เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 03:22:22
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  บริหารเงินเก็บผ่านกองทุนรวม...ทำเงินออมให้โตปีละ 20% ^_^
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน บริหารเงินเก็บผ่านกองทุนรวม...ทำเงินออมให้โตปีละ 20% ^_^  (อ่าน 7105 ครั้ง)
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2011, 23:43:56 »

ในหัวข้อนี้ผมจะพูดถึงโดยใช้ข้อมูลจากหนังสือ 2 เล่มนี้ 1.บริหารเงินเก็บผ่านกองทุนรวม 2.รู้วิเคราะห์ เจาะเรื่อง กองทุนรวม ...แต่ยังไม่ลงตอนนี้น่ะครับ ดึกแล้ว ขอนอนก่อนน่ะ *0*...zzZZZ  ขอบคุณครับ 
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2011, 23:48:00 »

เอารูปหนังสือมาลงครับ เพื่อท่านที่สนใจจะได้หามาอ่าน หรือท่านที่อ่านแล้วจะช่วยโพสท์ก็ดีครับ ^_^


* IMG_2755.jpg (42.88 KB, 300x345 - ดู 2882 ครั้ง.)

* IMG_2756.jpg (44.73 KB, 300x340 - ดู 2757 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ⒷⒼ*
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,369

นิพพานคือนิรันดร์


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2011, 23:50:02 »

รอชม ข้อมูลนะครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
TobyTheBook
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,411



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2011, 10:30:03 »

ว๊าวว อยากอ่านสองเล่มนี้ ไปหาได้ตางใดเจ้า

ตอนนี้ทำได้แค่ 10% เอง สนใจที่ 20% เนาะ ^ ^
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 05 สิงหาคม 2011, 19:03:47 »

ขอบคุณครับที่ติดตามกระทู้ผม(มีกำลังใจโพสท์ครับ  ^_^)  ต้องขออภัยที่โพสท์กระทู้แล้วยังไม่ลงข้อมูล เนื่องจาก วันที่ 4-6 สิงหาคม นี้   ต้องไปสัมนาของบริษัทที่เขาใหญ่ ยังไงกลับแล้ว จะรีบลงข้อมูลน่ะครับ......ขอบคุณครับ ^_^

******************************************************
ขอเอารูปมาลงคั้นเวลาแล้วกัน ^_^


* 111IMG_2763.jpg (103.01 KB, 500x375 - ดู 2688 ครั้ง.)

* 22IMG_2779.jpg (83.57 KB, 500x375 - ดู 2698 ครั้ง.)

* 11IMG_2760.jpg (27.42 KB, 262x125 - ดู 2672 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 00:17:21 »

ขอสอดหน่อยคงไม่ว่านะครับ
     จากการที่ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์เมื่อไม่นานมานี้  ในหนังสือได้กล่าวถึงความชั่วร้ายของกองทุน  ผมย่อเนื้อๆมาให้อ่านก็แล้วกันนะครับ  แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า  มันก็ไม่ได้เป็นทุกกองทุนหรอกนะ  แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากองไหนที่มันดีและไม่โกง  ถ้าอย่างนั้น  เราต้องรู้จักบริหารเงินเองจะดีกว่า

     ในหนังสือพิมพ์กล่าวถึงการหารายได้ของกองทุนไว้ว่า  มีผู้ได้รับผลประโยชน์อยู่ 2 กลุ่มนั่นก็คือ  ผู้บริหารกองทุนและธนาคาร  ผมจะกล่าวถึงผู้บริหารกองทุนก่อนแล้วกันนะครับ

     ในด้านของผู้บริหารกองทุนนั้น  เป็นผู้ที่ควบคุมเงินของกองทุนไว้ในมือ  ซึ่งไม่ว่าเขาจะซื้อหรือขายตัวไหน  มันก็มักจะมีผลต่อหุ้นตัวนั้นๆ  ในที่นี้ยกตัวอย่างเช่น  เขากำลังจะเอาเงินของกองทุนเข้าซื้อหุ้นตัวหนึ่ง  แต่เขาก็จะไปซื้อหุ้นตัวนั้นด้วยบัญชีส่วนตัวไว้ก่อน  เพื่อจะได้เป็นไม้แรกๆ  หลังจากซื้อหุ้นนั้นด้วยบัญชีส่วนตัวเสร็จ  เขาก็จะนำเงินของกองทุนเข้าไปซื้อ  ทำให้ราคาหุ้นนั้นสูงขึ้น  เมื่อราคาหุ้นสูงขึ้น  เขาก็จะขายหุ้นตัวนั้นในบัญชีส่วนตัวออกมาเพื่อทำกำไร
     จะเห็นได้ว่าวิธีนี้  เขาใช้เงินของคนอื่นเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง  ถึงแม้ว่าเขาจะมีรายได้มากมายจากการบริหารกองทุนนั้น  และเขาก็ยังไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายในกรณีที่กองทุนนั้นขาดทุน  แต่เขาก็ยังไม่ได้สนใจต่อนายจ้างตัวจริงซึ่งก็คือผู้ที่นำเงินไปให้เขาบริหารเลย  จะเห็นได้ว่า  คนที่ทำแบบนี้นั้น  เลวมาก  และคนที่นำเงินไปให้เขาบริหาร  ก็ยังเสียเปรียบด้วยการต้องเสียเงินค่าบริหารกองทุนเป็นรายปีให้กับคนพวกนี้อีก  คิดแล้วน่าสงสารคนที่นำเงินไปซื้อกองทุนจริงๆ

     สำหรับรายได้ในส่วนของธนาคารก็คือ  ส่วนมากธนาคารต่างๆ  มักจะมีโบรกเกอร์เป็นสาขาของตัวเอง  เมื่อมีโบรกเป็นของตัวเองแล้ว  ธนาคารที่เป็นเจ้าของกองทุนต่างๆเหล่านั้น  ก็จะให้กองทุนต่างๆที่ตนเองเป็นเจ้าของอยู่  ขยันมาเทรดบ่อยๆ  จะได้มีรายได้ค่าเทรดเข้ากระเป๋าอีกทางหนึ่ง  ซึ่งก็เป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการที่เก็บค่าธรรมเนียมบริหารกองทุนอยู่แล้ว  เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  ท่านที่คิดจะลงทุนในกองทุนรวม  ยังอยากจะลงทุนอยู่อีกไหมครับ  แต่ก็ย้ำไว้อีกนิดว่า  มันไม่ได้เป็นทุกกอง
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
TobyTheBook
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,411



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 11:11:38 »

เราก็ยังลงอยู่ดีอะค่ะ เหตุผลคือเฝ้าจอไม่ได้ แต่เอาตังค์ไปฝากแบงค์มันก็ดอกน้อยนิด

เราว่ากองทุนรวมมันก็เป็นทางเลือกนึงอะค่ะ เคสเราเงินไม่เยอะ ได้กำไร 10% มีปันผล

ก็ดีกว่าออมทรัพย์ 0.75% มากมายแล้วค่ะ เพราะตั้งเป้าไว้แค่ดอกที่ได้ต้องมากกว่าเงินเฟ้อ

เงินเราไม่เยอะด้วยค่ะ ที่ลงพี่กองไป ซื้อทองแท่งยังไม่พอเลย แต่ก็ศึกษาเรื่องหุ้นอยู่ค่ะ

ซักวันก็ว่าจะลองเทรดเอง  อยากได้น้อง จูบิลี่ใจจะขาด ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
....คนหน้าแหลม....
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,535


..........................


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 12:12:41 »

ขอสอดหน่อยคงไม่ว่านะครับ
     จากการที่ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์เมื่อไม่นานมานี้  ในหนังสือได้กล่าวถึงความชั่วร้ายของกองทุน  ผมย่อเนื้อๆมาให้อ่านก็แล้วกันนะครับ  แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า  มันก็ไม่ได้เป็นทุกกองทุนหรอกนะ  แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ากองไหนที่มันดีและไม่โกง  ถ้าอย่างนั้น  เราต้องรู้จักบริหารเงินเองจะดีกว่า

     ในหนังสือพิมพ์กล่าวถึงการหารายได้ของกองทุนไว้ว่า  มีผู้ได้รับผลประโยชน์อยู่ 2 กลุ่มนั่นก็คือ  ผู้บริหารกองทุนและธนาคาร  ผมจะกล่าวถึงผู้บริหารกองทุนก่อนแล้วกันนะครับ

     ในด้านของผู้บริหารกองทุนนั้น  เป็นผู้ที่ควบคุมเงินของกองทุนไว้ในมือ  ซึ่งไม่ว่าเขาจะซื้อหรือขายตัวไหน  มันก็มักจะมีผลต่อหุ้นตัวนั้นๆ  ในที่นี้ยกตัวอย่างเช่น  เขากำลังจะเอาเงินของกองทุนเข้าซื้อหุ้นตัวหนึ่ง  แต่เขาก็จะไปซื้อหุ้นตัวนั้นด้วยบัญชีส่วนตัวไว้ก่อน  เพื่อจะได้เป็นไม้แรกๆ  หลังจากซื้อหุ้นนั้นด้วยบัญชีส่วนตัวเสร็จ  เขาก็จะนำเงินของกองทุนเข้าไปซื้อ  ทำให้ราคาหุ้นนั้นสูงขึ้น  เมื่อราคาหุ้นสูงขึ้น  เขาก็จะขายหุ้นตัวนั้นในบัญชีส่วนตัวออกมาเพื่อทำกำไร
     จะเห็นได้ว่าวิธีนี้  เขาใช้เงินของคนอื่นเพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง  ถึงแม้ว่าเขาจะมีรายได้มากมายจากการบริหารกองทุนนั้น  และเขาก็ยังไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายในกรณีที่กองทุนนั้นขาดทุน  แต่เขาก็ยังไม่ได้สนใจต่อนายจ้างตัวจริงซึ่งก็คือผู้ที่นำเงินไปให้เขาบริหารเลย  จะเห็นได้ว่า  คนที่ทำแบบนี้นั้น  เลวมาก  และคนที่นำเงินไปให้เขาบริหาร  ก็ยังเสียเปรียบด้วยการต้องเสียเงินค่าบริหารกองทุนเป็นรายปีให้กับคนพวกนี้อีก  คิดแล้วน่าสงสารคนที่นำเงินไปซื้อกองทุนจริงๆ

     สำหรับรายได้ในส่วนของธนาคารก็คือ  ส่วนมากธนาคารต่างๆ  มักจะมีโบรกเกอร์เป็นสาขาของตัวเอง  เมื่อมีโบรกเป็นของตัวเองแล้ว  ธนาคารที่เป็นเจ้าของกองทุนต่างๆเหล่านั้น  ก็จะให้กองทุนต่างๆที่ตนเองเป็นเจ้าของอยู่  ขยันมาเทรดบ่อยๆ  จะได้มีรายได้ค่าเทรดเข้ากระเป๋าอีกทางหนึ่ง  ซึ่งก็เป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการที่เก็บค่าธรรมเนียมบริหารกองทุนอยู่แล้ว  เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  ท่านที่คิดจะลงทุนในกองทุนรวม  ยังอยากจะลงทุนอยู่อีกไหมครับ  แต่ก็ย้ำไว้อีกนิดว่า  มันไม่ได้เป็นทุกกอง
ผมบ่เคยใช้บริการกองทุน และไม่คิดจะใช้มันไม่ว่าในอนาคต ถ้ากองทุนที่แย่อย่างเสี่ยว่า ก็น่าจะเรียกว่าพวกกองทุนโจร ขอบคุณมากที่อุตส่าห์พิมพ์บอกกล่าวในเรื่องที่หลายคนอาจไม่คาดคิด เสี่ย รู้ลึก รู้จริง แบบไม่ต้องใช้ลวดสลิง เลยนะเนี่ย  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 12:47:40 »

ไม่ใช่ จา พนมครับท่าน หุหุ
IP : บันทึกการเข้า

แมงมุม
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,890


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 14:16:42 »

.

กองทุนรวม คือ กองทุนสำหรับคน 2 ประเภทครับ

1.) มีเงิน แต่ไม่มีเวลา
2.) มีเงิน แต่เล่นไม่เป็รฃน

กองทุนก็เอาเงินเหล่านี้มาจ้างผู้จัดการกองทุนมาลงทุนแทนครับ

ถ้าได้กำไร เขาก็เอากำไรคุณไปส่วนนึง พร้อมค่าจ้าง
ถ้าขาดทุน เขาเอาแต่ค่าจ้างครับ

อิอิ

.
IP : บันทึกการเข้า

...เงินดีงานเดิน...เงินเกินงานวิ่ง...Line=i6629
TobyTheBook
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,411



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 20:31:39 »

.

กองทุนรวม คือ กองทุนสำหรับคน 2 ประเภทครับ

1.) มีเงิน แต่ไม่มีเวลา
2.) มีเงิน แต่เล่นไม่เป็รฃน

กองทุนก็เอาเงินเหล่านี้มาจ้างผู้จัดการกองทุนมาลงทุนแทนครับ

ถ้าได้กำไร เขาก็เอากำไรคุณไปส่วนนึง พร้อมค่าจ้าง
ถ้าขาดทุน เขาเอาแต่ค่าจ้างครับ

อิอิ.

ถูกค่า จะกำไรหรือขาดทุน ก็ต้องจ่ายค่าจ้างอะค่ะ

ไม่อยากจ่ายก็ต้องเล่นเองนั่นแล  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
น้าวัยทองฯ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,912



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 20:37:17 »

อ้าว อย่างนี้ก็เสียสองต่อสิ

โดนฟันกำไรไปอีก แถมยังมาฟันค่าจ้างเราอีก

อนาจใจแท้ หุหุ

แต่ก็นะ 1.) มีเงิน แต่ไม่มีเวลา
           2.) มีเงิน แต่เล่นไม่เป็น

ต้องทำใจ

IP : บันทึกการเข้า

TobyTheBook
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,411



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 20:42:21 »

ตามนั้นล่ะค่ะ  ยิงฟันยิ้ม

IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 20:49:14 »

กลับมาอีกที..=_='  เกิดอะไรขึ้นกับกระทู้ผมนี้.....เอาเป็นว่า  ผมไปเปิดกระทู้ใหม่แล้วกัน  >_<  (มีเวลาแล้วจะมา up  งานเยอะ  ใจจริงก็อยากนำข้อมูลจากหนังสือและประสบการณ์ที่ลงทุนในกองทุนรวมและหุ้นมาแบ่งกันแต่ยังไม่มีเวลามากเอาเป็นว่า ทยอยลงแล้วกัน  ส่วนหนังสือที่ผมจะเอามาแบ่งปันข้อมูลจะเอารูปมา ลงแล้วกัน เพื่อมีท่านที่สนใจจะได้ศึกษาตามแล้วมาแบ่งประสบการณ์แลกเปลี่ยนกัน  ok น่ะ  ?? เหมือนเรียนทางไกลไงไม่รู้)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 20:53:54 โดย เมฆพัตร » IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 21:38:54 »

ตอนแรกตั้งใจจะปูพื้นฐานสำหรับคนไม่รู้จักอะไรเลยหรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรให้รู้จักการออมก่อน เพื่อแบ่งเงินเป็นส่วนต่างๆ และจะได้รู้ว่าเงินมาลงทุนหรือเล่นหุ้นนั้นที่ถูกต้องคือเอามาจากไหน (ใครที่ยังไม่เข้าใจ ไปอ่าน"ออมอย่างไรให้มั่งคั้ง"ก่อนแล้วจะเข้าใจครับ) เพราะการลงทุนมีความเสียง อาจจะได้หรืออาจะเสีย เวลาได้ก็ดีไปเวลาเสียจะได้ไม่โทษตลาดหุ้นแล้วก็มีทัศนติที่ไม่ดีกับตลาดหุ้น และเพราะถ้าหากใช้เงินออมมาเล่นหรือเปิดบัญชีแบบมาร์จิ้น ถ้าหุ้นตกติดดอย บริษัทที่ซื้อล้มละลายจะได้ไม่เดือดร้อนทั้งตัวเองและครอบครัว ผมจึง แบ่งปันเรื่องการออมก่อน ผมจึงเอาสาระจากหนังสือเล่มนี้(รูปด้านล่าง)มาให้อ่านกัน...........(ขอความร่วมมือขณะผมโพสท์ อย่าโพสท์แทรก)


* IMG_2719.jpg (54.03 KB, 286x397 - ดู 2645 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 21:44:22 »

หลักจากที่รู้หลักการออมและใช้เงินแล้ว ต้องนำเงินส่วนที่เรากันไว้เพื่อจะนำมาลงทุนในเครื่องมือต่าง เรียงลำดับจาก เสี่ยงต่ำ---->เสี่ยงสูง  และแน่นอน ผลตอบแทนย่อม ต่ำ--->สูง   นั้นก็คือ เงินฝาก--->พันธะบัตร,สลากออมสิน--->กองทุน--->ตลาดหุ้น,ตลาดทอง  ดังนั้นผมจึงนำเอาสาระหรือแนะนำให้อ่านหนังสือสองเล่มนี้(ด้านล่าง) แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้อ่านเล่มอื่นน่ะ แค่แนะนำ


* IMG_2813.jpg (56.77 KB, 400x271 - ดู 2602 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 21:50:42 »

เมื่อเรานำเงินออมไปลงทุนในกองทุนอาจจะด้วยเหตุผลต่างๆกันบางคนมีเวลาน้อย บางคนงบน้อย บางคนต้องการนำไปลดหย่อนภาษีเช่นผมเป็นต้นเพราะปีหนึ่งๆก็เสียภาษีเป็นเลข 5 หลัก เสียดายเงิน หรือบางท่านไม่จำเป็นก็เอาไปลงทุนในหุ้นก็แล้วแต่  เงินของท่าน ท่านเป็นคนเลือก ซึ่งสาระที่ผมจะนำมาแชร์ก็เอามาจากหนังสือ(ตามรูป) เพื่อจะปูพื้นฐานให้คนที่ไม่เคยเล่นได้ศึกษาและทำความเข้าใจก่อน....


* IMG_2817.jpg (57.21 KB, 400x374 - ดู 2592 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 22:00:34 »

เมื่อทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่วกับตลาดหลักทรัพย์และการเล่นหุ้นแล้ว เช่น ตลาดเปิดกี่โมง หุ้นบลูชิพคืออะไร ราคาขายของราคาหุ้นแต่ละราคาขึ้นเท่าไร  หนึ่งช่องคืออะไร จะหาอ่านข้อมูลหลักทรัพย์รายตัวได้จากไหน  รายงานดัชนี SET แต่ละวันดูตรงไหน ของตลาดอื่นๆ ดูอย่างไร บลาๆๆๆๆๆ   พอเข้าใจแล้ว การเล่นหุ้นมันก็มีสองแนวคือ ดูพื้นฐานของหุ้นหรือ VI (VI= Value Investor) และ แนวเทคนิค(ดูกราฟ) ส่วนดูพื้นฐานหลักก็จะเป็นของบัฟเฟด(ระดับโลก) เมืองไทยก็ ดร.นิเวศน์ ผมก็จะเอาสาระจากหนังสือเล่านี้มาแบ่งปัน....


* IMG_2805.jpg (36.78 KB, 257x191 - ดู 2603 ครั้ง.)

* IMG_2804.JPG (46.67 KB, 342x275 - ดู 2589 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 22:03:38 »

และแนว VI อีกสายหนึ่งที่กำลังเป็นที่ศึกษากันอยู่ก็คือของ ดร.เทพ แห่ง หุ้นห่านทองคำ ก็คือ ชุดนี้...


* IMG_2815.jpg (50.01 KB, 300x297 - ดู 2589 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 22:18:56 »

และที่แน่นอน การดูพื้นฐานหุ้นดูอย่างไร ดูตรงไหน นอกจากตามข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วส่วนหนึ่งที่แน่นอนก็คือดูที่งบการเงิน ซึ่งผมก็จะมาแบ่งกันในการวิเคราะห์งบการเงินของแต่ละบริษัทโดยใช้ข้อมูลจากหนังสือชุดนี้...เพราะราคาหุ้นดีมีส่วนต่างราคา แต่ไปดูงบการเงินแล้วมีหนีมหาศาลอันนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องดูงบการเงินด้วยซึ่งผมในการตัดสินใจเลือกซื้อหุ้นนอกจากดูที่พื้นฐานแล้วผมก็จะดูที่งบการเงินด้วย...


* IMG_2801.JPG (34.74 KB, 257x182 - ดู 2570 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 06 สิงหาคม 2011, 22:21:50 โดย เมฆพัตร » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!