกลลอน หรือน้ำยาฟอกขาว สัก 2-3 ชั่วโมงก่อนนำไปซักตามปกติ และใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอม ๆ เสร็จแล้วก็นำผ้าไปตากในที่ที่มีแดดจ้า หรืออย่างน้อย ๆ ก็ตากในที่ที่มีลมโกรกอยู่ตลอดก็ได้จ้า
 เคล็ดลับกำจัดเชื้อราที่ติดอยู่บนผ้า

  ขจัดเชื้อราด้วยมะนาวและเกลือ

          ถ้ามีเชื้อราเป็นจุดดำ ๆ เกิดขึ้นบนเสื้อผ้า ให้คุณบีบน้ำมะนาวลงบนคราบจนชุ่ม จากนั้นก็โรยเกลือทับลงไปบนคราบ แล้วก็นำผ้าไปตากแดดให้น้ำมะนาวและเกลือแห้งสนิทก่อนจะนำไปซักตามปกติ

  ป้ายน้ำสบู่และผงปูนขาว

          ถ้าน้ำมะนาวเอาไม่อยู่ อาจจะชุบผ้าตรงที่มีเชื้อราเป็นจุดดำ ๆ ให้พอเปียก แล้วก็นำสบู่ไปถูบนคราบให้ทั่ว เสร็จแล้วก็นำผงปูนขาวไปโรยลงบนคราบ ขัดถูอีกสักหน่อยแล้วค่อยนำไปซักตามปกติ หรือถ้าเชื้อราติดฝังแน่นบนเสื้อผ้ามาก ให้คุณผสมน้ำสะอาด 2 ช้อนชา กับผงปูนขาว 1 ช้อนชา และผงซักฟอก 2 ช้อนชาเข้าด้วยกัน ก็จะได้ครีมเหนียว ๆ เอาไว้ป้ายลงบนจุดเชื้อราสักพัก จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำเสื้อผ้าไปตากแดดจัด ๆ ให้แห้งสนิท

  จัดการด้วยแป้งผสมน้ำมะนาว

          แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนชา นำมาผสมกับน้ำ 2 ช้อนชา และน้ำมะนาวครึ่งลูกกับเกลือ คนให้เข้ากัน แล้วนำมาป้ายลงบนผ้าที่มีเชื้อราทั้ง 2 ด้าน แล้วก็นำไปตากแดดจัด ๆ ให้แห้งสนิท จากนั้นนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติก็จะช่วยให้เชื้อราและกลิ่นอับหมดไปได้เช่นกันจ้า

          นอกจากนี้แล้ว คุณยังสามารถนำผ้าที่มีเชื้อรา และกลิ่นอับไปแช่ในนมเปรี้ยว ทิ้งเอาไว้ข้ามคืน แล้วค่อยนำเสื้อผ้าไปซักตามปกติก็ได้ด้วยนะคะ เห็นไหมล่ะว่ากลิ่นอับบนเสื้อผ้ากำจัดง่ายนิดเดียว แถมยังสามารถกำจัดเชื้อราบนเสื้อผ้าเราได้อีกด้วย
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 [68] 69 70 71 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!