เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 เมษายน 2024, 09:33:43
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ใครผ่อจะฮู้ ตำนาน ลำน้ำกก มั้งครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ใครผ่อจะฮู้ ตำนาน ลำน้ำกก มั้งครับ  (อ่าน 3473 ครั้ง)
อิสรชน
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 886


จอหงวนล้านนา @ E23MHC


« เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2009, 20:07:48 »

ใครผ่อจะฮู้ ตำนาน ลำน้ำกก  มั้งครับ   ผมว่ามันต้องมีที่มาที่ไปแน่ๆครับ
IP : บันทึกการเข้า
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2009, 20:17:09 »

อยู่ปลายน้ำกก(บ้านสบกก) ก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับ
IP : บันทึกการเข้า

เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2009, 20:29:05 »

ตำนานเวียงล่ม เพราะกิ๋นป๋าเหยี่ยนเผือกครับ (ปลาไหลเผือก)
เปิ้นว่าจาวบ้านเอาป๋าเหยี่ยนมา "กก" ที่นี้ เลยฮ้องว่าน้ำ "กก"

ส่วนเนื้อหาของตำนานก็ฮู้ๆกั๋นอยู่น่อ จะบ่ขออู้ละกั๋น
IP : บันทึกการเข้า
WEBMASTER
เจ้าสำนักใหญ่
Administrator
แฟนพันธ์แท้
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,522

บุคคลทั่วไป


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2009, 00:02:12 »

ผมหามาจากกระทู้บอร์ดเก่า อ้างอิงมาจากลิงค์นี้
http://www.chiangraifocus.com/webboard/view.php?Qid=16250&cat=6

ความเป็นมาของดินแดนและชุมชนในแถบลุ่มแม่น้ำสายและแม่น้ำโขง รวมถึงแถบลุ่มแม่น้ำกกนั้น ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 ในรัชสมัยพญามังราย ปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนาอาณาจักรล้านนา ทว่าก่อนหน้าพุทธศตวรรษที่ 19 นั้น ก็พบว่ามีชุมชนเกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ ชุมชนในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำกก - โขง และชุมชนในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง

เรื่องราวของกำเนิดชุมชนในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำกก - โขงนั้น ปรากฏอยู่ในตำนานหลายฉบับ ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ ตำนานสิงหนวัติ ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ พงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสน ต่างกล่าวไว้ว่า เทวกาล เจ้าผู้ครองเมืองนครไทยเทศในยูนนาน ได้ให้ราชบุตรแยกย้ายกันไปสร้างบ้านแปงเมือง สิงหนวัติกุมารจึงได้นำผู้คนอพยพมาสร้างเวียงขึ้นในเขตลุ่มแม่น้ำกก ตำนานระบุว่า พญานาค ได้มาช่วยสร้าง จึงเรียกชื่อเมืองแห่งนี้ว่า "นาคพันธุ์สิงหนวัติ" หรือ "เวียงโยนกนาคพันธุ์" มีกษัตริย์ปกครองต่อมาถึง 45 พระองค์ รวมถึงการขับไล่พวกขอมออกไปจากพื้นที่

จนในที่สุดเวียงโยนกนาคพันธุ์ก็ล่มสลายกลายเป็นหนองน้ำ เนื่องด้วยชาวเมืองไปจับปลาไหลเผือกตัวเท่าต้นตาลในแม่น้ำกก และแบ่งปันกันกินทั่วเมือง ตกกลางคืนเกิดฝนฟ้าคนอง แผ่นดินไหวเมืองจึงล่มเป็นหนองน้ำ กระทั่งปัจจุบันยังปรากฏหนองน้ำแห่งหนึ่งใกล้อำเภอเชียงแสนเรียกว่า เวียงหนอง ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเดิมคือเวียงโยนกนาคพันธุ์ของพระเจ้าสิงหนวัติ บริเวณกลางหนองมีเกาะเรียก ดอนแม่ม่าย ซึ่งพ้องตามตำนานที่ว่ามีแม่ม่ายรอดตายจากเมืองล่มอยู่เพียงลำพังคนเดียว เพราะไม่ได้ร่วมกินปลาไหลเผือกกับชาวเมืองคนอื่น ๆ

จากพงศาวดารเมืองเงินยางเชียงแสนกล่าวถึงตำนานเวียงโยนกนาคพันธุ์ล่มไว้ว่า "ศักราชได้ปีเถาะ พุทธศาสนาล่วงได้ 1002 ปี พระองค์มหาชัยชนะเป็นกษัตริย์แห่งเมืองโยนกได้ 5 ปี คนทั้งหลายไปแอ่วแม่น้ำกุกกนาดี ก็เห็นปลาเหยี่ยนเผือกตัวใหญ่เท่าลำตาลยาว 7 วา เขาก็ปล่าวกันไปทุบเหยี่ยนเผือกตัวนั้นจนตายแล้วก็มีอาชญาให้ครัวแล้วแจกกันกินใคว่ทั้งเวียง เมื่อถึงเวลาค่ำแล้วก็ปรากฏได้ยินเสียงแผ่นดินดังสนั่นหวั่นไหว...เมื่อนั้นเวียงโยนกนครหลวงที่นั่น ก็ยุบลงเกิดเป็นหนองน้ำใหญ่ คนทั้งหลายอันมีในเวียงนั้น มีกษัตริย์เจ้าเป็นประธานเลยวินาศฉิบหายตกจมลงไปในน้ำทั้งหมดแล..."

นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวของตำนานเมืองเชียงแสนที่เล่าสืบต่อกันมาจากปากต่อปากของผู้เฒ่าผู้แก่แห่งบ้านแม่ลาก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงรายว่า "ครั้งหนึ่งมีหนองน้ำใหญ่อยู่ในเมืองนี้หนองหนึ่ง พญาเจ้าเมืองปล่อยเป็ด ห่านลงเล่นน้ำทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งพญาเจ้าเมืองพบว่าเป็ด ห่านที่เลี้ยงไว้ถูกปลาไหลกิน ท่านจึงได้ไปขอฝ้ายบ้านละปิ๊บ เอามาพันทำเป็นสายเบ็ดมัดติดไว้กับหลังเป็ดแล้วปล่อยลงหนองน้ำ ปลาไหลเผือกออกมากินจึงติดเบ็ด ชาวบ้านจึงช่วยกันจับได้ที่บ้านแม่ฮะ แล้วลากมาที่บ้านแม่ลาก เอาใส่เกวียนไปทำอาหารที่บ้านแม่ลัว จากนั้นจึงเอาไปฆ่าแล้วแบ่งกันไปทำอาหารกินที่บ้านแม่กก

จากนั้นมีลูกชายพระอินทร์มาเที่ยวที่บ้านแม่ม่าย ถามว่าเมืองนี้มีกลิ่นอะไรหอมจัง แม่ม่ายตอบว่าเขากินปลาไหลเผือกกัน ลูกชายพระอินทร์จึงถามว่าได้กินกับเขาบ้างไหม แม่ม่ายตอบว่าไม่ได้กิน เขาไม่แบ่งให้ ลูกชายพระอินทร์ตอบว่าไม่ได้กินก็ดีแล้ว ถ้าได้ยินเสียงดังตอนกลางคืน อย่าออกไปข้างนอกให้อยู่แต่ในบ้าน ตกกลางคืนมีเสียงดังกึกก้อง แม่ม่ายจะวิ่งออกมาดูก็นึกถึงคำเตือนจึงกลับเข้านอน แต่ก็ได้ยินเสียงดังยิ่งกว่าเดิม พอถึงตอนเช้าจึงออกไปดู มองเห็นแต่น้ำเวิ้งว้างไปทั่ว"

หนองน้ำดังกล่าวชาวบ้านเชื่อว่ากลายเป็นทะเลสาบเชียงแสน แอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 1 ตร.กม. ในท้องที่ตำบลโยนกก่อนถึงเมืองเชียงแสนประมาณ 5 กม. เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำจืดและปลานานาชนิด ซึ่งชาวบ้านหากินเลี้ยงชีพมาแต่โบราณ

ทะเลสาบเชียงแสนในปัจจุบันอาจเป็นส่วนหนึ่งของเวียงโยนกนาคพันธุ์ที่ล่มสลายไปเมื่อกว่าหนึ่งพันปีก่อน ซึ่งยังปรากฏมีเศษซากของโบราณสถานหลายแห่งไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบค้นเรื่องราวของตำนานมนต์ตราแห่งคำสาป ปัจจุบันพื้นที่ทะเลสาบเชียงแสนประมาณ 2,711 ไร่ แวดล้อมไปด้วยขุนเขาถูกประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย หรือ ทะเลสาบเชียงแสน เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2528 เพราะมีการสำรวจพบว่าบริเวณนี้มีนกมากมายอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนกท้องถิ่นอย่างนกอีโก้ง นกอีลุ้ม นกอีล้ำ นอกจากนั้นในช่วงฤดูหนาวทุกปี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปจะมีนกเป็ดน้ำจำนวนมาก ซึ่งอพยพโยกย้ายมาจากทางตอนกลางของทวีปเอเชียมาอาศัยอยู่ รวมทั้งนกที่หายากในเมืองไทย เช่น นกเป็ดพม่า นกเป็ดผีใหญ่ นกกาน้ำใหญ่ นกกระสานวล และนกเป็ดแดง เป็นต้น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักในธรรมชาติต้องการมาชมทะเลสาบเชียงแสนและนกน้ำหายาก ในช่วงเวลานี้นับเป็นฤดูที่จะพบเห็นนกเหล่านี้ได้ โดยทะเลสาบเชียงแสนตั้งอยู่บริเวณ กม. 27 บ้านกู่เต้า ถนนสายแม่จัน - เชียงแสน แยกขวามือเข้าสู่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย ประมาณ 1 กม.กล่าวกันว่าบริเวณทะเลสาบเชียงแสนเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศอีกด้วย เนื่องจากมีความสะดวกเพราะมีถนนรอบทะเลสาบสามารถใช้เพียงกล้องส่องทางไกลดูนกเท่านั้น

ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งเกี่ยวกับเวียงหนองล่มเพิ่มเติม
http://www.chiangraifocus.com/travelView.php?id=129&aid=3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 14 ตุลาคม 2009, 00:04:42 โดย เว็บมาสเตอร์ » IP : บันทึกการเข้า

ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ :  https://www.facebook.com/crfocus
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!