เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

ภูผาสวรรค์ อยู่บ้านร่มโพธิ์ทอง ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย

ข้อมูลผาสวรรค์นี้ได้ยินมานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสได้ขึ้นไปสัมผัส เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังใหม่ อาจจะเรียกว่าใหม่มากๆ ที่เคยขับรถผ่านหลายครั้งแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ ยังนึกอยู่เลยว่าพลาดสถานที่แห่งนี้ไปได้ยังไง นักท่องเที่ยวส่วนมากก็ยังไม่ทราบ ทุกคนมุ่งแต่จะไปภูชี้ฟ้า วันนี้มีโอกาสได้ไปสัมผัสภูผาสวรรค์แห่งนี้ จนต้องเอามารีวิวให้ดูกันครับ

ผาสวรรค์เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า อยู่บนหน้าผาตัดสูงชันมองแทบไม่เห็นข้างล่าง บนยอดสันเขาเส้นปันเขตแดนไทย-ลาว  แม้นการเดินขึ้นสู่ยอดจะเมื่อยล้าไปด้วยสัมภาระไปบ้าง แต่เมื่อได้เห็นจุดสิ้นสุดชายแดน มองเห็นวิวทะเลหมอกด้านทิศตะวันออก ความเหนื่อยเมื่อยล้านั้นก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม พร้อมกับภาพวิวพานอราม่ากว้างสุดสายตา ด้วยธรรมชาติ ป่าเขา

ต้องเดินจากจุดจอดรถขึ้นไปประมาณ 300-400 เมตร บนสันเขาแห่งนี้สามารถกางเต้นท์ได้เลย ตื่นเช้ามาท่านจะเจอภาพทะเลหมอกอยู่หน้าเต้นท์ ไม่ต้องเดินไปตามหา

- ขอบคุณผู้ให้ข้อมูลครูต๋อง อ.สิทธิ์ศักดิ์ ผดุงกิจ  ครูโรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ไทย
- ขอบคุณนักการภารโรง โรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ไทย คุณสมชาย ที่คอยอำนวยความสะดวกในการนำทางตลอดจนข้อมูลต่างๆของภูผาสวรรค์แห่งนี้
- ขอบคุณเพื่อนที่ร่วมเดินทาง แม้จะเหน็ดเหนื่อย หายใจกันแบบหืดขึ้นคอ ก็ไม่ท้อจนถึงที่หมาย

นัดแนะกับพี่สมชายที่โรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ไทย กว่าจะพร้อมทุกอย่าง เริ่มต้นออกเดินทางน่าจะห้าโมงกว่าๆ

ใครอยากดูดอกบัวตอง ที่นี่มีให้เห็นบานเต็มทางเข้าโรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ไทย

โรงเรียนร่มโพธิ์ไทยเป็นโรงเรียนเล็กๆมีนักเรียนไม่กี่สิบคน แต่บรรยากาศโรงเรียนสวยมากๆ มีลานกางเต้นท์ มีห้องพักชื่อว่าบ้านพักร่มโพธิ์ทองให้บริการ เป็นลักษณะโฮมสเตย์โรงเรียน ใครไปเที่ยวก็ลองแวะพักที่นี่ได้ครับ หรือหนาวนี้กำลังหากิจกรรม แจกขนม แจกเสื้อผ้าให้เด็กๆ ลองไปที่นี่ก็ได้ มีลานกางเต้นท์ เด็กมัคคุเทศก์นำเที่ยวภูผาสวรรค์ ติดต่อครูต๋อง หมายเลข 087 1913582

รูปช่วงการเดินทางขาดหายไปนะครับ เนื่องจากขับรถ  ;D

จากโรงเรียนร่มโพธิ์ไทย ขึ้นไปยังลานจอดรถ น่าจะราวๆ 2-3 กม. หากใครจะตามรอยรีวิวนี้ไป แนะนำให้ใช้รถ 4x4  ถนนไม่ยาก ไม่ชัน แต่บางช่วงมีชื้นนิดหน่อยล้อจะฟรีได้  แต่หากถนนแห้งรถกะบะธรรมดาก็อาจจะพอขึ้นได้อยู่  เรื่องทางขึ้นอาจจะต้องประสานงานกับโรงเรียนดูนะครับ ให้ครูเขาประเมินสถานการณ์สภาพอากาศแต่ละวันดู

จากจุดจอดรถต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกราวๆ 300-400 เมตร แจ้งไว้เผื่อใครที่ต้องการเอาเต้นท์ขึ้นไปนอนข้างบน สัมภาระต่างๆ หากไม่อยากทิ้งไว้ข้างทาง ก็ให้คำนวณน้ำหนักให้ดี  ;D

เริ่มออกเดินทางค่ำไปนิดนึงครับ  ระหว่างทางขึ้นก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพไว้ กว่าจะถึงที่หมายก็มองแทบไม่เห็นทางเดิน

ข้าวปลาอาหาร เราเตรียมไปกันเอง กินกันแบบง่ายๆ ถึงที่หมายพี่สมชาย คนนำทางของเราได้เตรียมฟืนมาก่อกองไฟ พร้อมกับเล่าเรื่องราวของหมู่บ้านขอบชายแดนต่างๆให้ฟัง

ตลอดแนวสันเขา อีกฝั่งจะเป็นหน้าผาตัดตลอดตามแนว จึงเป็นที่มาของชื่อผาสวรรค์
พลาดตกลงไปคงต้องทำใจอย่างเดียว

กางเต้นท์ติดหน้าผา โดยอาศัยอยู่ใกล้ๆหลักแดน ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากความอุ่นใจแค่นั้น  ;D

เห็นเป็นทำเลที่เหมาะเช้ามาพระอาทิตย์จะส่องเข้าหน้าเต้นท์พอดี

คืนนี้พระจันทร์ยังค่อนข้างจะเต็มดวง ดึกๆมาแทบไม่ต้องใช้แสงสว่าง  ที่เห็นในรูปคือพระจันทร์กำลังขึ้นนะครับ ไม่ใช่พระอาทิตย์ ผมพยายามถ่ายให้เหมือนพระจันทร์แล้ว  ;D

พระจันทร์สว่างขนาดไหน นอนในเต้นท์เหมือนเปิดไฟทั้งคืน ภาพนี้ถ่ายตอนตีสี

เวลาประมาณตีห้ากว่าๆ เริ่มเห็นแสงอาทิตย์ตรงเส้นขอบฟ้า

พระอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาบนเส้นขอบฟ้า เป็นเวลาที่เรารอคอยกัน และเป็นเป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้

เราไม่อยากเหนื่อยขึ้นไปกันตอนเช้ามืด ก็เลยต้องมากางเต้นท์นอนรอ

คืนนี้ทั้งดอยเป็นของเรา  เช้ามาก็เป็นของเราอีก ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว

หลังจากอยู่กันได้สักพัก ไม่รู้จะเล่นมุมไหนแล้ว เปลี่ยนบริเวณบ้าง เราไปยังอีกจุดที่มีหินยื่นออกนอกหน้าผา  น่าจะเป็นอีกไฮไลท์ของผาสวรรค์แห่งนี้ ระยะทางจากจุดกางเต้นท์ก็ไม่ไกล้ไม่ไกล ระหว่างทางก็เดินตามทางเท้าที่คลุมไปด้วยหญ้าสูง ด้านข้างเป็นเหวลึก แต่พอเห็นภาพสวยๆก็ลืมเรื่องระยะทางไปหมด

เดินยังไม่ถึงที่หมาย แต่ทุกๆ 4-5 เมตร ต้องหยิบกล้องมาถ่าย ไม่รู้เป็นไร  ;D

ผาสวรรค์แห่งนี้อีกไม่นาน จะเป็นที่รู้จักของผู้คน  ใครอยู่เชียงรายมีโอกาสรีบขึ้นไปดูก่อนเลยครับ

แม้การเดินทางมาผาสวรรค์แห่งนี้จะลำบากหน่อย ไม่เหมือนภูชี้ฟ้า แต่ที่นี่ก็ได้เปรียบตรงที่สถานที่ยังสดใหม่ ทุกอย่างยังคงอยู่ตามธรรมชาติ คงสวยตามธรรมชาติที่ไม่ได้แต่งเติมขึ้นมา

หินก้อนใหญ่ที่ยื่นออกไปเป็นจงอยบนหน้าผา ใครมาแล้วต้องไม่พลาด

หินก้อนใหญ่ที่ยื่นออกไปเป็นจงอยบนหน้าผา ใครมาแล้วต้องไม่พลาด

ลำบากขนาดนี้จะไปเพื่ออะไร..ยังไม่รู้เลยครับ  ;D

รู้แต่ว่าเห็นมันสวยแล้วต้องไปชมให้ได้สักครั้ง มันคือการไปท่องเที่ยวในแบบที่ต้องสัมผัสเองถึงจะรู้

แม้หญ้าจะขึ้นสูงถึงเอว แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้เราท้อ

แต่ปัญหาของเราคือน้ำค้างบนยอดหญ้าต่างหาก   ;D

เราต้องการภาพธรรมชาติแบบดิบๆ ไม่ต้องจัดฉาก  ;D ;D

เราเดินทางกลับชมทะเลหมอกที่เต้นท์อีกครั้ง  แม้จะเป็นจุดเดิมๆ แต่บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทุกนาที ที่เรายืนมอง

ผาสวรรค์ บ้านร่มโพธิ์ไทย อีกหนึ่งสถานที่ ที่รอการมาเยือนจากนักท่องเที่ยว

สุดท้ายของภาพวิวบนภูผาสวรรค์แห่งนี้

ใครกำลังมองหาสถานที่กางเต้นท์ใหม่ๆ หนาวนี้ไม่รู้ไปที่ไหน ต้องการหลีกหนีความวุ่ยวาย ลองมาที่ ภูผาสวรรค์

พรุ่งนี้มาต่อให้ ถ่ายมาเยอะเกิน ย่อไม่ไหว ;D

 :o :o :o :o เบื้องหลังรูปสวยๆ  :o :o :o :o

สวยมากครับ เปิดมุมมองใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ คงต้องหาโอกาสไปเยือนก่อนที่จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในอนาคต ;)

งามดีครับอยากไปผ่องล่ะ

หลังจากสูดอากาศบริสุทธิ์ เก็บภาพประทับใจผาสวรรค์แห่งนี้ไว้เรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทางกลับ

พี่สมชาย ไกด์นำทางของเราพามาทางลัด  จาก 400 เมตร เหลือประมาณ 100 เมตร

ภาพสุดท้ายก่อนถึงลานจอดรถ

ผาสวรรค์เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาสถานกางเต้นท์ ชมวิว ตามธรรมชาติ ข้างบนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ในกรณีที่ต้องการแค่ขึ้นไปชมทะเลหมอกตอนเช้า สามารถใช้บริการห้องพักที่โรงเรียนบ้านร่มโพธิ์ไทยได้ หรือห้องพักเอกชนแถวนั้นก็มีอยู่หลายแห่ง

จากที่เคยไปมาหลายที่ ผมก็ว่าที่นี่สวยเป็นธรรมชาติดีครับ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีโอกาสผ่านแถวนั้นลองแวะขึ้นไปชมดูครับ  ทางขึ้นผมก็บอกไม่ถูก เข้าไปแล้วมีอีก 2 -3 แยก  แนะนำถามที่โรงเรียน หรือชาวบ้านครับ

สายลุยกันจริง ๆ สองหนุ่ม  ;D ;D ;D ;D ;D

เมื่อใดจะเอามาลง  ;D

จัดเต็มทั้งรูป และคำบรรยายขนาดนี้  :'( :'( :'( :'(

เอาน่า เชื่อว่าที่เดียวกัน ถ่ายรูปคงออกมาไม่เหมือนกันแน่ๆ โพสต่อเลยก็ได้ หรือเปิดกระทู้ใหม่ก็ดี

ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ไม่รู้จะหาคำอธิบายมาจากไหน นั่นก็เพราะว่าเว็บมาสเตอร์ได้ทำไปหมดแล้ว  ;D ;D ;D ;D ;D ;D


ไปถึงก็มืดค่ำแล้วครับไม่ทันแม้นจะมองอาทิตย์ตก ระหว่างทางไม่มีรูปเลยครับเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องเดินแข่งกับเวลา  :'( รูปแรกแสงสุดท้ายของวัน (วันที่ ที่ติดรูปผิดนะครับขี้เกียจแก้ละ  ;D)

กางเต็นท์เสร็จนั่งพักได้สักพัก ถ่ายรูปกันไปเรื่อย แล้วพระจันทร์ก็โผล่มาทักทายจากขอบฟ้า

ตื่นเช้ามาตีสี่กว่าๆ จะนอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว ( สงสัยวัยทอง  :P ) เดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบ ได้รูปมานิดหน่อย ทะเลหมอกเช้ามืด ;D


ดูจากหลักเขตแดนแล้ว ทางเว็บฯได้ข้ามไปนอนต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย

เวบมาสเตอร์กลับเข้าไปนอน เป็นอันว่าต้องกลับออกมาเพราะผมบอกว่าเส้นขอบฟ้ามาแล้ว  :D

รูปนี้ถ่ายไปทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นหมู่บ้านเล็กๆของประเทศลาวที่มีเขตติดต่อกับประเทศไทยซึ่งนั่นก็คือบ้านฮวก อ.ภูซาง

แสงเริ่มมาแล้ว  8)

แม้จะมุมเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็ถ่ายเก็บเป็นที่ระลึกไปได้เรื่อยๆ   :)

ดูหมอกกันใกล้ๆ  :o

พอแสงมามองเห็นทางเราก็เริ่มเคลื่อนย้ายออกจากที่มั่น  ;D และแล้วตะวันก็โผล่ออกมา  :o

พอก่อนนะครับไว้ค่อยมาต่อ ทำงานก่อน  :D

ฮูปงามขนาด ซุ่มเหมือนกันนิ  ;D

ลองไปเยือนได้ครับครู สองล้อสบายเลยครับ  :D

บ่ได้ซุ่ม มั่วๆไป  ;D ;D ;D

ไม่รู้จะบรรยายต่อยังไงล่ะ อารมณ์โม้เมื่อคืนได้หมดลงไปแล้ว ทนๆดูเอาหน่อยนะครับ  ;D

ไม่รู้จะอธิบายยังไง..........................

แอบส่องคนละฝั่งผา  8)  (ตั้งค่ากล้องผิดสีเพี้ยนเลย)

เดินมาจนสุดทางเดินก็ได้มุมนี้แหละครับ

ขามาลืมถ่ายรูปทางเดิน ขากลับเอาสักหน่อย  :o  เปียกสิครับรู้สึกได้ว่าถึง กกน.  :D

เว็บฯทักว่าเล่นท่ายาก นี่ถ้าพลาดได้ไปเที่ยวลาวกันเลยทีเดียว (กะจะให้เห็นวิวด้านล่างจะยกขาสูงก็กลัวไหลลงไปด้านล่าง)  :-\

ทนดูเอาอีกหน่อยนะครับ จะหมดล่ะ :-*

เดินกลับมาที่เดิม แสงสีเปลี่ยนไป

เว็บฯหามุมมองใหม่

สุดท้ายของทริปนี้กับทะเลหมอก คงจะได้เจอกันอีกเร็วๆนี้  :)

สุดท้ายแล้วจ้า.........ลาด้วยภาพนี้นะครับ " ในฝั่งลาว " ขอบคุณที่คลิ๊กเข้ามาดูจนถึงข้อความนี้ สวัสดี.

งั้นๆ ไม่เท่าไหร่  :'( :'( :'( :'( :'(

งามแต้ ๆ  :o

โดนแฟนทิ้งเมื่อไหร่ อย่ามาง้อให้พาไปก็แล้วกัน  ;D ;D

สถานที่จริงสวยกว่านี้อีกครั้ง  ;D

ครับ มีโอกาสไปแน่ครับ  8)

กาแฟก่อนกลับบ้าน  8)

555555555555555+ (http://555555555555555+)

สวย........................................

สวยไม่กลัว กลัวไม่ว่าง   ;D

ขอบคุณที่แบ่งปัน ตื่นตาตื่นใจมาก

ไปอีกเมื่อไหร่ดีครับ (ทาสีหลักเขต)  ;D

รอผู้กล้าอยู่ ช่วงนี้จุ๊ยากขนาด  ;D ;D

จะครบปีแล้วเน้อหลักเขตประเทศยังบ่ได้ไปทาสีหื้อเปิ้นเลย ไผไปฮับปากเปิ้นไว้นั่น  :'(