เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 13:25:52
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  แก่นตะวัน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน แก่นตะวัน  (อ่าน 1614 ครั้ง)
kaewhilow
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,172


« เมื่อ: วันที่ 25 สิงหาคม 2011, 18:41:00 »

เชียงรายมีใครเริ่มปลูกบ้างครับ เห็นว่าเป็นพืชที่มีประโยชย์ทางยาดีมาก ผมกำลังจะปลูก
ส่วนข้อมูลลองค้นหาดูนะครับ


* แก่นตะวัน.jpg (68.79 KB, 600x454 - ดู 1928 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
kaewhilow
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,172


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 30 สิงหาคม 2011, 08:14:33 »


"แก่นตะวัน"พืชเศรษฐกิจทางเลือก
"แก่นตะวัน"พืชเศรษฐกิจทางเลือก สุดยอดสมุนไพร-ตลาดต้องการสูง

          หลังจาก ประภาส ช่างเหล็ก นักวิจัยชำนาญการ หัวหน้าสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทดลองปลูก "แก่นตะวัน" หรือ "แห้วบัวตอง" บนพื้นที่สูงในแปลงทดลองของสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ 6 ไร่ ตั้งแต่ปี 2551 พบว่า ปลูกง่าย ให้ผลผลิตที่คุ้มต่อการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจที่เป็นทางเลือกใหม่ เนื่องจากเป็นพืชอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และสรรพคุณทางสมุนไพรหลายอย่าง ขณะที่ตลาดในปัจจุบันมีความต้องการสูง   
 
          "แก่นตะวัน" เดิมทีเรียกว่า "แห้วบัวตอง" เป็นพืชล้มลุกในตระกูลเดียวกันกับทานตะวัน แต่มีหัวคล้ายกับขิงหรือข่า ลำต้นสูงราว 1-1.50 เมตร มีดอกมีสีเหลืองสดคล้ายบัวตอง ภาษาอังกฤษเรียกว่า เยรูซาเล็ม อาร์ติโชค (Jerusalem artichoke) มีถิ่นกำเนิดแถบหนาวของทวีปอเมริกาเหนือ แต่สามารถปรับตัวได้ดีในเขตร้อน ที่สำคัญมีความแข็งแกร่งทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ จึงมีการนำไปปลูกในทวีปยุโรป และในเขตกึ่งหนาวรวมถึงเขตร้อนอย่างในประเทศอินเดีย
 
          ส่วนในประเทศไทย มีการนำมาปลูกในปี 2539 ต่อมา รศ.ดร.สนั่น จอกลอย อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำสายพันธุ์แก่นตะวันเข้ามาปลูกในแปลงทดลองวิจัยของคณะเกษตรศาสตร์ จำนวน 24 สายพันธุ์ พร้อมทำการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ให้บริสุทธิ์ จึงพบว่า สายพันธุ์เคเคยู เอซี  008 (KKU Ac 008) ให้ผลผลิตหัวสดไร่ละ 2-3 ตัน จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “แก่นตะวัน”
 
          ประภาส บอกว่า จากข้อมูลการศึกษาวิจัยถึงสรรพคุณของแก่นตะวัน พบว่า ส่วนหัว เหมาะที่จะรับประทานหัวสด รสชาติหวาน เป็นแหล่งสะสมของอินนูลิน (inulin) ที่เต็มไปด้วยน้ำตาลฟรุกโตสที่ต่อกันเป็นโมเลกุลยาว มีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน ลดไขมันในเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ และสร้างภูมิคุ้มกันโรค แต่ให้แคลอรีต่ำ ไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือด จึงลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น
 
          "ผมเห็นว่าพืชตัวนี้มีอนาคต สามารถพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจที่เป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรได้ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นพืชอาหารแล้วยังเป็นพืชพลังงานด้วย คือ หัวสด 1 ตันสามารถผลิตเอทานอลที่บริสุทธิ์ 99.5% ได้ 100 ลิตร นำไปผสมน้ำมันเบนซิน ผลิตแก๊สโซฮอล์ได้" ประภาส กล่าว
 
          หัวหน้าสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ บอกอีกว่า เนื่องจากแก่นตะวันชอบสภาพภูมิอากาศหนาว จึงนำไปทดลองปลูกในแปลงทดลองของสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ 6 ไร่ เมื่อปี 2551 และนำไปปลูกที่ไร่สุวรรณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ 3 งาน ที่จ.กาญจนบุรี 2 ไร่ พบว่าที่จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 800 เมตร ให้ผลผลิตหัวสดไร่ละ 8-10 ตัน ในส่วนของพื้นที่ล่างได้ 5-6 เมตร
 
          "ตอนที่งานเกษตรแฟร์ปี 2552 ผมนำออกบูธขาย กก.ละ 50 บาท ปรากฏว่าหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกๆ งานเกษตรแฟร์ครั้งที่ผ่านมา ขาย กก.ละ 100 บาท หมดตั้งแต่วันแรก ข้างบูธผมมีเอกชนมาขาย กก.ละ 350-400 บาท ก็ขายหมดเหมือนกัน เพราะตลาดต้องการสูงมาก ผมจึงส่งเสริมให้เกษตรกรบนที่สูงปลูก เพราะมีพ่อค้ามาติดต่อขอซื้อในราคากก.ละ 150 บาท นอกจากนี้เมื่อปี 2553 ทางบริษัท อูเอโน ไซแอนซ์ เทค แลบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของชาวญี่ปุ่น ให้ความสนใจที่จะรับซื้อผลผลิตเช่นกัน แต่รับปากไม่ได้ เพราะผลผลิตยังน้อยอยู่" หัวหน้าสถานีวิจัยเพชรบูรณ์ กล่าว
 
          การปลูกแก่นตะวันนั้น ประภาสบอกว่า ปลูกง่าย พรวนดินให้ร่วน ขุดหลุมลึก 2 ซม. ห่างกัน 50x50 ซม. เอาหัวชำถุงปลูกลงหลุมใช้เวลาเพียง 4 เดือน สามารถขุดผลผลิตนำมาบริโภค หรือนำไปจำหน่ายได้แล้ว และน่าจะเป็นทางเลือกของเกษตรกรด้วย

"ดลมนัส  กาเจ"
IP : บันทึกการเข้า
chelsea_cr
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 166


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 14:33:59 »

สนใจเหมือนกันครับ บ่าหู้ว่าซื้อหัวพันธุ์ที่ไหน โลเท่าใดครับ พอมีเยอะก่อครับ แบ่งขายสักน้อยเลาะครับ อยากลองปลูกดู
IP : บันทึกการเข้า
wetstorm
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 24 พฤศจิกายน 2011, 19:24:45 »

กำลังปลูกอยู่ 50 กว่าต้นนะครับ ปลูกง่าย
IP : บันทึกการเข้า
chelsea_cr
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 166


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 08:34:54 »

กำลังปลูกอยู่ 50 กว่าต้นนะครับ ปลูกง่าย
ซื้อหัวพันธ์ที่ไหนครับ พอมีป่าว
IP : บันทึกการเข้า
wetstorm
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 22:22:52 »

ซื้อในเน็ทครับ ซื้อมา 5 โล เก็บไม่เป็นเน่า เหลือสัก 50 หัว กำลังปลูกขยายพันธุ์ อยู่ครับ
IP : บันทึกการเข้า
Vanda dou
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 04:11:45 »

สนใจปลูกอยู่เหมือนกัน กำลังหาหัวพันธุ์อยู่ค่ะ ใครมีแหล่งช่วยชี้แนะด้วยนะคะ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
kaewhilow
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,172


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 19:17:58 »

เห็นลงขายในเกษตรพอเพียวครับ กิโล ร้อยกว่าบาท
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!