เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย => การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ => ข้อความที่เริ่มโดย: kaset007 ที่ วันที่ 09 พฤศจิกายน 2012, 14:18:54



หัวข้อ: ประกาศ ต้องการพื้นที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง จำนวน 3,000 ไร่ ในเขตภาคเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: kaset007 ที่ วันที่ 09 พฤศจิกายน 2012, 14:18:54
เรียน  พี่น้องชาวเชียงรายเเละชาวเหนือทุกท่านที่เคารพรัก
        เนื่องด้วยทางเรา บริษัท ไร่เอเจนซี่  ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีมโสถ  จ.ปราจีนบุรี  เป็นผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรเเละการขนส่งสินค้าออกต่างประเทศ   มีความปรารถนาขยายงานด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งปัจจุบันลูกค้าต้องการเฉลี่ยวันละ 6-9 ตัน ต่อวัน ซึ่งขณะนี้เราผลิตได้เพียง 1 ตันต่อวัน ต้องการเปิดพื้นที่เเละรับกลุ่มเกษตรกร ที่เป็นส่วนบุคคล หรือ ในนาม เครือข่ายเเละ สหกรณ์ พื้นที่เราอยากได้พื้นที่รวมกลุ่มกันปลูก  เช่น ตำบล  อำเภอ เเละจังหวัดเป็นต้นครับ    จำนวนพื้นที่เราตั้งเป้าไว้คือ ในปี 2556 จำนวน 3,000 ไร่ ในเขตภาคเหนือ   เเละรับซื้อราคาประกันตลอดทั้งปี เเละมีการเซ็นต์สัญญา ระยะยาว 4 ปี ต่อครั้ง  เป็นอาชีพที่มั่นคง ถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน  ลงทุนไม่มาก ปลูกครั้งเดียว เก็บผลผลิตได้ 4-5 ปี ไม่เหมือนพืชชนิดอื่นๆ
       ถ้าเกษตรกรท่านใดสนสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอดเวลา 
คุณ อิทธิหาญ  088-840-6163 (D-TAC)  , 087-1432488  (AIS)   boyby007@gmail.com   หากโทรไม่ติด ขอให้ส่งข้อความไว้ครับ จะติดต่อกลับ

ข้อมูลเบื้งต้น  ของการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง 

 
ารจัดการองค์ความรู้
(Knowledge Management) : KM
เคล็ดลับเกษตร ๗ เรื่อง การปลูกหน่อไม้ฝรั่งให้ได้ผลผลิตสูง

 หลักการและเหตุผล 
หน่อไม้ฝรั่งปลูก 1 ครั้ง สามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 3-6 ปี หากมีการดูแลเป็นอย่างดีสามารถอยู่ได้นานถึง 10 ปีหน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชผักที่มีแนวโน้มในด้านความต้องการของตลาดสูง ทั้งการส่งออกในรูปหน่อสดและอุตสาหกรรมแปรรูป ดังนั้นเกษตรกรจึงเริ่มหันมาปลูกหน่อไม้ฝรั่งกันมากขึ้น ๆ หน่อไม้ฝรั่งที่พบเห็นอยู่ทั่ว ๆ ไป มีทั้งชนิดหน่อสีขาวซึ่งใช้สำหรับแปรรูปไม่ว่าจะเป็นหน่อชนิดใดก็ตาม การปลูกจะมาจากพันธุ์เดียวกัน หรืออาจจะปลูกจากต่างพันธุ์กันก็ได้ แต่จะให้ผลผลิตหน่อสีขาว หรือสีเขียวขึ้นอยู่กับวิธีการปฏิบัติซึ่งแตกต่างกัน ถ้าต้องการให้ได้หน่อสีขาว ก็ต้องพูนโคนกลบดินให้สูงประมาณ ประเทศไทยนั้นสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่งได้ตลอดทั้งปี วิธีการปลูก พันธุ์ที่ใช้ปลูก การปฏิบัติดูแลรักษา ตลอดจนเทคนิคต่าง ๆ ในการเพิ่มผลผลิต

ขั้นตอนการปฏิบัติ
 1.    เตรียมแปลงโดยการไถพรวนดิน ตากแดด 7-10 วัน และโรยปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน
2.      ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ได้แก่ ดินที่มีเนื้อดินร่วนจนถึงดินเหนียวร่วน   หน้าดินลึกและมีการระบายน้ำดี มีความอุดมสมบูรณ์ระดับปานกลางขึ้นไป ส่วนดินที่มีการระบายน้ำและอากาศไม่ดี มีน้ำขัง มีชั้นดินดานข้างใต้ เป็นกรดและด่างจัด นับว่าเป็นดินที่ไม่เหมาะแก่การปลูกพืช ทั้งนี้เพราะดินดังกล่าวเป็นอุปสรรคที่สำคัญซึ่งขัดขวางการเจริญเติบโตของรากพืช เป็นสาเหตุให้พืชเจริญเติบโตช้าและให้ผลผลิตต่ำ
3. ควรเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่มีร่มเงาของต้นไม้ อาคารหรือสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นที่ที่มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขังเมื่อให้น้ำหรือมีฝนตกมีสภาพความเป็นกรดหรือด่างเหมาะสม ควรเป็นกลางหรือกรดเล็กน้อย ไม่เป็นที่สะสมของโรคและแมลงดินเป็นดินร่วนปนทรายหรือปรับปรุงให้ร่วนซุยโดยการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่หมัก
         
4.    ระดับน้ำใต้ดินเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาเช่นกัน พื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกพืชชนิดนี้ ไม่ควรมีระดับน้ำใต้ดินสูงมากกว่า แม้ในฤดูฝน เพราะจะทำให้การเจริญเติบโตของรากไม่ดี โดยเฉพาะเมื่อมีอายุย่างเข้าปีที่สอง พื้นที่ใดมีระดับน้ำใต้ดินสูง ส่วนของดินที่รากจะแผ่ขยายไปหาอาหารก็จะลดน้อยลงไป และหากเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมขังระบบรากได้ง่ายด้วยแล้ว อาจทำให้ต้นหน่อไม้ฝรั่งตายได้การปลูกหน่อไม้ฝรั่งระบบร่องจีน ในฤดูฝนต้องสูบน้ำออกจากแปลงเพื่อปรับระดับน้ำใต้ดินให้พอเหมาะ หน่อไม้ฝรั่งจึงจะเจริญได้ดี

5. นำเมล็ดไปแช่น้ำอุ่น นาน 1 – 2 ชั่วโมง ก่อนนำไปเพาะเมล็ดจะงอกภายใน 7 – 15 วัน หากเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ใหม่สามารถนำไปเพาะเมล็ดได้ทันทีแต่ระยะเวลา ในการงอกประมาณ 10 - 15 วันนำเมล็ดมาหยอดลงในร่องที่เตรียมไว้ หยอดเมล็ดเป็นจุด ๆ ละ 1 เมล็ดห่างกันจุดละ 10- โรยทับด้วยฟูราดานบาง ๆ ในร่อง จากนั้นกลบเมล็ดโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้เขี่ยดินขอบร่องลงกลบในร่องบาง ๆ แล้วใช้ฟางคลุมทับบนแปลงหนาพอประมาณ ละลายยาป้องกันเชื้อรา อัตรา 2 ช้อนแกงต่อน้ำ ใส่บัวรดน้ำราดให้ทั่วแปลง จากนั้นรดน้ำตามให้ชุ่ม
6. การให้ปุ๋ยต้นกล้า
การให้ปุ๋ยในระยะแรก ๆ จะให้ในรูปของปุ๋ยละลายน้ำ โดยใช้ ไฮ-แม็ก อัตรา 50-100 ซีซี ต่อน้ำ ใส่บัวรดน้ำราดบนแปลงประมาณ 10-15 วันต่อครั้ง ให้ประมาณ 3-4 ครั้ง จากนั้นเริ่มให้ปุ๋ยทางดิน
สำหรับปุ๋ยทางดินในเดือนแรกให้ใช้ปุ๋ยสูตร 21-0-0 อัตรา 10-(5-6 ช้อนชา)ผสม สาร ที-เอส-3000 ประมาณ 1-2 ขีด ต่อพื้นที่เพาะต้นกล้าประมาณ
ในเดือนที่ 2 ให้ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 15-20 กรัมต่อ (5-7 ช้อนชา)ผสม สาร ที-เอส-3000 ประมาณ 1-2 ขีด ต่อพื้นที่เพาะต้นกล้าประมาณ 1 ตารางเมตรใส่ปุ๋ยเดือนละครั้ง ประมาณ 2-3 ครั้ง ในเดือนที่ 2 ถ้าต้นแสดงอาการปลายยอดเหลือง จะต้องเพิ่มการให้ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ผสม สาร ที-เอส-3000 ในอัตราเท่ากับเดือนแรก หลังจากนั้นให้ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ผสม สาร ที-เอส-3000 อัตราเท่ากัน
การตัดแต่งต้นกล้าหน่อไม้ฝรั่ง
การตัดแต่งต้นกล้าจะทำให้ต้นโปร่งขึ้น ไม่เป็นที่สะสมของโรคและแมลง และสามารถพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้การตัดแต่งต้นจะทำให้มีการสะสมอาหารที่เหง้าและตามากขึ้น ทำให้เหง้าและตามีขนาดใหญ่ขึ้น ดังนั้นการตัดแต่งต้นกล้าหน่อไม้ฝรั่งจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งและมักจะทำเมื่อต้นกล้า อายุประมาณ 2 1/2 - 3 เดือนขึ้นไป
ปัญหาจะเกิดขึ้นนับว่าเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งทำได้โดยการฉีดสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงประมาณเดือนละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการระบาดของโรคและแมลง
การให้น้ำ
หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชชอบน้ำมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้แห้งหรือแฉะเกินไป การให้น้ำต้องคำนึงถึงลักษณะของดินและสภาพพื้นที่เป็นสำคัญ อย่างน้อยควรให้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถ้าหน่อไม้ฝรั่งขาดน้ำจะทำให้ต้นมีเส้นใยมาก เหนียว หน่อกระด้าง และมีคุณภาพต่ำ การให้น้ำไม่สม่ำเสมอ คือแห้งหรือแฉะเกินไป อาจทำให้ลำต้นแตกเป็นแผลและอาจจะทำให้โรคเข้าทำลายได้ การให้น้ำแบบร่อง การให้น้ำแบบสปริงเกอร์
หลุมปลูกและวิธีการย้ายปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
ก่อนย้ายปลูก 1 วันจะต้องให้น้ำในแปลงปลูกที่เตรียมไว้อย่างดีแล้วเพื่อให้ดินมีความชื้นพอเหมาะต่อการขุดหลุมปลูก สำหรับการเตรียมหลุมปลูกนั้น ควรมีการกำหนดจุดปลูกด้วยการขึงเชือกให้ตึงเพื่อเป็นแนว แล้วใช้ไม้ที่มีความยาว ทำเครื่องหมายตำแหน่งที่จะปลูกไว้บนแปลงปลูก โดยใช้ระยะระหว่างต้น และระยะระหว่างแถว จากนั้นขุดหลุมกว้างประมาณ 15- ลึก 15- (1 หน้าจอบ) คลุกเคล้าปุ๋ยหมักที่ผสมสาร ที-เอส-3000 ดีแล้ว 2 กะลามะพร้าว และปุ๋ยวิทยาศาสตร์สูตร 15-15-15 ในอัตรา 2 ช้อนชากับดินที่ขุดขึ้นมา แล้วใส่ลงไปในหลุมปลูก นำกล้าหน่อไม้ลงปลูกให้อยู่ต่ำกว่าระดับผิวดินประมาณ โดยแผ่รากให้กระจายออกไปโดยรอบ แล้วกลบดินจากนั้นหยอดฟูราดานไว้รอบต้น (หรือรองก้นหลุม) ประมาณ 1 ช้อนชา เพื่อป้องกันแมลง หรือเสี้ยนดินที่อาจจะมากัดกินต้นกล้าได้ ต้นกล้าที่นำมาปลูก ควรคัดให้มีขนาดไล่เลี่ยกันปลูกในแปลงเดียวกันเพื่อให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งแปลง หลังจากย้ายปลูกแล้ว ควรคลุมดินด้วยฟางเพื่อช่วยรักษาความชื้นของดินไม่ให้แห้งเร็วเกินไปและควรรดน้ำผสมยากันราให้ชุ่มแต่อย่าให้ถึงกับแฉะ ในระยะแรกนี้ควรรดน้ำให้วันเว้นวันจนกว่าต้นกล้าจะตั้งตัวได้
การเก็บเกี่ยว
                 ควรเก็บเกี่ยวหลังจากย้ายปลูกประมาณ 4-5 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของ ต้น   หน่อไม้ฝรั่งเป็นสำคัญ เมื่อเริ่มเก็บเกี่ยวจะต้องเก็บเกี่ยวทุกวันในช่วงเช้าเวลา  06.00-09.00 น.   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำหน่อขาวต้องเก็บในช่วงตอนเช้ามืดเวลา 06.00 น. เพราะถ้าหน่อเจริญพ้นดินที่กลบไว้จะทำให้ส่วนปลายของหน่อมีสีเขียวส่วนโคนมีสีขาว ไม่เป็นที่ต้องการของโรงงานผลิตหน่อไม้ฝรั่งกระป๋อง แต่ปัจจุบันโรงงานเขียวยาวไม่เกิน ซึ่งเรียกว่า พวกกรีนทิปหน่อไม้ฝรั่งที่สมบูรณ์เต็มที่ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวหน่อไม้ฝรั่งทำได้ง่าย ในกรณีที่เป็นหน่อสีเขียว จะเก็บเกี่ยวเมื่อหน่อโผล่พ้นผิวดินประมาณ โดยใช้มือถอน ส่วนพวกหน่อสีขาวต้องใช้พลั่วขนาดเล็กคุ้ยดินแล้วจึงใช้มือถอน เมื่อถอนแล้วต้องกลบดินให้เรียบร้อยการเก็บเกี่ยวจะต้องทำต่อเนื่องกันทุกวัน แต่หยุดพักการเก็บเกี่ยวเมื่อสภาพต้นทรุดโทรมมาก (ให้เกรดเอเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์) ของผลผลิตทั้งหมด

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
1. ภายหลังการเก็บเกี่ยว ต้องนำหน่อไม้ฝรั่งเข้าร่มทันที และการดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆควรจะกระทำในที่ร่มทั้งหมด เช่น การนำไปล้างน้ำสะอาด เพื่อชำระเอาดินและสิ่งสกปรกออก หรือตัดให้ได้ความยาวตามมาตรฐานการรับซื้อ
2. นำหน่อไม้ฝรั่งไปตัดแต่งโคน ให้ได้ความยาวตามที่พ่อค้ารับซื้อต้องการ ปกติจะตัดให้มีความยาว คัดเกรดหน่อไม้ฝรั่งออกตามลักษณะที่ต้องการ เช่นเกรดเอตูม เกรดเอบาน เกรดบีตูม เกรดบีบาน เกรดซี และตกเกรด ส่วนขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อนั้น ผู้รับซื้อแต่ละแหล่งจะกำหนดไว้ไม่เท่ากัน
3. นำหน่อไม้ฝรั่งที่คัดเกรดเรียบร้อยแล้วมา มัดรวมกันเป็นมัด ๆ หนักมัดละประมาณ 1- เพื่อสะดวกในการบรรจุและถ่ายออกจากภาชนะบรรจุ
4. ต้องทำการขนส่งออกสู่ตลาดหรือผู้รับซื้อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในการขนส่ง ถ้าเป็นระยะทางไกล ควรมีการลดความร้อนให้หน่อไม้ฝรั่งโดยการใช้น้ำแข็งป่นโรยสลับกับหน่อไม้ฝรั่งเป็นชั้น ๆ ในภาชนะบรรจุ

หน่อไม้ฝรั่งคุณภาพลักษณะโดยทั่วไป
1. ลักษณะของยอดหน่อต้องแน่นและไม่บานหน่อมีความสะอาดปราศจากโรค
2  .ลักษณะของหน่อต้องตรงไม่คดงอ หรือแคระแกรน หน่อที่จะรับซื้อต้องมีความยาวไม่ต่ำกว่า 25  ซม. โดยส่วนที่เป็นสีเขียวจะต้องมีความยาวมากกว่า 19 ซม.ขึ้นไป ซึ่งผู้ขายจะเป็นผู้ตัดให้ได้ขนาดดังกล่าวก่อนส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ
3.หน่อไม้ฝรั่งที่มีส่วนโคนเป็นสีเขียว จะต้องพิจารณามาตรฐานน้ำหนักต่อหน่อของหน่อไม้ฝรั่งในแต่ละเกรดด้วย ซึ่งจะพิจารณาแยกเกรดโดยอาศัยการเปรียบเทียบขนาดเฉพาะส่วนที่เป็นสีเขียวเท่านั่น


ขนาดหน่อไม้ฝรั่ง
แบ่งออกเป็น 3 ขนาด ด้วยกันคือ
1. เกรดเอ คือหน่อไม้ฝรั่งที่มีความยาวหน่อ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อมากกว่า 1.5นิ้ว
2. เกรดบี คือหน่อไม้ฝรั่งที่มีความยาวหน่อ 25 เซนติเมตรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อตั้งแต่ 0.8-1 นิ้ว
3.เกรดซี คือหน่อไม้ฝรั่งที่มีความยาวหน่อ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนหน่อน้อย