หัวข้อที่สัตวแพทย์กำลังเป็นห่วงกันนะคะ เข้าไปดูในลิ้งค์เอานะคะ

[nanazzzzz]

http://www.thaivet.org/showdetail.asp?boardid=2875

กำลังคิดว่าเราจะทำยังไง เราจะสนับสุนการทำผิดต่อไปหรือเราจะยับยั้ง เพราะคนที่จบ มาเท่ากับเป็นสัตวแพทย์เถื่อนนะคะ เราจะให้คนที่เข้าใจผิดในหลักสูตรโดยมีชื่อชวนเชื่อ ว่าคณะสัตวแพทย์แล้วลูกหลานเราจบมา ได้เป็นแค่แพทย์เถื่อนหรอคะ ใบประกอบก็ขอไม่ได้ พิจารณานะคะ เค้าเถียงกันคะ เราแค่อ่าน และเอามาให้เพื่อนๆพิจารณาด้วยคะ

[nanazzzzz]

ยกตัวอย่างบางหัวข้อน่าสนใจนะ

ถ้าจะเปิดคณะสัตวแพทยศาสตร์ หรือ เทคนิคการสัตวแพทย์ อันนี้เห็นด้วย
แต่การสร้างหลักสูตรที่ใช้ชื่อแบบบิดเบือนอย่างนี้ไม่ถูกต้อง

แล้วก็ไม่ต้องมา งง ผม หรอกครับ
ผมไปศึกษามาแล้ว จึงได้มาโพสต์
ข้อโต้แย้งที่บอกว่า ชื่อหลักสูตรมันแปลก
ใช่ครับมันแปลก แต่ไม่ใช้แค่แปลกเท่านั้น
แต่นัยยะแฝง มันคืออะไรต่างหากครับ
ต้องการจะให้เหมือนคำว่า สัตว-แพทยศาสตร์
โดยใช้ว่า สัตว-เวชศาสตร์
ถ้าจะแปลให้ตรงกับภาษาอังกฤษในหลักสูตร
ทำไมไม่แปลว่า สุขภาพสัตว์

ชื่อวิชาในหลักสูตรก็ล้อตามหลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์
เช่น เวชศาสตร์การผลิตสัตว์เล็ก ฯลฯ และอีกหลายวิชาที่เป็นเช่นนี้

ทำอย่างนี้ถูกต้องแล้วหรือครับ

ผมขอยืนยันว่าไม่ได้สร้างความแตกแยก
แต่ผมกำลังติติงว่าให้ผดุงเกียรติแห่งวิชาชีพ

อย่าทำอะไรบิดเบือน อันก่อให้เกิดภยันตรายต่อวิชาชีพ

ในฐานะครู....ผมถามหน่อยเถอะ เด็กที่จบมาเขาจะทำงานอะไร วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่

ผมได้มีโอกาสศึกษาอยู่หลายหลักสูตรที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ล้วนแต่มีอาจารย์ที่มีคุณวุฒิสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต บริหารหลักสูตร ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดใดก็ตาม ผมคิดว่าหลายสิ่งหลายอย่าง เป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร

ถ้าอยากเปิดคณะสัตวแพทยศาสตร์ ก็ผลักดันไปในแนวทางนั้นเลยครับ อย่าพยายามสร้าง Mini สัตวแพทย์ เลยครับ

คำว่า Mini สัตวแพทย์ นี้ ผมยืมมาจาก ท่านอาจารย์สงคราม เหลืองทองคำ ครั้งหนึ่งผมเคยได้รับมอบหมายให้จัดทำหลักสูตรวิทยาศาสตร์สุขภาพสัตว์ ผมก็อาจารย์ในกลุ่มสถาบันราชภัฎ-ราชมงคล เหมือนกัน

พอผมได้ยินท่านอาจารย์สงคราม ท่านปรามว่า หมอ...อย่าเปิดหลักสูตร Mini สัตวแพทย์ เลย

ผมก็เลยได้คิด และตระหนักถึงภยันตรายต่อวิชาชีพ
และภยันตรายต่อลูกศิษย์ของผม

ผมจึงเรียนผู้บังคับบัญชาว่า ผมขอยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ของคณะวิชา ในการจัดทำหลักสูตร

และเปลี่ยนเป็นพัฒนาหลักสูตรร่วมกับสาขาวิชาสัตวบาล ซึ่งอาจารย์ที่เป็นสัตวแพทย์ สามารถเสริมทัพ สร้างความเข้มแข็งทางวิชาการให้กับหลักสูตรสัตวบาลได้เป็นอย่างดี ทำให้หลักสูตรสัตวบาลที่สถาบันของผม เป็นหลักสูตรที่ดีหลักสูตรหนึ่ง
โดยจัดให้สัตวบาลเรียนวิชาพื้นฐานทางสุขภาพสัตว์เป็นวิชาบังคับวิชาชีพ เช่น Immunology, Parasitology, Pathology เป็นต้น แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกมากเท่าที่สัตวแพทย์เรียน แต่มีเนื้อหามากพอที่จะประยุกต์ได้จริงในการทำฟาร์ม เช่น การเรียน Immunology นศ. จะต้องเข้าใจหลักพื้นฐานของระบบป้องกันของร่างกาย เข้ากลไลการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม และที่สำคัญนำความรู้ไปใช้กับการป้องกันโรคในสัตว์ การทำวัคซีน การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ฯลฯ

วิชาเหล่านี้ทำให้อาจารย์ที่มีวุฒิสัตวแพทย์ มีที่ยืนในสาขาวิชาสัตวบาล และทำให้นักศึกษาเองก็มีความรู้เพียงพอที่จะประกอบอาชีพสัตวบาล

ซึ่งในสถานการณ์ที่มีโรคระบาดสัตว์ติดต่อสู่คนอย่างในปัจจุบัน หรือ กระแสอาหารปลอดภัย กำลังได้รับความสนใจ

การจัดทำหลักสูตรแบบพหุวิทยาการที่สร้างบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ เป็นจุดขายที่ดีของสถาบันการศึกษา

แต่จุดขายไม่ใช่อยู่ที่ทำหลักสูตรเหมือน หรือ ใกล้เคียงกับวิชาชีพสัตวแพทย์

เพราะสุดท้ายแล้วความผิดที่พยายามบิดเบือนนี้ จะกลับกลายเป็นหอกทิ่มแทงวิชาชีพสัตวแพทย์ในที่สุด
Posted by :หมอ ห. หีบ
วัน/เวลา :13/10/2552 10:00:21