สีรถยนต์มีกี่ชนิด

[youwin92]

สีรถยนต์โดยปกติแล้ว จะ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ OEM, 1K และ 2K ซึ่งแต่ละสีนั้น ก็มีคุณสมบัติที่มีดี แตกต่างกันออกไป และในบทความนี้ เราจะมา ดูกันว่า สีของรถยนต์นั้นมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร เผื่อว่าคุณผู้อ่าน ที่สนใจ จะได้ใช้สีเหล่านี้ ได้ตรงกับ ลักษณะ รถคันโปรดของเรา กันครับ

สี OEM
สี OEM พูดง่ายๆ ก็คือสี จากโรงงาน นั่นเอง โดยตัวสีมีองค์ประกอบ เพียงอย่างเดียว และการใช้งานของมัน อาจนำมาผสม กับ ตัวทำละลาย เพื่อให้ใช้งานได้ ง่าย และ สะดวก มากยิ่งขึ้น คุณสมบัติของสีชนิดนี้ จะ แห้งตัวไวที่ อุณหภูมิ ประมาณ 120-160 องศาเซลเซียส เป็นสีที่มีสภาพความทนทานสูง ดีที่สุด อบที่อุณหภูมิสูง หลังจากสีชนิดนี้ แห้งตัวลงไป จะมีฟิล์มสีที่คุณภาพเยี่ยม ชั้นฟิล์มของสี มีความแข็งแรงมาก และสามารถทนทานต่อ ตัวทำละลาย อย่าง ทินเนอร์ แม้กระทั่ง น้ำมันเบนซิน หรือ ดีเซล ได้เป็นอย่างดี อีกข้อหนึ่งที่เป็น จุดเด่นๆ ของสี OEM เลยคือ สามารถทนทานต่อ แสงแดด ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับ ใช้ในการประกอบรถยนต์ เป็นหลัก

สี 1K
หรือที่คนทั่วไป เรียกกัน จนติดปากว่า “สีแห้งเร็ว” เป็นสีที่มีส่วนประกอบของตัวสี เพียงอย่างเดียว เวลาใช้งาน อาจจะนำมาผสมกับน้ำมันสน สำหรับ สีน้ำมันได้ด้วย สี 1K มีด้วยกันหลายชนิด อย่างเช่น

1.1)    สี 1K ซินเทติค เอนามิล( synthetic enamel)
     เป็นสี 1K ชนิด แห้งตัวช้า โดยมี คุณสมบัติแห้งตัวช้า โดยการทำปฏิกิริยา อ๊อกซิเดชั่น ในอากาศ (Oxidation)

1.2)  สี 1K ไนโตรเซลลูโลส (Nitro cellulose)
      เป็นสี 1K ชนิดแห้งตัวเร็ว เพราะแห้งตัวจากการระเหยของตัวทำละลาย อย่าง ทินเนอร์

1.3)   สี 1K อะคริลิก (Acryllic)
       เป็นสี 1K อีกชนิดที่แห้งตัวเร็ว ซึ่งแห้งโดยการระเหยของตัวทำละลาย

แต่ในปัจจุบันนี้ สี 1K ไม่ได้นิยมใช้กันแล้ว ตามอู่ซ่อมรถ ทั่วไป เพราะ องค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่น ความเงางาม นั้น อยู่ได้เพียง 1-3 ปี และไม่ทนต่อ สารระเหย อย่าง ทินเนอร์ ซึ่งถ้าโดนทินเนอร์โดยตรง ก็จะทำให้สีนั้น หลุดร่อนออกมาได้

สี 2K
คือสีแบบ สององค์ประกอบที่มีส่วนประกอบ ของตัวสี เป็นองค์ประกอบ ที่ 1 และอีกองค์ประกอบ คือ ตัวเร่งปฎิกิริยา ( Activator) โดยก่อนจะใช้งาน ต้องนำ ทั้ง 2 องค์ประกอบ มาผสมตามอัตราส่วน เพื่อให้เกิดปฎิกิริยาทางเคมี และจะทำให้สีเกิดการแห้งตัว ต่อไป

สีชนิดนี้ จะมีการแห้งตัวไว คุณสมบัติการยึดเกาะที่สูง ทนต่อน้ำมัน ทินเนอร์ และ ดีเซล รวมทั้ง สามารถทนต่อแดดจัดๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้ สี OEM
 ตามความเป็นจริง สีชนิด นี้ อาจจะค่อนข้างยุ่งยาก เวลานำไปใช้ และยังรอนานกว่าสี 1K  แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น คุ้มค่า แก่การรอคอย อีกทั้ง อายุการใช้งาน ก็ยาวกว่า 5 ปี และอีกหนึ่งข้อดี ที่สำคัญสำหรับสีนี้คือ สีไม่ซีดจางง่ายอีกด้วย

สรุป
 การจะเลือกสีรถยนต์ให้เหมาะสมนั้น อาจจะต้องอาศัยความรู้พื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับ สีรถยนต์ มาใช้ในการ ตัดสินใจ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณผู้อ่าน ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ สีรถยนต์ ก็ขอแนะนำว่า ให้ปรึกษากับ ช่างพ่นสี ที่อู่ซ่อม ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้รถของคุณ สวยอย่างมั่นใจ ปลอดภัย ไร้ความกังวล

[แมงนูน]

ถูกต้อง     ยังไงก็สู้ของเดิมไม่ได้ oem

[แมงนูน]

เคยเข้าไปดูงานชมงาน แผนก ทำสี ทั้งรถจยย.ที่โรงงานนิคมอุสหกรรมลาดกระบังของ honda  ส่วน  รถยนต์ ที่ อยุธยา ของhonda  สีรถเดิมๆจากโรงงานดีที่สุด  เพราะ อุปกรณ์  เครื่องมือที่ทันสมัยในการทำสีจากโรงงานดีที่สุด ทนที่สุด