ราคาข้าวอีก 5 ปี ข้างหน้า

[oranit]

ราคาข้าวปีต่อๆไป จะมีการปรับขึ้นไม่มาก
กิโลกรัมละเฉลี่ย 1.25 บาท  นั้นหมายความว่าราคาข้าวอีก 5 ปี จะมีราคาเพิ่มประมาณ  6-7 บาท จากราคาปัจจุบันนี้  ดูแล้วก็หน้าจะเป็นเรื่องที่ดี  แต่ว่าในระยะ 5 ปีนี้ ราคาปุ๋ย  ยา  และค่าครองชีพประจำวันเติบโตไปในทิศทางที่ราคาสูงตามไปด้วย  เฉลี่ยปีละ 3-7 บาท
นี่คือสิ่งที่ชาวนาต้องจนต่อ  แม้ราคาผลผลิตทางการเกษตรจะเพิ่มขึ้น  แต่ต้นทุนยังสู่งจนหน้าใจหาย
หากเกษตกรไม่ปรับตัว  ทำนาตลอดชีวิตก็ไม่มีทางรวยหรือปลดหนี้ได้
การปรับตัวคือทำอย่างไร  จริงๆคนทำนารู้ดี  ไม่ต้องสอนหรือบอก  เพียงแต่ชาวนาไม่ทำกันเท่านั้นเอง
เพราะชาวยุคนี้ คือชาวนา ไอที ปลูกก็จ้าง(ให้เสร็จในวันเดียว  หลังจากนั้นนอนอยู่ที่บ้าน  หากเทียบในอดีต  พ่อ แม่ ลูก คนข้างบ้าน ลงแขกช่วยกัน 3-4 วัน ปลูกเสร็จประหยัดทุนค่าจ้างไปเยอะ)  เกี่ยวก็เหมือนเดียวใช้รถเกี่ยวไม่ถึงชั่วโมงเสร็จ  ไร่ละ 350 -700 บาท ตรงนี้แน่นอนเร็วดี สบาย แต่กำไรที่ทำมาสี่เดือนอยู่กับพ่อค้าข้าว  เจ้าของรถเกี่ยว  คนรับจ้างปลูกส่วนมากก็เป็นคนต่างชาติ มารับจ้าง  จริงๆกำไรเยอะมากทำนา  แต่จ่ายค่ายา  ปุ๋ย  ค่าปลูก  ค่าเกี่ยว  มากกว่ากำไรที่ตนจะได้รับ   หลายคนอายๆๆที่จะเกี่ยวเอง  อายที่จะปลูกเอง   เดียวเพื่อบ้านจะว่าตระหนี่ขี้เหนี่ยว  ลองคิดใหม่ เปลี่ยนแปลงวีถีใหม่  สิ่งที่นำมาพูดนี้  เพราะตนเองเคยทำแบบนี้  ปุ๋ยทำเอง  น้ำหมักทำเอง  ลดต้นทุนนา10 ไร่ ไปมากกว่า 10000 บาท แต่ข้าวที่ได้ก็ได้ปริมษณน้อยกว่าชาวบ้าน เขาได้  1000 กก/ไร่  เราได้ 750/ไร่  พอคิดเป็นเงิน เราก็ได้น้อยกว่า  แต่พอเรานำกำไรที่ได้ มาหักลบต้นทุก  เรายิ้มได้ดีกว่า  เพราะเรามีกำไรมากกว่า  ก็เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น  ใครจะเห็นดีไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่อุดมคติของแต่ละคน  
 
อย่าคิดไปเอง อย่าเข้าใจไปเอง
ปี 2563 ที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญปัญหาผันผวนอย่างรุ่นแรง
ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่หลายคนยังไม่ทราบ สิ่งที่เราไม่ทราบคือสิ่งที่น่ากลัว เราไม่ได้เตรียมตัว แต่วันนี้มันไม่ได้ช้าเกินไป แต่ขอให้เตรียมตัวว่า เงินในกระเป๋าอาจจะไม่พอใช้ และธุรกิจที่จะมาแรงแน่นอนคือธูรกิจ ยุค IT และ AI ใครจับต้องก่อนบอกได้ว่าสบายก่อนและได้เปรียบมากๆกว่าคนที่มาที่หลัง
จากความสำเร็จส่วนตัว วันนี้จึงมาเล่าสู่กันฟัง สนใจข้อมูล
คลิก http://elitessc.in/?url=kittipat789