,,,,,ถามเรื่อง ขัด เคลือบ สี รถ,,,,,

[*ส้มป่อย*]

NissanTeana สีดำ

ลงชุดเดียวกับคุณบอยค่ะ
Zaino :
 Z Aio
 Z 2 ( 2 Coat )
 Z 5
 Z CS
 Z 8
กลับมากลบทับด้วย Z 8 ฟรีทุกเดือน อีก 6 ครั้ง

ลงชุดนี้ครั้งเดียวจบเลยค่ะ

ลง 2 Coat นี่ต้องเอารถจอดทิ้งไว้กี่ชั่วโมงค่ะ

ขอราคารถวีโก้ 4D สีดำด้วยค่ะ ทาง PM ก็ได้ค่ะ 

[ฺB Wash Car Detailing]

กระทู้นี้อยู่ในห้อง "ชมรมคนรักรถ" พอดี
ในเบื้องต้น ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อนก็แล้วกัน เพราะมีหลายกระทู้ที่โพสถามถึงเรื่องขัด - เคลือบสี เลยอยากจะถือโอกาสรวบรวมไว้ในที่นี้เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆ ในวันข้างหน้า

การเคลือบสีรถ

1. ในกรณีรถใหม่

    การเคลือบสีเป็นการป้องกันผิวของรถ ให้เกิดความเสียหายจากการใช้งานให้น้อยลง เช่น เพื่อป้องกัน/ลดการเิกิดรอยขีดข่วน, ป้องกันสีรถเสียหายจากความร้อนและรังสีของแสงแดด (โดยเฉพาะรถสีขาว), ลดการเกิดรอยจากสะเก็ดทรายหรือหินก้อนเล็กๆ จากการวิ่งบนท้องถนน หรือวิ่งตามรถบรรทุกที่ทำทรายร่วงลงขณะที่เราขับรถตาม, ป้องกันการเกิดคราบด่างจากมลภาวะต่างๆเช่น คราบเขม่าจากควันรถ และอุตสาหกรรม, ป้องกันรอยด่างทางชีวภาพเช่น ละอองเกษรดอกไม้บางชนิด ยางไม้ คราบแมลง มูลนกเป็นต้น

     การเคลือบเพื่อปกป้องสีรถนี้ ทำให้สีรถยังคงสภาพใหม่ เพื่อทำให้ "มูลค่า" ของรถไม่ตกลงทั้งในขณะที่เจ้าของรถยังใช้งานอยู่ หรือขายต่อในอนาคต

    สิ่งที่ไ้้ด้ตามมาจากการเคลือบสีรถคือ "ความสวยงาม" ที่ยังคงอยู่กับรถเหมือนตอนออกใหม่ป้ายแดง หรือ สวยงามกว่าตอนออกจากห้าง

[ฺB Wash Car Detailing]

2. ในกรณีรถที่ผ่านการใช้งานแล้ว

     การเคลือบสี ก็เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน หรือเพื่อฟื้นฟูสภาพสีรถ ให้กลับมาเหมือนใหม่ เนื่องจากรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว พื้นผิวรถ ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิม อาจจะมีคราบไคล, คราบน้ำ, รอยขูดขีดที่เห็นได้ชัด หรือรอยเล็กๆ ที่เกิดจากการล้างรถไม่ถูกวิธี หรือเช็ดรถขณะมีุ่ฝุ่นด้วยผ้าแห้ง ซึ่งจะทำให้เกิดรอยเล็กๆเหล่านี้ ที่เรียกกันว่ารอยขนแมว หรือรอยใยแมงมุม ซึ่งมองผ่านๆ อาจจะไม่เห็น ต้องสะท้องกับแสงในบางมุมถึงจะเห็น ขอย้ำว่ารอยเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับ "น้องแมว เหมียวๆ นะคะ" อันนี้ไม่ใช่มุขตลก เพราะเจอจริงๆว่า ลูกค้าีที่มาล้างรถ เข้าใจว่ารอยเหล่านี้ เกิดจากแมวจริงๆ  
     แต่ในกรณีที่น้องแมว หรือน้องหมาชอบกระโดดขึ้นรถ แล้วเกิดรอยเล็บ อันนั้นก็ไม่ใช่รอยขนแมวนะคะ นั่นรอยกรงเล็บเลยค่ะ ถือเป็นรอยขูดขีด ไม่ใช่รอยขนแมว
     ดังนั้นก่อนที่จะเคลือบสี นอกเหนือจากการล้างรถด้วยแชมพูหรือโฟมแล้ว ต้องกำจัดสิ่งเหล่านี้ก่อน ซึ่งทำได้ 2 อย่างคือ

     ก. ถ้าไม่มีรอยขูดขีด ต้องขจัดคราบไคลที่ติดอยู่บนผิวรถ เพื่อให้พื้นผิวสะอาด ซึ่งโดยทั่วไปจะลูบด้วยดินน้ำมัน ซึ่งเป็นดินน้ำมันที่ผลิตมาเพื่อขจัดสิ่งสกปรกโดยเฉพาะ (ไม่ใช่ดินน้ำมันที่ขายตามร้านเครื่องเขียนนะคะ) การลูบดินน้ำมัน จะช่วยขจัดคราบไคล รวมถึงคราบยางมะตอยได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทำให้เกิดรอยขูดขีดบนผิวรถ  
     หรือถ้าไม่มีดินน้ำมันอาจจะใช้วิธีขัดละเอียด โดยใช้ใบฟองน้ำ และผงขัดที่มีค่าความหยาบของเม็ดขัดไม่เกินระดับ 5 ห้ามใช้ใบขนแกะเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวรถ ยิ่งเกิดรอย (เป็นวงๆ ตามรูปใบขัด)

     ข. กรณีที่ผิวรถมีรอยขีดข่วนหรือมีคราบต่างๆ  ต้องขัดเพื่อลบรอยหรือคราบเหล่านั้นก่อน อาจจะขัดด้วยมือ หรือด้วยเครื่องพร้อมกับใบขนแกะหรือใบฟองน้ำหยาบ ปัจจุบันตามคาร์แคร์ หรือคาร์ดีเทลลิ่งต่างๆ เริ่มมีการใช้เทคนิค เว็ทแซนด์ มาช่วยให้เร็วขึ้น คือการใช้กระดาษทรายละเอียดขัดลบรอยต่างๆก่อน แล้วจึงขัดละเอียด เพื่อเก็บรอยเล็กๆ ที่เกิดจากใบขนแกะ หรือกระดาษทรายอีกครั้งหนึ่ง
     เมื่อเตรียมพื้นผิวดีแล้ว จึงทำการเคลือบสี

อ่านจบแล้ว อาจจะช่วยให้เข้าใจ การขัดสี กับการเคลือบสี ได้ดีขึ้นนะคะ

*** พรุ่งนี้ จะมาต่อเรื่องการเคลือบสี พร้อมรูปตัวอย่าง การเคลือบแก้ว( Glass Coat ) ซึ่งเริ่มมีหลายคนถามถึง เปรียบเทียบกับการเคลือบด้วย Wax ค่ะ

[ฺB Wash Car Detailing]

ได้ลอง ไซโน่ ครบชุด...แจ่มมมม...

เป็นคันแรกของร้านเลยค่ะ

ยังไงรบกวนฝากดูเรื่องความทนทานด้วยนะคะ
หลังจากล้างรถ เก็บงานด้วย Z 8 เดือนละหน เห็นในเว็บ Zaino เค้าบอกว่าเงางามอยู่อย่างนี้ได้ 9 เดือนค่ะ แต่คันนี้ใช้น้อย สงสัยเงาถึงตรุษจีนปีหน้านู่น 555

ขอบคุณมากค่ะ

[ฺB Wash Car Detailing]

ทีมงาน B Wash Car Detailing ได้ทำการทดลองเคลือบแก้วของเยอรมัน (Wurth) ครึ่งคันด้านขวา ฝั่งคนขับ และ เคลือบแว็กซ์ของ Zaino ที่ฝั่งซ้าย กับรถยนต์ Citroen C5 ปี 2001

ผลคือ ฝั่งที่เคลือบแก้วจะมีความลื่นมากกว่า (จากความรู้สึกที่ลูบด้วยมือเปล่า)

ทดสอบการเกาะของน้ำ

ฝั่งที่เคลือบด้วยแว็กซ์ จะมีน้ำเกาะน้อยกว่า

ลักษณะหยดน้ำที่เกาะ

ฝั่งที่เคลือบด้วย แว็กซ์ หยดน้ำที่เกาะจะใหญ่กว่า และเป็นทรงกลมมากกว่า

เงาสะท้อน

ฝั่งที่เคลือบด้วย แว็กซ์  จะมีความคมชัดของเส้นมากกว่า (จากภาพถ่าย อาจจะสังเกตได้ยากกว่ามองด้วยตาเปล่า)

ภาพโดยรวม :
เมื่อพิจารณาด้วยตาเปล่า และการสัมผัส เห็นความแตกต่างน้อยมาก
เมื่อทดสอบกับน้ำ จะเห็นความแตกต่างชัดเจนกว่า
ราคา ต่างกันพอสมควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
ความทนทาน มักจะได้ยินว่าเคลือบแก้ว ติดทนทานกว่า (รอพิสูจน์)
การเกาะของสิ่งสกปรกและฝุ่น รอเวลาพิสูจน์

ความเห็นเพิ่มเติม
ไม่ว่า้เคลือบแก้ว หรือเคลือบแว็กซ์สิ่งสำคัญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด คือการเตรียมพื้นผิว วิธีที่ดีที่สุดคือการขัด(ด้วยเครื่อง) เืพื่อลบรอยและขจัดคราบสกปรกต่างๆ เพื่อให้พื่นผิวสะอาดและเรียบที่สุด

และเมื่อทำการเคลือบแล้ว สิ่งที่ควรระวังคือน้ำยาต่างๆที่ใช้ในเวลาดูแลรถ เช่น แชมพูที่ใช้ล้างรถที่มีค่าความเป็นกรด หรือด่าง มีผลต่อการชะล้างสารเคลือบทั้งสองชนิด แนะนำให้ใช้แชมพูที่มีค่าเป็นกลาง (pH Balance)
น้ำยาสลายคราบแมลงที่คาร์แคร์มักจะฉีดพ่นก่อนทำการล้างรถก็เป็นอีกประการหนึ่งที่ทำลายสารเคลือบทั้งสองชนิด ดังนั้น เจ้าของรถควรแจ้งพนักงานให้ทราบ เมื่อนำรถเข้าบริการล้างรถ

โอกาสต่อไปจะทดสอบเคลือบแก้วของญี่ปุ่น Soft 99, Willson

ขอบคุณค่ะ

[apsch2]

สงสัยคงได้เวลาเสียตังภายในระยะเวลาอันใกล้ซะแล้วเงาแจ่มเด๋วจะแวะไปจัดซักชุด

[ฺB Wash Car Detailing]

สงสัยคงได้เวลาเสียตังภายในระยะเวลาอันใกล้ซะแล้วเงาแจ่มเด๋วจะแวะไปจัดซักชุด

ยินดีค่ะ คุณ apsch2
เดืือนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษจนถึงสิ้นเดือนแห่งความรักนี้เท่านั่น
ติดตามรายละเอียดที่ร้านได้เลยค่ะ

[เจตน์ครับ]

สงสัยคงได้เวลาเสียตังภายในระยะเวลาอันใกล้ซะแล้วเงาแจ่มเด๋วจะแวะไปจัดซักชุด

ยินดีค่ะ คุณ apsch2
เดืือนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษจนถึงสิ้นเดือนแห่งความรักนี้เท่านั่น
ติดตามรายละเอียดที่ร้านได้เลยค่ะ