เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย => เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง => ข้อความที่เริ่มโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 23 กันยายน 2009, 23:09:47



หัวข้อ: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 23 กันยายน 2009, 23:09:47
อย่างที่เห็นในภาพ นี่คือแผนภูมิกษัตริย์ในราชวงศ์มังราย ซึ่งมีกษัตริย์ 17 องค์ (18 รัชกาล)
รายละเอียดของแต่องค์ ใครสนใจก็เขียนถามมาแล้วกันครับ

ลำดับกษัตริย์ในราชวงศ์มังราย
1. พญามังราย พ.ศ. 1801 - 1854 (53 ปี)
2. พญาไชยสงคราม พ.ศ. 1854 - 1868 (14 ปี)
3. พญาแสนภู พ.ศ. 1868 - 1877 (11 ปี)
4. พญาคำฟู พ.ศ. 1877 - 1879 (2 ปี)
5. พญาผายู พ.ศ. 1879 - 1898 (19 ปี)
6. พญากือนา พ.ศ. 1898 - 1928 (30 ปี)
7. พญาแสนเมืองมา พ.ศ. 1928 - 1944 (16 ปี)
8. พญาสามฝั่งแกน พ.ศ. 1945 - 1984 (39 ปี)
9. พระเจ้าติโลกราช พ.ศ. 1984 - 2030 (46 ปี)
10. พญายอดเชียงราย พ.ศ. 2030 - 2038 (8 ปี)
11. พญาแก้ว พ.ศ. 2038 - 2068 (30 ปี)
12. พญาเกศเชษฐราช (พระเมืองเกษเกล้า) พ.ศ. 2068 - 2081 (13 ปี) ครั้งแรก
13. พญาทรายคำ (ท้าวซายคำ) พ.ศ. 2081 - 2086 (5 ปี)
14. พญาเกศเชษฐราช (พระเมืองเกษเกล้า) พ.ศ. 2086 - 2088 (2 ปี) ครั้งที่ 2
15. พระนางจิรประภา พ.ศ. 2088 - 2089 (1 ปี)
16. พญาอุปเยาว์ (พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช) พ.ศ. 2089 - 2090 (1 ปี)
      ว่างกษัตริย์ พ.ศ. 2090 - 2094 (4 ปี)
17. พญาเมกุฏิสุทธิวงศ์ (พญาแม่กุ) พ.ศ. 2094 - 2107
18. พระนางวิสุทธเทวี พ.ศ. 2107 - 2121 (14 ปี)
*ตั้งแต่ พ.ศ. 2101 ปกครองภายใต้อำนาจพม่าของพระเจ้าบุเรงนอง


วันนี้จะขอใช้ภาษาที่ฟังดูเป็นทางการหน่อยนะครับ
ที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้รับรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ผ่านระบบการศึกษาในโรงเรียน
ซึ่งถูกจัดสรรคัดเลือกเนื้อหาโดยกระทรวงศึกษาธิการอับเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลกลาง
ประวัติศาสตร์ที่สอนๆกันอยู่ในโรงเรียนจึงเป็นประวัติศาสตร์กระแสหลัก หรือ ประวัติศาสตร์ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา นั่นเอง
โดยละเลยที่จะศึกษาประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นอื่นๆ ที่ถูกเรียกว่า “บ้านนอก”
ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆรับรู้แต่เพียงอดีตของคนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
และปราศจากองค์ความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเอง เช่น บุคคลสำคัญในท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น
หรือแม้กระทั่งภาษาท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้นับวันจะยิ่งสูญหายไปตามคนรุ่นเก่า

เอาง่ายๆ แค่เรื่องพญามังราย (พ่อขุนเม็งรายของหลายๆท่าน)
เรารู้ว่าพญามังรายสร้างเมืองเชียงราย ฝาง พร้าว และเชียงใหม่
เรารู้ว่าเป็นกษัตริย์
แต่เรารู้จักลูกหลานของพญามังรายหรือเปล่า
รู้จักครอบครัวของพญามังรายหรือเปล่า
คำตอบคือไม่
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ เพราะไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยตรง และไม่มีเรื่องนี้ในแบบเรียนประวัติศาสตร์
ตรงกันข้ามเรากลับรับรู้เรื่องราวของผู้นำอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา หรือกรุงเทพฯ มากกว่าเสียอีก
 
“เห็นแล้วสมเพชใจว่ะ” ไอ้ X เพื่อนคนหนึ่งของผมพูด
“ช่างแม่ง มึงก็รู้นี่หว่าว่าวิชาสายสังคมมันเอาไปหากินไม่ได้ สู้เรียนเคมี ฟิสิกส์ เป็นหมอเป็นวิศวะไม่ได้”
เออ... ก็จริงของมัน

สรุปก็คือ เอาเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนามาลงในเน็ตดีกว่า เผื่อคนที่สนใจจะได้อ่าน


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: คำปันเกย ที่ วันที่ 23 กันยายน 2009, 23:35:57
ดูตามแผนผังที่ให้มา
ก็รู้จัก/เคยได้ยิน ไม่ครบทุกองค์

เริ่มที่
ขอรายละเอียดเกี่ยวกับพระนางจิระประภา ก็แล้วกัน

และขอรณรงค์เรียก พญามังราย
..อนุเสาวรีย์พญามังราย
..ห้าแยกพญามังราย


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 24 กันยายน 2009, 23:16:24
พระนางเจ้าจิรประภามหาเทวี (พ.ศ. 2088-2089)

พระนางเจ้าจิรประภามหาเทวี หรือ ที่เรียกพระนามสั้นๆว่า พระนางจิรประภา ทรงเป็นพระราชธิดาในพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์ในแผ่นดินล้านนา ลำดับที่ 12 พระนางฯ ได้ปกครองเชียงใหม่ต่อจากพระราชบิดา ในสมัยของพระนางฯ อาณาจักรล้านนาเกิดการระส่ำระสายเนื่องจากบ้านเมืองเกิดการแย่งอำนาจระหว่างขุนนางกับเจ้านาย ประกอบกับทั้งมีข้าศึกจากภายนอกมารุกราน ทั้งกองทัพเมืองต่างๆในรัฐฉาน และอยุธยาซึ่งตรงกับรัชสมัย “สมเด็จพระไชยราชาธิราช” ทัพมาถึงเชียงใหม่ ในสมัยของพระนางฯ บ้านเมืองอ่อนแอมากมีศึกสงครามขนาบทั้งทิศเหนือและใต้ พระนางฯปกครองบ้านเมืองเพียงแค่เพียงปีเศษก็ได้สละราชบัลลังก์แก่ สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระราชนัดดา (หลาน) แห่งอาณาจักรล้านช้าง

สถานการณ์ทางการเมืองในอาณาจักรล้านนา

ตอนพญาเกศเชษฐราช พระราชบิดา ครองราชย์ครั้งแรกนั้น พระองค์มีนโยบายที่จะรวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง ทำให้ขุนนางกลุ่มหนึ่งซึ่งมี “หมื่นสามล้าน” เป็นผู้นำไม่พอใจ ขุนนางกลุ่มนี้จึงคิดก่อการกบฏ แต่พญาเกศฯทรงทราบเสียก่อน หมื่นสามล้านถูกประหารชีวิต จึงยิ่งเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้น กระทั่ง พ.ศ.2081 พญาเกศฯก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งกษัตริย์และถูกส่งไปครองเมืองน้อย ส่วนเมืองเชียงใหม่นั้นขุนนางได้ตั้งท้าวซายคำขึ้นเป็นกษัตริย์แทน แต่พระองค์ครองราชย์ได้เพียง 5 ปี ก็ถูกปลงพระชนม์ เมื่อ พ.ศ.2086 แล้วขุนนางก็ไปเชิญเสด็จพญาเกศมาปกครองเมืองเชียงใหม่ อีกครั้งหนึ่ง แต่อีก 2 ปีต่อมา คือ พ.ศ.2088 พญาเกศฯก็ถูกขุนนาง ซึ่งมี “แสนคราว” เป็นผู้นำปลงพระชนม์

ในช่วงที่แผ่นดินล้านนาว่างกษัตริย์นี้ บ้านเมืองมีแต่ความวุ่นวาย ขุนนางแตกแยกเป็นหลายกลุ่ม และต่างก็แย่งชิงอำนาจกัน โดยพยายามสนับสนุนคนของตนขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่ในที่สุด “กลุ่มเชียงแสน” ซึ่งประกอบด้วย เจ้าเมืองเชียงแสน เจ้าเมืองเชียงราย เจ้าเมืองลำปาง และเจ้าเมืองพาน สามารถกำจัด “กลุ่มแสนคราว” ได้ จึงได้ไปเชิญเสด็จ “พระไชยเชษฐาธิราช” แห่งอาณาจักรล้านช้าง มาเป็นกษัตริย์เชียงใหม่


พ.ศ.2088 ระหว่างรอการเสด็จมาของพระไชยเชษฐาอยู่นี้ บรรดาขุนนางได้เชิญมหาเทวีจิรประภาขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองเชียงใหม่ สันนิษฐานว่าขณะนั้นพระนางคงมีพระชนมายุราว 45 ชันษา

พ.ศ.2088 พระไชยราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยายกทัพมาตีเชียงใหม่ มหาเทวีเห็นว่าจะสู้ไม่ได้ จึงใช้ยุทธวิธีแต่งบรรณาการไปถวายและต้อนรับด้วยสัมพันธไมตรี โดยเชิญเสด็จพระไชยราชาประทับที่เวียงเจ็ดลิน (ปัจจุบันอยู่บริเวณสวนสาธารณะติดๆกับสวนสัตว์เชียงใหม่) ทำให้เชียงใหม่รอดพ้นจากภัยสงครามไปได้
ต่อมา ในปลายปี พ.ศ.2088 นั้นเอง กองทัพจากเมืองนายและเมืองยองห้วย (อยู่ในรัฐฉาน) ยกมาตีเชียงใหม่ มหาเทวีสั่งให้กองทัพเชียงใหม่สู้ศึกเต็มที่ ข้าศึกล้อมเชียงใหม่นานเดือนเศษ จึงล่าถอยไป

เนื่องจากในช่วงปีนี้มีข้าศึกยกทัพมาประชิดถึง 2 ครั้ง ทำให้มหาเทวีต้องขอกำลังจากล้านช้างให้มาช่วย ซึ่งกองทัพล้านช้างก็ได้ช่วยทำศึกอย่างเต็มความสามารถ โดยใน พ.ศ.2089 พระไชยราชาได้ยกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่และลำพูนอีกครั้ง มหาเทวีพยายามเจรจาขอเป็นไมตรี แต่ไม่สำเร็จ เมืองลำพูนถูกตีแตก ในขณะที่เมืองเชียงใหม่สามารถต้านทัพอยุธยาไว้ได้ กองทัพอยุธยาจึงล่าถอยไป
“ศึกครั้งนี้ พระไชยราชาโดนปืนยิงเดี้ยง กลับไปตายที่อยุธยา”

ปลายปี พ.ศ.2089 หลังศึกสงครามกับอยุธยา เมื่อพระไชยเชษฐาธิราชเสด็จมาถึงเชียงใหม่ มหาเทวีจิรประภา ในฐานะผู้รั้งเมือง จึงทรงสละราชสมบัติทันที และเมื่อพระไชยเชษฐาเสด็จกลับเพื่อไปครองล้านช้าง ในปี พ.ศ.2090 พระองค์หวังจะให้มหาเทวีรักษาเมืองอีกครั้ง แต่พระนางปฏิเสธ

ไม่ปรากฏในหลักฐานใดๆ ว่ามหาเทวีจิรประภาสิ้นพระชนม์เมื่อใด อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้ว่า แม้จะเป็นเวลาเพียงปีเศษ ที่พระนางได้ปกครองเมืองเชียงใหม่ แต่พระนางก็สามารถรักษาเมืองให้รอดพ้นจากภัยพิบัติได้ ทั้งนี้ก็พราะความรู้ความสามารถของพระนางนั่นเอง

อ้างอิง
พระรัตนปัญญาเถระ, ชินกาลมาลีปกรณ์.
ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่
สรัสวดี อ๋องสกุล, ประวัติศาสตร์ล้านนา. กรุงเทพฯ :อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์,2539
th.wikipedia.org
http://www.sri.cmu.ac.th/~maeyinglanna/main2/main3.php

...

เหตุการณ์ในดินแดนอื่นๆสมัยพระนางจิระประภา

พ.ศ.2088
จีน – เกิดภัยแล้งครั้งใหญ่ในสมัยราชวงศ์หมิง บริเวณมณฑลเหอหนาน

อเมริกาใต้ – มีการค้นพบแร่เงินจำนานมหาศาลที่เมือง Potosi อาณานิคมของสเปน (ปัจจุบันอยู่ในประเทศโบลิเวีย)

พ.ศ.2089
อังกฤษ – พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงสถาปนาวิทยาลัยทรินิตี้ (Trinity College) อันเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) และวิทยาลัย Christ Church อันเป็นส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด  (University of Oxford) วิทยาลัยทั้งสองแห่งสอนเกี่ยวกับเทววิทยา ปรัชญา และศาสนา

อิตาลี – "ไมเคิลแองเจโล" ออกแบบมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในวาติกัน และอาคารอื่นๆในกรุงโรม

อเมริกากลาง – กองทัพสเปนพิชิตคาบสมุทรยูคาตัน (ในเม็กซิโกปัจจุบัน)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 24 กันยายน 2009, 23:19:05
บทวิเคราะห์

ถ้ามาพิจารณาให้ดีเราจะเห็นได้ว่า ช่วงปลายสมัยราชวงศ์มังรายนั้นเกิดวิกฤติทางการเมือง กล่าวคือ กลุ่มขุนนางมีอำนาจเหนือกษัตริย์ โดยสามารถแต่งตั้งหรือปลดกษัตริย์ได้ตามควมพอใจของตน เรียกกันว่าขุนนางกลุ่มไหนมีอำนาจก็จะตั้งให้เชื้อพระวงศ์คนของตนขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่พออยู่ๆไป เกิดขัดผลประโยชน์กัน หรือกษัตริย์แข็งข้อ ก็จัดการปลงพระชนม์ แล้วตั้งหุ่นเชิดตัวใหม่เป็นกษัตริย์แทน

เอ่อ... นักการเมืองสมัยนี้ก็ยังมีวัฒนธรรมจาอี้อยู่เน้อ

อย่างกรณี พญาเกษเชษฐราช (พระราชบิดาพระนางจิระประภา) และท้าวทรายคำ (พระเชษฐา / อนุชา) ทั้งสองต่างถูกขุนนางปลงพระชนม์ ซึ่งก่อนขึ้นครองราชย์ ทั้งสองพระองค์เป็นเพียงเจ้าบ้านนอก ที่ครองเมืองเล็กๆในหุบเขาชายแดนอาณาจักร ไม่มีฐานทางการเมืองในเชียงใหม่ แต่บังเอิญถูกดึงตัวเข้ามาเป็นกษัตริย์ ซึ่งแน่นอน กลุ่มขุนนางที่ดึงตัวมา ก็ย่อมมีอำนาจเหนือกษัตริย์ พอภายหลังตอบสนองความต้องการของเหล่าขุนนางไม่ได้ ขุนนางก็อ้างว่าไม่อยู่ในทศพิศราชธรรมบ้างล่ะ ทรงวิกลจริตบ้างล่ะ แล้วจัดการปลงพระชนม์ซะเลย
พระนางจิระประภาตระหนักถึงสถานการณ์ทางการเมืองในอาณาจักรล้านนาดี ไหนจะศึกใน แล้วยังจะมีศึกอีก โดยเฉพาะอยุธยา ดังนั้นเราจึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นพระนางยอมประณีประนอมกับพระไชยราชา ในคราวที่อยุธยายกทัพมาตีเชียงใหม่
(เราจะเห็นฉากนี้ในหนังเรื่อง สุริXXX ที่พระเจ้าพงพัด เจอกับราชินีเพ็นเพ็ด)

นักวิเคราะห์การเมืองเชื่อว่า การที่พระนางจิระประภาได้ขึ้นครองราชย์นั้นทรงเป็นเพียงผู้นำขัดตาทัพเท่านั้น เพื่อรอ “พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช” จากล้านช้าง ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากขุนนางเชียงใหม่กลุ่มนิยมล้านช้าง ซึ่งขณะนั้นมีบทบาทโดดเด่นกว่ากลุ่มอื่นๆ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: SupakaN ที่ วันที่ 25 กันยายน 2009, 10:10:37
ขอบคุณมากคับที่นำมาเล่าเป็นวิทยาทานผมชอบและรู้สึกภูมิใจ๋ขนาดเลย แล้วก็เจ้าของกระทู้นี้ก็สุดยอดหนาคับผม นับถือ  ;D


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: คำปันเกย ที่ วันที่ 28 กันยายน 2009, 18:58:01
เข้ามาอ่านแล้ว

ขอบคุณ คุณเชียงรายพันธ์แท้


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Lavieenrosecri ที่ วันที่ 03 ตุลาคม 2009, 15:15:53
นับถือๆ คุณเชียงรายพันธุ์แท้จริงๆ มีความรู้มาให้ศึกษาได้ตลอด


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: อิสรชน ที่ วันที่ 04 ตุลาคม 2009, 23:56:18
ขอบคุณครับ ขอคุณมากๆเลย เรื่องประวัติศาสตร์ ไทย และล้านนาเฮานี่มันตึงน่าค้นหาขนาดเลยเน๊อะครับ   ..........  ผมชอบคับ .........


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Big easy ที่ วันที่ 27 ตุลาคม 2009, 11:03:09
ขอบคุณมากครับที่ มีความรู้ดีๆ มากบอกเล่า


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 27 ตุลาคม 2009, 13:15:29
และจะมีใครทราบบ้างมั้ยครับ ว่าในราชวงค์มังรายนี้ ยังมีพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่และแผ่ขยายอาณาจักรล้านนาออกไปให้กว้างใหญ่ไพศาล ไปจรดเมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา และเมืองเชียงชื่นสุโขทัย และทำสงครามกับ พระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา อย่างขับเคี่ยวสูสี จนสุดท้ายฝ่ายโน้นก็คิดเองเออเองว่า ฝ่ายล้านนาแพ้  พระมหากษัตริย์พระองค์นั้นก็คือ "พระเจ้าติโลกราช" ยังไงล่ะครับ ขนาดจอมจักรพรรดิ์จีนแห่งราชวงค์หมิงยัง ทรงยกย่องพระเจ้าติโลกราชเป็นจอมจักรพรรดิ์ผู้พิชิตแห่งทิศตะวันตก แต่ประวัติศาสตร์สมัยนี้ ไม่ได้กล่าวถึงพระองค์ไว้เลย กล่าวถึงแต่พญามังรายซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์มังรายเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ผมถามเพื่อนผมที่โตมาด้วยกัน ว่ารู้จักพระเจ้าติโลกราชรึเปล่า มันตอบว่ายังไงรู้มั้ยครับ มันย้อนถามผมว่า"มีด้วยเหรอ กษัตริย์เชียงใหม่พระองค์นี้ ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลย" ได้ยินแบบนี้ แป่วววววว เลยครับ เหอๆๆๆ แต่ไม่รู็ว่าเด็กสมัยนี้จะรู้จักมั้ยนะครับ 5555555

กึ๊ดแล้วอดไค่หัวบ่าได้ 5555555


ปล: เสริมแห๋มน้อย ทีประวัติศาสตร์ชาติสยามนี้ เอามาแป๋ง หนัง แป๋งเอา แป๋งเอา แต่ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของทุกภาคนี้ บ่ค่อยจะมีเลย เข็ดแต๊เฮา


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: koon5201 ที่ วันที่ 29 ตุลาคม 2009, 13:43:15
เคยได้ยินว่าพญามังราย ทรงสังหารลูกในใส้ ของตนเอง ไม่ขุนเครือ ก็ ขุนครามนี่แหละ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 29 ตุลาคม 2009, 21:39:30
เคยได้ยินว่าพญามังราย ทรงสังหารลูกในใส้ ของตนเอง ไม่ขุนเครือ ก็ ขุนครามนี่แหละ

พญามังรายส่งอ้ายเผียนไปลอบสังหาร "ขุนเครื่อง" โอรสองค์โตครับ เนื่องจากขุนเครื่องทรงเชื่อคำยุยงของขุนไสเรียง ที่ให้คิดก่อกบฏต่อพระราชบิดา

"ขุนคราม" โอรสองค์รอง ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์มังราย พระนามว่า พญาไชยสงคราม

ส่วน "ขุนเครือ" ได้ปกครองเมืองนายในรัฐฉาน ต่อมาก่อกบฏในสมัยพญาไชยสงคราม จึงถูกจับขังไว้จนสิ้นพระชนม์ที่เชียงใหม่ ปัจจุบันคือบริเวณแจ่งกู่เฮือง-สวนบวกหาด เมืองเชียงใหม่


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ขวดแก้ว ที่ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2009, 22:45:27
จาวล้านนามีภาษาพูดอ่านเขียน
ที่เป็นของเราเอง
น่าจะเป็นประเทศของเราเลย
ขนบธรรมเนียมประเพณีประวัติศาสตร์ของเราก็มี
เรามีเอกลักษณ์เป็นของเรา
ตอนนี้ภาษาล้านนาคนสมัยนี้ไม่รู้เลยว่าเขียนอ่านอย่างไร
ภาษาพูดก็กะลังจะหายไปสักวันละก้า


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2009, 11:00:03
(http://upload.siamza.com/file_upload/modify/131109/399344.jpg) (http://upload.siamza.com/showpic.php?id=399344)
พิมพ์ผิดกะขอสูมาเต๊อะ อายุปอจะ 30 แล้ว ก้าหามาหัดอ่านหัดเขียนเมื่อลูนนิ



หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: warriors ที่ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2009, 15:10:05
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมพระปรีชาของพระเจ้าติโลกราช มหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แถมองค์หนึ่ง นับจากพญามังราย
จริงๆ แล้วผมกะว่าจะเขียนเรื่องของพระเจ้าติโลกราชก่อน (เรื่อง ราชาผู้พิชิตแห่งปัจจิม)
กะจะหื้อทันงานชาตกาล 600 ปี เพราะข้อมูลตัวละครต่างๆ พร้อมหมดแล้ว
แต่บ่มีเวลาเขียน และคิดว่าคงบ่ทัน
ก็เลยยกไปเป็น ลานนา ภาค ราชาผู้พิชิตแห่งปัจจิม
สาเหตุที่มาเขียนเรื่อง ลานนา ภาค ปฐมบทก่อน เพราะว่าผู้อ่านจะได้ติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องครับ
และผู้เขียนก็จะได้บ่หลงทาง อิอิ

แวะมาแอ่วกระทู้ ท่านเชียงรายพันธุ์แท้ครับ  :D :D


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2009, 09:46:29
ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมพระปรีชาของพระเจ้าติโลกราช มหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แถมองค์หนึ่ง นับจากพญามังราย
จริงๆ แล้วผมกะว่าจะเขียนเรื่องของพระเจ้าติโลกราชก่อน (เรื่อง ราชาผู้พิชิตแห่งปัจจิม)
กะจะหื้อทันงานชาตกาล 600 ปี เพราะข้อมูลตัวละครต่างๆ พร้อมหมดแล้ว
แต่บ่มีเวลาเขียน และคิดว่าคงบ่ทัน
ก็เลยยกไปเป็น ลานนา ภาค ราชาผู้พิชิตแห่งปัจจิม
สาเหตุที่มาเขียนเรื่อง ลานนา ภาค ปฐมบทก่อน เพราะว่าผู้อ่านจะได้ติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องครับ
และผู้เขียนก็จะได้บ่หลงทาง อิอิ

แวะมาแอ่วกระทู้ ท่านเชียงรายพันธุ์แท้ครับ  :D :D


จริงๆแล้วพระราชประวัติของพระเจ้าติโลกราช นั้น ถ้าคิดจะเอามาทำเป็นภาพยนต์อิงประวัติศาสตร์ ก็ยังได้เลยนะครับ เหมือนเรื่อง ตำนานสมเด็จฯ ของ คนไทยใต้(กทม.)นั่นปะไร
   
  คนไทยใต้เอง สมัยนี้ก็คงมองพระมหากษัตริย์ของ ล้านนาว่าเป็นแค่ เจ้าครองแคว้นเล็กๆเท่านั้น ไม่ได้เห็นความสำคัญอะไรมากมาย  แถม ยังพาล เข้าใจผิด คิดว่า คำว่า "พญา" ที่ใช้เรียกพระมหากษัตริย์ของเรานั้น มียศเพียงแค่ "พระยา" หรือ เจ้าเมือง อะไรทำนองนั้น ทั้งที่สมัยนั้นอาณาจักรล้านนา ได้ขยายออกไปกว้างไกลถึงไหนแล้วไม่รู้ สมมุติว่า ถ้าเรา ยังมีอำนาจเหนือพม่าและยังเป็นใหญ่ใน ภูมิภาคตะวันตก มาจนถึงทุกวันนี้ ผมว่า ล้านนา คงจะเป็นประเทศหนึ่งที่เทียบเท่า เมืองใต้แน่นอน (ฝันลมๆแล้งๆไปอย่างนั้นแหละ)

   เรื่องราวของพระเจ้าติโลกราช ถ้าใครได้อ่าน แล้วจะรู้ว่า ค่อนข้างที่จะโลดโผน และ น่าทึ่ง ในพระปรีชาสามารถของพระองค์เป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องการได้รับการยกย่องจากฮ่องเต้ราชวงค์หมิงให้เป็นราชันย์ผู้พิชิตแห่งตะวันตก หรือแม้กระทั่ง การจัดทำสังคายณาพระไตรปิฎก เป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ เห็นมั้ยว่า พระปรีชาสามารถของพระองค์ไม่แพ้ กษัตริย์ของเมืองใต้เลย(อาจจะมากกว่า) แถมถ้าเอามาสร้างหนังจริง ก็ยังผูกเรื่องเข้าหากันได้ด้วย เพราะ ในตำนาน ในช่วงยี่สิบกว่าปี ก็ทำสงครามกับ เมืองใต้ ตลอด แต่สุดท้ายมาก็ มาเป็นไมตรีกัน ถ้ามาทำเป็นหนังฟอร์มยักษ์ก็ไม่น่าจะกระทบกระเทือนคนไทยทั้งสองภาค ทั้ง ล้านนาเรา และเมืองใต้   ผมว่า ให้คุณวาริเออ เขียนบท แล้วส่งไปให้ท่านมุ้ย ท่าจะดีนะครับ อะฮ้าาา   


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: warriors ที่ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2009, 19:39:23
เรื่องราวความเป็นล้านนานั้น สำหรับผมแล้วย่อมมีความภาคภูมิใจอยู่ในสายเลือดครับความฝันของผมก็ เหมือนอย่างที่คุณเมื่อน้อยฯ อยากให้เรื่องราวล้านนาได้ทำเป็นภาพยนตร์นั่นแหละครับ อิอิ คิดอยากทำหนังเกี่ยวกับล้านนาครับ ซึ่งก็ไม่ย่อท้อ จึงเริ่มต้นจากการเขียนนิยายก่อนครับ อนาคตจะก้าวไปอย่างไร ก็เป็นความฝันที่กำลังเริ่มทำไปด้วยครับ อิอิ แต่แง้มๆ ว่า เป็นไปได้มากครับที่จะมีโอกาสได้เห็น
  :D :D :D


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: lannaboy ที่ วันที่ 31 ธันวาคม 2009, 05:22:31
ขอบคุณจาดนักครับ สำหรับความรู้ที่ให้มา


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: salao ที่ วันที่ 09 มกราคม 2010, 09:44:46
พญาติโลกราชนั้นล้มพระราชบิดาขึ้นเป็นกษัตริย์
เพราะตัวพระองค์ไม่ใช่โอรสในลำดับสืบทอดราชบัลลังก์
แน่นอนว่าก็ต้องล้มพระเชษฐาองค์อื่นด้วย
เรียกว่าปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ก็คงพอได้

พระองค์ทรงเชี่ยวชาญการรบ
ทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา
ได้ทรงเป็นเจ้าภาพสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก ที่วัดเจ็ดยอด เชียงใหม่
และได้เป็นผู้บูรณะพระเจ้าทองทิพย์องค์ใหญ่ ที่เมืองน่านด้วย
แต่ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้นเอง
จึงพ่ายต่อกลของไส้ศึกอยุธยา แต่ปลอมมาเป็นพระธุดงค์
ถึงขนาดยอมโค่นต้นนิโคธ ที่เป็นศรีเมืองลงไป(ตามผังจักรวาล ที่มีวัดเจดีย์หลวงเป็นศูนย์กลาง)
และเมื่อรู้ความจริงก็เสียพระทัยมาก เหตุการณ์หลังจากนั้นทิ้งให้ผู้สนใจลองหาข้อมูล..
พระบรมอัฐิของพญาติโลกราช ตอนนี้ก็อยู่ที่วัดเจ็ดยอด เชียงใหม่นั้นเอง

ส่วนเรื่องพระไชยเชษฐาธิราชที่มีการกล่าวถึง
ลองแกะดูดีๆ นะครับ อาจมีข้อมูลที่บิดเบือนไป
พระไชยเชษฐาธิราชนี้เอง ที่นำเอาพระแก้วมรกต พระแก้วขาว พระพุทธแซกคำ และองค์อื่นๆ ไปล้านช้าง
ซึ่งขณะนั้นเมืองหลวงยังตั้งอยู่ที่หลวงพระบาง
ก่อนจะย้ายเมืองหนีบุเรงนองไปเวียงจันทน์
และมาถูกสยามยึดได้สมัยพระเจ้าตาก โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก(ร.1)
ร.1 ก็ไปเอาพระมาหลายองค์ รวมถึงพระแก้วมรกต พระแก้วขาว และพระบาง
พระแก้วขาวก็ส่งคืนเชียงใหม่(ตอนนี้อยู่ที่วัดเชียงมั่น)
พระบางส่งคืนล้านช้าง หรือลาว(ด้วยความเชื่อว่าเป็นอริกับพระแก้วมรกต ตามกุศโลบายที่ขุนนางลาวเพ็จทูล)

เอาเท่านี้ก่อนครับ ไว้สนทนากันต่อเมื่อมีประเด็นอื่นๆ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: salao ที่ วันที่ 09 มกราคม 2010, 09:48:38
ป.ล.ที่มีเรียกว่า "พระเจ้า" นำห้าชื่อ
ก็เกิดจากความเชื่อเรื่องศาสนาเหมือนกันครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 09 มกราคม 2010, 10:53:40
คำว่า พระเจ้า เพิ่งมีการเรียกขาน นำหน้าชื่อของพญาติโลกราชเมื่อครั้ง ที่ พระยายุธิษฐิระ เจ้าเมืองพิษณุโลก มาขอสวามิภักดิ์  ต่อพระองค์ และต้องการยกระดับพระองค์ให้เทียบเท่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ หรือให้เป็นสมมุติเทพ อะไรไปโน่น  (จริงๆแล้ว คำว่าพญา ก็มีความหมาย ยิ่งใหญ่ในตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็น พระเจ้า หรอก จริงมั้ยครับ)



หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: salao ที่ วันที่ 09 มกราคม 2010, 23:27:21
ใช่ครับ เลียนแบบพระบรมไตรโลกนาถ สู้กันทุกทาง
สุดท้ายแพ้ภัยเรื่องไส้ศึกอย่างที่บอก


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: jaroen ที่ วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2010, 15:59:12
เมื่อเป็นละอ่อนน้อย แม่อุ้ยเคยบอกว่า "เฮานี้หนา สืบเจื้อจาก พญาพรหมเน้อ เมื่ออุ้ยเป็นละอ่อน เฮามีจ้าง 40 ตัว มีคนงานเป็น ขมุ มาขี่จ้างฮื้อ "  ส่วนตัวผมก็ไม่เคย ค้นหาว่ามันเป็นจริงหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ศิษย์ครูดุ๋ย (ภูซาง) ที่ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2010, 16:06:51


ขอบคุณมากๆๆเลยครับได้ความรู้มากมาย

กับราชวงส์เมืองเชียงราย แฟนจริงๆๆๆ




สิบเฮือก๊า   บ่เต้านาแจ่งเดียว


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: QingGE ที่ วันที่ 06 มีนาคม 2010, 23:21:59
ขอสอบถามท่านผู้รู้เป็นความรู้เพิ่มเติมครับ

ว่าทำไมเรียกพระยากาวิละว่า พระเจ้ากาวิละ ไม่เรียกว่าพระยา กาวิละ ครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: thepho ที่ วันที่ 08 มีนาคม 2010, 23:49:09
ขอคุณด้วยใจสำหรับทุกๆข้อมูลแบ่งปันกันมานะคับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 10 มีนาคม 2010, 13:51:50
ขอสอบถามท่านผู้รู้เป็นความรู้เพิ่มเติมครับ

ว่าทำไมเรียกพระยากาวิละว่า พระเจ้ากาวิละ ไม่เรียกว่าพระยา กาวิละ ครับ

คำว่าพญา ในภาษาล้านนา หมายถึงกษัตริย์ครับ ไม่ใช่พระยา ซึ่งหมายถึงขุนนางใน ภาษาไทยสยาม และ พญากาวิละก็มีศักดิ์เป็นพระมหากษัตริย์ของล้านนา ครับ(คนไทยสยาม มักจะตีความหมายของคำว่า พญา  ซึ่งแปลว่ากษัตริย์ ไปเป็น พระยา ซึ่งหมายถึงขุนนางในไทยสยามซะเป็นส่วนใหญ่ และมองว่าพระมหากษัตริย์ของล้านนาทุกพระองค์ที่ มีคำเรียกขานนำหน้าว่า พญา ไปเป็นพระยา ซึ่งมียศน้อยกว่ากษัตริย์ไทยสยาม ซะอย่างนั้น) และคำว่าพระเ้จ้า จริงๆแล้ว เป็นภาษาไทยสยามครับ ก็หมายถึง พระมหากษัตริย์นั้นแหละ พระนามเต็มของพระเจ้ากาวิละที่ กษัตริย์ของ สยามในขณะนั้นทรงพระราชทานให้ก็คือ ก็คือ

“พระบรมราชาธิบดีศรีสุริยวงศ์องค์อินทรสุรศักดิ์ สมญามหาขัตติยราชชาติราชาไชยสวรรย์เจ้าขัณฑสีมาพระนครเชียงใหม่ราชธานี"  เป็นพระเจ้ากาวิละ ปกครองล้านนา และ 57 หัวเมือง ในฐานะเมืองประเทศราช ของสยาม

ก็หมายความว่า สมัยนั้น ล้านนามีฐานะเป็นประเทศๆหนึ่งครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 11 มีนาคม 2010, 11:09:06
[wma=300,50]http://dc185.4shared.com/img/217572302/57b2ecdb/dlink__2Fdownload_2F217572302_2F57b2ecdb_3Ftsid_3D20100310-232109-de5b09b9/preview.mp3[/wma]

ขอสดุดีพระบรมราชาธิบดีศรีสุริยวงค์องค์อินทรสุรศักดิ์สมญา มหาขัติยราช ชาติราชาไชยสวรรค์เจ้าขัณฑสีมาพระนครเชียงใหม่ ราชธานี

ฟ้าปิด เดือนดาวมืดมิด คืนนี้จะพิชิตเมืองเชียงใหม่ โป่หัวขาวก้าวร้าว ราวีบ่าวไพร่จะขับไล่ฟื้นม่านให้หมดเมือง

สมทบทัพจากกรุงธน พยุตรายกพลจากลำปางมุ่งเชียงใหม่ มาด้วยใจทำลายล้าง จะขออ้างศักดิ์ศรีแผ่นดินไทย (พระเจ้ากาวิละ)

        ฟื้นม่านขับไล่มันออกไป พวกจัญไรข่มเหงคนล้านนา เจ้ากาวิละผู้กล้า ช่วยพระบิดากลับคืน ฟื้นแผ่นดินที่เคยขมขื่นให้กลับชุ่มชื่น ทั้งชุ่มและเย็น

ฟ้าสูงแผ่นดินย่อมต่ำ กรีฑาทัพกระหน่ำพวกศัตรู หนีล่าถอยพวกคนถ่อยหลบลงรู จักได้รู้ผู้กล้าแห่งล้านนา (พระเจ้ากาวิละ)

      พ.ศ.2352 เจ้ากาวิละครองเชียงใหม่ องค์ยอดฟ้าจุฬาโลกครองไทย เจ้ายิ่งใหญ่เจ็ดตนของคนเมือง จะเก็บผักเอาใส่ซ้า จะเก็บเอาขี้ข้าไปใส่เมืองจะปลูกบ้านสร้างล้านนาให้รุ่งเรือง ให้ลือเลื่องสมนามนครพิงค์ (พระเจ้ากาวิละ)

              เป็นบุญบารมีพ่อเมืองชื่อลือเลื่องเมืองแห่งศรัทธา เจ้ากาวิละผู้กล้า ฟื้นฟูล้านนาให้มั่นคง จงรักภักดีเสริมส่ง ให้ไทยยืนยง เทิดองค์จักรี

 

  บุญคุณเจ้ากาวิละ ขอน้อมคารวะดวงวิญญาณ กราบบูชาเจ้าผู้กล้าเป็นตำนาน ขอองค์ท่านคุ้มครองตลอดไป (พระเจ้ากาวิละ)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: หลานอุ้ยเกี๋ยง ที่ วันที่ 11 มีนาคม 2010, 11:44:44
ขอสอบถามหน่อยครับ  ว่า สมัยประมาณ เกือบสองร้อยปีที่แล้ว  กบฏเงี้ยวมาปล้นทางเหนือ  ผมไปอ่านประวัติที่พะเยามา  ทางอำเภอเมืองพะเยา(ตอนนั้นได้รับฐานะเป้นอำเภอเมืองพยาว) ได้ไปร้องขอทหารมาช่วยปราบกบถ(พิมผิดขออภัยครับ) ทหารเลยส่งทัพมาช่วย แต่ ร้อยโท อะไรๆ เยวเซ่นนี่แหละ ถูกลอบยิงเสียชีวิตที่บ้านแม่กา (ที่เป็นอนุสรณ์สถานให้)ข้างถนนพหลโยธินก่อนถึง มน.  แต่ทหารก็ปราบกบถจนสิ้น หัวหน้ากบถเงี้ยวได้รับการประหาร   เสื้อที่ใส่ตอนประหารยังโชว์ในตู้เลย  แบบสวยมาก....
หลังจากกบถหายไปแล้ว ชาวบ้านยังกลัว เลยไปช่วยกันขนเอาก้อนอิซจากกำแพงเมืองร้างและวัดร้างมาล้อมไว้ตามชุมชนเมืองของตน ตอนนี้ยังมีร่องรอยอยู่บ้าง  ผมอยู่ในพระตำหนักกว๊านพะเยา  ประมาณปีก่อน มีการขุดลอกบ่อ แต่เจอแนวกำแพง เลยหยุดไป จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาตรวจสอบ   แต่ก่อนบ้านพ่อตา แม่ยายผม ขุดบ่อปลาใกล้ๆที่นั่นแหละยังเจอเศษถ้วยเศษไหเก่า
อยากทราบว่าช่วงเวลานั้น เชียงรายมีสถานการ์โดนปล้นจากเงี้ยวบ้างไหมครับ เวลาไม่ค่อยนานแต่ร้อยสองร้อยปี ก็หลายอายุคนเหมือนกันครับ  อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านเรา แต่ไม่มีที่ไหนเปิดเลย  ผมเรียนอยู่วิทยาลัยเชียงราย  อย่าให้พูดถึงสถาบันนี้เลยครับ อิอิ  ใครสงสัย pm มาละกัน 


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 13 มีนาคม 2010, 22:22:04
ขอสอบถามหน่อยครับ  ว่า สมัยประมาณ เกือบสองร้อยปีที่แล้ว  กบฏเงี้ยวมาปล้นทางเหนือ  ผมไปอ่านประวัติที่พะเยามา  ทางอำเภอเมืองพะเยา(ตอนนั้นได้รับฐานะเป้นอำเภอเมืองพยาว) ได้ไปร้องขอทหารมาช่วยปราบกบถ(พิมผิดขออภัยครับ) ทหารเลยส่งทัพมาช่วย แต่ ร้อยโท อะไรๆ เยวเซ่นนี่แหละ ถูกลอบยิงเสียชีวิตที่บ้านแม่กา (ที่เป็นอนุสรณ์สถานให้)ข้างถนนพหลโยธินก่อนถึง มน.  แต่ทหารก็ปราบกบถจนสิ้น หัวหน้ากบถเงี้ยวได้รับการประหาร   เสื้อที่ใส่ตอนประหารยังโชว์ในตู้เลย  แบบสวยมาก....
หลังจากกบถหายไปแล้ว ชาวบ้านยังกลัว เลยไปช่วยกันขนเอาก้อนอิซจากกำแพงเมืองร้างและวัดร้างมาล้อมไว้ตามชุมชนเมืองของตน ตอนนี้ยังมีร่องรอยอยู่บ้าง  ผมอยู่ในพระตำหนักกว๊านพะเยา  ประมาณปีก่อน มีการขุดลอกบ่อ แต่เจอแนวกำแพง เลยหยุดไป จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาตรวจสอบ   แต่ก่อนบ้านพ่อตา แม่ยายผม ขุดบ่อปลาใกล้ๆที่นั่นแหละยังเจอเศษถ้วยเศษไหเก่า
อยากทราบว่าช่วงเวลานั้น เชียงรายมีสถานการ์โดนปล้นจากเงี้ยวบ้างไหมครับ เวลาไม่ค่อยนานแต่ร้อยสองร้อยปี ก็หลายอายุคนเหมือนกันครับ  อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านเรา แต่ไม่มีที่ไหนเปิดเลย  ผมเรียนอยู่วิทยาลัยเชียงราย  อย่าให้พูดถึงสถาบันนี้เลยครับ อิอิ  ใครสงสัย pm มาละกัน 


ร้อยเอก เอช. มาร์ก เยนเซ่น ชาวเดนมาร์ก เดินทางเข้ามาเป็นครูฝึกตำรวจที่เมืองแพร่
ถูกเงี้ยวลอบสังหารที่เมืองพะเยา ในช่วงเหตุการณ์กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ พ.ศ.2445 (ร้อยกว่าปีก่อน)
ในเหตุการณ์นี้ เจ้านายบุตรหลายเมืองแพร่บางส่วนให้การสนับสนุนกบฏ
เนื่องจากไม่พอใจนโยบายลิดรอนอำนาจของสยาม ทำให้ผู้ปกครองชาวล้านนาสูญเสียผลประโยชน์
เมื่อกองทัพจากมณฑลนครสวรรค์และมณฑลพิษณุโลกยกขึ้นมาปราบปรามกบฏเงี้ยว
เจ้านายเมืองแพร่คนสำคัญ เช่น เจ้าพิริยะเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแพร่ ได้ลี้ภัยไปอยู่หลวงพระบาง
ทำให้ไม่มีนามสกุล "ณ แพร่" มาจนถึงปัจจุบัน
(ไม่นานมานี้ มีคนเขียนประวัติศาสตร์แก้ อ้างว่าเจ้าหลวงแพร่ ไม่ได้ช่วยเหลือกบฏ
เท็จจริงอย่างไร ลองเซิร์จได้ใน google)

กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ในปี พ.ศ.2445 แล้ว กองกำลังเงี้ยว (มีคนล้านนาร่วมด้วย)
ได้บุกปล้นเมืองแพร่ สังหารชาวสยามไป 20 กว่าคน แต่จะไม่สังหารคนล้านนา
นอกจากนั้นยังบุกเมืองลำปาง รวมทั้งเมืองพะเยา อีกด้วย
แต่สุดท้ายก็โดนกองทัพจากสยามยกขึ้นมาปราบ

นอกจาก กบฏเงี้ยวเมืองแพร่แล้ว
พ.ศ.2448 ก็มีกบฏเงี้ยวเกิดขึ้นที่ เชียงแสน แม่จัน เชียงราย ด้วยนะ
ที่แม่จัน ที่ว่าการอำเภอกับสถานีตำรวจโดนเผา
ที่เชียงราย เงี้ยวในเวียงให้ความช่วยเหลือพวกกบฏ
เงี้ยวในเวียงที่ว่าคงเป็นชาวบ้านแถวๆสันป่าก่อ และแถบวัดมิ่งเมือง (วัดเงี้ยว)

ถ้าอยากรู้ประวัติศาสตร์ล้านนาก็ไปหาหนังสืออ่านได้ครับ สมัยนี้มีเยอะแยะ เลือกเล่มดีๆหน่อยละกัน
ในอินเทอร์เน๊ตก็มีข้อมูลเยอะแยะ ลองหาอ่านดูครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: nutjunior ที่ วันที่ 14 มีนาคม 2010, 15:48:18
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: หลานอุ้ยเกี๋ยง ที่ วันที่ 14 มีนาคม 2010, 20:53:48
โห.....สุดยอดครับ  ผมจะไปหาหนังสือมาอ่านมั่ง  เหนือเราน่าจะมีสักจังหวัดนำร่องแต่งชุดเมืองหมดเลยน่อครับ  ท่าจะงามทั้งเมือง  เบื่อแล้วพวก สายเดี่ยวเกาะอก


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: MagicalMaeLao ที่ วันที่ 14 เมษายน 2010, 11:40:09
เป็นที่น่ายินดีที่ได้รู้เกร็ดประวัติศาสตร์ชาวลานนาและชาติพันธุ์อื่นๆ ทำให้พอจะเข้าใจความเกี่ยวพันนอกเหนือจากวิชาประวัติศาสตร์ของกระทรวงศึกษาที่เดียวและมีมุมมองเดียวเท่านั้น

เคยไปที่พิพิธภัณฑ์อูบคำกับเพื่อนต่างชาติแล้วต่างประทับใจที่ยังมีผู้เห็นคุณค่าและการเก็บรักษารวบรวมวัตถุโบราณ ข้าวของเครื่องใช้ วิถีความเป็นอยู่ของชาวลานนาและ พ.ท.ใกล้เคียง ได้จำนวนมากขนาดนี้
 
เคยมีโอกาสไปประเทศเพื่อนบ้าน ก็แลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องประวัติบ้างนิดๆหน่อยๆทำให้รู้ว่า ข้อมูลบ้านเขากับบ้านเราไม่ค่อยตรงกัน แต่อย่างว่า ต่างคนก็ต่างเขียนประวัติเข้าข้างตนเอง

เท่าที่ทราบ ข้อมูลจากทางจีนมีการจดบันทึกจากหลายสำนัก และจัดเก็บเป็นเรื่องเป็นราว และยังมีข้อมูลอีกจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคนี้ ที่ยังไม่ได้ทำการแปล(จากภาษาจีนโบราณ)ให้ได้ศึกษากัน ถึงตอนนั้นคงได้รู้อะไรดีๆอีกเยอะ.. เสียดาย..ไม่มีความรู้ภาษาจีน

ขอบคุณท่านผู้้รู้ทั้งหลายที่ได้เปิดประตูให้ความกระจ่างและจะคอยติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: AIT ที่ วันที่ 25 เมษายน 2010, 03:02:08
ความรู้ทั้งนั้นเลย


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เมล็ดพันธุ์แห่งขุนเขา ที่ วันที่ 30 เมษายน 2010, 12:33:28
เป็นความรู้ที่ยอดเลยครับขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกัน


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: K!@tt!s@k ที่ วันที่ 14 พฤษภาคม 2010, 09:56:27
ความฮู้ แต้ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: |3lacl<ing~Cr ที่ วันที่ 15 พฤษภาคม 2010, 08:59:33
 :o   ความรู้จริงๆ อยู่เชียงราย ไม่เคยรู้มาก่อน

มี ไสยแพนด้าเข้าตีเมือง ก่อครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: kwang ที่ วันที่ 19 พฤษภาคม 2010, 14:11:20
ขอบคุณครับ   


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: AEK13@กว่างกรุง ที่ วันที่ 25 พฤษภาคม 2010, 13:52:39
คุณเชียงรายพันธ์แท้ครับ ผมขออนุญาตินำไปเผยแพร่ใน เวปบอร์ดของ กว่างกรุง (ชาวเหนือใน กทม)
ได้ก่อครับ  ;D
http://kwangkrung.com/forum/index.php


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Dorminic ที่ วันที่ 27 พฤษภาคม 2010, 13:25:22
แน่นโท๊ะ   ;D


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: zxcvbnm,./ ที่ วันที่ 07 มิถุนายน 2010, 08:27:27
โอวสุดยอดไม่เคยรู้มาก่อนดีๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: marlzavito ที่ วันที่ 09 มิถุนายน 2010, 01:19:36
ขอขัดจังหวะด้วยการเล่าเรื่องล้านนาแบบนอกตำราโดยสังเขป
หลังจากที่ร่ำเรียนในตำรา กระแสหลักมาพอสมควร
จึงได้ตั้งหลักขวนขวายหาความรู้ด้วยตนเอง
จึงได้รู้ว่าประวัติศาสตร์ที่เราสอนกันมานั้นมันเข้าข้างตัวเองกันทุกเล่ม
เอาเป็นว่าประวัติศาสตร์ฉบับบนี้ก็ฟังหูไว้หูนะพี่น้อง

เมื่อหลายพันปีก่อนนั้นกลุ่มชาติพันธุ์ของคนไทยเราเจริญอยู่ทางตอนใต้ของจีน
เราเรียกตัวเราเองว่าคน ไต ได้ตั้งรกรากสร้างอาณาจักรใหญ่โตก่อนที่คนจีนจะอพยพมาจากทะเลสาบแคสเปี้ยนเสียอีก หากเราสืบค้นดูในพงศาวดารจีน จะกล่าวถึงอาณาจักรของพวก ล่าว หรืออาณาจักรอ้ายลาว (ลาวหรือล่าวเป็นชื่อของบรรพบุรุษเราที่คนจีนเค้าเรียกครับเดี๋ยวนี้เอามาพูดเล่นกันสนุกปาก) บางพวกก็เรียกคนไตเราว่าพวกเสียม หรือสยาม (สยามมีมาหลายพันปีแล้วครับพี่น้องอย่าให้ใครเค้ามาหลอกเราว่าสยามมันพึ่งเกิดแม้แต่รัฐฉานหรือที่เค้าออกเสียงว่า ชาน น่ะ มาจากคำว่าสามหรือสยามนั่นแหละ) ภายหลังคนไตเราอพยพโยกย้ายถิ่นฐานลงมาตามลำน้ำ ที่สำคัญคือแม่น้ำโขงแล้วก็ค่อย ๆ สร้างบ้านแปงเมืองกันขึ้นมา ช่วงไหนที่อาณาจักรใดรุ่งเรืองก็กลายเป็นศูนย์กลาง ดังเช่นเมืองสุวรรณโคมคำ เมืองหริภุญไชย เป็นต้น ในตอนหลังพญามังรายของเรานั้นท่านก็ได้รวบรวมหัวเมืองทั้งหลายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรียกว่าอาณาจักรล้านนาครับ ส่วนในเรื่องที่ถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับสุโขทัยกับล้านนาใครเก่าแก่กว่ากัน สรุปว่า เก่าเท่า ๆ กันครับ สุโขทัยเป็นเมืองร่วมสมัยกับล้านนา และพะเยา พญาเมืองทั้งสามท่านเป็นเพื่อนรักกันครับ สองไปดูอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ที่เชียงใหม่เอาเน่อ แล้วถ้าใครเคยไปเที่ยวสุโขทัยจะแปลกใจว่า คนสุโขทัยโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่อู้กำเมืองเหมือนเราครับ ประเพณีหลาย ๆ อย่างของเรากับสุโขทัยก็เหมือนกัน ภาษาไทยภาคกลางที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีที่มาจากภาษาล้านนานะครับ ใครเข้าใจผิดว่าภาษาเหนือ ภาษาอีสานเป็นภาษาถิ่นที่เพี้ยนมาจากภาษากลาง เปลี่ยนความคิดนะครับท่าน พ่อขุนรามคำแหงท่านนำตัวอักษรล้านนาไปดัดแปลงและพัฒนาเป็นลายสือไทยนะครับ ต่อไปนี้อู้กำเมืองบ่าต้องอายไผครับ ภาษาเราเก่าแก่มีมาหลายพันปีครับ ทางสิบสองปันนา ยูนนาน เค้าก็ยังพูดภาษาไตเราครับ คืออู้เมือง ใครไปเที่ยวไม่ต้องกลัวครับคุยรู้เรื่อง ส่วนเรื่องของรัฐฉาน เชียงตุง หรือตระกูลเจ้านายทางเหนือที่อยู่นอกเขตประเทศไทยในปัจจุบันเรามาว่ากันอีกทีถ้ามีประเด็นนะครับ วันนี้เมื่อยละ อยากให้คนเมืองฮักกำเมืองเน้อคับเน้อ

(ฮู้กันก่อว่าทำไมคนเหนือถึงเรียกตัวเองว่าคนเมือง)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ล้อล้านนา ที่ วันที่ 17 มิถุนายน 2010, 16:36:24
ขอขัดจังหวะด้วยการเล่าเรื่องล้านนาแบบนอกตำราโดยสังเขป
หลังจากที่ร่ำเรียนในตำรา กระแสหลักมาพอสมควร
จึงได้ตั้งหลักขวนขวายหาความรู้ด้วยตนเอง
จึงได้รู้ว่าประวัติศาสตร์ที่เราสอนกันมานั้นมันเข้าข้างตัวเองกันทุกเล่ม
เอาเป็นว่าประวัติศาสตร์ฉบับบนี้ก็ฟังหูไว้หูนะพี่น้อง

เมื่อหลายพันปีก่อนนั้นกลุ่มชาติพันธุ์ของคนไทยเราเจริญอยู่ทางตอนใต้ของจีน
เราเรียกตัวเราเองว่าคน ไต ได้ตั้งรกรากสร้างอาณาจักรใหญ่โตก่อนที่คนจีนจะอพยพมาจากทะเลสาบแคสเปี้ยนเสียอีก หากเราสืบค้นดูในพงศาวดารจีน จะกล่าวถึงอาณาจักรของพวก ล่าว หรืออาณาจักรอ้ายลาว (ลาวหรือล่าวเป็นชื่อของบรรพบุรุษเราที่คนจีนเค้าเรียกครับเดี๋ยวนี้เอามาพูดเล่นกันสนุกปาก) บางพวกก็เรียกคนไตเราว่าพวกเสียม หรือสยาม (สยามมีมาหลายพันปีแล้วครับพี่น้องอย่าให้ใครเค้ามาหลอกเราว่าสยามมันพึ่งเกิดแม้แต่รัฐฉานหรือที่เค้าออกเสียงว่า ชาน น่ะ มาจากคำว่าสามหรือสยามนั่นแหละ) ภายหลังคนไตเราอพยพโยกย้ายถิ่นฐานลงมาตามลำน้ำ ที่สำคัญคือแม่น้ำโขงแล้วก็ค่อย ๆ สร้างบ้านแปงเมืองกันขึ้นมา ช่วงไหนที่อาณาจักรใดรุ่งเรืองก็กลายเป็นศูนย์กลาง ดังเช่นเมืองสุวรรณโคมคำ เมืองหริภุญไชย เป็นต้น ในตอนหลังพญามังรายของเรานั้นท่านก็ได้รวบรวมหัวเมืองทั้งหลายให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรียกว่าอาณาจักรล้านนาครับ ส่วนในเรื่องที่ถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับสุโขทัยกับล้านนาใครเก่าแก่กว่ากัน สรุปว่า เก่าเท่า ๆ กันครับ สุโขทัยเป็นเมืองร่วมสมัยกับล้านนา และพะเยา พญาเมืองทั้งสามท่านเป็นเพื่อนรักกันครับ สองไปดูอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ที่เชียงใหม่เอาเน่อ แล้วถ้าใครเคยไปเที่ยวสุโขทัยจะแปลกใจว่า คนสุโขทัยโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่อู้กำเมืองเหมือนเราครับ ประเพณีหลาย ๆ อย่างของเรากับสุโขทัยก็เหมือนกัน ภาษาไทยภาคกลางที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีที่มาจากภาษาล้านนานะครับ ใครเข้าใจผิดว่าภาษาเหนือ ภาษาอีสานเป็นภาษาถิ่นที่เพี้ยนมาจากภาษากลาง เปลี่ยนความคิดนะครับท่าน พ่อขุนรามคำแหงท่านนำตัวอักษรล้านนาไปดัดแปลงและพัฒนาเป็นลายสือไทยนะครับ ต่อไปนี้อู้กำเมืองบ่าต้องอายไผครับ ภาษาเราเก่าแก่มีมาหลายพันปีครับ ทางสิบสองปันนา ยูนนาน เค้าก็ยังพูดภาษาไตเราครับ คืออู้เมือง ใครไปเที่ยวไม่ต้องกลัวครับคุยรู้เรื่อง ส่วนเรื่องของรัฐฉาน เชียงตุง หรือตระกูลเจ้านายทางเหนือที่อยู่นอกเขตประเทศไทยในปัจจุบันเรามาว่ากันอีกทีถ้ามีประเด็นนะครับ วันนี้เมื่อยละ อยากให้คนเมืองฮักกำเมืองเน้อคับเน้อ

(ฮู้กันก่อว่าทำไมคนเหนือถึงเรียกตัวเองว่าคนเมือง)
อยากฮู้คับ เป็นหยังถึงฮ้องตั๋วเก่าว่า "คนเมือง"


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: n801 ที่ วันที่ 19 มิถุนายน 2010, 12:09:36
ขอสนับสนุนเขียนจดบันทึกไว้เพื่อลูกหลาน ผมเองก็อยากอ่านประวัติศาสตร์ล้านนาแต่หาอ่านได้ยากลำบาก ขอหื้อเจ้าของกระทู้ถ้าสามารถจัดเขียนรวบรวมได้ผมขอสนับสนุนครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: cr_yong ที่ วันที่ 19 มิถุนายน 2010, 20:40:39
เคยอ่านเจอว่า พระเจ้าติโลกราช มีนิสัยชอบไม้ป่าเดียวกันหรือสมัยปัจจุบันเรียกว่าเก คล้ายกันพระเจ้าตเบงชเวตี้ หรือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ครั้งยกทัพไปถึงปากยมแล้วเขาตีเมืองได้สำเร็จ ได้พบกับเจ้าเมืองซึ่งมีหน้าตาหล่อเหลาจึงมีความเสน์หาในตัวเจ้าเมืองเลยจะเอากลับเชียงใหม่ด้วย จึงถูกขุนนางห้ามปรามเป็นการใหญ่ แล้วพวกขุนนางจึงทำการสำเร็จโทษเจ้าเมืองปากยมนั้นเสีย ข้อเท็จจริงเป็นประการได้ให้ท่านผู้รู้อธิบายเพื่อให้หมู่เฮาหายสงสัยตวยเตอะ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: cr_yong ที่ วันที่ 19 มิถุนายน 2010, 20:50:20
ขออีกเรื่อง
 1.พ่อขุนรามคำแหงครั้งมาเที่ยวภูกามยาว มาหาเพื่อนรักคือพ่อขุนงำเมืองและได้แอบลักลอบได้เสียกับพระมเหษีของพ่อขุนงำเมืองจริงหรือ อยากรู้ข้อมูลที่แท้จริง
2.พ่อขุนเม็งรายสิ้นพระชนย์เพราะอสุนีฟาด หรือฟ้าผ่า ข้อมูลเป็นอย่างไงอยากรู้ให้รอบด้านครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: marlzavito ที่ วันที่ 20 มิถุนายน 2010, 02:02:42
อยากฮู้คับ เป็นหยังถึงฮ้องตั๋วเก่าว่า "คนเมือง"

อันนี้ต้องบอกก่อนว่ามีหลายตำรา
แต่ตำราที่น่าเชื่อถือที่สุดน่าจะเป็น
ในสมัยก่อนอาณาจักรล้านนามีศูนย์กลางอยู่ที่
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย
อาณาบริเวณนี้จึงเป็นเหมือนเมืองหลวงของอาณาจักร
ล้านนาด้านเหนือนั้นครอบคลุมไปถึงรัฐฉาน(ชาน)ในพม่า
ไปจนตอนใต้ของจีน คือยูนนาน สิบสองพันนา
ส่วนทางใต้จรดเมืองพิษณุโลก
คนไต หรือคนล้านนาในแถบบริเวณที่กล่าวมา
จึงมักจะเรียกคนที่อยู่แถวเชียงราย-เชียงใหม่ ว่า คนเมือง
เหมือนที่ปัจจุบันเราใช้คำพูดว่า ไปในเมือง หรือเข้าเวียงนั่นเอง
ส่วนภาษาพูดนั้นสมัยก่อนเชียงราย-เชียงใหม่น่าจะมีสำเนียงพูดลักษณะเดียวกัน
ซึ่งคนรอบนอกเค้าจะเรียกว่า คำเมือง (คือคนในเมืองพูด = สำเนียงเมืองหลวง)
แต่เมื่อรัชกาลที่ 5 ท่านส่งข้าราชการมาประจำ
ภาษาล้านนาหรือคำเมืองแบบเชียงใหม่จึงค่อย ๆ วิวัฒนาการมาจนเป็นแบบปัจจุบัน
หลังช่วงสงครามโลก อาณาจักรล้านนาถูกตัดทอนเหลือเพียง
บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้ลักษณะกลุ่มก้อนของวัฒนธรรมล้านนา
แพร่ขยายไปในกลุ่มคนที่พูดภาษาเดียวกันคือล้านนา = กำเมือง

เรื่องมันก็เป็นด้วยประการฉะนี้แล : )


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ล้อล้านนา ที่ วันที่ 21 มิถุนายน 2010, 08:32:47
เคยอ่านเจอว่า พระเจ้าติโลกราช มีนิสัยชอบไม้ป่าเดียวกันหรือสมัยปัจจุบันเรียกว่าเก คล้ายกันพระเจ้าตเบงชเวตี้ หรือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ครั้งยกทัพไปถึงปากยมแล้วเขาตีเมืองได้สำเร็จ ได้พบกับเจ้าเมืองซึ่งมีหน้าตาหล่อเหลาจึงมีความเสน์หาในตัวเจ้าเมืองเลยจะเอากลับเชียงใหม่ด้วย จึงถูกขุนนางห้ามปรามเป็นการใหญ่ แล้วพวกขุนนางจึงทำการสำเร็จโทษเจ้าเมืองปากยมนั้นเสีย ข้อเท็จจริงเป็นประการได้ให้ท่านผู้รู้อธิบายเพื่อให้หมู่เฮาหายสงสัยตวยเตอะ
ประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งที่ว่า...
"ต่อมากองทัพหน้าเชียงใหม่ไปตีเมืองปากยม (พิจิตร) จับเจ้าเมืองปากยมรูปงามได้ พระเจ้าติโลกราช ทรงต้องพระทัย จะนำตัวไปยังเชียงใหม่ แต่ถูกทัดทานจากพระยายุทธิษเสฐียร (อดีตเจ้าเมืองพิษณุโลกที่มาสวามิภักดิ์) ว่า ถ้านำตัวเจ้าเมืองปากยมกลับเชียงใหม่ ให้ ฆ่า "ข้าเสียเถอะ" พระเจ้าติโลกราช ถนอมน้ำใจ จึงสั่งประหารชีวิตเจ้าเมืองปากยมผู้รูปงามเสีย ณ ที่นั้น (มีความเห็นจากนักวิชาการบางท่านว่า พระเจ้าติโลกราช มีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงพระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราช (ในภาพยนตร์) คือ มีความรักทั้งเพศหญิง และเพศชาย (ไม้ป่าเดียวกัน+เสือใบ??!!) "


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ล้อล้านนา ที่ วันที่ 21 มิถุนายน 2010, 08:34:28
ขอสนับสนุนเขียนจดบันทึกไว้เพื่อลูกหลาน ผมเองก็อยากอ่านประวัติศาสตร์ล้านนาแต่หาอ่านได้ยากลำบาก ขอหื้อเจ้าของกระทู้ถ้าสามารถจัดเขียนรวบรวมได้ผมขอสนับสนุนครับ
มีเรื่องราวล้านนาอยู่ในวารสารล้อล้านนา วารสารรายเดือนของเชียงราย หาซื้ออ่านได้ครับ (จขกท.ก็เป็นคอลัมนิสต์ให้กับวารสารด้วยครับ)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ล้อล้านนา ที่ วันที่ 21 มิถุนายน 2010, 08:49:01
ขออีกเรื่อง
 1.พ่อขุนรามคำแหงครั้งมาเที่ยวภูกามยาว มาหาเพื่อนรักคือพ่อขุนงำเมืองและได้แอบลักลอบได้เสียกับพระมเหษีของพ่อขุนงำเมืองจริงหรือ อยากรู้ข้อมูลที่แท้จริง
2.พ่อขุนเม็งรายสิ้นพระชนย์เพราะอสุนีฟาด หรือฟ้าผ่า ข้อมูลเป็นอย่างไงอยากรู้ให้รอบด้านครับ
1. พญาร่วง หรือ พ่อขุนรามคำแหง ในหน้าประวัติมีบันทึกว่า "พญาเจ้าเมือง??? ซึ่งได้แอบมีปฏิสัมพัทธ์กับนางอั้วเชียงแสน ชายาของพญางำเมือง ซึ่งนางอั้วเชียงแสนเป็นพระญาติของพญามังราย แต่มีข้อสังเกตอีกข้อ มีเรื่องราวในวารสารล้อล้านนา ฉบับที่ 6 เดือน กรกฎาคม ซึ่งทีมงานกำลังหาข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ เพราะมีทั้งพญาร่วง และพญาแห่งเมืองน่าน ที่ได้มีการบันทึกไว้ รอติดตามจากวารสารได้ครับ
2. พญามังรายต้องอสุนีบาต ขณะประพาสตลาดในเมืองเชียงใหม่ ส่วนสาเหตุการสวรรคตของพญามังรายนั้น จากที่ทราบกันว่าถูกอสนีบาต (ฟ้าผ่า) นัยหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่า สาเหตุที่ต้องอสุนีบาตเนื่องมาจากผิดคำสาบานกับพระนางอั้วมิ่งเวียงไชย มเหสีของพระองค์ครั้งยังอยู่หิรัญนครเงินยาง โดยพญามังรายได้สาบานว่าจะมีมเหสีเพียงพระองค์เดียว แต่ภายหลังกลับรับพระนางปายโค ธิดาพม่ากรุงหงสาวดีมาเป็นมเหสีอีกคน จึงถูกอสุนีบาตต้องตกพระองค์... แต่ข้อมูลอีกด้านมาจากใบลานธรรม ที่คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อๆ กันมาคือ ...เมื่อท่านสวรรคตไปแล้ว แผ่นดินก็ปากั๋นไห้ซ้าวๆ แผ่นฟ้าก็ปากั๋นสลดสลันแป๋งเป๋นฟ้าผ่าฟ้าฮ้องลงมา... ว่าอั้น อาจเป็นไปได้ว่าท่านสวรรคตด้วยโรคชราหรือหัวใจวายเฉียบพลันก่อน แล้วก็เกิดปาฏิหารย์ขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นได้ ประวัติศาสตร์ว่ามาเอามาเล่าสู่กันฟัง

เครดิต : วารสารล้อล้านนา ฉบับที่ 2 เดือนมีนาคม 2553


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: cr_yong ที่ วันที่ 22 มิถุนายน 2010, 20:24:23
ขอบคุณครับ 8)กับข้อมูลดีๆ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ToR+ ที่ วันที่ 22 มิถุนายน 2010, 20:53:07
จาติดตามอ่านต่อไปครับ ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: danai_nat ที่ วันที่ 28 มิถุนายน 2010, 13:12:44
ขอบคุรมากครับ เป้นความรู้อย่างยิ่งครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 02 กรกฎาคม 2010, 23:27:55
คุณเชียงรายพันธ์แท้ครับ ผมขออนุญาตินำไปเผยแพร่ใน เวปบอร์ดของ กว่างกรุง (ชาวเหนือใน กทม)
ได้ก่อครับ  ;D
http://kwangkrung.com/forum/index.php

ยินดีครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Patu ที่ วันที่ 08 กรกฎาคม 2010, 16:24:23
แล้วเราจะขอให้มีการเรียนการสอน "กำเมือง" ในโรงเรียน เหมือนที่ทางใต้เขาได้เรียนภาษายาวี จะดีไหม ก็ภาษาล้านนาเป็นรากเหง้าของภาษาไทยปัจจุบันนี่นา


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Chuch ที่ วันที่ 16 กรกฎาคม 2010, 10:26:18
อีกเสียงครับ...ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงพระเจ้าติโลกราชเลยครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Maekok ที่ วันที่ 16 กรกฎาคม 2010, 11:15:36
ประวัติศาสตร์ ยังต้องรื้อฟื้นกันอีกมากมาย ดังคำที่ว่า ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์
ขอสักคำเตอะครับคำว่า ล้านนา หื้อเปลี่ยนมาใจ้คำว่า ลานนา เตอะ คำว่า ล้าน ในสมัยก่อนไม่มีนะครับ เหตุผลเดี๋ยววันข้างหน้าจะมาเล่าหื้อฟังเน้อ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 16 กรกฎาคม 2010, 14:09:31
ประวัติศาสตร์ ยังต้องรื้อฟื้นกันอีกมากมาย ดังคำที่ว่า ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์
ขอสักคำเตอะครับคำว่า ล้านนา หื้อเปลี่ยนมาใจ้คำว่า ลานนา เตอะ คำว่า ล้าน ในสมัยก่อนไม่มีนะครับ เหตุผลเดี๋ยววันข้างหน้าจะมาเล่าหื้อฟังเน้อ

เพราะอะไรถึงใช้คำว่า "ทสฺสลกฺขเขตฺตนครํ"(1,000,000) มีดังนี้

 หนึ่ง  คำว่าลานนา  ไม่มีในภาษาเหนือ ไทยเหนือใช้คำว่าลานเฉพาะกับต้นลานและใบลาน  ส่วนลานซึ่งแปลว่าที่ราบโล่งภาษาไทยเหนือเรียกว่า  ข่วง  และเรียกลานที่ใช้สำหรับนวดข้าวว่า ตะลางตีข้าว

    สอง  การวัดพื้นที่ในภาคเหนือยุคเก่า  วัดเป็นร้อยนา  ปันนา  หมื่นนา  แสนนา  และล้านนา  และจำนวนดังกล่าวเป็นตำแหน่งทางราชการด้วย  จากหลักฐานที่พบ  เขตเมืองเชียงแสนมี ๖๕ ปันนา  เขตเมืองเชียงรายมี  ๒๗  ปันนา และเขตเมืองเชียงรุ่งมี  ๑๒  ปันนา  เป็นต้น

     สาม  มีหลักฐานศิลาจารึก  สมุดข่อย  และใบลานหลายชิ้น ที่ใช้คำว่าล้านนา และยังกล่าวถึงอาณาจักรล้านช้าง บ้านพี่เมืองน้องของล้านนา ซึ่งรุ่งเรืองในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน และมีเมืองหลวงอยู่ที่หลวงพระบาง

     สี่  การที่หลักฐานในอดีตใช้ทั้งคำว่า ล้านนา และ ลานนาล้านช้าง และ ลานช้าง น่าจะเกิดจากการใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์ซึ่งต่างกันในหลายท้องที่ นอกจากนี้  ในบางระยะการใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์มีน้อยมาก  และบางระยะก็ไม่มีการใช้เลย

     ปัจจุบัน  ข้อเสนอให้ใช้คำว่า ล้านนา ได้รับการยอมรับกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว

“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ล้อล้านนา ที่ วันที่ 17 กรกฎาคม 2010, 10:15:10
ล้านนา มิใช่ ลานนา ถูกต้องแล้วครับ รายละเอียดผมจะขอตั้งกระทู้ใหม่ให้อ่านกันอีกทีครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ล้อล้านนา ที่ วันที่ 17 กรกฎาคม 2010, 11:39:27
ประวัติศาสตร์ ยังต้องรื้อฟื้นกันอีกมากมาย ดังคำที่ว่า ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์
ขอสักคำเตอะครับคำว่า ล้านนา หื้อเปลี่ยนมาใจ้คำว่า ลานนา เตอะ คำว่า ล้าน ในสมัยก่อนไม่มีนะครับ เหตุผลเดี๋ยววันข้างหน้าจะมาเล่าหื้อฟังเน้อ

เชิญเข้าไปอ่านก่อนครับ
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=24142.0


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 19 กรกฎาคม 2010, 22:55:15
ล้านนา VS ลานนา
ยังเถียงกั๋นบ่จบกาเนี่ย


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: wat ที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2010, 08:43:30
ขอบคุณครับ อยากรู้ภาษาเมืองด้วย กลัวสูญหาย


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: CEI_Lover ที่ วันที่ 28 สิงหาคม 2010, 19:39:43
อันว่า ล้านนา กับ ลานนา นี่

ถ้า เฮาปิ๊กไป อ่าน เสียงของตั๋ว ละ (จะออกเสียงเป็น เสียงวรรณยุกโท บวกระดับเสียงสูงขึ้นไปแห๋ม ครึ่งเสียง คล้ายกับว่า เป็น เสียง 2.5 (ละ ล่ะ ล้ะ+5 ล๊ะ หละ) ก็จะได้ เป๋น

ล๊ะ ล้าน ไม่ได้ออกเสียงเป็น ลานนา ครับ

ก็ เขียน ลานนา ออกเสียง ล้านนา

น่อ

ภาษากำเมืองบ้านเฮา มีเสียง ต่ำเกิ่งเสียง มีเสียงสูงเกิ่งเสียง ของวรรณยุกในภาษาภาคกลาง


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: SupakaN ที่ วันที่ 29 สิงหาคม 2010, 00:53:10
ขอรบก๋วนผู้รู้จ่วยเอาประวัติพระเจ้าติโลกราช มาฮื้ออ่านจิ่มคับ  เอาแบบเกร็ด ที่น่าสนใจตวยก็ดีหนาคับ ม่วนดีคับได้ความรู้ แถม ภูมิใจ๋อีกตังหาก  ขอบคุณล่วงหน้าคับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: taekeuk_poomse ที่ วันที่ 30 สิงหาคม 2010, 10:03:40
รบกวนไปที่ลิ้งค์นี้ เลยครับ เคยลงไว้เมินนานนักแกแล้ว
http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=1752.0 (http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=1752.0)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: SupakaN ที่ วันที่ 01 กันยายน 2010, 11:08:26
ขอบคุณคับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: tfgc2007 ที่ วันที่ 02 กันยายน 2010, 22:13:40
ขอบคุณสำหรับความฮู้ครับ .....ง่าวจาดเมิน.......


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ละอ่อนโบราณ ที่ วันที่ 03 กันยายน 2010, 04:32:52
ต๋ำแหน่งเจ้าผู้ครองเมืองในล้านนา
         1. เจ้าเหนือหัว (เจ้าเมือง)
         2. เจ้าหอหน้า   วังหน้า-อุปราช (อุปฮาด)
         3. ราชวงศ์
         4. ราชบุตร
         5. บุรีรัตน์
         6. เจ้าขัน ๕ ใบ
                  ตั้งแต่ลำดับที่2-6มีสิทธิ์เป๋นเจ้าเมืองได้


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ผู้หมวดหญิง ที่ วันที่ 05 กันยายน 2010, 19:58:48
หลงชื่นชมภูมิใจประวัติศาสตร์อยุธยา 700 กว่าปี ที่แท้ของเรามีดีไม่แพ้กัน
ขอบคุณทุกท่านที่นำความรู้ประวัติศาสตร์เหล่านี้มาเผยแพร่
ล้านนามีดีกว่าที่ไม่เคยคิดมาก่อน


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: เดียวดายใต้เงาจันทร์ ที่ วันที่ 12 ตุลาคม 2010, 10:55:12
เอ้อ เฮาจะมีความเกี่ยวข้องอันใดกับกษัติย์ล้านนาก่อนี้ เพราะนามสกุลดันไปพ้องกับชื่อกษัติย์องค์นึงใน ราชวงค์ล้านนา

ไผปอจะมีความฮู้โปรดจ่วยอธอิบายจิ่มเน้อ นามสกุล คำฟู อะคับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: QingGE ที่ วันที่ 16 ตุลาคม 2010, 20:45:09
แล้วตี้ว่า พระเจ้าพรมราช เป็นต้นราชวงศ์นี่เร๊อะครับเป็นจ๊ะไดห๋า


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: QingGE ที่ วันที่ 17 ตุลาคม 2010, 20:40:26
ขอสอบถามท่านผู้รู้เป็นความรู้เพิ่มเติมครับ

ว่าทำไมเรียกพระยากาวิละว่า พระเจ้ากาวิละ ไม่เรียกว่าพระยา กาวิละ ครับ

คำว่าพญา ในภาษาล้านนา หมายถึงกษัตริย์ครับ ไม่ใช่พระยา ซึ่งหมายถึงขุนนางใน ภาษาไทยสยาม และ พญากาวิละก็มีศักดิ์เป็นพระมหากษัตริย์ของล้านนา ครับ(คนไทยสยาม มักจะตีความหมายของคำว่า พญา  ซึ่งแปลว่ากษัตริย์ ไปเป็น พระยา ซึ่งหมายถึงขุนนางในไทยสยามซะเป็นส่วนใหญ่ และมองว่าพระมหากษัตริย์ของล้านนาทุกพระองค์ที่ มีคำเรียกขานนำหน้าว่า พญา ไปเป็นพระยา ซึ่งมียศน้อยกว่ากษัตริย์ไทยสยาม ซะอย่างนั้น) และคำว่าพระเ้จ้า จริงๆแล้ว เป็นภาษาไทยสยามครับ ก็หมายถึง พระมหากษัตริย์นั้นแหละ พระนามเต็มของพระเจ้ากาวิละที่ กษัตริย์ของ สยามในขณะนั้นทรงพระราชทานให้ก็คือ ก็คือ

“พระบรมราชาธิบดีศรีสุริยวงศ์องค์อินทรสุรศักดิ์ สมญามหาขัตติยราชชาติราชาไชยสวรรย์เจ้าขัณฑสีมาพระนครเชียงใหม่ราชธานี"  เป็นพระเจ้ากาวิละ ปกครองล้านนา และ 57 หัวเมือง ในฐานะเมืองประเทศราช ของสยาม

ก็หมายความว่า สมัยนั้น ล้านนามีฐานะเป็นประเทศๆหนึ่งครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ ข๋ำใจมาเมินละ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: vitits ที่ วันที่ 23 ตุลาคม 2010, 21:19:37
กระทู้นี่ อ่านแล้วได้ความฮู้ดีแต้ ๆ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: vannakas ที่ วันที่ 06 พฤศจิกายน 2010, 13:37:08
  เคยอ่านเจอนักวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ 2-3 ท่าน บอกว่า สมัยโบราณ( 4-500 ปี)คนภาคกลาง หรือพวกเสียม สุโขไท-อยุธยา จะเรียกคนล้านนาว่า พวกโยนก พวกยวน วึ่งคนล้านนาเดิมก็ยอมรับในชื่อนี้อยู่  แต่มาในสมัยหลัง ๆ หรือสมัยรัตนโกสินทร์  คนภาคกลางกลับมาเรียกว่า เป็นคนลาว (ลาวพุงดำ ในความหมายดูถูกอยู่บ้าง)  ซึ่งคนล้านนาจะไม่ชอบเลย  และไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นลาวเลย  แต่จะชอบให้เรียกว่า คนเมืองมากกว่า ไม่ทราบว่าใครมีความเห็นหรือมีทัศนะอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้

        จาก ที่มาของคำว่า สยาม ลาวและขอม ของ จิตรภูมิศักดิ์


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: yan ที่ วันที่ 20 ธันวาคม 2010, 12:55:54
เห็นตวยกับทุกคนครับขอเป็นกำลังใจให้อีกคนครับช่วยบ้านเมืองแตกแยกแบ่งประเทศได้น่าจะดีเหมือนผมว่า


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: VIP>>//<< ที่ วันที่ 23 ธันวาคม 2010, 20:17:13
เจ้าพญาแก้ว ใช่ที่เชียงของไหมค่ะ(มีศาลเจ้าพ่อพญาแก้วอยู่ที่บ้านสบสม) เคยถามผู้ใหญ่บางคนก้ไม่รู้มากนัก บางคนก้บอกว่า ไม่รู้เจ้าพ่อพญาแก้วตัวเป๋นยังไง เพราะตั้งแต่ไหนมา ก้เห็นแต่ศาลเจ้าพ่อ ซึ่งปัจจุบันศาลเจ้าพ่อเป็นเรือนไม้ทรงไทยครึ่งพื้นเมืองทางเหนือนยกพื้นสูง เป็นที่เคารพของชาวบ้านสบสมและหมู่บ้านใกล้เคียงค่ะ อยากรู้เกี่ยวกับเจ้าพ่อว่าท่านได้ปกครองเมืองเชียงของก่เจ้า


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 08 มกราคม 2011, 22:16:01
เจ้าพญาแก้ว ใช่ที่เชียงของไหมค่ะ(มีศาลเจ้าพ่อพญาแก้วอยู่ที่บ้านสบสม) เคยถามผู้ใหญ่บางคนก้ไม่รู้มากนัก บางคนก้บอกว่า ไม่รู้เจ้าพ่อพญาแก้วตัวเป๋นยังไง เพราะตั้งแต่ไหนมา ก้เห็นแต่ศาลเจ้าพ่อ ซึ่งปัจจุบันศาลเจ้าพ่อเป็นเรือนไม้ทรงไทยครึ่งพื้นเมืองทางเหนือนยกพื้นสูง เป็นที่เคารพของชาวบ้านสบสมและหมู่บ้านใกล้เคียงค่ะ อยากรู้เกี่ยวกับเจ้าพ่อว่าท่านได้ปกครองเมืองเชียงของก่เจ้า

คนละคนกั๋นครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: จอมพราน ที่ วันที่ 13 มกราคม 2011, 13:04:03
ผมไค่ฮู้เกี่ยวกับประวัติของเจียงฮายแบบละเอียดๆอ่ะครับเกี่ยวกับชาติพันธุ์ก่อดี
รบกวนผู้ฮู้ต้วยเต๊อะครับขอบคุณล่วงหน้าครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 26 มกราคม 2011, 11:59:22
และจะมีใครทราบบ้างมั้ยครับ ว่าในราชวงค์มังรายนี้ ยังมีพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่และแผ่ขยายอาณาจักรล้านนาออกไปให้กว้างใหญ่ไพศาล ไปจรดเมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา และเมืองเชียงชื่นสุโขทัย และทำสงครามกับ พระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา อย่างขับเคี่ยวสูสี จนสุดท้ายฝ่ายโน้นก็คิดเองเออเองว่า ฝ่ายล้านนาแพ้  พระมหากษัตริย์พระองค์นั้นก็คือ "พระเจ้าติโลกราช" ยังไงล่ะครับ ขนาดจอมจักรพรรดิ์จีนแห่งราชวงค์หมิงยัง ทรงยกย่องพระเจ้าติโลกราชเป็นจอมจักรพรรดิ์ผู้พิชิตแห่งทิศตะวันตก แต่ประวัติศาสตร์สมัยนี้ ไม่ได้กล่าวถึงพระองค์ไว้เลย กล่าวถึงแต่พญามังรายซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์มังรายเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ผมถามเพื่อนผมที่โตมาด้วยกัน ว่ารู้จักพระเจ้าติโลกราชรึเปล่า มันตอบว่ายังไงรู้มั้ยครับ มันย้อนถามผมว่า"มีด้วยเหรอ กษัตริย์เชียงใหม่พระองค์นี้ ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลย" ได้ยินแบบนี้ แป่วววววว เลยครับ เหอๆๆๆ แต่ไม่รู็ว่าเด็กสมัยนี้จะรู้จักมั้ยนะครับ 5555555

กึ๊ดแล้วอดไค่หัวบ่าได้ 5555555


ปล: เสริมแห๋มน้อย ทีประวัติศาสตร์ชาติสยามนี้ เอามาแป๋ง หนัง แป๋งเอา แป๋งเอา แต่ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของทุกภาคนี้ บ่ค่อยจะมีเลย เข็ดแต๊เฮา

เก่งแต๊ ๆแหมพระองค์หนึ่ง แม้แต่ ลูกเจ้าเมืองกำแพงเพชร ยังหนีมาพึ่งท่าน จนได้เป็นเจ้าเมืองพะเยา และได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่เมืองพะเยาโดยเฉพาะด้านศิลปะ วัฒนธรรมและพระพุทธศาสนา เป็นอย่างยิ่ง (อยากรู้ว่าเป็นใครลองไปค้นหาประวัติเมืองพะเยาดูแล้วท่านจะรู้ว่ายังมีคนเก่งอยู่อีกท่านหนึ่งจนกลายเป็นตำนานเล่าขานกันในภาคอีสานคือตำนานท้าวฮุ่งท้าวเจื๋อง)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: rabbitNUENG ที่ วันที่ 27 มกราคม 2011, 17:53:16
เรื่องของเจียงฮาย อาณาจักรล้านนา มีอะหยังหื้อศึกษาเฮียนฮู้แหมนักอยู่คัฟ บางเรื่องเป๋นประวัติศาสตร์ บางเรื่องเป๋นตำนาน บางเรื่องเป๋นนิทานเรื่องเล่า

ตำนานพระเจ้าเลียบโลกก่อน่าศึกษา เพราะเป๋นการเขียนถึงวัดสำคัญต่าง ๆ ในล้านนา รวมถึงเจียงฮายบ้านเฮา ตี้พระพุทธเจ้าเดินทางมาถึงดินแดนล้านนา


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: jesdath ที่ วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2011, 23:51:47
เรื่องของพระนางเมกุ.. ชอบอ่าน ชอบฟังเรื่องเก่าๆ   ใครจะรู้บ้างว่าสมัยพระนาง เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้ยอดเจดีย์หลวง พังลงมาอย่างที่เห็น
----ผมเพิ่งสมัครสมาชิกวันนี้เอง ชอบสะสมคอมพ์เก่าๆ คิดว่าหาซื้อแถวเชียงรายน่าจะดีกว่า
-------เคยได้พบกับร่างทรง และองค์ท่านพ่อขุนเมงรายที่แถวติวานนท์ กทม. และได้ผูกพันกับครอบครับร่างทรงนี้--ท่านเห็นผม ท่านก็พูดไทย แต่ผสมคำเมืองมาว่า "ปิ๊กบ้านเฮาเต็อะ มีบ้านเช่าหลายหลังไม่จนหรอก (ท่านรู้ได้อย่างไร)"    ที่แปลกที่สุด ก็คือท่านให้ฝนดาบคมๆ แล้วเอามาถือแบบถือพู่กัน แต่ว่าท่านกำใบดาบไว้ แล้วกระแทกๆ ถ้าเป็นคนธรรมดา ก็มือต้องโดนดาบบาดเป็นแผลเหวะหวะอย่างแน่นอน  แต่มีแค่รอยขนแมวนิดหน่อย
------ผมเคยถามท่านเรื่องที่ต้องสังหารลูกชาย ท่านบอกว่า ท่านไม่มีลูกชายสักคน  มีลูกภรรยาหลวง ก็เป็นผู้หญิง ลูกภรรยาน้อย ก็เป็นผู้หญิง  (แต่ลูกคนแรก สังหารลูกอีกคนด้วยการวางยาพิษ และผมในอดีตชาติเป็นนายทหารที่ดูแลลูกสาวคนหลังของท่าน  จึงมีความผิดอย่างมาก--โดนสาปให้เป็นหมู 1 ชาติ)
---แล้วในที่บันทึกไว้ล่ะ .. ในเมื่อท่านไม่มีลูก ก็จะมูลลูกของญาติๆ คือเป็นหลาน แต่รุ่นราวคราวเดียว มาฝากให้ศึกษางานด้านการปกครอง ท่านก็รับเป็นลูกไว้ทั้งสามคน เนืองจากมีลูกเป็นหญิงไปแล้ว จะมีปัญหาด้านขึ้นครองราชบังลังก์---อันนี้ก็ไม่รู้จะไปเถียงกับนักประวัติศาสตร์ยังไง
แต่ลูกหญิงทั้งสองของท่านก็ได้มาพบกับผมในชาตินี้และสนิทสนมกันดี
-----นึกว่าเล่าให้ฟังสนุกๆก้แล้วกัน (ผมจบทางด้านวิทยาศาสตร์)  ที่ห้าแยก ท่านมักให้นายทหารรับการสักการะ ส่วนมากวิญญาณของท่านจะอยู่ที่กู่บนดอยทอง  ซึ่งผมได้นำอาหารไปถวายหลายครั้ง ก็มีหัวหมู เป็ด ไก่ เหมือนทั่วไป
---ปกติผมเขียนเรื่องลึกลับ-- จานบิน อยู่ที่บล็อกพันทิพ




หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: jesdath ที่ วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 00:11:42
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ และวารสารล้อล้านนาเพื่อนำบางส่วนลงบล็อกด้วยนะครับ
----คนไทยมากจากจีน ใครๆก็รู้  และเมื่อเราจะค้นว่ายุคสมัยก่อนสมัยของใคร มีอะไร ก้ไปอ่านพงศาวดารกษัตริย์แถวยูนนานได้  ซึ่งทางสถาบันของท่านพระเทพ ก็ติดต่อกับจีนอยู่ตลอด
----แต่พี่สาวที่เคยเรียนอักษรจุฬามา ได้ฟังมาว่า คนไทย น่าจะเริ่มมาจากจาก อาณาจักร ทวารวดี  ตามพรลิงค์  ไชยา อะไรแถวนั้น
---ลองนำคนจีนยูนนานมายืนเทียบกับคนไทย จะต่างกันมาก  แต่ถ้านำคนมาเลย์ อินโด บาหลี ฟิลิปปินส์มา  ท่านจะแยกไม่ออกนะครับ   ถ้าท่านไปดุที่ฐานพระธาตุนครศรีธรรมราช จะพบรูปั้น ครุฑ นาค  ตามความเชื่อทางพุทธผสมฮินดู และที่บาหลี อินโด ก็มีละครเรื่องรามเกียรติ์เช่นกัน

-----ยิ่งค้นความเชื่อโบราณ มันยิ่งน่าทึ่ง โลกเรานั้นกลวง มีอาณาจักรใต้โลก มีชาวอารยัน ออกมาปราบอินเดียจนได้ชัยชนะ  พระกฤษณะ  องค์พระพุทธเจ้า ก็สืบสายมาจากชาวอารยัน กรือแขกขาวพวกนี้ ทั้งชายหญิงมีรปร่างหน้าตาสวยงาม(ดู ชารุษ ข่าน และ อิสวาราย่า ราย เป็นตัวอย่าง)
----มนุษย์เมื่อห้าพันปีก่อน ตัวโตเท่ายักษ์  มีความรู้ทางไสยศาสตร์และมีพลังจิตสูงเท่าเทพองค์หนึ่ง--ที่เขากรุชิง-นครศรีธรรมราช-พบโครงกระดูกขนาดยักษ์ในถ้ำ คางโตเท่าฝ่ามือ มีอาวุธขนาดใหญ่เช่นกัน  --มีการเรียงหินเป็นทางน้ำ กำแพงเมือง ทุกวันนี้ก็มีร่องรอยอยู่ สัตว์ป่า-พืชจะโตมาก(พื้นฐานนี้น่าจะทำให้คุณรพีพรนำมาเขียนนิยายเพชรพระอุมา)
จากการนั่งทางในของเอ็ดการ์ เคย์ซี ก้พูดถึงมนุษย์ยักษ์เช่นกัน เช่นในสมัยของพระราม มีวิมาณ เหมือนเครืองบินลอยไปในอากาศได้--ทุกวันนี้ยังมีเอกสารการสร้าง-เป็นภาษาสันสกฤต



หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: Ck 401 ที่ วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 06:24:58
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ และวารสารล้อล้านนาเพื่อนำบางส่วนลงบล็อกด้วยนะครับ
----คนไทยมากจากจีน ใครๆก็รู้  และเมื่อเราจะค้นว่ายุคสมัยก่อนสมัยของใคร มีอะไร ก้ไปอ่านพงศาวดารกษัตริย์แถวยูนนานได้  ซึ่งทางสถาบันของท่านพระเทพ ก็ติดต่อกับจีนอยู่ตลอด
----แต่พี่สาวที่เคยเรียนอักษรจุฬามา ได้ฟังมาว่า คนไทย น่าจะเริ่มมาจากจาก อาณาจักร ทวารวดี  ตามพรลิงค์  ไชยา อะไรแถวนั้น
---ลองนำคนจีนยูนนานมายืนเทียบกับคนไทย จะต่างกันมาก  แต่ถ้านำคนมาเลย์ อินโด บาหลี ฟิลิปปินส์มา  ท่านจะแยกไม่ออกนะครับ   ถ้าท่านไปดุที่ฐานพระธาตุนครศรีธรรมราช จะพบรูปั้น ครุฑ นาค  ตามความเชื่อทางพุทธผสมฮินดู และที่บาหลี อินโด ก็มีละครเรื่องรามเกียรติ์เช่นกัน

-----ยิ่งค้นความเชื่อโบราณ มันยิ่งน่าทึ่ง โลกเรานั้นกลวง มีอาณาจักรใต้โลก มีชาวอารยัน ออกมาปราบอินเดียจนได้ชัยชนะ  พระกฤษณะ  องค์พระพุทธเจ้า ก็สืบสายมาจากชาวอารยัน กรือแขกขาวพวกนี้ ทั้งชายหญิงมีรปร่างหน้าตาสวยงาม(ดู ชารุษ ข่าน และ อิสวาราย่า ราย เป็นตัวอย่าง)
----มนุษย์เมื่อห้าพันปีก่อน ตัวโตเท่ายักษ์  มีความรู้ทางไสยศาสตร์และมีพลังจิตสูงเท่าเทพองค์หนึ่ง--ที่เขากรุชิง-นครศรีธรรมราช-พบโครงกระดูกขนาดยักษ์ในถ้ำ คางโตเท่าฝ่ามือ มีอาวุธขนาดใหญ่เช่นกัน  --มีการเรียงหินเป็นทางน้ำ กำแพงเมือง ทุกวันนี้ก็มีร่องรอยอยู่ สัตว์ป่า-พืชจะโตมาก(พื้นฐานนี้น่าจะทำให้คุณรพีพรนำมาเขียนนิยายเพชรพระอุมา)
จากการนั่งทางในของเอ็ดการ์ เคย์ซี ก้พูดถึงมนุษย์ยักษ์เช่นกัน เช่นในสมัยของพระราม มีวิมาณ เหมือนเครืองบินลอยไปในอากาศได้--ทุกวันนี้ยังมีเอกสารการสร้าง-เป็นภาษาสันสกฤต


น่าจะเป็นได้เคยเห็นปืนแก๊ป โบราณ
ที่พิพิธภัณฑสถานเชียงใหม่ เมื่อนานมาแล้ว
คนที่มีโครงสร้างใหญ่มากๆเท่านั้นจึงจะยิงได้


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: อ้ายเกียรติ แฮปปี้เชียงราย ที่ วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 17:40:28
ขอสอบถามหน่อยครับ  ว่า สมัยประมาณ เกือบสองร้อยปีที่แล้ว  กบฏเงี้ยวมาปล้นทางเหนือ  ผมไปอ่านประวัติที่พะเยามา  ทางอำเภอเมืองพะเยา(ตอนนั้นได้รับฐานะเป้นอำเภอเมืองพยาว) ได้ไปร้องขอทหารมาช่วยปราบกบถ(พิมผิดขออภัยครับ) ทหารเลยส่งทัพมาช่วย แต่ ร้อยโท อะไรๆ เยวเซ่นนี่แหละ ถูกลอบยิงเสียชีวิตที่บ้านแม่กา (ที่เป็นอนุสรณ์สถานให้)ข้างถนนพหลโยธินก่อนถึง มน.  แต่ทหารก็ปราบกบถจนสิ้น หัวหน้ากบถเงี้ยวได้รับการประหาร   เสื้อที่ใส่ตอนประหารยังโชว์ในตู้เลย  แบบสวยมาก....
หลังจากกบถหายไปแล้ว ชาวบ้านยังกลัว เลยไปช่วยกันขนเอาก้อนอิซจากกำแพงเมืองร้างและวัดร้างมาล้อมไว้ตามชุมชนเมืองของตน ตอนนี้ยังมีร่องรอยอยู่บ้าง  ผมอยู่ในพระตำหนักกว๊านพะเยา  ประมาณปีก่อน มีการขุดลอกบ่อ แต่เจอแนวกำแพง เลยหยุดไป จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาตรวจสอบ   แต่ก่อนบ้านพ่อตา แม่ยายผม ขุดบ่อปลาใกล้ๆที่นั่นแหละยังเจอเศษถ้วยเศษไหเก่า
อยากทราบว่าช่วงเวลานั้น เชียงรายมีสถานการ์โดนปล้นจากเงี้ยวบ้างไหมครับ เวลาไม่ค่อยนานแต่ร้อยสองร้อยปี ก็หลายอายุคนเหมือนกันครับ  อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านเรา แต่ไม่มีที่ไหนเปิดเลย  ผมเรียนอยู่วิทยาลัยเชียงราย  อย่าให้พูดถึงสถาบันนี้เลยครับ อิอิ  ใครสงสัย pm มาละกัน 


ร้อยเอก เอช. มาร์ก เยนเซ่น ชาวเดนมาร์ก เดินทางเข้ามาเป็นครูฝึกตำรวจที่เมืองแพร่
ถูกเงี้ยวลอบสังหารที่เมืองพะเยา ในช่วงเหตุการณ์กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ พ.ศ.2445 (ร้อยกว่าปีก่อน)
ในเหตุการณ์นี้ เจ้านายบุตรหลายเมืองแพร่บางส่วนให้การสนับสนุนกบฏ
เนื่องจากไม่พอใจนโยบายลิดรอนอำนาจของสยาม ทำให้ผู้ปกครองชาวล้านนาสูญเสียผลประโยชน์
เมื่อกองทัพจากมณฑลนครสวรรค์และมณฑลพิษณุโลกยกขึ้นมาปราบปรามกบฏเงี้ยว
เจ้านายเมืองแพร่คนสำคัญ เช่น เจ้าพิริยะเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแพร่ ได้ลี้ภัยไปอยู่หลวงพระบาง
ทำให้ไม่มีนามสกุล "ณ แพร่" มาจนถึงปัจจุบัน
(ไม่นานมานี้ มีคนเขียนประวัติศาสตร์แก้ อ้างว่าเจ้าหลวงแพร่ ไม่ได้ช่วยเหลือกบฏ
เท็จจริงอย่างไร ลองเซิร์จได้ใน google)

กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ในปี พ.ศ.2445 แล้ว กองกำลังเงี้ยว (มีคนล้านนาร่วมด้วย)
ได้บุกปล้นเมืองแพร่ สังหารชาวสยามไป 20 กว่าคน แต่จะไม่สังหารคนล้านนา
นอกจากนั้นยังบุกเมืองลำปาง รวมทั้งเมืองพะเยา อีกด้วย
แต่สุดท้ายก็โดนกองทัพจากสยามยกขึ้นมาปราบ

นอกจาก กบฏเงี้ยวเมืองแพร่แล้ว
พ.ศ.2448 ก็มีกบฏเงี้ยวเกิดขึ้นที่ เชียงแสน แม่จัน เชียงราย ด้วยนะ
ที่แม่จัน ที่ว่าการอำเภอกับสถานีตำรวจโดนเผา
ที่เชียงราย เงี้ยวในเวียงให้ความช่วยเหลือพวกกบฏ
เงี้ยวในเวียงที่ว่าคงเป็นชาวบ้านแถวๆสันป่าก่อ และแถบวัดมิ่งเมือง (วัดเงี้ยว)

ถ้าอยากรู้ประวัติศาสตร์ล้านนาก็ไปหาหนังสืออ่านได้ครับ สมัยนี้มีเยอะแยะ เลือกเล่มดีๆหน่อยละกัน
ในอินเทอร์เน๊ตก็มีข้อมูลเยอะแยะ ลองหาอ่านดูครับ

เพิ่มเติมนิดหน่อย คำว่า กบฎ ในสมัยก่อนนั้นไม่ใช่ว่า คนเหล่านั้นเป็นคนไม่ดี หรือ เป็นคนร้ายนะครับ

อยากเพิ่มเติม เผื่อเพื่อนสมาชิกมาอ่านจะได้เข้าใจ....... แค่คนกลุ่มหนึ่งที่ ที่ไม่พอใจกับการทำงานของ

ไทยสยามที่มาปกครองเรา (หรืออาจมากดขี่เอารัดเอาเปรียบเรา )ท่านเหล่านั้นจึงรวมตัวกันต่อต้าน

จึงถูกเรียกว่า กบฎ  ความจริงแล้วเราลูกหลานล้านนาควรค่าที่จะสดุดีในวีรชน ของ กบฎ ที่เขาเรียกกัน

(กบฎ ถูกเรียกโดย ไทยสยาม คนเมืองเรียกว่า วีรบุรษ ครับ ) ผมคนหนึ่งที่ยังจำเหตุการที่เจ้าหน้าที่

ตำรวจ สมัยนั้น นอกเครื่องแบบทั้งนั้น ชอบมาตามล่า คนกลุ่มนี้ ตามหมู่บ้าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อน

หมู่บ้านผมอยู่เชียงราย อำเภอ พาน เรามีกลุ่มคนที่ต่อต้าน ไทยสยาม จำนวนมาก ผู้นำครอบครัวแทบ

ทุกบ้านไปไหนต้อง พกอาวุธปืนตลอด น่ามีคนจำกันได้บ้าง มันไม่นานเลย ไม่ถึงร้อยปี  แต่สมัยนี้ไม่มี

แล้วเพราะ รวมประเทศเป็น ไทย  แค่นี้ครับ.......เล่าสู่กันฟัง.....แด่วีรบุรุษ ล้านนา


หัวข้อ: ี่
เริ่มหัวข้อโดย: jesdath ที่ วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 22:33:21
---คุณ IMO พูดถูกแล้วครับ  ดังเรื่องของมะเมียะ ... แม้แต่เธอเป็นแม่ชีแล้ว ก็ยังมาหาคนรัก แต่คนรักของเธอ เจ้าชายองค์นั้นกลับหลอกให้รอ หรือแสดงอาการไม่มีเยื่อใย
ที่ต้องทำเช่นนั้นเพราะท่านพ่อของท่านถูกจับตาว่า จะเข้าข้างทางพม่า  จึงต้องตัดสวาทจากมะเมียะ   ชาวเชียงใหม่-เชียงรายทั้งเคยร่วมกับกรุงศรีขับไล่พม่า และรบกับทางกรุงศรีเสียเอง  ซึ่งแล้วแต่นโยบายทางเบื้องบนจะสั่งมา
ทั้งอักษร ความเชื่อวัฒณธรรมของชาวเหนือราวจะเป็นสิ่งต้องห้ามอยู่นานมาก
จนตระกูลสิโรรสได้นำมาให้ทางแขกเมือง-ฑูต-เจ้านายภาคกลางได้ดู จนกลายเป็นที่ยอมรับ
(ช่วงก่อน มีชาวอาข่าออกมาต่อต้านเรื่องลานสาวกอด ซึ่งเป็นความฝังใจแบบผิดๆมา 60ปีแล้ว
ความจริงเป็นแคลานแสดงรื่นเริง ร้องเพลงเต้นรำกัน การท่องเที่ยว(ทัวร์)ก็โปรโมทเรื่องนี้ผิดๆ
้เพราะเป็นแนวที่หากิน  ปัจจุบันแม้แต่ชาวอาข่าก็ละทิ้งความเชื่อทางหมอผี มาถือคริสต์ มีทีวี ดีดวีดี ตู้เย็น ไม่ต้องไปนั่งร้องเพลงเป็นวง ความสัมพันธ์ ความสามัคคี ประเพณีก็หายไป
เคยพบกับแม่หมอผี เขาสามรถทายอดีตคนได้ และมีการดูเดือนปีจากดวงดาว-โหราศาสตร์  ต่อไปนี้ก็จะหายไปหมดแล้ว
(เหมือนจะได้ยินว่า พ่อขุนเมงราย มีเชื้อสายทางไทยใหญ่ แต่ท่านก็มาสร้างหลักให้อาณาจักรของไทยเรา)
---------ร้อยเอก เอช. มาร์ก เยนเซ่น ชาวเดนมาร์ก เดินทางเข้ามาเป็นครูฝึกตำรวจที่เมืองแพร่
--ท่านนี้และที่ถูกยิงตาย และมีโกศเจดีย์อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งชานเมืองพะเยา
------ต่อเรื่องจากโครงกระดูกยักษ์์นะครับ  เรื่องมีคนสามคน เข้าไปในป่ากรุงชิง ซึ่งเราจะรู้สึก
ว่าเหมือนบ้าน อบอุ่นดี เสือจะไม่กินเรา แค่กินกบตัวนึงก็อิ่ม เพราะกบภูเขาตัวเท่าเด็กสามขวบ
ใบบอนขนาดเท่าร่มชายหาด มีเฟรินยักษ์( มหาสะดำ) ยิ่งดูลึกลับ พายุมหาภัยถล่มแหลมแหลมตะลุมพุก ทำให้ต้นไม้สามคนโอบขึ้นไปล้มลงมาก แต่ก็พอมีอยู่
เรื่องเหล่านี้ ท่าขุนพันธุ์(เจ้าตำรับจตุคาม)ท่านได้ทูลเล่ากับองค์ในหลวงเรา เรื่องลึกลับเหล่านี้ ที่เขากรุงชิง นครศรีธรรมราช  พระองค์ท่านสนใจมาก ท่านก็ถามขุนพันธ์ว่า
"รู้ไหมว่า กุหลาบที่ภูพิค์ โตเท่าจานข้าวนี่"
ท่านขุนพันธ์ตอบว่า " ถ้านำไปปลูกที่กรุงชิง จะโตกว่าเก่า อย่างน้อยสองเท่าพะย่ะค่ะ"
ในหลวงท่านได้ฟัง ท่สานก็รวบช้อนส้อม หยุดเสวยทันทีและสอบถามเรื่องนี้ตลอด
(เรือ่งนี้มีส่วนจริงมาก เพราะได้ลง ศิลปวัฒณธรรม แต่นานแล้วครับ)
--ขุนพันธุรักษ์ราชเดช ได้เล่าว่า พยายามไม่ให้นักศึกษษและพวกคอมมิวนิสต์เข้าไปที่กรุงชิง เพราะมีเขาล้อมรอบ และอุดมสมบูรณ์ ทำนาน ปลูกพืชได้ผลผลิตดี และก็เป็นจริง พวกนักศึกษาไม่ยอมออกป่ามาง่ายๆเลย  (แต่ที่ผมไปดูมา ไม่ได้สัมผัสกับวิญญาณเป็นร้อยๆ ของ นศ.เลยครับ  มีแต่หลับตาเห็นหญิงแก่คนหนึ่ง เหาะมาจากในป่า มานั่งใกล้ๆ ตัวใสเหมือนแก้ว   ตอนนั้นผมบวชอยู่ แต่ก็กลัวนิดๆ)
-----ในบางส่วนของป่า คนตั้งเต๊นท์ข้างห้วย กลางคืน มีเสียงตัวะไรตกน้ำโครม แล้วมันวิ่งใต้น้ำ จนน้ำบานล้นฝั่งขึ้นมา  มีบางส่วนมีเต่าใหญ่ ซึ่งขี้เหม็นไปทั้งป่า ตัวที่ใหญ่นั่งหลังมันเจ็ดคน เต่าก็พาเดินไปได้  บานยอดเขา มีรูลงไปในหิน เขาว่าเป็็นรูพญานาค
--มีคนไปเจอโครงกระดูกในถ้า ขนาดใหญ่มาก และมีดาบ หอก ขนาดใหญ่ มีครกบดยา ซึ่งเป็นหิน หนักมาก มีจารึกเป็นภาษามคธ  คนก็เอาขึ้นหลังช้างมา ช้างเอียงตัว ครกก็ตกลงไปในเหวสูญหายไป
---มีชายสามคน เข้าไปหาของป่า หลงทางจนหมดแรง ไปเจอต้นหลุมพอ(เทพทาโร) ใหญ่โตมากแต่มีหมีอยู่บนทุกๆกิ่ง จนมันแทบจะหัก  พอตล้อยหลังก็หันไปดู ปรากฏว่า ไม่มีหมีสักตัว (กรุณอย่าผวนคำอะไรที่เกี่ยวกับหมี)   สามคนนั้นไปถึงทุ่งหญ้า  มีต้นไม้ใหญ่อยู่ ลูกเล็กๆ สีเหลือง รสจืดๆหวานเล็กน้อย  สองคนก็ไม่กล้ากิน อีกคนหนึ่งบอกว่ากำลังจะตาย ขอกินหน่อยพอกินเข้าไปก็มีแรง  หาทางออกมาจากป่าได้  พอกลับมาหมู่บ้าน สองคนนั้นก็เป็นไข้ป่าตาย  แต่คนที่กินผลไม้นั้น กลับเป็นคนที่อายุยืนมากๆ---เมื่อกลับไปหาไม้ต้นนั้น ก็ไม่มีใครหาพบเลย
(อาจจะอยู่มิติลับแล---เมืองลับแล--เถาวัลย์หลง จะเกี่ยวพันกัน มีแต่พระที่เก่งๆ ชาวลับแลจะเปิดให้เข้าไป --ในประวัติท่านอาจาร์มั่นก็มีครับเรื่องชาวลับแล)
----ได้ไปคุยกับเจ้าอาวาสวัดช่องลม  ชลบุรี ท่านเล่าว่า ไปสอบที่วัดเขาสุกิม อจ.ไม่ให้ลงเขามา
(ตอนนั้นท่านสมชายก็เป็นพระธรรมดา)  พอตีสอง พระทุกรูปก็ใด้เห็นแสงสว่าง แล้วปรากฏเทวดาแหวกฟ้าลงมา  มีนางฟ้าบริวารถือของถวายตามมาเป็นแถวๆ แต่ให้เห็นเพียงสองนาทีก็หายไป  ท่านเองก็มีรูปของท่านให้ดู เวลาไปที่ไหน จะมีดวงแสงติดในรูป บางทีสว่างมากตอนกลางวันด้วย--เรื่องแปลกๆมีให้เห็นทั่วไทยครับ อย่างรอยพญานาค โผล่ที่ชลบุรีก็มี พี่สาวอยู่บ้านจัดสรรริมทะเล บางวันก็มีรอยงูใหญ่กลางถนนเลย ฬหญ่มากขนาดพญานาตนะแหละ รอยที่เหมือนรอยเท้าครุฑก็มี   มีแม้กระทั่งรอยเท้ามนุษย์ต่างดาว
(ทีเมืองรอสเวลมีพิพิธ๓ัณจานบิน  แม่จันเราก็น่าทำ  ได้ข้่าวว่า คนที่พูดเรื่องนี้ตามืดบอดไปทุกคน--ใครรู้บ้างครับ)
------ตามความเห้นของผม  โลกเหมือนร่างกายรูปแบบหนึ่ง พลังชีวิต หรือ ชี่-chi ที่โพล่พุ่งขึ้นมา จะเป็นพลังที่กระตุ้นให้พืชและสัตว์ใหญ่โตกว่าปกติ จุดที่มีพลังมาก เรียกว่า โหนด เส้นพลังงานเรียกว่า กริด ครับ  ปัจจุบัน ฝรั่งมีกล้องที่ถ่ายพลังชีวิตได้
และการแพทย์ทางเลือกแบบจีน อินเดีย ก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพราะเขาเปิดสอนแล้วที่อเมริกา  บางคนอ้างว่าใช้สมุนไพรรักษาเอดส์ได้(ความจริงต้องรักษาด้วยสนามไฟฟ้า-เพราะเอดส์เป็นเชื้อที่คนเราสร้างขึ้นมา(อันนี้ความเชื่อส่วนตัว))  สงสัยต้องเปิดกระทู้ลี้ลับอีกละก๊า
---รายละเอียด--ข้อมูลเขากรุงชิง
http://www.prapayneethai.com/th/tourist_attraction/south/view.asp?id=0810


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: pxx30 ที่ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2011, 15:13:50
มีประโยชน์มากครับ ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: hananyong ที่ วันที่ 21 มีนาคม 2011, 15:48:19
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: khao e to ที่ วันที่ 10 เมษายน 2011, 00:03:53
เห็นพูดถึงกบฏเงี๊ยว อ่านครับ

ชายชราวัย 78 ปี ผู้คงบุคลิกกระฉับกระเฉง และมีความทรงจำแจ่มชัด นั่งอยู่เบื้องหน้าคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งแกเชื่อเหลือเกินว่าคนเหล่านี้ ถูกเลือก ให้เป็นผู้เปิดเผยความลับสำคัญของตระกูล และเป็นความลับสำคัญของแผ่นดิน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เป็นความลับที่ คุณลุงรัตน์ วังซ้าย ทายาทคนสุดท้องในบรรดา 12 คนของเจ้าน้อยหมวก (บุตรของเจ้าวังซ้าย) และเจ้าแสงแก้ว เก็บงำมาตลอดเพราะหวั่นอาถรรพณ์น้ำสาบานที่พระมหากษัตริย์รับสั่งให้ผู้รู้ความดื่มร่วมกัน

สยามประเทศยุคนั้นมีผู้ร่วมดื่มน้ำสาบานและรู้ความลับนี้เพียง 8 คน

ยังสัญญาใจที่มารดากำชับไม่ให้บอกใคร จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม แม้แกไม่ใช่ผู้ร่วมดื่มน้ำสาบานโดยตรง แต่อาถรรพณ์ที่เกิดกับบุพการีเป็นประจักษ์ อย่างไรก็ตามในวัยขนาดนี้แกไม่กลัวความตายอีกแล้ว
เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เป็นวีรบุรุษที่ยอมถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ
ชายชราชาวแพร่ตัดสินใจเผยความลับนั้น ก่อนที่สังขารจะพรากความทรงจำและชีวิตเขาไป


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: khao e to ที่ วันที่ 10 เมษายน 2011, 00:05:49
เห็นพูดถึงกบฏเงี๊ยว อ่านต่อครับ

คำบอกของลุงรัตน์ วังซ้าย

"ท่านเป็นคนทันสมัย ท่านอยากพัฒนาเมืองแพร่ให้เจริญ ตอนแรกท่านไม่รู้หนังสือภาษาไทย เขียนได้แต่ภาษาพื้นเมือง แต่ท่านคุ้นเคยใกล้ชิดกับสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ท่านก็พาเจ้าหลวงไปเรียนภาษาไทยที่พระนคร เรียนรู้ระบบการปกครองแบบใหม่จนท่านเห็นดีงาม สมัยนั้นรัชกาลที่ 5 เริ่มเปลี่ยนการปกครองเป็นแบบเทศาภิบาล เลิกระบบเจ้าหลวง มีแต่ข้าหลวงไปทำงาน เจ้าหลวงท่านเต็มใจทำตามรับสั่งนี้ ยอมสละยศ ตำแหน่งทุกอย่างเพื่อความเจริญของบ้านเมือง"

"เรื่องกบฏเงี้ยวเกิดเพราะอังกฤษกับฝรั่งเศสต้องการเฉือนแผ่นดินสยาม อังกฤษเฉือนภาคใต้กับอีสาน แล้วสมคบจะมาเอาทางเหนือจากเชียงรายไปสุดเขตแดนพม่า ภาคอีสานก็ข้ามโขงมาสมคบตั้งกองบัญชาการที่หลวงพระบาง สองชาตินี้หาเรื่อง ใช้วิธีหมาป่ากับลูกแกะ"

"หลังเจ้าหลวงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัชกาลที่ 5 ก็ส่งเจ้าหน้าที่จากบางกอก คือพระยาไชยบูรณ์ ในนามข้าหลวงประจำจังหวัดมาฝึกงานให้ แล้วในปีหนึ่งๆ จะมีการตรวจเงินแผ่นดิน วันหนึ่งปรากฏว่าเขาเปิดประตูเซฟบนศาลากลางจังหวัดปรากฏว่าเงินขาดไป 55,000 บาท คนตรวจก็สั่งอายัดตัวเจ้าหลวงไปขัง เป็นเหตุให้อังกฤษเห็นเป็นช่องทางจะมาบังคับเรา ตอนหลังลูกหลานก็หาเงินมาใช้ให้ เจ้าหลวงจึงถูกปล่อยตัว คนแพร่โกรธกันมากเพราะเป็นการลงโทษโดยไม่ฟังความใดๆ"

"อังกฤษเอาปมนี้เป็นเหตุทำให้คนแตกสามัคคี เพราะคนเมืองแพร่ทั้งหมดเกลียดคนกรุงเทพฯ อังกฤษส่งเงี้ยวชื่อพะกาหม่องมาเกลี้ยกล่อมเจ้าหลวงว่าท่านโดนรังแก อังกฤษจะช่วยยึดแผ่นดินคืนให้ จะให้เงี้ยวมาก่อการกบฏ สมัยนั้นเงี้ยวอยู่ในความปกครองของอังกฤษ เพราะเป็นลูกจ้างทำไม้ให้ มีการตกลงกันว่าจะไม่ให้เจ้าหลวงเดือดร้อน เสบียง อาวุธจะหามาเองทั้งหมด แผนของอังกฤษคือจะให้เราฆ่าเงี้ยวแล้วเรียกค่าเสียหาย"




หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: khao e to ที่ วันที่ 10 เมษายน 2011, 00:08:23
อ่านต่อครับ

"แต่เจ้าหลวงรายงานให้รัชกาลที่ 5 ทรงทราบ ท่านก็เรียกเจ้าหลวงไปพบ แล้วท่านก็สั่งเจ้าหลวงให้ยอมรับเงื่อนไขของอังกฤษ เป็นแผนซ้อนแผน บอกให้เจ้าหลวงยอมเป็นกบฏ เพื่อที่จะเป็นข้ออ้างปราบเงี้ยว เพราะถ้าไม่ยอมรับเป็นกบฏก็ไม่มีเหตุปราบ"

"พอตกลงกันดีแล้ว เจ้าหลวงกลับมาบอกอังกฤษขอเวลาสามเดือน อ้างว่าจะต้องตรวจสอบกำลัง ที่จริงก็เพื่อในหลวงจะได้เตรียมจัดกำลังสำรอง"

"ข้อตกลงร่วมกันในการก่อกบฏ อังกฤษมีข้อแม้ว่าจะไม่ทำอันตรายชีวิตและทรัพย์สินของคนเมือง จะทำเฉพาะคนไทยจากเมืองใต้ เจ้าหลวงเสนอกลับไปว่าตกลง แต่เพิ่มอีกข้อว่าห้ามฆ่าผู้หญิงกับเด็กไทยที่มาฝึกงาน ห้ามฆ่าตำรวจ ก่อนเงี้ยวปล้น คืนนั้นไม่ได้นอนกันทั้งคืน เพราะเตรียมรับมือ เจ้าหลวงก็วางแผนจัดกำลังไปซ่อนในป่า แล้วรัชกาลที่ 5 ท่านบอกให้จัดคนที่ไว้ใจได้ประมาณ 5-6 คนมาร่วมงาน ให้ปิดเป็นความลับ หากความลับรั่วไหล เหตุจะอ้างว่าปราบเงี้ยวเพราะเป็นกบฏจะไม่เป็นผล"

"เจ้าหลวงท่านรับเป็นกบฏ แต่รัชกาลที่ 5 ไม่ค่อยไว้ใจ ท่านให้เจ้าหลวงดื่มน้ำสาบานว่าไม่คิดคดทรยศ และให้นำน้ำสาบานนี้ติดตัวมาเมืองแพร่ด้วย ให้ทุกคนที่รู้เรื่องร่วมดื่ม แล้วกำชับว่าถ้าหากคนเหล่านี้ถูกจับไปข่มขู่ถึงตายก็ให้ยอมตาย ถ้าไม่ทำตามนี้หรือไปบอกใครขอให้ตายด้วยคมหอกคมดาบคมเขี้ยวคมงา"

"เจ้าหลวงรับคำมาปรึกษากับเจ้าราชบุตร หรือบุตรเขยของท่าน ตกลงกันว่าจะเอาเจ้าวังซ้ายมาร่วมงานด้วย เรียกเจ้าวังซ้ายมาบอกว่าถ้าจะร่วมงานต้องกินน้ำสาบาน ถึงตอนนี้มีคนรู้แผนนี้ 6 คน ที่กรุงเทพฯ มี 3 คน คือ รัชกาลที่ 5 กรมดำรงราชานุภาพ และกรมหมื่นพิชิตปรีชากร ที่แพร่มี 3 คน คือ เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ เจ้าราชบุตร ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดช เจ้าเมืองน่าน และเจ้าวังซ้าย

"อังกฤษบอกให้เจ้าหลวงอยู่เฉยๆ ไม่เอาอาวุธด้วย แต่ขอกำลังคนเมืองแพร่ เจ้าหลวงเลยหารือว่าให้เอาชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธไปซ่อนในป่า ป้องกันไม่ให้เงี้ยวมาขอกำลังเสริม ท่านก็หารือกันว่าต้องมีคนคุมกำลังในป่า เจ้าวังซ้ายเสนอชื่อไปว่ามีสองคนคือไม่ลูกก็เมีย ในที่สุดท่านเลือกลูก คือเจ้าน้อยหมวกมาคุมกำลังรบ เจ้าน้อยหมวกนี้คือพ่อของผมเอง ท่านก็เรียกเจ้าน้อยหมวกไปดื่มน้ำสาบาน"

"เจ้าน้อยหมวกคิดเรื่องคนดูแลเสบียง เลยเลือกเมียคือเจ้าแสงแก้ว ก็กลับมาบอกสามคนแรกว่าได้ปรึกษาเมียแล้ว เขายอม ทางนี้จะยอมไหม เลยเรียกเจ้าแสงแก้วมาดื่มน้ำสาบานอีกที ตอนนี้มีคนรู้ความลับทั้งหมด 8 คน"

"แต่การบอกเมียถือเป็นการเปิดเผยความลับแม้จะไม่ตั้งใจ พ่อผมเลยโดนอาถรรพณ์เป็นคนแรก คือพอแม่คลอดผมได้เพียง 8 เดือนพ่อก็ถูกช้างเหยียบตาย ทั้งที่พ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญการจับช้างตกมัน พ่อยังบอกว่ากลัวควายมากกว่าช้าง"

"เจ้าแสงแก้วรวบรวมลูกเมียข้าราชการไทยมาไว้ที่คุ้มของเจ้าวังซ้าย ซ่อนไว้บนเพดาน คืนนั้นก็เกณฑ์คนกับอาวุธมาเก็บไว้ในคุ้ม ป้องกันไม่ให้ทั้งสู้เงี้ยวและสู้ไทย ประมาณตีสองตีสาม เจ้าแสงแก้วจัดคนไปบ้านข้าราชการไทย เอาผู้หญิงที่เคยรับใช้บ้านข้าราชการมาเพื่อให้คนไทยเมืองใต้ไว้ใจ แต่มีจำนวนหนึ่งไม่มาเพราะพวกนี้ไม่ค่อยชอบเจ้าหลวง พวกที่มาก็เป็นห่วงสามียอมตายด้วยกัน"

"พอเงี้ยวปล้นโรงพัก ปล้นไปรษณีย์ ยึดศาลากลางจังหวัด ก็ยึดได้สบายเพราะไม่มีการต่อต้าน พวกเงี้ยวออกสำรวจทุกบ้านว่ามีคนไทยเท่าไร จะจับมาฆ่าให้หมด"

"จนไปถึงบ้านเจ้าวังซ้าย ซึ่งเจ้าแสงแก้วกำลังทำกับข้าวให้คนไทยที่หลบซ่อนตัวอยู่ มันก็ถามว่าทำให้ใครกินมากมาย แม่ผมบอกว่าตอนแรกก็ตกใจ แต่ทำใจดีสู้เสือเพราะมันจะขอค้นว่ามีคนไทยไหม แม่บอกค้นไม่ได้ เจ้าหลวงกับเจ้าวังซ้ายสั่งห้ามค้น แล้วแม่ก็พูดไปว่าทำอาหารให้พวกสูกินนั่นล่ะ เจ้าหลวงให้ทำ ถ้าพวกสูเสร็จธุระให้ไปรอที่ศาลากลางเดี๋ยวเอาไปให้ แล้วแม่ก็เรียกกำลังออกมา แกล้งพูดว่าจะเลี้ยงอาหารแล้วมันยังมาข่มขู่ ถ้าจะค้นบ้านก็ให้จัดการสู้กัน เงี้ยวฟังแล้วจึงยอมไป เจ้าแสงแก้วรีบส่งคนไปบอกเจ้าหลวง ท่านบอกให้ทำอาหารเพิ่มแล้วเอาไปเลี้ยงมันอย่างที่บอก"

"ในเอกสารจดหมายเหตุที่ว่ามีการส่งเสบียงให้พวกเงี้ยว สาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างนี้"

"ปรากฏว่าพวกเงี้ยวฆ่าผู้หญิงกับเด็กคนไทยที่ไม่ได้มาอยู่กับเรา เจ้าหลวงโกรธมาก เรียกหัวหน้าเงี้ยวมาคุย ชื่อพะกาหม่อง มาบอกว่าผิดสัญญา ท่านก็มีกำลังอยู่นะ พะกาหม่องขอโทษขอโพย พอรู้ว่าเจ้าหลวงพูดว่ามีกำลังก็เริ่มกลัว มันเลยเรียกเจ้าหลวง กับเจ้าวังซ้ายไปทำสัญญาร่วมรบกัน บอกเจ้าหลวงว่าถ้าเราทำตามที่ตกลงก็จะไม่มีอะไร แต่ถ้าเจ้าหลวงเอากำลังมาสู้เมื่อไร เงี้ยวจะเอาสัญญานี้ไปแฉให้รัชกาลที่ 5 ทรงทราบ ซึ่งเจ้าหลวงได้บอกกับรัชกาลที่ 5 ว่าเงี้ยวบังคับทำ จำเป็นต้องทำ รัชกาลที่ 5 ก็รู้"

"หลายวันต่อมากรุงเทพฯ ส่งกำลังมาปราบกบฏ โดยที่ได้เตรียมกำลังแถวอุตรดิตถ์ พิษณุโลกไว้แล้ว จึงปราบได้ภายใน 3-4 วัน"

"รัชกาลที่ 5 เอาประกาศนียบัตรกบฏของเจ้าหลวงไปอ้างกับอังกฤษ ตามกฎแล้วผู้เป็นกบฏต้องถูกประหารเจ็ดชั่วโคตร แต่มีการช่วยเหลือทางลับ คือรัชกาลที่ 5 สั่งแม่ทัพว่าห้ามตั้งข้อหากับเจ้าหลวงและลูกหลานว่าเป็นกบฏแต่ไม่บอกเหตุผล ท่านยังกำชับว่าการพิจารณาโทษกบฏต้องส่งเรื่องให้ท่านสั่งการเอง แล้วท่านยังให้นำลูกหลานของเจ้าหลวงไปเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ในบรรดานี้มีคนสกุลศรุตานนท์ด้วย"

"ในสัญญาที่อังกฤษทำกับเจ้าหลวงระบุว่าถ้าทำการกบฏไม่สำเร็จจะพาเจ้าหลวงหนีไปที่กองบัญชาการใหญ่ของเงี้ยวที่หลวงพระบางเมืองลาว ถ้าเจ้าหลวงไม่ยอมเป็นกบฏก็คงได้ตำแหน่งนายพลเพราะว่าตอนหลังเจ้าหลวงทางตอนเหนือได้เป็นนายพลกันหมดทุกคน"

"รัชกาลที่ 5 ตอบแทนเจ้าหลวงในทางลับ นอกจากนี้ท่านยังเลี่ยงอาญาให้คนคุมตัวเจ้าหลวงไปส่งนอกประเทศ คือหลวงพระบาง ซึ่งนี่ก็เป็นแผนอีกข้อหนึ่ง รัชกาลที่ 5 ต้องการให้เจ้าราชบุตรผูกสัมพันธ์กับเงี้ยว เพื่อเป็นตัวกลางสื่อสารระหว่างเจ้าหลวงกับรัชกาลที่ 5 ท่านให้เจ้าราชบุตรเอาเงินเดือนไปจ่ายให้เจ้าหลวงทุกเดือน แต่เป็นในนามว่าเจ้าราชบุตรเอาเงินไปให้พ่อตาใช้"

"อยู่ทางโน้นเจ้าหลวงก็ทำบันทึกใส่สมองเจ้าราชบุตรกลับมารายงานรัชกาลที่ 5 เพราะรัชกาลที่ 5 กำชับว่าอย่าบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าหลวงคอยรายงานแผนการของเงี้ยวที่จะพยายามไปเกลี้ยกล่อมเจ้าหลวงล้านนาอื่นๆ พอรู้ข่าวก่อนว่าจะไปจังหวัดไหนก็เตรียมการรับทัน ทำให้ไม่มีเหตุการณ์เงี้ยวกบฏได้สำเร็จ และเจ้าหลวงจังหวัดอื่นๆ ก็ได้เป็นนายพล"





หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: khao e to ที่ วันที่ 10 เมษายน 2011, 00:11:49


ลุงรัตน์ วังซ้าย เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2468 หลังเหตุการณ์ปราบกบฏเงี้ยว 23 ปี ครั้นอายุประมาณ 30 ปีเศษ เจ้าแสงแก้วผู้มารดาได้บอกความลับนี้แก่บุตรชาย

"ตอนนั้นแม่อายุ 77 ย่าง 78 ปี แม่บอกว่าอย่าบอกใครเพราะกลัวจะโดนอาถรรพณ์เหมือนพ่อ แม่เล่าให้ผมฟังคนเดียว แม่กลัวเรื่องนี้จะตายไปกับตัวแม่ แม่บอกได้ไม่นานก็เป็นความดันสูง พอรักษาตัวก็พบว่าเป็นมะเร็งปอด แม่ทรมานอยู่ปีกว่าๆ ก็จากไป"

น่าประหลาดใจว่าลุงรัตน์ตัดสินใจเปิดเผยความลับในขณะที่อายุ 77 ย่าง 78 ปี เท่ากับอายุของมารดาเมื่อครั้งบอกเรื่องนี้

ข้อเท็จจริงด้านหนึ่งจากคนในท้องถิ่นโดยปราศจากหลักฐานบันทึก อาจเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อถือสำหรับนักประวัติศาสตร์กระแสหลัก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ กรณีนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการเขียนประวัติศาสตร์นิพนธ์ในอนาคต

นั่นคือถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนประวัติศาสตร์ให้คนท้องถิ่น

อุทิศถวายแด่เจ้าหลวงองค์หนึ่งผู้นามว่า เจ้าพิริยะเทพวงศ์ ที่ต้องซัดเซพเนจร ไปอยู่ถึงประเทศลาว แม้อัฐิเพียงชิ้น เดียวก็ยังไม่เหลือให้ชาวแพร่ได้ระลึก
หากต้องทำเพื่อชาติแม้ต้องถูกประวัติศาสตร์จารึกชื่อในฐานะคนชั่วก็ขอรับเอาใว้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน

เราคนรุ่นหลังน้อมคารวะผู้ยอมสละทุกอย่างเพื่อแผ่นดิน


http://atcloud.com/stories/21601


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: Ck 401 ที่ วันที่ 16 เมษายน 2011, 08:52:18


ลุงรัตน์ วังซ้าย เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2468 หลังเหตุการณ์ปราบกบฏเงี้ยว 23 ปี ครั้นอายุประมาณ 30 ปีเศษ เจ้าแสงแก้วผู้มารดาได้บอกความลับนี้แก่บุตรชาย

"ตอนนั้นแม่อายุ 77 ย่าง 78 ปี แม่บอกว่าอย่าบอกใครเพราะกลัวจะโดนอาถรรพณ์เหมือนพ่อ แม่เล่าให้ผมฟังคนเดียว แม่กลัวเรื่องนี้จะตายไปกับตัวแม่ แม่บอกได้ไม่นานก็เป็นความดันสูง พอรักษาตัวก็พบว่าเป็นมะเร็งปอด แม่ทรมานอยู่ปีกว่าๆ ก็จากไป"

น่าประหลาดใจว่าลุงรัตน์ตัดสินใจเปิดเผยความลับในขณะที่อายุ 77 ย่าง 78 ปี เท่ากับอายุของมารดาเมื่อครั้งบอกเรื่องนี้

ข้อเท็จจริงด้านหนึ่งจากคนในท้องถิ่นโดยปราศจากหลักฐานบันทึก อาจเป็นสิ่งไม่น่าเชื่อถือสำหรับนักประวัติศาสตร์กระแสหลัก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ กรณีนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการเขียนประวัติศาสตร์นิพนธ์ในอนาคต

นั่นคือถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนประวัติศาสตร์ให้คนท้องถิ่น

อุทิศถวายแด่เจ้าหลวงองค์หนึ่งผู้นามว่า เจ้าพิริยะเทพวงศ์ ที่ต้องซัดเซพเนจร ไปอยู่ถึงประเทศลาว แม้อัฐิเพียงชิ้น เดียวก็ยังไม่เหลือให้ชาวแพร่ได้ระลึก
หากต้องทำเพื่อชาติแม้ต้องถูกประวัติศาสตร์จารึกชื่อในฐานะคนชั่วก็ขอรับเอาใว้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน

เราคนรุ่นหลังน้อมคารวะผู้ยอมสละทุกอย่างเพื่อแผ่นดิน


http://atcloud.com/stories/21601

รออ่านเรื่องราวต่อไปครับท่าน khao e to
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 22 เมษายน 2011, 22:45:13
เอ้อ เฮาจะมีความเกี่ยวข้องอันใดกับกษัติย์ล้านนาก่อนี้ เพราะนามสกุลดันไปพ้องกับชื่อกษัติย์องค์นึงใน ราชวงค์ล้านนา

ไผปอจะมีความฮู้โปรดจ่วยอธอิบายจิ่มเน้อ นามสกุล คำฟู อะคับ
[/quote

บรรพบุรุษเป็น ลื้อ ครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: nansom ที่ วันที่ 25 เมษายน 2011, 22:04:28
ใคร่ได้รวมเล่ม ววยๆ เนาะ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: KIN SHOWA ที่ วันที่ 04 พฤษภาคม 2011, 10:38:15
ขอบคุณมากที่ให้ความรู้ ครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 26 ก.ย. 53)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeekuk ที่ วันที่ 27 พฤษภาคม 2011, 10:35:25
แล้วตี้ว่า พระเจ้าพรมราช เป็นต้นราชวงศ์นี่เร๊อะครับเป็นจ๊ะไดห๋า

ลองไปอ่าน"กว่าจะเป็นเชียงราย"ของอ้าย makorlan ผ่อแล้วจะรู้


หัวข้อ: Re: ใครรู้ประวัติพญาแสนภูมั้งค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: vava0001 ที่ วันที่ 08 มิถุนายน 2011, 21:56:58
อยากได้ข้อมูลพญาแสนภูแบบละเอียดมากเลยเคย ใครพอจะทราบบ้างค่ะ


หัวข้อ: Re: ใครรู้ประวัติพญาแสนภูมั้งค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 08 มิถุนายน 2011, 23:31:06
อยากได้ข้อมูลพญาแสนภูแบบละเอียดมากเลยเคย ใครพอจะทราบบ้างค่ะ

พญาแสนภูเปิ้นเป๋นหลานพญามังรายน่อ
หลังพญามังรายเปิ้นทิวงคต พญาไจยสงครามก็ได้เป๋นพญา
(พญาไจยสงครามเป๋นป้อพญาแสนภู)
พญาไจยสงครามปกครองตี้เวียงเจียงฮาย
ส่วนเวียงเจียงใหม่เปิ้นหื้อต้าวแสนภูกินเมือง

ช่วงตี้ต้าวแสนภูกิ๋นเจียงใหม่ต้องฮับเศิกจากเมืองนาย
ขุนเครือเซิ่งเป๋นอา (น้องพญาไจยสงคาม) ยกทัพมายึดเจียงใหม่
ต้าวแสนภูบ่สู้ หนีไปเปิ้งป้อตี้เจียงฮาย
พญาไจยสงครามหื้อต้าวน้ำถ้วมมาจิงเมืองเจียงใหม่ได้
ขุนเครือโดนยับขังคอกตี้แจ่งกู่เฮือง ส่วนต้าวน้ำถ้วมได้เป๋นอุปราชแตนต้าวแสนภู
ปาหลัง พญาไจยสงครามกั๋วต้าวน้ำถ้วมเป๋นกบฏ เลยหื้อไปกินเจียงตุ๋ง
แลตั้งต้าวแสนภูเป๋นอุปราชอย่างเก่า

หลังพญาไจยสงครามสวรรคต
ต้าวแสนภูก็ได้เป๋นพญา กินเมืองเจียงฮาย
เปิ้นหื้อต้าวคำฟู ลูกบ่าวเปิ้นกิ๋นเจียงใหม่
พญาแสนภูเปิ้นครองราชย์ พ.ศ.1868-1877 (11 ปี๋)
ปี๋ พ.ศ.1871 เปิ้นฟื้นฟูเมืองเก่า ตั้ดตี้เกยเป๋นเขตเมืองเงินยาง
ฮ้องจื่อเวียงนี้ใหม่ว่า เวียงเจียงแสน
แป๋งวัดไว้หลายวัด เจ่น วัดเจดีย์หลวง (พ.ศ.1873)
วิหารวัดหนี้กว้าง 8 วา 1 ศอก ยาว 17 วา
แลแป๋งเจดีย์สูง 29 วา ฐานกว้างด้านละ 14 วา
มีเขตอุปจ๋ารอาราม 100 วา แลตั้งข้าพระธาตุ 50 ครัว
ตานนาขึ้นอาราม 2 ล้านเบี้ย

พญาแสนภูอยู่เจียงแสนกับนางชิบคำมเหสีได้ 7 ปี๋ ก็สวรรคต


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: Tanachai ที่ วันที่ 15 กรกฎาคม 2011, 13:31:08
ขอบคุณคับกับการถ่ายถอดความรู้ที่ดีๆๆแบบนี้
ได้รู้ประวัติของเมืองเชียงรายและเชียงใหม่จริงๆๆ
จะได้สอนลูกๆๆได้ถูกต้องคับ
นับถืออาจารย์คับ :D


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: น้าวัยทองฯ ที่ วันที่ 15 กันยายน 2011, 14:52:35
อยู่เชียงรายมาก็หลายปี ก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันครับ

ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: Surata ที่ วันที่ 24 กันยายน 2011, 11:40:39
เคยได้ยินว่าพญามังราย ทรงสังหารลูกในใส้ ของตนเอง ไม่ขุนเครือ ก็ ขุนครามนี่แหละ

พญามังรายส่งอ้ายเผียนไปลอบสังหาร "ขุนเครื่อง" โอรสองค์โตครับ เนื่องจากขุนเครื่องทรงเชื่อคำยุยงของขุนไสเรียง ที่ให้คิดก่อกบฏต่อพระราชบิดา

"ขุนคราม" โอรสองค์รอง ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์มังราย พระนามว่า พญาไชยสงคราม

ส่วน "ขุนเครือ" ได้ปกครองเมืองนายในรัฐฉาน ต่อมาก่อกบฏในสมัยพญาไชยสงคราม จึงถูกจับขังไว้จนสิ้นพระชนม์ที่เชียงใหม่ ปัจจุบันคือบริเวณแจ่งกู่เฮือง-สวนบวกหาด เมืองเชียงใหม่


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: Theglockc ที่ วันที่ 25 กันยายน 2011, 20:49:07
ขอบคุณครับ สำหรับความรู้....ผมเองก็ชอบในเรื่องประวัติศาสตร์ของล้านนา แต่รู้บางอย่างบางเรื่อง รู้บ่แต้น่ะครับ....แม่นแล้วครับ ที่ว่าเฮาไปรับรู้ประวัติศาสตร์ของคนลุ่มน้ำเจ้าพระยามากกว่า ...ความจริง การศึกษาควรจะมีชั่วโมงประวัติศาสตร์ของล้านนาพ่องนะครับ...ละอ่อนจะได้มีความรู้พ่อง...


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: ALPHA1 ที่ วันที่ 25 ตุลาคม 2011, 01:30:55
และจะมีใครทราบบ้างมั้ยครับ ว่าในราชวงค์มังรายนี้ ยังมีพระมหากษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่และแผ่ขยายอาณาจักรล้านนาออกไปให้กว้างใหญ่ไพศาล ไปจรดเมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา และเมืองเชียงชื่นสุโขทัย และทำสงครามกับ พระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา อย่างขับเคี่ยวสูสี จนสุดท้ายฝ่ายโน้นก็คิดเองเออเองว่า ฝ่ายล้านนาแพ้  พระมหากษัตริย์พระองค์นั้นก็คือ "พระเจ้าติโลกราช" ยังไงล่ะครับ ขนาดจอมจักรพรรดิ์จีนแห่งราชวงค์หมิงยัง ทรงยกย่องพระเจ้าติโลกราชเป็นจอมจักรพรรดิ์ผู้พิชิตแห่งทิศตะวันตก แต่ประวัติศาสตร์สมัยนี้ ไม่ได้กล่าวถึงพระองค์ไว้เลย กล่าวถึงแต่พญามังรายซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์มังรายเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ผมถามเพื่อนผมที่โตมาด้วยกัน ว่ารู้จักพระเจ้าติโลกราชรึเปล่า มันตอบว่ายังไงรู้มั้ยครับ มันย้อนถามผมว่า"มีด้วยเหรอ กษัตริย์เชียงใหม่พระองค์นี้ ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลย" ได้ยินแบบนี้ แป่วววววว เลยครับ เหอๆๆๆ แต่ไม่รู็ว่าเด็กสมัยนี้จะรู้จักมั้ยนะครับ 5555555

กึ๊ดแล้วอดไค่หัวบ่าได้ 5555555


ปล: เสริมแห๋มน้อย ทีประวัติศาสตร์ชาติสยามนี้ เอามาแป๋ง หนัง แป๋งเอา แป๋งเอา แต่ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของทุกภาคนี้ บ่ค่อยจะมีเลย เข็ดแต๊เฮา
"ก่อคนแป๋งหนังเป๋นคนตางปุ๊นลู่ครับ ป๋ายบะปอต๋ำฮาเฮียนฮู้เรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นก่อบะมีในหลักสูตรของร.ร.,มหาวิทยาลัยเลยครับ"


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: poupoushop.com ที่ วันที่ 31 ตุลาคม 2011, 01:08:38
ขอสอบถามหน่อยครับ  ว่า สมัยประมาณ เกือบสองร้อยปีที่แล้ว  กบฏเงี้ยวมาปล้นทางเหนือ  ผมไปอ่านประวัติที่พะเยามา  ทางอำเภอเมืองพะเยา(ตอนนั้นได้รับฐานะเป้นอำเภอเมืองพยาว) ได้ไปร้องขอทหารมาช่วยปราบกบถ(พิมผิดขออภัยครับ) ทหารเลยส่งทัพมาช่วย แต่ ร้อยโท อะไรๆ เยวเซ่นนี่แหละ ถูกลอบยิงเสียชีวิตที่บ้านแม่กา (ที่เป็นอนุสรณ์สถานให้)ข้างถนนพหลโยธินก่อนถึง มน.  แต่ทหารก็ปราบกบถจนสิ้น หัวหน้ากบถเงี้ยวได้รับการประหาร   เสื้อที่ใส่ตอนประหารยังโชว์ในตู้เลย  แบบสวยมาก....
หลังจากกบถหายไปแล้ว ชาวบ้านยังกลัว เลยไปช่วยกันขนเอาก้อนอิซจากกำแพงเมืองร้างและวัดร้างมาล้อมไว้ตามชุมชนเมืองของตน ตอนนี้ยังมีร่องรอยอยู่บ้าง  ผมอยู่ในพระตำหนักกว๊านพะเยา  ประมาณปีก่อน มีการขุดลอกบ่อ แต่เจอแนวกำแพง เลยหยุดไป จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครมาตรวจสอบ   แต่ก่อนบ้านพ่อตา แม่ยายผม ขุดบ่อปลาใกล้ๆที่นั่นแหละยังเจอเศษถ้วยเศษไหเก่า
อยากทราบว่าช่วงเวลานั้น เชียงรายมีสถานการ์โดนปล้นจากเงี้ยวบ้างไหมครับ เวลาไม่ค่อยนานแต่ร้อยสองร้อยปี ก็หลายอายุคนเหมือนกันครับ  อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์บ้านเรา แต่ไม่มีที่ไหนเปิดเลย  ผมเรียนอยู่วิทยาลัยเชียงราย  อย่าให้พูดถึงสถาบันนี้เลยครับ อิอิ  ใครสงสัย pm มาละกัน  


ร้อยเอก เอช. มาร์ก เยนเซ่น ชาวเดนมาร์ก เดินทางเข้ามาเป็นครูฝึกตำรวจที่เมืองแพร่
ถูกเงี้ยวลอบสังหารที่เมืองพะเยา ในช่วงเหตุการณ์กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ พ.ศ.2445 (ร้อยกว่าปีก่อน)
ในเหตุการณ์นี้ เจ้านายบุตรหลายเมืองแพร่บางส่วนให้การสนับสนุนกบฏ
เนื่องจากไม่พอใจนโยบายลิดรอนอำนาจของสยาม ทำให้ผู้ปกครองชาวล้านนาสูญเสียผลประโยชน์
เมื่อกองทัพจากมณฑลนครสวรรค์และมณฑลพิษณุโลกยกขึ้นมาปราบปรามกบฏเงี้ยว
เจ้านายเมืองแพร่คนสำคัญ เช่น เจ้าพิริยะเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแพร่ ได้ลี้ภัยไปอยู่หลวงพระบาง
ทำให้ไม่มีนามสกุล "ณ แพร่" มาจนถึงปัจจุบัน
(ไม่นานมานี้ มีคนเขียนประวัติศาสตร์แก้ อ้างว่าเจ้าหลวงแพร่ ไม่ได้ช่วยเหลือกบฏ
เท็จจริงอย่างไร ลองเซิร์จได้ใน google)

กบฏเงี้ยวเมืองแพร่ในปี พ.ศ.2445 แล้ว กองกำลังเงี้ยว (มีคนล้านนาร่วมด้วย)
ได้บุกปล้นเมืองแพร่ สังหารชาวสยามไป 20 กว่าคน แต่จะไม่สังหารคนล้านนา
นอกจากนั้นยังบุกเมืองลำปาง รวมทั้งเมืองพะเยา อีกด้วย
แต่สุดท้ายก็โดนกองทัพจากสยามยกขึ้นมาปราบ

นอกจาก กบฏเงี้ยวเมืองแพร่แล้ว
พ.ศ.2448 ก็มีกบฏเงี้ยวเกิดขึ้นที่ เชียงแสน แม่จัน เชียงราย ด้วยนะ
ที่แม่จัน ที่ว่าการอำเภอกับสถานีตำรวจโดนเผา
ที่เชียงราย เงี้ยวในเวียงให้ความช่วยเหลือพวกกบฏ
เงี้ยวในเวียงที่ว่าคงเป็นชาวบ้านแถวๆสันป่าก่อ และแถบวัดมิ่งเมือง (วัดเงี้ยว)

ถ้าอยากรู้ประวัติศาสตร์ล้านนาก็ไปหาหนังสืออ่านได้ครับ สมัยนี้มีเยอะแยะ เลือกเล่มดีๆหน่อยละกัน
ในอินเทอร์เน๊ตก็มีข้อมูลเยอะแยะ ลองหาอ่านดูครับ


กำลังอยากรู้ข้อมูลอยู่พอดีเลยค่ะ  เพราะเคยอ่านจากในหนังสือแต่จำไม่ได้ว่าหนังสืิอชื่ออะไร  มีภาพประกอบให้ดูด้วย อ่านไปก็ขนลุกไป


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: simplack ที่ วันที่ 06 มกราคม 2012, 11:53:09
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆแบบนี้ครับ ถ้าไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ก็ไม่รู้ประวัติศาสตร์ ของคนเชียงรายเราเลยนะนี่ ของคุณมากๆครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: tonmaii ที่ วันที่ 08 กุมภาพันธ์ 2012, 10:51:53
อย่างที่เห็นในภาพ นี่คือแผนภูมิกษัตริย์ในราชวงศ์มังราย ซึ่งมีกษัตริย์ 17 องค์ (18 รัชกาล)
รายละเอียดของแต่องค์ ใครสนใจก็เขียนถามมาแล้วกันครับ

ลำดับกษัตริย์ในราชวงศ์มังราย
1. พญามังราย พ.ศ. 1801 - 1854 (53 ปี)
2. พญาไชยสงคราม พ.ศ. 1854 - 1868 (14 ปี)
3. พญาแสนภู พ.ศ. 1868 - 1877 (11 ปี)
4. พญาคำฟู พ.ศ. 1877 - 1879 (2 ปี)
5. พญาผายู พ.ศ. 1879 - 1898 (19 ปี)
6. พญากือนา พ.ศ. 1898 - 1928 (30 ปี)
7. พญาแสนเมืองมา พ.ศ. 1928 - 1944 (16 ปี)
8. พญาสามฝั่งแกน พ.ศ. 1945 - 1984 (39 ปี)
9. พระเจ้าติโลกราช พ.ศ. 1984 - 2030 (46 ปี)
10. พญายอดเชียงราย พ.ศ. 2030 - 2038 (8 ปี)
11. พญาแก้ว พ.ศ. 2038 - 2068 (30 ปี)
12. พญาเกศเชษฐราช (พระเมืองเกษเกล้า) พ.ศ. 2068 - 2081 (13 ปี) ครั้งแรก
13. พญาทรายคำ (ท้าวซายคำ) พ.ศ. 2081 - 2086 (5 ปี)
14. พญาเกศเชษฐราช (พระเมืองเกษเกล้า) พ.ศ. 2086 - 2088 (2 ปี) ครั้งที่ 2
15. พระนางจิรประภา พ.ศ. 2088 - 2089 (1 ปี)
16. พญาอุปเยาว์ (พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช) พ.ศ. 2089 - 2090 (1 ปี)
      ว่างกษัตริย์ พ.ศ. 2090 - 2094 (4 ปี)
17. พญาเมกุฏิสุทธิวงศ์ (พญาแม่กุ) พ.ศ. 2094 - 2107
18. พระนางวิสุทธเทวี พ.ศ. 2107 - 2121 (14 ปี)
*ตั้งแต่ พ.ศ. 2101 ปกครองภายใต้อำนาจพม่าของพระเจ้าบุเรงนอง


วันนี้จะขอใช้ภาษาที่ฟังดูเป็นทางการหน่อยนะครับ
ที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้รับรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ผ่านระบบการศึกษาในโรงเรียน
ซึ่งถูกจัดสรรคัดเลือกเนื้อหาโดยกระทรวงศึกษาธิการอับเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลกลาง
ประวัติศาสตร์ที่สอนๆกันอยู่ในโรงเรียนจึงเป็นประวัติศาสตร์กระแสหลัก หรือ ประวัติศาสตร์ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา นั่นเอง
โดยละเลยที่จะศึกษาประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นอื่นๆ ที่ถูกเรียกว่า “บ้านนอก”
ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆรับรู้แต่เพียงอดีตของคนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
และปราศจากองค์ความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นของตนเอง เช่น บุคคลสำคัญในท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น
หรือแม้กระทั่งภาษาท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้นับวันจะยิ่งสูญหายไปตามคนรุ่นเก่า

เอาง่ายๆ แค่เรื่องพญามังราย (พ่อขุนเม็งรายของหลายๆท่าน)
เรารู้ว่าพญามังรายสร้างเมืองเชียงราย ฝาง พร้าว และเชียงใหม่
เรารู้ว่าเป็นกษัตริย์
แต่เรารู้จักลูกหลานของพญามังรายหรือเปล่า
รู้จักครอบครัวของพญามังรายหรือเปล่า
คำตอบคือไม่
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ เพราะไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้โดยตรง และไม่มีเรื่องนี้ในแบบเรียนประวัติศาสตร์
ตรงกันข้ามเรากลับรับรู้เรื่องราวของผู้นำอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา หรือกรุงเทพฯ มากกว่าเสียอีก
 
“เห็นแล้วสมเพชใจว่ะ” ไอ้ X เพื่อนคนหนึ่งของผมพูด
“ช่างแม่ง มึงก็รู้นี่หว่าว่าวิชาสายสังคมมันเอาไปหากินไม่ได้ สู้เรียนเคมี ฟิสิกส์ เป็นหมอเป็นวิศวะไม่ได้”
เออ... ก็จริงของมัน

สรุปก็คือ เอาเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนามาลงในเน็ตดีกว่า เผื่อคนที่สนใจจะได้อ่าน


สมัยผมเรียนมัธยมมีวิชาถ้องถิ่นของเรานะครับเรียนตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.3 แต่ไม่รู้สมัยนี้ยังมีเรียนวิชานี้ไหม


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: cornertown ที่ วันที่ 21 มีนาคม 2012, 03:21:46
 :o :o


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: bomsummer ที่ วันที่ 24 มีนาคม 2012, 16:29:05
(http://upload.siamza.com/file_upload/modify/131109/399344.jpg) (http://upload.siamza.com/showpic.php?id=399344)
พิมพ์ผิดกะขอสูมาเต๊อะ อายุปอจะ 30 แล้ว ก้าหามาหัดอ่านหัดเขียนเมื่อลูนนิ


ภาษาของตัว ต้องฮู้หัดอ่านหัดเขียน ถ้าสูเขาบ่ฮ่ำบ่เฮียน ภาษาเขียนก็เป็นแค่ตำนาน


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: konkothai ที่ วันที่ 13 เมษายน 2012, 18:32:34
จาวล้านนามีภาษาพูดอ่านเขียน
ที่เป็นของเราเอง
น่าจะเป็นประเทศของเราเลย
ขนบธรรมเนียมประเพณีประวัติศาสตร์ของเราก็มี
เรามีเอกลักษณ์เป็นของเรา
ตอนนี้ภาษาล้านนาคนสมัยนี้ไม่รู้เลยว่าเขียนอ่านอย่างไร
ภาษาพูดก็กะลังจะหายไปสักวันละก้า


แม่นแล้วครับ เฮาเป๋นประเทศของเฮาแต่มาเสียเมืองหื้อเขา ก็เลยเป๋นอย่างตึงวันนี้ครับ
ได้ยินคนบะเก่าเขาเล่าสมัยตี้เป๋นเมืองขึ้น ใหม่ ๆ คนไหนบ่ออู้ไทยมันก็เฆี่ยนตี๋ บางทีถึงกั๊บตัดหัวกะมี


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: MaMoRu ที่ วันที่ 18 เมษายน 2012, 12:35:52
บอกตรงๆ ไม่รุ้จักสักพระองค์ ???


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: @เชียงแสน ที่ วันที่ 25 เมษายน 2012, 21:41:26
...เชื้อสายเชียงตุง...เท่าที่ทราบมีอยู่ที่เก่ง ๆ คือ (เจ้านาง) แพทย์หญิงเขมรัสมี  ขุนศึกเม็งราย ท่านเคยเป็นอดีต ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง เก่งทั้งด้านบริหาร และวิชาการครับ...บ้านของท่านหากไปเชียงใหม่ จะเห็นตรงข้ามกาดสวนแก้ว หน้าบ้านจะเขียนว่า "บ้านขุนศึกเม็งราย" แพทย์หญิงเขมรัสมี  ขุนศึกเม็งราย เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่รู้ประวัติเกี่ยวกับ "เชียงตุง" และเป็นบุคคลที่เก่งมากในวงการสาธารณสุขไทยครับ...

...ลองศึกษาประวัติได้จากวิกิพีเดีย หรือ...

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=219773.0

http://board.palungjit.com/f6/%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2-319481.html#post5489559

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2194174)
เจ้านางแพทย์หญิงเขมรัสมี  ขุนศึกเม็งราย


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: abczyx159 ที่ วันที่ 03 พฤษภาคม 2012, 16:20:56
ได้ความรู้อย่างมากมายเลยครับ ประวัติศาสตร์ไทยมีอะไรให้เราค้นหาอีกเยอะทีเดียว
_______________________________
เกมส์มวยไทย (http://www.thaifightschool.com/?s=เกมส์&submit=Search), คลิปมวยไทย (http://www.thaifightschool.com/), ดูมวยไทย (http://www.thaifightschool.com/?s=ดูมวยไทย&submit=Search)


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: mumumeme ที่ วันที่ 21 พฤษภาคม 2012, 18:04:44
โอ้ว ขอบคุณขอ้มูลเน้อ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: P.kowit ที่ วันที่ 24 พฤษภาคม 2012, 14:01:40
น่าศึกษาครับ รร.ในเจียงฮาย น่าจะเอาเรื่องราวเหล่านี้ บรรจุลงในสาระประวัติศาสตร์ หื้อได้ศึกษากั๋นอย่างจริงจัง


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: >:l!ne-po!nt:< ที่ วันที่ 28 มิถุนายน 2012, 11:00:29
ขอบคุณมากครับมาอ่านหลายรอบละยังบ๋อจบเตื่อครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: a_pong ที่ วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 15:47:26
จาวล้านนามีภาษาพูดอ่านเขียน
ที่เป็นของเราเอง
น่าจะเป็นประเทศของเราเลย
ขนบธรรมเนียมประเพณีประวัติศาสตร์ของเราก็มี
เรามีเอกลักษณ์เป็นของเรา
ตอนนี้ภาษาล้านนาคนสมัยนี้ไม่รู้เลยว่าเขียนอ่านอย่างไร
ภาษาพูดก็กะลังจะหายไปสักวันละก้า


แม่นแล้วครับ เฮาเป๋นประเทศของเฮาแต่มาเสียเมืองหื้อเขา ก็เลยเป๋นอย่างตึงวันนี้ครับ
ได้ยินคนบะเก่าเขาเล่าสมัยตี้เป๋นเมืองขึ้น ใหม่ ๆ คนไหนบ่ออู้ไทยมันก็เฆี่ยนตี๋ บางทีถึงกั๊บตัดหัวกะมี

+1 ล้านนาประเทศ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: dangrama ที่ วันที่ 23 กันยายน 2012, 15:14:39
รูปปั้น พระเจ้าแสนภูมีตังไดพ่องนิ อยากรู้แต้ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: เชียงรายพันธุ์แท้ ที่ วันที่ 25 กันยายน 2012, 23:05:57
รูปปั้น พระเจ้าแสนภูมีตังไดพ่องนิ อยากรู้แต้ๆ ครับ

วัดเจดีย์หลวง เจียงแสนน่ะครับ ลองไปผ่อเน่อ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: inter ที่ วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 23:51:23
มีที่วัดเจดีย์หลวงเชียงแสนครับ วันก่อนไปใหว้เจอ อ.บุญส่ง เชื้อเจ็ดตน อดีดนายกเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน เล่าเรื่องเกี่ยวกับท่านให้ฟังน่าสนใจดี วันหลังจะเล่าให้ฟังครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย
เริ่มหัวข้อโดย: RTC ที่ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2014, 13:04:04


เพิ่มเติมนิดหน่อย คำว่า กบฎ ในสมัยก่อนนั้นไม่ใช่ว่า คนเหล่านั้นเป็นคนไม่ดี หรือ เป็นคนร้ายนะครับ

อยากเพิ่มเติม เผื่อเพื่อนสมาชิกมาอ่านจะได้เข้าใจ....... แค่คนกลุ่มหนึ่งที่ ที่ไม่พอใจกับการทำงานของ

ไทยสยามที่มาปกครองเรา (หรืออาจมากดขี่เอารัดเอาเปรียบเรา )ท่านเหล่านั้นจึงรวมตัวกันต่อต้าน

จึงถูกเรียกว่า กบฎ  ความจริงแล้วเราลูกหลานล้านนาควรค่าที่จะสดุดีในวีรชน ของ กบฎ ที่เขาเรียกกัน

(กบฎ ถูกเรียกโดย ไทยสยาม คนเมืองเรียกว่า วีรบุรษ ครับ ) ผมคนหนึ่งที่ยังจำเหตุการที่เจ้าหน้าที่

ตำรวจ สมัยนั้น นอกเครื่องแบบทั้งนั้น ชอบมาตามล่า คนกลุ่มนี้ ตามหมู่บ้าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อน

หมู่บ้านผมอยู่เชียงราย อำเภอ พาน เรามีกลุ่มคนที่ต่อต้าน ไทยสยาม จำนวนมาก ผู้นำครอบครัวแทบ

ทุกบ้านไปไหนต้อง พกอาวุธปืนตลอด น่ามีคนจำกันได้บ้าง มันไม่นานเลย ไม่ถึงร้อยปี  แต่สมัยนี้ไม่มี

แล้วเพราะ รวมประเทศเป็น ไทย  แค่นี้ครับ.......เล่าสู่กันฟัง.....แด่วีรบุรุษ ล้านนา
[/quote]
น่าเสียดายแต๊ๆเลยครับแค่เวลาไม่ถึงร้อยปี ถูกกลืนและหลอมรวมกันใหม่หมด


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆพัตร ที่ วันที่ 17 กันยายน 2014, 23:14:02
รายละเอียดเยอะดีครับ เพื่อให้รุ่นหลังๆได้ศึกษา ควรที่จะใส่แหล่งที่มาของข้อมูล

อย่างน้อยผู้สนใจจะได้ศึกษาเพิ่มเติม มีที่มาที่ไป




หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: Keng ที่ วันที่ 22 ตุลาคม 2014, 23:28:01
ศึกษาไว้ดีมากครับ


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: peterpan03 ที่ วันที่ 25 กันยายน 2018, 19:33:36
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :D :D

แทงบอล (http://www.ufa007.com)  : po


หัวข้อ: Re: แผนภูมิราชวงศ์มังราย (ปรับปรุง 23 พ.ค. 54)
เริ่มหัวข้อโดย: pond555 ที่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2022, 13:18:41
ข้อมูลแน่นมากครับ  :)