เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 มีนาคม 2024, 22:39:38
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ประวัติศาสตร์ด้านมืดในอดีตของสยามกับล้านนา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 4 พิมพ์
ผู้เขียน ประวัติศาสตร์ด้านมืดในอดีตของสยามกับล้านนา  (อ่าน 15513 ครั้ง)
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 12:22:15 »

หนังสือ "คนเมือง" พิมพ์เตื้อตี้ 2 ปรับปรุงแลเพิ่มเนื้อหาใหม่ครับ
ท่านใดยังบ่มีไปเซาะซื้อมาอ่านได้เน่อ

ผมได้มาเล่ม อ.ธเนศวร์ แกลดราคาหื้อ 40 บาท 555+
แถมแกยังแจกลายเซ็นหื้อตวย


กระแสล้านนานุวัตร หรือรื้อฟื้นล้านนา เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสสยามานุวัตรที่ยังคงเข้มแข็ง แนวคิดแบบรวมศูนย์อำนาจยังตกค้างอยู่ในสมองของคนจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกันกระแสโลกาภิวัตรก็ไหลบ่าเข้ามาในท้องถิ่นและพยายามเอาชนะท้องถิ่นต่างๆ ให้ได้ แม้ว่ากระแสดังกล่าวจะส่งเสริมความเป็นท้องถิ่นหรือสร้างความเข้มแข็งให้แก่ท้องถิ่นในบางด้าน แต่ก็แสวงหาประโยชน์จากความอ่อนแอของท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันก็มิได้ส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง

บัดนี้ คนเมืองมีภารกิจที่จะผลักดันให้ล้านนาเป็นแผ่นดินที่เอื้อประโยชน์ให้แก่คนท้องถิ่นให้มากกว่าเดิม ให้การศึกษาเรียนรู้ มีทัศนะประวัติศาสตร์ นั่นคือเข้าใจประวัติศาสตร์และบริบทสังคมที่ห้อมล้อมล้านนาในแต่ละยุคสมัยให้มากขึ้น เพื่อที่จะนำล้านนาให้ก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเวลาที่ผ่านมา

...คนเมืองและล้านนานับจากวันนี้จะยืนอยู่ ณ จุดใด และจะก้าวไปอย่างไร ... (บทส่งท้าย คนเมืองในกระแสสยามานุวัตร-โลกาภิวัตร)

ในเล่มมีเรื่องราวที่น่าสนใจที่คนเมืองเองไม่ค่อยได้รับการรับรู้ เป็นมุมมองและเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง แต่ด้วยกระแสสยามานุวัตรทำให้เรากลายเป็นประเทศไทย ที่มิได้เหลียวหลังมองอดีตของ "คนเมือง" อย่างแท้จริง เขียนโดย ศ.ดร.ธเนศวร์  เจริญเมือง พิมพ์ครั้งที่ 2 "คนเมือง" ประวัติศาสตร์ล้านนาสมัยใหม่ พ.ศ. 2317-2553 สนใจสั่งซื้อได้ในราคาตามปก 180 บาท ที่สำนักพิมพ์ล้อล้านนา 053-758775 , 086-9232081 หรือ lorlanna_cri@hotmail.com จัดส่งไปรษณีย์ให้ฟรี

บ่ฮู้ว่าหนังสือเสี้ยงละยัง จาใดก็ลองโทรไปถามท่าน ล้อล้านนา ผ่อเน่อ


* คนเมือง.jpg (122.09 KB, 283x403 - ดู 723 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 14:17:32 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
tawan rung
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2012, 00:54:31 »

ไผ จะจาใดก่อจ่างเต๊อะ คับ อดีต กับ บ่าเด่วนี้ มันเข้ากั๋นบ่าได่มีแต่ข้อถกเถียง คับ มีอยู่สิ่งนึ่ง ความจริงเป๋นสิ่งตี่ บ่าต๋าย แต่ผมก่อ บ่าสนใจ๋คับ ผมฮู้อย่างเดียวคับว่า ผมฮักล้านนา อย่างชีวิตหาบ่าได้คับ เฮามาจ่วยกั๋นฮักษาไว้ดีกว่าคับ  100 -1000 ปี๋ไปหน้า ลูกหลานจะได่ บ่าเถียงกั๋นแหม เฮามาจ่วยกั๋น สร้างรากฐานไว้เต๊อะคับ ฮักกันไว้คับ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2012, 16:34:40 »

อำนาจเป๋นสิ่งตี๋สมมุติขึ้นมาแต้ๆ
 ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 16 มกราคม 2012, 17:13:18 »

อ่านแล้ว ใจ๋ขึ้น อยากกู้ชาติ...
IP : บันทึกการเข้า
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,874


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 18 มกราคม 2012, 13:51:59 »

อ่านแล้ว ใจ๋ขึ้น อยากกู้ชาติ...
ตวยซาว.........
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,874


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 18 มกราคม 2012, 13:54:13 »

อ่านแล้ว ใจ๋ขึ้น อยากกู้ชาติ...
ตวยซาวปลายๆ
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
SAP_BanTung
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 440



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 21 มกราคม 2012, 09:20:47 »

อ่านแล้ว ใจ๋ขึ้น อยากกู้ชาติ...
IP : บันทึกการเข้า
Angellaz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 128


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2012, 11:50:29 »

เราเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์นะ...จบ มช. รัฐศาสตร์
อาจารย์สอนสนุก แต่มีอคติกับสยามมากเกินไป แกมีความเป็น Localism สูงมาก
ชอบเน้นการเมืองการปกครองแบบกระจายอำนาจ...ทางทฤษฎีสวยหรูค่ะ ทำได้
แต่ในทางปฏิบัติ...มันยากส์ เพราะบริบททางสังคมแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

ปล. ในความคิดแล้ว อาจารย์เหมือนพวกนิติเรี่ยราดค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
T Nakamura
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 347



« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 28 มกราคม 2012, 21:28:30 »

เราเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์นะ...จบ มช. รัฐศาสตร์
อาจารย์สอนสนุก แต่มีอคติกับสยามมากเกินไป แกมีความเป็น Localism สูงมาก
ชอบเน้นการเมืองการปกครองแบบกระจายอำนาจ...ทางทฤษฎีสวยหรูค่ะ ทำได้
แต่ในทางปฏิบัติ...มันยากส์ เพราะบริบททางสังคมแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

ปล. ในความคิดแล้ว อาจารย์เหมือนพวกนิติเรี่ยราดค่ะ

นั่นกะคับ "เพราะบริบททางสังคมแต่ละที่ไม่เหมือนกัน"
มันจึงต้องมีก๋ารกระจายก๋ารปกครอง กระจายอำนาจ ตี้บ่ควรรวมศูนย์อำนาจไว้ตี้เดียว
ตี้ต้องกระจายอำนาจก๋ารปกครองก็เพื่อจะหื้อคนใน "สังคมแต่ละที่ไม่เหมือนกัน" นั้น
ได้มีอำนาจในการจัดก๋ารตั๋วเก่า ด้วยสังคมและวัฒนธรรมแบบของตั๋วเก่า
ตี้ "บ่เหมือนกั๋นในแต่ละตี้"
IP : บันทึกการเข้า
somnuk-wd
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 31



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2012, 16:53:52 »

ควรจะเผยแพร่ครับ ละอ่อนรุ่นหลังจะได้ฮับฮู้ประวัติศาสตร์ตี่ถูกต้อง
เพื่อรำลึกถึงบุญคุณบรรพบุรุษ
IP : บันทึกการเข้า
ล้อล้านนา
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 444


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2012, 13:20:40 »

เราเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์นะ...จบ มช. รัฐศาสตร์
อาจารย์สอนสนุก แต่มีอคติกับสยามมากเกินไป แกมีความเป็น Localism สูงมาก
ชอบเน้นการเมืองการปกครองแบบกระจายอำนาจ...ทางทฤษฎีสวยหรูค่ะ ทำได้
แต่ในทางปฏิบัติ...มันยากส์ เพราะบริบททางสังคมแต่ละที่ไม่เหมือนกัน

ปล. ในความคิดแล้ว อาจารย์เหมือนพวกนิติเรี่ยราดค่ะ

ถ้าจะบอกว่า "ความหันแตกต่าง" จะดีกว่าหนาครับ บ่ใจ่ว่า "อคติ" คงจะเหมือนคุณที่ "อคติ" กับพวกนิติราษฎร์ เช่นกันนะครับ สังคมแตกต่างแต่รวบอำนาจอยู่จุดศูนย์กลาง หากกระจายอำนาจได้จริงมันก็ดีไม่น้อยไม่ใช่เหรอครับ ทำไมจะทำไม่ได้ แต่มีกลุ่มอำนาจส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ทำมากกว่าครับ บอร์ด "คนเมือง" บ่ใจ่บอร์ด "การเมือง" ฉะนั้นแนวคิดหนังสือเปิ้น ก็เป็นส่วนตี้ยะหื้อลูกหลานคนเมืองได้ฮู้ประวัติศาสตร์แหมด้าน ตี้บ่มีไผใคร่เผยแพร่ครับ
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012, 02:37:07 »

เห็นอยากได้กันจังเลยนะครับ อำนาจ

มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ

คนฑิเบตอยากได้อำนาจ คนไทยใหญ่ก็อยากได้ คนไอร์แลนด์เหนือก็อยาก
คนดำในแอฟริกาใต้ก็อยากได้อำนาจ

ความแตกต่างนั่นแหละครับ คือตัวถ่วงของการกระจายอำนาจ

ลองไม่แตกต่างดูสิครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012, 02:49:30 โดย khao e to » IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012, 05:28:11 »


เห็นอยากได้กันจังเลยนะครับ อำนาจ

มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ

คนฑิเบตอยากได้อำนาจ คนไทยใหญ่ก็อยากได้ คนไอร์แลนด์เหนือก็อยาก
คนดำในแอฟริกาใต้ก็อยากได้อำนาจ

ความแตกต่างนั่นแหละครับ คือตัวถ่วงของการกระจายอำนาจ

ลองไม่แตกต่างดูสิครับ
แตกต่างแต่ไม่แตกแยก น่าจะดีนะครับ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
doodeemeeshow
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 48


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2012, 09:34:48 »


เห็นอยากได้กันจังเลยนะครับ อำนาจ

มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ

คนฑิเบตอยากได้อำนาจ คนไทยใหญ่ก็อยากได้ คนไอร์แลนด์เหนือก็อยาก
คนดำในแอฟริกาใต้ก็อยากได้อำนาจ

ความแตกต่างนั่นแหละครับ คือตัวถ่วงของการกระจายอำนาจ

ลองไม่แตกต่างดูสิครับ


การที่คุณเอาเรื่อง "อำนาจ" อ้างนั้น ก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง แต่มันนิดเดียวครับที่คุณถูกน่ะ
"อำนาจ" ในความหมายของคุณคืออะไรล่ะ แล้ว"การกระจายอำนาจ" คืออะไรล่ะ

----- ถ้าให้ผมเดานะ คุณคงหมายถึง "อำนาจนิยมแบบพวกจักรวรรดินิยม"
ที่พวกเข้ามาปกครองมองเห็นคนพื้นถิ่น "ด้อย" "ไร้อารยธรรม"
คนเหล่านี้จึงต้องถูกปกครองด้วยคนที่มีวัฒนธรรมที่สูงกว่า
ดังนั้น การจะปกครองคนเหล่านี้ จำเป็นต้องส่งคนของส่วนกลางไปปกครอง
เพื่อรักษาความเสถียรภาพทางการเมืองรวมไปถึงอำนาจในการจัดสรรทรัพยากร
หากว่าผมเดาผิด ก็คงเป็นความคิดมากของผม ก็ขอขมาลาโทษด้วย
แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันเป็นตรรกะวิบัติที่ขัดขวางการกระจายอำนาจการปกครองชัดๆ -----

นี่มันรัฐชาติสมัยใหม่นะครับท่าน ไม่ใช่รัฐจักรวรรดินิยม (แต่สยามยังคงยึดถือหลักแบบนี้อยู่)
การที่เราจะเข้าใจและยอมรับ "ความแตกต่างและหลากหลาย" นี่แหละเป็นสิ่งสำคัญของการกระจายอำนาจ
การกระจายอำนาจไม่ใช่เพียงแค่การที่พี่เบิ้มให้สิทธิคนของตนเองไปปกครอง
แต่การตัดสินใจทั้งหมดจะต้องอยู่ที่เบิ้มเพียงอย่างเดียว
แต่การกระจายอำนาจคือ การให้คนในพื้นที่, ท้องถิ่น มีสิทธิ มีอำนาจในการกำหนดวิถีชีวิต
มีอำนาจในการจัดการทรัพยากร รวมไปถึงการมีอำนาจในการกำหนดนโยบายที่มีผลกระทบต่อตนเอง
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012, 02:38:07 »

อ้างอิง:นี่มันรัฐชาติสมัยใหม่นะครับท่าน ไม่ใช่รัฐจักรวรรดินิยม (แต่สยามยังคงยึดถือหลักแบบนี้อยู่)

 ต้องขอขอบคุณที่สมัครสมาชิกเพื่อมาแสดงความเห็นกับผมเป็นกระทู้แรก รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ

จริงๆแล้วผมก็แค่ไม่อยากให้อ้างเรื่องความแตกต่างเพื่อทำการอะไรบางอย่างเท่านั้นเองครับ

ถ้าการกระจายอำนาจอย่างที่ผมเข้าใจก็คือการโอนอำนาจจาก การบริหารราชการส่วนกลางไปส่วนท้องถิ่น
จากกระทรวง ทบวง กรม จังหวัด อำเภอ ให้ไปอยู่กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล อบต.


แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ สยาม ไม่ทราบครับ




* 82286596808569561770.jpg (20.94 KB, 285x193 - ดู 439 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012, 02:42:08 »


ลองไม่แตกต่างหรือเลิกอ้างว่าแตกต่างดูสิครับ

ตอนนี้ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ 480คน
ได้มาจากการเลือกตั้งแบ่งเขต 400 คน ได้มาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วน 80 คน

นายกรัฐมนตรีผู้หญิงเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ ประธานรัฐสภา และ ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนจังหวัดขอนแก่น
รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

แบ่งงานตามการบริหารราชการแผ่นดินประกอบด้วย
1. การบริหารราชการส่วนกลาง  ได้แก่สำนักนายกรัฐมนตรี  กระทรวง  ทบวง กรม
2. การบริหารราชการส่วนภูมิภาค  ได้แก่ จังหวัด อำเภอ
3. การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น  ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนตำบล

นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เจ้ากระทรวง เจ้าทบวง เจ้ากรม ถ้าเป็นคนไทยสามารถเป็นได้หมด
ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด ข้าราชการ เหมือนกันครับ ถ้าเป็นคนไทยก็สามารถเป็นได้เหมือนกัน
ส่วนนายกอบจ. นายกเทศบาล  นายกอบต . ร้อยทั้งร้อยก็คนบ้านนั้นที่ได้เป็น คงไม่มีใครไปเลือกคนที่อื่นมาเป็นนายกบ้านตัวเอง

กระจายอำนาจถ้าทำได้ก็ดีครับ (เน้นว่าเฉพาะบางอย่าง ไม่ใช่ทั้งหมด เช่นไม่น่าให้คุณครูไปเป็นลูกน้อง อบต.ป4)
เพราะจริงๆแล้วก็คือแค่การแบ่งโอนอำนาจการบริหาร แบ่งเงินงบประมาณแผ่นดินจากสภาผู้แทนราษฎร
ให้ไปอยู่ในการควบคุมกำกับของสภาบริหารท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด จัดกันไปแบบบ้านใครบ้านมัน

คนที่เสียผลประโยชน์จากการกระจายอำนาจหรือคนที่เสียอำนาจน่าจะเป็นกลุ่มทุน กลุ่มการเมืองที่วนเวียนอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้นี่แหละ
ก็แค่เปลี่ยนคน เปลี่ยนกลุ่มโกงชาติ กระจายกันอิ่ม ประเทศชาติ ประชาชนคงต้องลุ้นเอา 

บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติ บริษัทน้ำมันแห่งชาติ บริษัทการบินแห่งชาติ ก็อยากกระจายกับเค้าเหมือนกัน
สงสารประเทศไทย

แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่เหมือนเดิม
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ สยาม ไม่ทราบครับ



หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิด ?
IP : บันทึกการเข้า
natta2533
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 199


« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 20:15:59 »

นี้ในความคิดผมนะคับ      ผมสำนึกว่าผมเปนคนไทย   ลึกลงไปอีกผมมีสำนึกว่าผมเป็นคนเหนือ   ผมชอบอะไรเกี่ยวกับบ้านเมืองผม   เเต่ผมไม่ชอบระบบการศึกษาปัจุบันมองข้ามวัฒนธรรมท้องถิ่นเสมอ   มองอะไรก่อเป็นชาตินิยม    เหมารวมทุกอย่างผูกไว้กับคำว่าไทย    มันมากเกินไปกับประเทศหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของหลายๆชาติพันธุ์ หลายๆวัฒนธรรม    คุณพยายามล้างสมองคนอื่นให้เป็นพวกเดียวกับคุณ แต่คุณก่อดูถูก มองข้าม เเละยกตัวข่มเสมอนี้ไงคับ แตกต่างมากเเตกต่างเกิดจากตรงนี้    แต่ส่วนตัวผมเปิดรับนะกับทุกๆวัฒนธรรมและการเปลี่นเเปลง  แต่ผมไม่เคยละทิ้งความเป็นชาติพันธุ์  และความเป็นคนล้านนาของโคตรเหง้า บรรพบุรุษผม
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2012, 03:06:23 »


ด้วยความเคารพครับ


ไม่รู้ว่าจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบได้ถูกหรือป่าว ถ้าไม่ใช่ก็น่าจะใกล้เคียงนะครับ

สมมุติว่าผมกับภรรยามีลูกอยู่แล้วหนึ่งคน แต่ได้ไปรับลูกของญาติที่เสียชีวิตมาอุปถัมภ์อีก2-3คน

 ถ้าผมรักเด็กพวกนี้เหมือนลูกในไส้ของผม 
ผมจะบอกพวกเด็กๆว่า เค้าคือลูกของผมและภรรยาจริงๆ และเลี้ยงดูให้สิทธิพวกเค้าเหมือนกับที่ผมเลี้ยงลูกของผมโดยไม่แตกต่าง
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้เค้าเข้าใจว่าผมเป็นพ่อแท้ๆของพวกเค้าไปจนผมตาย
แต่ถ้าไม่ ผมจะเลือกบอกความจริงและบอกว่าแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่บ้านหลังนี้เป็นของเราทุกคนขอให้รักกัน

เมื่อรู้ความจริงแล้วเหล่าลูกเลี้ยงจะด่าว่าผม ว่าทำไมเลี้ยงพวกเค้าให้เป็นเหมือนลูกของผม ผมคงจนปัญญา

 แต่ถ้าผมไม่ได้รักเด็กๆพวกนี้ เพียงแต่ผมแค่หวังจะยึดเอาที่ดินของญาติที่เป็นของพ่อแม่ของเด็กพวกนี้
ผมคงเลือกที่จะบอกเด็กๆตั้งแต่แรกว่าพ่อแม่เค้าตายไปแล้ว ถ้าจะอยู่ที่นี่ต้องไปนอนหลังบ้าน กินข้าวต้องกินทีหลังลูกผม
ไม่มีสิทธิดูทีวี ไม่มีสิทธิใดๆในบ้านหลังนี้และไม่ต้องเรียนหนังสือ ถ้าดื้อรั้นจะโดนไล่ออกจากบ้าน



อย่างน้อยวันนี้คุณกับผม ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนในกระทู้นี้ด้วยความเท่าเทียมกัน แม้จะคนละโคตรเหง้า
IP : บันทึกการเข้า
natta2533
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 199


« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2012, 19:46:46 »

ด้วยความเคารพ ถ้าคิดอีกอย่างล่ะ คุณไปเอาลูกเขามาเป็นลูกของคุณ   ไม่รู้ว่าจะด้วยวิธีไหน สุดท้ายก็พยายามจะปิดบังว่าเขามาจากไหน เป็นลูกใคร  ล้างสมองเหมือนในละครภาคค่ำ 
            ปล.การได้ตอบกระทู้กับคุณสนุกครับ เปิดโลกทัศน์ดี
IP : บันทึกการเข้า
khao e to
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 135



« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 05:03:08 »


ยินดีเช่นกันครับ เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์นะครับ

ตอบคำถาม : ผมจนปัญญาตอบจริงๆครับ
หรือถ้าจะให้ตอบ  : ผมคงรักตัวเอง คิดเอาว่าถ้าเด็กๆเป็นลูกของผมอยู่กับผมแล้วน่าจะปลอดภัยกว่าการที่จะบอกว่าเป็นลูกคนอื่น
แล้วต้องไปอยู่ในความดูแลของประชาสงเคราะห์(อาณานิคมตะวันตก)

การยกตัวอย่างยังไงมันก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับความเป็นจริง
ผมว่าเรามาลองวิเคราะห์ดูความเป็นจริงไปพร้อมๆกันดีกว่ามั๊ยครับ

1  ล้านนารวมกับสยามเพราะเหตุใด ?
2  วันนี้รวมกันแล้วเป็นอย่างปัจจุบัน แต่ถ้าไม่รวมล่ะ สยามและล้านนาจะเป็นอย่างไร ?

3  ทำไมถึงต้องมีการทำให้ทุกคนเป็นคนไทย ศึกษาไทย?
4  ทุกคนเป็นคนไทยแล้วเป็นอย่างปัจจุบัน   แต่ถ้าไม่ล่ะ ?

เราปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
5  เราจึงมีทุกอย่างเช่นปัจจุบันวันนี้     แต่ถ้าไม่ล่ะ ?

สมัยสงครามโลกครั้งที่2 สหรัฐไทยเดิม(เชียงตุง)ได้ผนวกเข้ารวมกับราชอาณาจักรไทยเป็นเวลา3ปี
หลังสงครามไทยจำต้องมอบสหรัฐไทยเดิมให้กับสหประชาชาติ (U.N.)

6  วันนี้เชียงตุงหรือไทยใหญ่เป็นอย่างที่ทุกๆท่านก็รู้ก็เห็น      แต่ถ้าไม่ล่ะ ?


วันนี้ผมคงอาจจะได้นั่งคุยกับคนเงี๊ยวที่กำลังนั่งว่ากล่าวบรรพบุรุษของผม ว่าให้พวกมันมาเป็นคนไทย มาเรียนประวัติศาสตร์และภาษาไทยทำไม

IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!