เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

บอร์ดกลุ่มชมรม => ชมรมนักกลอน => ข้อความที่เริ่มโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 21:17:38



หัวข้อ: เมื่อวันนั้นมาถึง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 21:17:38

รุ่งวันเสาร์ เข้าสวน ทวนกระแส
เดินยักแย่ เลียบแดน แสนสุขสันต์
สวมหมวกหลีก ปีกกว้าง พรางตะวัน
ไอหมอกควัน แน่นหนา เริ่มซาบาง

ต้นลำไย ใบช้ำ แห้งดำเขียว
ใบซีดเซียว หงิกงอ รอคืนร่าง
ใบเก่าเหลือง ร่วงหล่น บนริมทาง
กิ่งใบห่าง เลาะฟัน แต่งก้านฟัน

ต้นปลูกต่ำ น้ำยัง ขังอยู่บ้าง
ปล่อยลงคู จวนหมด ไหลลดหลั่น
ต้นปลูกเนิน ดินแดง เริ่มแห้งมัน
ต้องขึ้นคัน กันพุ่ม น้ำลุ่มคง

ใส่ปุ๋ยคอก นอกโคน ต้นละถุง
ในกระบุง ขี้ค้างคาว ซาวเป็นผง
ต้นสามกำ นำโรย โปรยรอบวง
ปูนขาวลง เททับ ปรับธาตุดิน

เสร็จแล้วไซร้ ให้น้ำ พอฉ่ำชุ่ม
ยอมเททุ่ม กายใจ ไปหมดสิ้น
รอผลิดอก ออกผล ยามยลยิน
ชุบชีวิน สักหน พ้นหนี้ เทอญ

กานต์


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: >_อนัตตา_< ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 21:31:35
วันลงสวน  ชักชวน  ชี้นกไม้ 
นั่นลำใย  มะไฟ  ลูกดกเหลือ
ออกผลดก  รอบนี้  หนี้จางเจือ 
มองที่เสื้อ  ต้องวิ่งจ๊าก  ทากมันเกาะ..... :'( :'( :'(   


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDEN RIVER ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 22:02:30
เห็นเถาวัลย์ พันเลี้ยว เกี่ยวกระหวัด
ประคองรัด เสาทีวี ที่หน้าบ้าน
ต้นแคขาว  โคลงเคลง  ดอกเบ่งบาน
ไหวกิ่งก้าน ล้อลม  ข่มหลังคา

ผักบุ้งเลื้อย  ยอดขาว  ขึ้นราวรั้ว
ผักหวานมั่ว กับบวบอิ่ม  อยู่ริมฝา
ตำลึงกอด พลอดรัก  ผักมันปลา
ตะไคร้ข่า  ขิงหอม รายล้อมเรือน

พริก มะนาว มะยม  ชะอม เงาะ
มะเขือเปราะ เป็นกิ๊กไผ่  ใครจะเหมือน
ผักปลังเคียง ย่านาง ไม่ร้างเลือน
กระชายเยือน  ขมิ้น ขลู่ ชะพลู ไพล

เพลงราตรี  ขับขาน ที่บ้านน้อย
ยังเฝ้าคอย   แก้วตา อย่าเฉไฉ
อิจฉาคู่  ขลู่ ขมิ้น ทมิฬไพร
เจ้าปล่อยให้ พี่เหว่ว้า เอกากาย

วันนี้ปลูก  มะม่วง น้ำดอกรัก
ว่านนางกวัก  กวักคนดี  อย่าหนีหาย
ต้นโกสน  กุศลสร้าง  แคลงคลางคลาย
สี่ทิศหมาย   มองเงา   คอยเจ้าคืน....


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: >_อนัตตา_< ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 22:19:17
สวนของท่านกานต์ กับท่าน GOLDEN RIVER น่าไปเยี่ยมชมจริง ๆ เลยค่ะ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: นายตะเข้ ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 22:24:52
ดอดออกไป ริมรั้ว กลัวจิ้งจก
หน่อไม้หก ไผ่หวาน กระวานขาว
เคียงแปลงผัก ปลูกใว้ ข่ามะนาว
 ผักกาดข้าว กับข้าวเรา ในยามเย็น..

 เปิดตู้เย็น เห็นมีหมู อยู่หนึ่งชิ้น
แลบลิ้นแผลบ เสร็จเรา เมาเห็นเห็น
 รีบเร็วรี่ ปรี่เข้าไป ในประเด็น
คะน้าเว้น กินตะวา มาเมื่อแลง..

 เก็บผักบุ้ง ริมน้ำ ซ้ำก้านอวบ
มีลูกบวบ ลูกเล็กเล็ก ไม่แสลง
ผักชะอม ลมปลิวรี่ พี่มาแรง
 เก็บไปแกงใส่หน่อไม้ ใบย่านาง..

 มะเขือพวง ล้วงออกไป ใส่น้ำพริก
 ตำขลุกขลิก ใส่กะปิ มีหน่อหาง
หั่นเนื้อหมู ผัดผักบุ้ง ให้นวลนาง
ไม่คั่งค้าง หยิบเหล้ายา รอช้าใย..

 แค่นี้พอ แล้วดวงใจ ในสวนผัก
 ต้นไม้สัก ริมแดน ลมพัดไหว
เสียงแกรกกราก ใบหลุดลิ้ว ปลิวลอยไป
ชมแมกไม้ ในสวนเรา แสนเริงใจ...ฮิฮิ ;D :P  


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 25 มิถุนายน 2012, 22:32:00

คิดหลายวัน ฝันเคี่ยว กลอน.เที่ยวสวน
สัมผัสอวล ประทิ่น กลิ่นพฤกษา
ชมสัตว์แปลก แมกไม้ ไพรพนา
ถึงวันหยุด สุดสัปดาห์ มาชมกัน

ดำเนินท่อง ส่องวิถี ยลชีวิต
ม่านฟ้าปิด ฝนตก อกสนั่น
ไร้อิจฉา ตาร้อน ทอนโรมรัน
พบสุขสันต์ ขันขบ สบฮาเฮ

เชิญเพื่อนพ้อง น้องพี่ วจีภาคย์
ร่วมใจลาก กระบวน จารสรวลเส
มันหวานหยด ผดผลิ ราวลิเก
หมายถอกเท ร้อยกระทู้ คู่เชียงราย

เชิญร่วมสร้างสรรค์บทกลอนเกี่ยวกับธรรมชาติ
.เที่ยวสวน.กะว่าถ้าไม่ครบร้อยกระทู้จะไม่หยุด

ด้วยจิตคารวะ...กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 มิถุนายน 2012, 05:34:34
สวนของท่านกานต์ กับท่าน GOLDEN RIVER น่าไปเยี่ยมชมจริง ๆ เลยค่ะ  ;D ;D ;D

...ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ...

สวนของพี่ ที่ลำพูน ปุ๊นปุ๊นจ้า
ป้ายขึ้นว่า "รตีกานต์" ติดฝาเข่ง
จากลำปาง ทางดี แค่นี้เอง
ไม่ต้องเร่ง ตาหลับ ขับสบาย

เตรียมอาหาร หวานคาว สาวพิเศษ
จะเสด็จ มาเยือน เพื่อนสหาย
ถึงหนุ่มฟ้อ หล่อดี เรียก.พี่ชาย
อมนิ้วอาย บิดขบวน ม้วนสำออย

น้ำพริกแดง แกงหมู ปลาทูจี่
แหนมชั้นดี ไส้อั่ว คั่วแคหอย
ทอดไขแคบ แอ้บอ่องออ จอบัวลอย
น้ำเพชรพลอย ล้างผัก หมักแช่แกง

ใสสวรรค์ กลั่นจาก ผลหมากไม้
สมุนไพร ใส่โหล โชว์บนแหย่ง
ขวดน้ำหวาน ตาลเคี่ยว สีเขียวแดง
ใส่น้ำแข็ง ลงลอย ค่อยดื่มริน

มาบ้านพี่ มีของ ร้องว่า.ขัน
เบญจธรรม์ ยึดถือ คือ.ขันศีล
ขันใบหลวง.ตวงตัก อาบน้ำกิน
ที่ได้ยิน แสนสนุก.ขันจุ๊กกรู...

กานต์


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDEN RIVER ที่ วันที่ 26 มิถุนายน 2012, 09:43:06
สวนของท่านกานต์ กับท่าน GOLDEN RIVER น่าไปเยี่ยมชมจริง ๆ เลยค่ะ  ;D ;D ;D
อิอิ..กำลังฮิบ  กำลังหานะครับ...กลอนพาไป

"เห็นเถาวัลย์ พันเลี้ยว เกี่ยวกระหวัด
ประคองรัด เสาทีวี ที่หน้าบ้าน"



ในวิถี ชีวิต ลิขิตคาด
ใจหวังวาด  บ้านและสวน ชวนหรรษา
ปลูกทุกอย่าง   กินได้ในอาณา
จะลาบ ส้า  เก็บได้  ใบ เครื่องเคียง...[/
size]


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 มิถุนายน 2012, 12:46:48


มีของดีมาฝากจากสวนจ้า...

แสนเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มาถึงบ้าน
อาบน้ำท่า ชื่นบาน อาหารค่ำ
ย่างเนื้อไก่ ไส้อั่ว ถั่วส้มตำ
เคี่ยวทำ น้ำมะตูม ดื่มชุ่มใจ

อกหน้าท้อง น่องปวด รวดแขนขา
รู้สึกชา มือเหน็บ เจ็บบ่าไหล่
ตึงขมับ หนับหัว ตึงทั่วไป
เริ่มงานใหม่ ไม่เข้าที่ มีอาการ

ขอน้องบีบ จีบจับ ขยับเส้น
กระดูกเอ็น ขมวด นวดประสาน
คลายกล้ามมัด งัดข้อ ต่อพับยาน
ดูกเชิงกราน ลาดหลัง ทั่งท้ายทอย

น้ำยาอุ่น สมุนไพร ต้มไฟอ่อน
ยอดกระท้อน มะดัน หั่นเป็นฝอย
มะยม ทับทิม ฝรั่ง ซ้อนนั่งซอย
ฝานแผ่นน้อย ขมิ้นชัน กลั่นยาทาน

รสหอมหวาน ตาลใส่ ไม้จันทน์ขาว
ผสมกวาว เครือแดง แรงฤทธิ์ว่าน
นกเขาชัน ขันแน่น นานแสนนาน
แผ่เบี้ยบาน ทะยานฟ้า พญางู

กานต์




หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 มิถุนายน 2012, 22:06:03


สองมือจับ พวงมาลัย ใจมุ่งมั่น
เท้าแตะคัน เร่งไป ไกลเบื้องหน้า
มองรองข้างทางรุด สุดสายตา
สองล้อหน้า หลังหมุน ฝุ่นกระจาย

รถขึ้นเนิน เดินไป ยังไวกว่า
ขับเบาช้า จังหวะ ขรุขระหลาย
มีน้ำขัง โคลนตม หล่มแอ่งควาย
ช่วงดินทราย ล้อฟรี ดีใช้วินซ์

รถโขยก โยกซ้าย ย้ายโยกขวา
เลียบแนวป่า ลำธาร ผ่านผาหิน
ถึงที่โล่ง ส่งเกียร์ห้า ดังม้าบิน
เข้าสู่ถิ่น เขตจวน สวนลำไย

ถอดหมวกปัด ฝุ่นทราย ติดกายร่าง
ยืดตัวพลาง หน้าหงาย หายใจใหญ่
เปิดกระบะ อุปกรณ์ ซ้อนอยู่ใน
ข้าวของใช้ ยกหยิบ รีบเอาลง

ติดเตรื่องยนต์ พ่นยา ฆ่าหนอนด้วง
ช่อมะม่วง พวงลำไย ใกล้เก็บส่ง
เข้าพรรษา ยังไกล ได้ปลิดปลง
แพ็กขายล้ง โกดังเก่า เจ้าประจำ

รู้สึกตัว อีกครั้ง หลังงานเสร็จ
เหงื่อไหลเล็ด เปียกเนื้อ เสื้อผ้าฉ่ำ
อยู่คนเดียว ไร้คน บ่นพึมพำ
กรรมเอ๋ยกรรม อ้างว้าง ช่างเดียวดาย

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 17:27:40

...สร้างสวนรัก...

ทั้งสี่ห้อง หัวใจ ไม่ปล่อยว่าง
คิดเพียรสร้าง หวังจะ ปลูกขนุน
ไม้ยืนต้น สูงใหญ่ ไว้ค้ำจุน
เพื่อเกื้อกูล คุณรัก จักอนันต์

จะไถพรวน ไร่ที่สอง ห้องบนติด
มะยมชิด ลงปลูก คงสุขสันต์
ให้เพิ่มพูน เติมรัก วันเติมวัน
แนบสนิท ชิดกัน จนวันวาง

ส่วนล่างซ้าย หมายปลูก ลูกเอมอิ่ม
ต้นทับทิม อร่าม ตามแนวขวาง
เงินไหลกอง ทองเท ทุกทิศทาง
ฐานรักสร้าง ปึกแผ่น แน่นทนนาน

คิดจะวาง ล่างขวา ดาไร่ต่อ
ลำไยดอ กลมกล่อม กรอบหอมหวาน
สานเยื่อใย ใจผูกพัน นานแสนนาน
เวลากาล ผ่านไป ไม่พังภิน

ยังเหลือหลง ตรงกลาง ว่างเอาไว้
รอวันได้ รักมงกุฎ สุดถวิล
คอยคนให้ ปุ๋ยน้ำ ชุ่มฉ่ำดิน
ดอมประทิ่น เย้าหยอก ดอกรักบาน

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 11:25:33

อยากไปเที่ยวสวนลำใย จังเลยค่ะ
กำลังเก็บเกี่ยวซะด้วย
อิจฉาท่านกานต์นะคะ 
สนุกสนานกับการเก็บลำใย
จนลืมห้องกลอนไปเลย  :D
ยังไงก็...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ.. ;)




หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 04 กรกฎาคม 2012, 05:46:17


รอให้เบิก เถิกทาง ถางหญ้าสวน
โทรบอกด่วน ชวนน้อง เดินท่องป่า
หญ้าขี้นก รกลิ่ม อาจทิ่มตา
เกี่ยวแข้งขา ล้มเอา เกา..คั้นคัน

ปรับดินโป่ง โล่งเตียน เสร็จเยียนเถิด
กลัวผะเลิด(ลื่น)เกาะเร็ว กอดเอวฉัน
รับคนแปลก แขกมา เวลาวัน
ดูซินั่น เห็นไหม ใหญ้ใหญ่..งู

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 04 กรกฎาคม 2012, 11:35:46

เบอร์โทรพี่ ให้ไว้ ใจไม่กล้า
โทรไปหา เกรงจิต คิดอดสู
หากคนรับ ปลายสาย หมายรับรู้
เป็นโฉมตรู ที่บ้าน น้องอานเลย

..แปลกเนอะ...
ป่าละเมาะ หรือสวน ควรเฉลย
งูเงี้ยวเยอะ จริงแท้ แย่แล้วเอย
ไม่คุ้นเคย ขอด้วย ช่วยจับมือ 


little girl


(http://upic.me/i/00/2012-x05.gif) (http://upic.me/show/34768961)







หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 05:52:17

ไม่เคยคุ้น ขอด้วย ช่วยจับมือ
(กลัวผะเลิดแน่ๆ)

นั่งอีแต๋น แล่นมา หานวลน้อง
ฮอ.ไม่ต้อง กลัวสิ้น บินเร็วปรื๋อ
ขับรถเก๋ง เร่งเลี้ยว เสียวสะดือ
ชายคนซื่อ ยิงฟัน นั่น.กานตี

มาประคอง น้องต้า พาชมสวน
ขึ้นรถ.ด่วน นั่งแนบ แอบข้างพี่
หรืออยู่บัง รั้งเอว เร็วเข้าซี
จับหมวกที เครื่องแรง แซงรีบไป

น้องชมสวน พี่ชมนวล ชวนละอย่าง
สวนกว้างขวาง ห่างลิบ สิบกว่าไร่...ต้า
ส่วนรูปร่าง ล่างสะโพก อกไฉไล...พี่
น้องยิ้มให้ พี่ยิ้มตอบ แทนขอบคุณ

แสนเพลิดเพลิน เจริญใจ ได้ชมสวน...ต้า
ใจปั่นป่วน ชมน้อง ต้องไออุ่น...พี่
อยากจะอยู่ คู่สวน อวลละมุน...ต้า
อยากจะหนุน นอนตัก บอกรักเธอ...พี่

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: >_อนัตตา_< ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 08:14:22
 
:o :o :o

เฝ้าแอบมอง  พี่-ต้า  พาชมสวน 
กลีบลำดวน หอมฟุ้ง กลิ่นคลุ้งไคล้
ต้องหลบตัว  แอบดู  อยู่ลิบไกล 
แสนสุขใจ แม้ใคร  หาเทียบปาน......

อิอิอิ ;D ;D ;D  


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 08:21:24


จะกางร่ม ชมดอก หยอกผีเสื้อ
จะพายเรือล่องน้ำ ลำละหาน
จะร่ายรำ ฮัมเพลง บรรเลงกานท์
จะกราบกราน พุทธา รักษานวล

จะแกงขม ต้มยำ ทำกับข้าว
จะเจาะจาว ปลิดตาล หลังบ้านสวน
จะเสียบแซม แก้มสวย ด้วยลำดวน
จะเชื้อชวน จุมพิต ก่อนนิทรา

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 08:39:12

มาหยอดกลอน ก่อนไป เพื่อไว้อ่าน
คล้ายนิทาน ขานคำ นำเสนอ
เป็นเรื่องราว คุยกัน ฉันกับเธอ
หากได้เจอ พี่จริง หญิงคงอาย  :-[

งานที่สวน ชวนเหนื่อย เมื่อยอ่อนล้า
ยังต้องมา คิดกลอน อ้อนเป็นสาย
หาเวลา พักร้อน เพื่อผ่อนคลาย
เดี๋ยวร่างกาย แพ้พ่าย เพราะวัยเกิน  ;D

มีภาระ หนักอึ้ง หนึ่งสองสาม
ที่ต้องตาม ดูบ้าง ยากห่างเหิน
ไหนจะสาว บ้านเล็ก เด็กส่วนเกิน
ยังมาเอิ่น สาวน้อย ให้คล้อยตาม


little girl
](http://upic.me/i/ym/33304.gif) (http://upic.me/show/37126518)

ถูกท่านอนัตตา กับท่านกานต์ ปาดหน้า 


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: >_อนัตตา_< ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 08:45:05

มาหยอดกลอน ก่อนไป เพื่อไว้อ่าน
คล้ายนิทาน ขานคำ นำเสนอ
เป็นเรื่องราว คุยกัน ฉันกับเธอ
หากได้เจอ พี่จริง หญิงคงอาย  :-[

งานที่สวน ชวนเหนื่อย เมื่อยอ่อนล้า
ยังต้องมา คิดกลอน อ้อนเป็นสาย
หาเวลา พักร้อน เพื่อผ่อนคลาย
เดี๋ยวร่างกาย แพ้พ่าย เพราะวัยเกิน  ;D

มีภาระ หนักอึ้ง หนึ่งสองสาม
ที่ต้องตาม ดูบ้าง ยากห่างเหิน
ไหนจะสาว บ้านเล็ก เด็กส่วนเกิน
ยังมาเอิ่น สาวน้อย ให้คล้อยตาม


little girl
](http://upic.me/i/ym/33304.gif) (http://upic.me/show/37126518)

ถูกท่านอนัตตา กับท่านกานต์ ปาดหน้า 

ปาดหน้าเป็นยังไงค่ะยายต้า  :-\ :-\ :-\  เหมือนกับขับรถปาดหน้าหรือเปล่าค่ะ แห่ะๆๆๆ :-[ :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 08:59:08

อธิบายเรื่อง "ปาดหน้า" นะคะ
การต่อกลอน ของเพื่อน
เราจะรับสัมผัสท้ายบทจบของเพื่อนค่ะ

ยายต้าเจตนาต่อกลอนท่านกานต์

"แสนเพลิดเพลิน เจริญใจ ได้ชมสวน...ต้า
ใจปั่นป่วน ชมน้อง ต้องไออุ่น...พี่
อยากจะอยู่ คู่สวน อวลละมุน...ต้า
อยากจะหนุน นอนตัก บอกรักเธอ...พี่

บทสุดท้าย ท่านกานต์ลง "บอกรักเธอ"

ยายต้าก็มารับสัมผัส

"คล้ายนิทาน ขานคำ นำเสนอ"

แต่กำลังเขียนอยู่ยังไม่ได้ส่ง
ก็มีท่านอื่นมาต่อกลอนท่านกานต์ไปซะก่อน
ซึ่งตอนนี้  สัมผัสส่งคือกลอนท่านกานต์

"จะเชื้อชวน จุมพิต ก่อนนิทรา"

ทำให้กลอนที่ยายต้าเขียนต่อ ไม่รับสัมผัสกัน

ลักษณะนี้เรียกกันเล่นๆ ว่า  "โดนปาดหน้า"ค่ะ

(http://upic.me/i/dv/l7212.gif) (http://upic.me/show/36195176)





หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ วันที่ 06 กรกฎาคม 2012, 15:15:57

ไม่เคยคุ้น ขอด้วย ช่วยจับมือ
(กลัวผะเลิดแน่ๆ)

นั่งอีแต๋น แล่นมา หานวลน้อง
ฮอ.ไม่ต้อง กลัวสิ้น บินเร็วปรื๋อ
ขับรถเก๋ง เร่งเลี้ยว เสียวสะดือ
ชายคนซื่อ ยิงฟัน นั่น.กานตี

มาประคอง น้องต้า พาชมสวน
ขึ้นรถ.ด่วน นั่งแนบ แอบข้างพี่
หรืออยู่บัง รั้งเอว เร็วเข้าซี
จับหมวกที เครื่องแรง แซงรีบไป

น้องชมสวน พี่ชมนวล ชวนละอย่าง
สวนกว้างขวาง ห่างลิบ สิบกว่าไร่...ต้า
ส่วนรูปร่าง ล่างสะโพก อกไฉไล...พี่
น้องยิ้มให้ พี่ยิ้มตอบ แทนขอบคุณ

แสนเพลิดเพลิน เจริญใจ ได้ชมสวน...ต้า
ใจปั่นป่วน ชมน้อง ต้องไออุ่น...พี่
อยากจะอยู่ คู่สวน อวลละมุน...ต้า
อยากจะหนุน นอนตัก บอกรักเธอ...พี่

กานต์








แล้ววันนี้ เจ้านายมี สาวคนโก้
พานั่งโชว์ อีแต๋นแนบ แอบใจเผลอ
สุขสนานสราญจิตมิตรปรนเปรอ
ต่างเสนอสนองชมสมอุรา

เขม้นมอง คุ้นคุ้น หุ่นอย่างนี้
มือฉันป้องจ้องเร็วรี่ที่ใบหน้า
ขยับหมวกปีกกว้างบังลงมา
โพกคลุมผ้าเล็งแลชะแง้ไป

ยินสุ้มเสียงสำเนียงนี้ที่จำซึ้ง
ตั้งใจฟังแล้วจึงแน่ใจได้
คุยกันสุขชื่นมื่นรื่นพิไร
จะเป็นใครไหนกัน..นั่นคือเธอ

จึงซ่อนพรางใบหน้าตาจรดจ้อง
เจ้านายมองเรียกฉันพลันยืนเซ่อ
ก้มหน้าหลุบรับคำสั่งอย่างเบลอเบลอ
ไม่กล้าเผลอสบตาแม่หน้านวล

ฉันแพ้รักพ่ายล้นจนแทบดิ้น
รักพังภินท์ผินหนีหน้ามาทำสวน
ขุดดานดินปลูกไม้ไถพลิกพรวน
รักแปรปรวนจำไกลไม่ย้อนคืน

เปลี่ยนชื่อใหม่ใช้หนาพาหนีเศร้า
อยู่ป่าเขาเนาสวนหวนใจฝืน
ลงพันธุ์พืชรดน้ำทนกล้ำกลืน
นอนกลางคืนดูดาวร้าวฤทัย

ให้หวนไปในคราเพลาผ่าน
ฉันซมซานพ้นหน้าพาหม่นไหม้
มิคิดกลับแม้ลับสิ้นด่าวดิ้นไป
ใช้ชื่อใหม่ขอไกลเธอมิเพ้อเกิน

มาวันนี้ที่สะท้อนรอนใจฉัน
เราต่างกันแสนไกลใช่ผิวเผิน
เขาเกื้อหนุน..คุณผู้หญิง.."ลิตเติลเกิร์ล"
กลับเผชิญหนีไม่พ้นจนฤดี

นายท่านสั่งโต๊ะตั้งนั่งพักผ่อน
ร่มกระท้อนไม้ใหญ่ในสวนศรี
..คุณผู้หญิง..เคลียคลอรอพาที
ใจฉันนี้ อยากไปพ้น ..พ้นสวนไป

ไม่อยากอยู่ไม่อยากรู้ไม่อยากเห็น
ชำเลืองเร้นเธออาจดูอยู่เป็นได้
จำหลบหน้าซ่อนสายตาผ้าคลุมไว้
รีบเดินไปขนข้าวของกองตั้งวาง


ขอบคุณครับ



ศิลาสีรุ้ง
๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕




หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 06 กรกฎาคม 2012, 21:12:24

    (http://upic.me/i/mh/40023_1.gif) (http://upic.me/show/11246994)


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 กรกฎาคม 2012, 21:25:53

น้องหญิงจ๊ะ หันหน้า มาทางนี้
อย่าคลุกคลี คนใช้ รีบไกลห่าง
เกรงติดห่า*บ่าโหก ไอโขกทราง
แฝงในร่าง เป็นกอบ ผีปอบ.พราย

แกซมซาน ผ่านสวน ครวญขอพี่
ช่วยรับที ชี้ตัว.หัว.หน้า.ส่าย
ทำท่างู ฉกลิ้น เกือบดิ้นตาย
เป็นบ้าบ้าย คอเอียง เสียงไม่มี

แกคงมี ตระกูล รุนชาติ
เคยพลั้งพลาด ในรัก จักต้องหนี
จึงแชเชือน เบือนบิด อิสตรี
หลายครั้งที่ ฉี่หด รดเสื่อนอน

ตัวสางสาบ อาบน้ำ เย็นสามขัน
ฟางสุมควัน กันยุง ไร้มุ้งหมอน
ผ้าห่มผืน หืนเหม็น ขาดเป็นตอน
มักลุกก่อน ไก่โห่ โงทันที

เริ่มเช้าสาย บ่ายค่ำ จนดำมืด
แกยังอืด ทำงาน มิคลานหนี
แกงฝักถั่ว คั่วผำ ยำหัวปลี
ปลาทูจี่ ขม.ดิบ.เผ็ด.หยิบกิน

ทุกครั้งที่ หวีผม ชมกระจก
แกจะยก รูปน้อย ค่อยประทิ่น
มีสิ่งเดียว ติดมา กับกายิน
สาวโสภิณ นามปิด...ลิตเติลเกิร์ล

ถูกแฟนทิ้ง...น่าฉงฉานจังเยย

กานต์

ห่า-อหิวาต์ บ่าโหก-ริดสีดวง ไอโขก-ไอหวัด



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2012, 00:30:52

ไปเรียกอีก หนึ่งคนสวน ชวนขนของ
ที่วางกอง อีแต๋นนี้ มีหลายอย่าง
เต๊นท์บังแดดโต๊ะสนามนำมากาง
กระติกน้ำ อาหารวาง อย่างมากมาย

เสียงดนตรีเคล้าคลอล้อลมโบก
เห็นกิ่งไม้ ใบโยนโยก ยิ่งโศกหลาย
ดั่งวาจาถางถากอยากให้อาย
เสียงเจ้านายกังวานผ่านสายลม

คราตกต่ำซ้ำซัดกรรมกัดติด
โถชีวิตผิดใดให้ขื่นขม
ชะตาร้ายร่ายเร้าจึงเศร้าซม
แม้จ่อมจมเจียนตายไม่ต่างกัน

เสียงเจ้านายใส่ความย้ำหลายโรค
ยิ่งวิโยคหนักหนาน่าขบขัน
ทั้งโรคนั่น โน่นนี่ บ่งชี้พลัน
ต้มยำกันหยันย้ำหนอคำคน

ฉันก็เพียงตกอับซับทุกข์โศก
จะมีโรค ก็เพียงใจ มิห่ายหม่น
ผิดหวังรักเจียนตายทุรายรน
ใช่เป็นคนล้นโรคภัยไปทั้งตัว

ก็เพียงอวด พวกสาวสาว เฝ้าเพลินเพลิด
ก็เชิญเถิดอย่าได้เว้นเห็นยิ้มหัว
คอยจ๊ะจ๋า จ๋าจ๊ะ รื่นระรัว
เห็นว่าตัว ฉันนั้นป่วย หลายโรคร้าย

ถึงตกต่ำ นอนดิน ดมกลิ่นหญ้า
ถึงจะเอ่ยเปรยมาวาจาหมาย
ถึงต้องจนทนรับจ้างซังกะตาย
ถึงมลายก็คือคนมิพ้นคน

การโอ่อวด ข่มคนงาน ท่านทำบ่อย
ควงสาวน้อยเปลี่ยนหน้าพาสับสน
"คุณผู้หญิง"ก่อนก่อนไซร้ เปลี่ยนไปจน
นับถ้วนคน หรือไม่ เท่าไรกัน

เหล่าคนงานกลัวตกงานพากันแหยง
ยอมให้แกล้งว่าร้ายให้เห็นขัน
พวกสาวสาวเส้นตื้นยิ้มรื่นพลัน
ล้วนทอฝัน.."คุณผู้หญิง" ไม่กริ่งใจ


ขอบคุณครับ
ศิลาสีรุ้ง
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2012, 00:34:34



จองไว้ก่อน      ;D    ;D    ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2012, 19:35:07

เล่นเป็นเด็กเล็กอยู่ดูน่ารัก             
มีสองชายใจภักดิ์รักไม่หนี
เชิงวาทะชวนชื่นรื่นพาที     
น้อง"หญิง"มีความสุขทุกข์คลายไป

นั่งอมยิ้มอิ่มอกอบอุ่นยิ่ง
กรองกลอนอิงหญิงนวลชวนสดใส     
นางเอกคือสาวน้อยเจ้ากลอยใจ           
อยู่หนใดไม่ใกล้ไม่ไกลเลย


         "หญิงต้า"


ไม่ใช่สาวน้อย little girl นะคะ  ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ศิลาสีรุ้ง ที่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2012, 20:54:32



จองไว้ก่อนครับ     :)


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 13 กรกฎาคม 2012, 16:15:15

จองนานเกินไป อาจถูกยึดพื้นที่นะคะ  ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 28 กรกฎาคม 2012, 09:46:42


"บ่ายแก่...แด่ชีวิต!..."

ก่อนเที่ยง...
ปรุงแกงเลียง ตำลึง นึ่งปลากด
ต้มบวบ.ฟัก ตักชิม ลองลิ้มรส
น้ำพริกสด ตัดเกลือ เจือมะนาว

มะลิใหม่ ใส่หม้อ ก่อไฟหุง
ไอพวยพุ่ง ดมดอม หอมกลิ่นข้าว
ราไฟอ่อน ถอนคืน ฟืนดุ้นยาว
ล้างผักซาว มือสาง วางบนจาน

หลังมื้อเที่ยง...
นอนอมเมี่ยง หูตั้ง ฟังเพลงหวาน
สูบบูรี ขี้โย โร่ดวงมาน
ลมพัดผ่าน หลับตา สุขารมณ์

ตลอดบ่าย...
ทุ่มเทกาย ขุด.สับ กลับดิน.ถม
โรยปุ๋ยหมัก ผัก.ไม้ ให้น้ำพรม
เก็บผักขม ใบเขียว เจียวมื้อแลง

พอเย็นจัด อัสดง ลงท่าน้ำ
ช้อนเตา.ผำ เขียดคา ปลาแขยง
ผักตบ.ตูน คูน.แค จอก.แหนแดง
ปาดฟัก.แฟง แตงลาย ขายกาดเจ๊า

ตกดึกดื่น...
ย่ำค่อนคืน เย็นเยียบ ง่วงเงียบเหงา
คิดถึงสาว หง่าว.แหง่ว แมวขี้เซา
อยากลอบเข้า หน้าต่าง นอนข้างเธอ

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ หน้าฝน ฝนแล้ง(1)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 21 สิงหาคม 2012, 22:09:17
    
ปีสามห้า อาถรรพ์ อันใดหนอ
หรือทัณฑ์ถ่อ ปลิดปลง จากองค์ไหน
ต้องชาวโลก โศกช้ำ ระกำใจ
ด้าวแดนใด ทุกข์ยาก ลำบากกิน

ปีก่อนฝน หล่นฟ้า ท่วมพาพัด
เกิดวิบัติ ยาวนาน ทุกฐานถิ่น
บ้านสลาย ตายล่ม ลงจมดิน
รู้ยลยิน ร่ำไห้ ไปทั้งเมือง

รีบฟื้นฟู กู้ป่า ไร่นาสวน
เพาะปลูกพรวน แทนคืน ต้นยืนเขือง
เสาะหยิบยืม ลืมตา คราฝืดเคือง
หวังปลดเปลื้อง หนีสิน เหลือกินพอ

ยกมือป้อง มองฟ้า หาเมฆฝน
ยอเบื้องบน โปรดอวย ช่วยบ้างพ่อ
ยืนอาบแดด แผดจ้า น้ำตาคลอ
น้ำในบ่อ เหือดแห้ง แล้งกระจาย

ผักสวนครัว รั้วไต่ ใบเริ่มเหี่ยว
น้ำอย่างเดียว ประทัง ยังมิสาย
เกินห้าวัน ทันเปล่า คงเฉาตาย
ข้าวใบลาย ดินแตก แยกเป็นทาง

ซ่อมฝายพัง พนังขาด อาจไม่เสร็จ
น้ำนับเม็ด เจือโคลน ติดก้นอ่าง
ขอฝากฝัง ครั้งท้าย ก่อนวายวาง
คิดถึงบ้าง หากรัก สักนาที

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 16 กันยายน 2012, 20:05:10

...รักสาวบ้านสวน...

ลงจากเนิน เดินตาม วัวงามหาย
แท้ยืนกาย เล็มหญ้า เชิงป่าเขา
นับดูจบ ครบตัว หัวใจเบา
รีบแบกเสา ซ่อมคอก ช่องออกมา

ลอกคูคัน กั้นคลอง รองรับฝน
น้ำปริ่มล้น พอใช้ ในปีหน้า
สวนมะม่วง พวงลำไย ทำไร่นา
แก้ปัญหา แล้งภัย น้ำใช้.กิน

เที่ยงร้อนนัก พักกาย หายเหนื่อยหอบ
หยิบเอาจอบ ขุดกลบ กระทบหิน
หมุนกลึงจับ ลับคม ฟันจมดิน
มีดบิบิ่น คมกล้า ผ่าฉับไว

ขันจ้วงตัก วักพรม ชโลมลูบ
ลมพัดวูบ ผมผิว ปลิวไสว
เราทุกข์ทน คนเดียว แสนเปลี่ยวใจ
ถามคนไกล ไฉนทำ พูดอำพราง

โยนเหยื่อล่อ บ่อลวง หลอกทรวงช้ำ
หว่านลำนำ ชายหนุ่ม รุมล้อมร่าง
ความสัมพันธ์ มั่นมี ทวีจาง
ความอ้างว้าง เฝ้ารอ ท้อแท้เฮย

ละจากคอมพ์ ขึ้นเหนือ เพื่อร่วมสรร
คงคืนวัน พริ้งเพริศ เคียงเปิดเผย
ขอรวบรัด ตัดฤดี วันนี้เลย
รักไหมเอย...ผมวัยอ่อน ใจร้อนจัง

กานต์






หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ ปลูกลำไย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 ตุลาคม 2012, 15:49:03

เข้าพรรษา ทำทาน งานบุญถี่
เขาเชิญพี่ ร่วมด้วย ช่วยแหนแห่
เป็นโฆษก พิธีกร ออกออนแอร์
เหนื่อยแทบแย่ เท้าคาง คิดวางกลอน

ริตตาดิถี วันดี ศรีประ้สริฐ
ศุภเลิศ สุขโข สโมสร
แรมสามค่ำ ย่ำเช้า เจ้าให้พร
อาทิตย์จร ตรงเกศ ไร้เภทภัย

กล่าว.พุทโธ นะโม พุทธายะ
กราบ.แม่พระ ธรณี ศรีไศล
กราน.แม่พระ นที ศรีอำไพ
กราย.แม่พระ แมกไม้ ศรีปภัสร์

ขุดหลุมลึก กว้างยาว ราวหนึ่งเมตร
ล่างใส่เศษ ซากพืช อืดซากสัตว์
มีดินส่วน ร่วนซุย ปุ๋ยวิวัฒน์
เรียงลำดับ แจงจัด ตามอัตรา

พี่ตระกอง น้องนาง กอดข้างซ้าย
ย่างเยื้องกาย สองมือ ถือต้นกล้า
ปลูกนุ่มนิ่ม ยิ้มย้อง ตาจ้องตา
ล่าถอยมา ว่าพร้อม กันเบาเบา

ลำเอ๋ย  ลำไย
ข้าให้  ชีวิตเจ้า
ให้น้ำ  ให้ปุ๋ย  ให้เอา
ทุกเข้า  เรื่อยไป  ไม่เปลี่ยนแปลง

เจ้าจง  เติบใหญ่
เร็วไว  ไม่หน่ายแหนง
ให้ดอก  ออกผล  ขายแพง
ใบแบ๊งก์  กอบกำ  ร่ำรวยเอย

ให้ความรักลำไย สวมเสื้อผ้าสีชมพูปลูก
คู่หนุ่มสาวมีรักสีชมพูด้วย จึงจะงอกงาม

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: >_อนัตตา_< ที่ วันที่ 07 ตุลาคม 2012, 20:59:41
อย่าลืมเปิดเพลงให้ลำไยฟังด้วยน่ะค่ะ ลำไยจะได้อารมณ์ดี ออกลูกสวย ๆ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 ตุลาคม 2012, 22:20:39
อย่าลืมเปิดเพลงให้ลำไยฟังด้วยน่ะค่ะ ลำไยจะได้อารมณ์ดี ออกลูกสวย ๆ  ;D ;D ;D

ร้องเอง เต้นเอง เพลงคุณลำไย ทัดดอกชบาแดงหูข้างซ้ายด้วย ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 08 ตุลาคม 2012, 08:49:48

ไก่กระชั้น ขันถี่ ครั้งที่สาม
บอกโมงยาม ใกล้สาง อย่างมั่น.แม่น
น้ำค้างพรม ลมโชย โรยดานแดน
หมาโลดแล่น กระเซ้า เย้าหยอกกัน

ควันนึ่งข้าว เป่าไฟ ลอยให้เห็น
เสียงเยือกเย็น หนักเบา นกเขาขัน
วัวในแหล่ง แข่งร้อง ก้องไพรวัน
นกกาผัน โผผิน บินผ่านไป

จับจอบเสียม เตรียมถัง วางหลังรถ
ปุ๋ยพืชสด อินทรีย์ เคมีใส่
เครื่องสูบน้ำ สายต่อ ท่อยางใย
ลืมไม่ได้ จบกัน น้ำมันเติม

ลงกระติก พริกแดง แกงฝักถั่ว
หมูไส้อั่ว หนังพอง เป็นของเสริม
ข้าวเหนียวแน่น ตะกร้า มากกว่าเดิม
เพราะมีเพิ่ม ช่วยงาน หลานสองชาย

คุยสนุก สุขอุรา หลานตาปู่
สอนเรียนรู้ ชำนาญ งานทั้งหลาย
มีใจรัก สักคน หลังตนตาย
(คง)มิเลวร้าย ขายไร่ ไม่ทำนา

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2012, 21:47:19

เร่งรถเครื่อง คันเก่า เขย่าเสียง
ลากลำเลียง ถั่วลิสง พ่วงวงขวา
หนักร้อยโล จากดง พงพนา
ส่งลูกค้า ชั้นดี ที่กาดแลง

ขับลัดเลาะ เหาะเหิน เลียบเนินเขา
รีบเบรคเบา ลงหลุม ขุมเกาะแก่ง
ขึ้นที่สูง ชันโหด รถสิ้นแรง
จอดแอ้งแม้ง ยางแตก แทกหินคม

น้ำเหงื่อไคล ไหลเค็ม เต็มใบหน้า
รีบเดินฝ่า ร้อนเร่า เข้าที่ร่ม
มันวาบหวิว ใจกาย คล้ายเป็นลม
ควักสูดดม หลอดยา ตราจั่นเจา

รอเนิ่นนาน คอยช่าง เปลี่ยนยางใหม่
ท่ามเปลวไฟ ไอแดด พลุ่งแผดเผา
เปลี่ยนเสร็จช่าง อีกคน บ่นเบาเบา
ความร้อนเท่า วานวา แทบบ้าตาย

กลับถึงบ้าน อาบน้ำ ชุ่มฉ่ำเนื้อ
ชะล้างเหงื่อ นาฬิกา เวลาบ่าย
ยกนิ้วกด ปุ่มคอมพ์ นั่งจ่อมกาย
ขอระบาย โรยริน กลั่นกลิ่นกลอน

กานต์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ แล้งซ้ำซาก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 มีนาคม 2013, 23:00:49

อ้ออ้อยแขม แห้มไหม้ ใบตองแห้ง
พร้าวตาลแดง แสงฉาบ กิ่งกาบสน
เปลวแดดร้อน ระบำ ทั่วตำบล
ยังขาดฝน หล่นฟ้า มาโปรยปราย

ที่ดอนดอง คลองกว้าง ทางระอุ
แตกพังผุ เหือดห้าว ร้าวเป็นสาย
ริ้วลมพัด ปัดหมุน ฝุ่นกระจาย
หญ้าทอดกาย ลู่คลื่น ราบพื้นดิน

ไร้จิ้งหรีด กรีดเสียง รอบเถียงทุ่ง
ไร้ปลากุ้ง แหวกว่าย ตะกายสินธุ์
ไร้กบเขียด เสียดซ้อง ก้องธานิน
ไร้กาบิน นกขัน สนั่นคาม

ลำไยออก ดอกบาน ดิ่งดานร่วง
ผลมะม่วง เล็กลูก เหี่ยวสุกห่าม
รวงข้าวลีบ ตีบตัน โรคพลันลาม
ฝักมะขาม แลบแบน แล่นคดงอ

ไร้ผักหนอก จอกแหน แพผำเขียว
ไร้ผักเสี้ยว เชียงดา ขุดหาหน่อ
ไร้ผักหวาน ก้านหอม ฝักซอมพอ
ผักกาดจอ ไร้เนื้อ เบื่อจนเอียน

คงสลด หดหู่ อยู่เช่นนี้
อีกสองปี ไม่แน่ อาจแปรเปลี่ยน
แล้งซ้ำซาก ยากจน หายวนเวียน
สู่อาเซียน มั่งคั่ง ยังทันกาล

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 มีนาคม 2013, 21:45:40

แว่วระฆัง ดังถี่ บอกตีห้า
ตื่นล้างหน้า มือสาว เก็บข้าวของ
จิตอาสา เดินนำ ย้ำมองมอง
ยินเสียงฆ้อง ตักบาตร ก่อนคลาดไคล

ขึ้นปิกอัพ ขับเฟื่อง เครื่องสนั่น
ฝ่าหมอกควัน ถนน จนถึงไร่
ยกเครื่องวาง ข้างบ่อ ต่อลำไย
สูบน้ำไหล ดินยุ่ย ปุ๋ยละลาย

จับไม้ไผ่ ใช้ค้ำ กิ่งลำต้น
ป้องกันฝน ซัดสาด ลมฟาดสาย
ลูกเริ่มโต โผล่พวง หนักช่วงปลาย
เที่ยงเลยบ่าย เหงื่อเล็ด เสร็จกึ่งทาง

ปั้นข้าวเหนียว เจียวผำ น้ำพริกอ่อง
ตักลอดช่อง ล่องคอ ถ่อข้าวขวาง
ผ้าขาวม้า คว้าหมับ ซับเช็ดคาง
ลูบพุงกาง อมเมี่ยง ฟังเสียงซอ

อากาศร้อน นอนพัก หลับสักงีบ
แดดร่มรีบ ยันลุก บุกงานต่อ
ไร้เงินจ้าง ร่างรุด มิหยุดรอ
มืดเดือนทอ แสงหม่น พ้นยอดดอย

ทิ้งเครื่องมือ เครื่องไม้ ไว้ตูบห้าง
คิดนอนค้่าง ยากปลง คงเหงาหงอย
จุดตะเกียง เมียงเถื่อน จิตเลื่อนลอย
เรียบเรียงถ้อย ไร้คอมพ์ ต้องตรอมตรม

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 15 สิงหาคม 2013, 11:51:43

ตื่นนอนตีสี่ครึ่งนึ่งขนม
มีข้าวต้มปนคละกับบะจ่าง
ขนมเทียนเวียนถึงกึ่งชั้นกลาง
ลังชั้นล่างสอดไส้ในหวานมัน

ส่งลูกค้าขาเก่าเจ้าตลาด
แวะตักบาตรกรวดน้ำพรำเทขัน
กล้วยสามใบใส่ปากหายอยากพลัน
หลังแปรงฟันไปสวนพรวนดานดิน

รวบจอบเสียมเกียมถางวางกระบะ
สัมภาระอาหารทานเที่ยงถิ่น
ขึ้นขับรถคดเคี้ยวเลี้ยวโบยบิน
ตะกุยหินเลียบธารผ่านแนวไพร

ข้อเกาะลากซากแห้งวานแจงตัด
ฟาดสลัดใบทิ้งเอากิ่งใหญ่
บั่นเป็นท่อนกองพื้นดุ้นฟืนไฟ
สลับใช้แทนก๊าซยามขาดแคลน

มีดสองเล่มหลวมคลอนด้ามถอนถอย
ยางมะตอยลนไฟเหนียวใส่แน่น
ใบบิดบ้างวางนอนฆ้อนตีแบน
ถูบนแท่นมือจับลับคมบาง

มีดเหลาไม้ไผ่ลิ่มจิ้มด้ามจอบ
ลองทดสอบกระชับขยับย่าง
เครื่องมือกลคนพร้อมน้อมเจ้าทาง
ยกจอบง้างฟันสับปรับหน้าดิน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: theheroman ที่ วันที่ 27 กันยายน 2013, 15:53:37
 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ ผลกระทบจบคนจน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 10 ธันวาคม 2013, 10:38:31

ลุกนึ่งข้าว เป่าไฟ ไซ้ผักกาด
แต่ยังขาด ให้เถือ คือเนื้อหมู
ตำพริกแดง แกงส้ม ต้มถั่วพู
มีน้ำปู หน่อซาง มื้อกลางวัน

ลับมีดยาว ขาววาม ซ่อมด้ามจอบ
ฉีกใบตาล สานงอบ แซมขอบสัน
เสื้อผ้าทอ ม่อฮ่อม ย้อมดำมัน
เตี่ยวขาสั้น เกิบบาง จากยางยนต์

เดินดุ่มด่าม ข้ามธาร มานหมายมุ่ง
เข้าสู่ทุ่ง ผ่านไพร เนินไม้สน
ขุดดินฟื้น ขึ้นแปลง แจงเรียบบน
เพื่อนสองคน เคียงข้าง ลูกจ้างนาย

ค่าแรงวัน ขั้นต่ำ จำรับก่อน
ดีกว่านอน นับนก บินหกหาย
ร้อนเปลวไฟ ไอแดด แผดเผากาย
ตั้งแต่งาย สู้ทน จนจดแลง

ปาดเหงื่อไคล ไหลย้อย สองร้อยบาท
จ่ายตลาด ข้าวปลา อาหารแห้ง
ของกินใช้ ขาดแคลน และแสนแพง
พวกยื้อแย่ง ครองเมือง ไม่ดูแล

ละพรุ่งนี้ มีใคร จ้างไหมหนอ
มีข้าวต่อ อายุ ยามย่ำแย่
น้ำท่วมลุ่ม หนาวดอน สะท้อนแด
มิเปลี่ยนแปร ผลกระทบ จบคนจน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 21 มกราคม 2014, 20:34:34

นอนหลับไหลไม่วายยันกายตื่น
เช้าสดชื่นข้างนอกม่านหมอกหนา
ข้าวนึ่งสุกจัดแจงตกแต่งดา
ห่อปูปลาเร่งด่วนไปสวนพลัน

สมฮอร์โมนพ่นยาฆ่าเชื้อโรค
ลมกรรโชกครั้งคราวกายหนาวสั่น
สิบเอ็ดโมงผ่านไปไร้ตะวัน
กะเสร็จทันแน่นอนก่อนยามแลง

เครื่องขลุกขลักน่ากลัวหัวเทียนบอด
สายยางขอดเกี่ยวเหล็กซึมหลายแห่ง
อีกสายพานยานหยุดหลุดตะแคง
กินข้าวแห้งแกงจืดกลืนฝืดคอ

คงเพราะเราลืมจุดบอกเจ้าที่
กล่าวลูกนี้ขอโทษได้โปรดขอ
ข้ามพ้นอุปสรรคหนักเบารอ
เริ่มงานต่อลื่นไหลใจสบาย

ด้วยอารมณ์ครื้นเครงป๊ะเท่งป๊ะ
จับชีพระตาเถรเณรเร่ขาย
แลงค่ำลงเหล้ารินกินลาบควาย
มึนตาลายเห็นน้องเมียนึกว่าเมีย

ดื่มน้ำหมักตักวุ้นตุ๋นตับเป็ด
จิ้มพริกเผ็ดยำเตาซดเจ่าเพลี้ย
เร่งวอลุ่มทุ่มตรงส่งเสียงเชียร์
ยินเฮี่ยเฮี่ยหูโล่งโก่งก้นนอน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ ให้น้ำมะม่วง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 23 เมษายน 2014, 23:07:44

เกิดในดินถิ่นกว้างทางราบเรียบ
อุดมเพียบนานายอดอาหาร
เอ็นพีเคครบพ้องพืชต้องการ
มีสายธารไหลหลากจากบนดอย

ดินร่วนซุยปุ๋ยน้ำธรรมชาติ
มวลแร่ธาตุจุลินทร์อินทรีย์ฝอย
สมน้ำหมักฮอร์โมนพ่นทยอย
ควบคุมคอยเข่นฆ่าราแมลง

รับน้ำค้างพร่างพรมลมสะบัด
เช้าเย็นจัดละอองส่องไอแสง
ผลิตาตุ่มปุ่มเปลือกแหลมเสือกแทง
ก้านทแยงบานช่อล่อภมร

แสนดีใจได้ยินบินหึ่งหึ่ง
แมงภู่ผึ้งดมดอมตอมเกสร
พอจางกลิ่นกลีบเหี่ยวเลี้ยวจากจร
แลสลอนเป็นผลยลขจี

กะจิ๊ดริดเล็กเขื่องเขียวห่มห่าม
เหลืองอร่ามสุกงอมหอมเต็มที่
ทอตะวันจันทร์ดาวพราวฤดี
ช่วยชูชี้สคราญแห่งบ้านนา

เลิกวาดหวังนั่งจ๋อรอส้มหล่น
กาวกันหม่นควั่นเหนียวเจียวคาถา
หรือร้อนใจไม้ฟาดขว้างอาชญา
ฤาจะฝ่าด่านโหดหมื่นมดแดง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายมะม่วง 1
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 09 พฤษภาคม 2014, 15:55:38

เกร็งสองมือถือจับกระชับมั่น
ยกจอบฟันลงล่างง้างดินกอบ
กองขึ้นคันห่างโคนวนโดยรอบ
แกะกระสอบโรยดินปุ๋ยอินทรีย์

เดินสายยางวางท่อจ่อใกล้ต้น
ติดเครื่องยนต์สายพานสะท้านถี่
สูบจากหนองน้ำขุ่นคลั่กสิ้นดี
ยังพอมีอีกมื้อยื้ออีกครา

ฝ่าเปลวแดดแผดเผาเช้าเลยเที่ยง
สวมหมวกเบี่ยงเหงื่อไหลไคลเต็มหน้า
เอิบอาบคิ้วลิ่วเข้าสองเบ้าตา
ยกชายผ้าซับแสบปวดแปลบร้อน

พอค่อนเย็นเข็นถังใส่หลังล้อ
ผสมฮอร์โมนยาฆ่าเพลี้ยหนอน
กำจัดมดแมลงแทงซอกซอน
เสริมก้านอ่อนเล็กเรียวเหนียวคงทน

ตัดไม้ซางหว่างวาผ่าง่ามค้ำ
สวมถุงดำเพียงพอห่อหุ้มผล
ซ่อมแซมรั้วลวดหนามป้องปรามคน
วอนลมฝนอย่าโกรกกรรโชกแรง

โอมะม่วงพวงใหญ่ใกล้แก่แล้ว
ร้องเจื้อยแจ้วเพลงเพลินเดินยิ้มแฉ่ง
เตรียมตะกร้อตะกร้าคว้าตะแกรง(คว้าผิด)
รีบจัดแจงสอยคละคัดขายล้ง

ปลาบปลื้มใจใสงามความสำเร็จ
ซื้อขายเสร็จภิรมย์สมประสงค์
เหน็ดเหนื่อยยากตรากงานนานสิ้นลง
เงินเหลือคงจับจ่ายได้หลายเดือน

เงินคงเหลือไม่ได้จับอยู่กับเมีย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายมะม่วง 2
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 10 พฤษภาคม 2014, 12:56:28

เร่งรถเครื่อง คันเก่า เขย่าเสียง
ลากลำเลียง มะม่วง พ่วงข้างขวา
หนักร้อยโล จากดง พงพนา
ส่งลูกค้า ชั้นดี ที่กาดแลง

ขับลัดเลาะ เหาะเหิน เลียบเนินเขา
รีบเบรคเบา ลงหลุม ขุมเกาะแก่ง
ขึ้นที่สูง ชันโหด รถสิ้นแรง
จอดแอ้งแม้ง ยางแตก แทกหินคม

น้ำเหงื่อไคล ไหลเค็ม เต็มใบหน้า
รีบเดินฝ่า ร้อนเร่า เข้าที่ร่ม
มันวาบหวิว ใจกาย คล้ายเป็นลม
ควักสูดดม หลอดยา เย็นบรรเทา

รอเนิ่นนาน คอยช่าง เปลี่ยนยางใหม่
ท่ามเปลวไฟ ไอแดด พลุ่งแผดเผา
เปลี่ยนเสร็จช่าง อีกคน บ่นเบาเบา
ความร้อนเท่า วานวา แทบบ้าตาย

กลับถึงบ้าน อาบน้ำ ชุ่มฉ่ำเนื้อ
ชะล้างเหงื่อ นาฬิกา เวลาบ่าย
ยกนิ้วกด ปุ่มคอมพ์ นั่งจ่อมกาย
ขอระบาย อักษร กลั่นกลอนกานท์

ข้างนอก 39 องศาครับ

รพีกาญจน์
13.45 น.



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 01 สิงหาคม 2014, 05:56:19

รู้ไหมต้องเตรียมต้นตัดแต่งกิ่ง
เลาะใบทิ้งใบเขียวใบเหี่ยวเฉา
เหลือใบอ่อนใบห่างใบบางเบา
ป้องกันเจ้าโรคราไรรังควาน

ต้นทะลุปรุโปร่งทรงตะกร้อ
แทงผลิช่อชูชันตะวันฉาน
รับน้ำค้างพร่างพรมชโลมดาน
ลมพัดผ่านยอดอ่อนสลอนตาม

ขนปุ๋ยคอกขี้วัวพลั่วช้อนตัก
ตวงน้ำหมักหนึ่งส่วนกวนน้ำสาม
ราดปลายพุ่มลุ่มคันกั้นไหลลาม
พอฟ้าฮ่ามฮอร์โมนพ่นทางใบ

รอใบแก่แลเรียวเลื่อมเขียวคล้ำ
จึงพ่นซ้ำน้ำตาลเติมหวานใส่
สะสมแป้งอาหารสารภายใน
ครบสัปดาห์เมื่อใดใช้โปแตส(เซียม)

สูตรการทำลำไยวิจัยบอก
บังคับออกช่วงที่มีแสงแดด
พ่นทางใบดินลุ่มน้ำชุ่มแวด
ราวเดือนแปดเก็บผลต้นกุมภา

ทุ่มกายใจให้น้ำสามสินครั้ง
ควักสตังค์จ่ายจ้างยางพม่า
ไม้ค้ำยันกันลมผสมยา
เจ็ดเดือนกว่าแทบตายขายลำไย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 2
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 สิงหาคม 2014, 05:33:54

บังคับออกกรอกสารบันดาลผล
เปรียบเช่นคนมีลูกยากแต่อยากได้
ตรวจกระตุ้นดินน้ำลำต้นใบ
คนเครื่องใช้ครบครันมื้อวันดี

นึกสบายหลายครั้งมิดังคาด
ด้วยอากาศทั่วไปไม่คงที่
ฟ้าเบื้องบนฝนลงร้อนเย็นมี
โรคราวีปะเหมาะเคราะห์เผดียง

เริ่มผลิดอกออกช่อหงิกงอบ้าง
ต้องว่าจ้างทำใจตัดให้เกลี้ยง
ขืนทำไปไม่คุ้มทุ่มเสบียง
ดีกว่าเสี่ยงว้าวุ่นขาดทุนบาน

ถ้าลำไยในฤดูสู้มิยาก
หนาวเย็นมากแทงดอกออกถ้วนทั่ว
หมดวิตกโรคภัยไม่น่ากลัว
เมฆมืดมัวฝนซัดประหยัดแรง

ผลสุกงอมพร้อมกันสร้างปัญหา
เรื่องโควต้าจำกัดหารจัดแบ่ง
เจอเล่ห์ล้งโกดังชั่งพลิกแพลง
ขายยื้อแย่งซื้อลดกดราคา

เต็มกระบะล้นลำเบอร์จัมโบ้
ลูกเหลืองเหลืองโตโตโลสิบห้า
ยื่นมือรับนับตังค์หลั่งน้ำตา
จะพอค่าจ่ายจ้างบ้างไหมเออ...

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 3
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 03 สิงหาคม 2014, 21:58:05

พาดบันไดไต่ต้นจับบนกิ่ง
ยืนแน่นิ่งมือรั้งเกรงพลั้งเผลอ
ไหล่สะพายสายรัดมัดกระเชอ
ค่อยเผยอหักพวงตวงลำไย

แบกถอกเทลงวางกองกลางเสื่อ
นั่งคัดเพื่อแยกเช็คลูกเล็กใหญ่
รายตะกร้าแจกแจงตกแต่งใน
บรรทุกไปพุ่งตรงส่งโกดัง

พอถึงปั๊บรับบัตรคิวจัดแถว
ต่อเป็นแนวก่อนหน้าช้าอยู่หลัง
เห็นราคาติดกระดานมานแทบพัง
กลับมานั่งหดหู่มิรู้คลาย

ของดีที่เีราแล้วแต่เขาจะซื้อ
ใครหาญหือแข็งข้อก็อดขาย
อยากประท้วงอู้เอิ้นเชิญสบาย
พรุ่งขึ้นป้ายทุกจุดหยุดสามวัน

คนหาเช้ากินค่ำต้องย่ำแย่
ลำไยแก่ฝนตกหัวอกสั่น
ร่วงหล่นเน่าเศร้าเหน็บเก็บไม่ทัน
เงินหมื่นพันหายวับจากลับตา

โอกาสมีปีหนึ่งเพียงหนึ่งครั้ง
ล้งกำไรได้ตังค์ทุกวันวี่
เราเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าตลอดปี
โปรดเห็นใจบ้างซีมีเมตตา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 4
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 สิงหาคม 2014, 09:10:44

นกกระปูด พูดไป สองไพเบี้ย
ยอมนิ่งเสีย เลียแผล ยิ่งแย่กว่า
เสียงคนจน บ่นค่อย ด้อยราคา
ฤาภูผา หนาแน่น แม่นมลาย

ยากผลไม้ ใสสด อดเน่าเหม็น
จึงจำเป็น สุกงอม ยอมปลิดขาย
รออย่างไร ได้เล่า เดี๋ยวเฉาตาย
ตลาดวาย คาต้น ร่วงหล่นกอง

เกษตร พาณิชย์ อุตฯ มุดไหนหมด
ถูกเขากด ราคา จนหน้าหมอง
คสช. ขอฮึ่มแฮ่ม แกมประคอง
มันลำพอง อวดแน่ ลงแส้ที

มาดจมื่น ปืนไว ไงชักช้า
มัวเงื้อง่า ปืนหด ก็หมดศรี
เพื่อความสุข ทุกหน้า ประชาชี
ต่อชีวี อีกคืบ สืบชื่นบาน

พ่อค้าดู รู้ล่วง ว่าช่วงไหน
จำนวนต้น ลำไย พ่นใส่สาร
มีช่อดอก ออกผล คณประมาณ
ความต้องการ ดิบดี มีต่อวัน

โยคีว่า อย่าไว้ ใจมนุษย์
น้ำสมุทร สุดลึก หานึกพรั่น
บ่อยสำรวจ ตรวจคำ ทำไมกัน
ตัวเลขผัน ข้อมูล ทูนแก่ใคร?

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 5
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 สิงหาคม 2014, 05:21:57

หากเปลือกเขียว เบี้ยวหนา ปล่อยคาต้น
หากเปลือกผล บางเบา เกลี้ยงเกลาใส
อย่ารอมื้อ ถือวัน พาดบันได
ตัดสินใจ หักพวง รูดร่วงเลย

รอสวรรค์ วิมาน อันใดเล่า
ขืนชักช้า ถ้าเจ้า เฝ้าอยู่เฉย
คอยพ่อค้า ท่าชาย แวะก่ายเกย
อู้เอิ้นเอ่ย ถามหรือ จะซื้อแพง

คิดให้น้ำ ซ้ำเพิ่ม หว่านเติมปุ๋ย
คิดชุ่ยชุ่ย ตุตะ จะกินแหนง
เปลือกเริ่มผุด จุดลาย ก้นป้ายแดง
สัญญาณแห่ง เลวเลาะ เคราะห์มาเยือน

หากถูกแดด แผดร้อน แน่นอนแตก
ต้องลมบน ฝนแถก แตกกลาดเกลื่อน
ก็เคยเจอะ เยอะแล้ว แก้วจึงเตือน
บอกให้เพื่อน สำรวจ หมั่นตรวจตรา

น้ำ ปุ๋ย ดิน แดด ลม ผสมเหตุ
ควรสังเกต พวง ผล ต้น ปัญหา
หรือลูกดก รกโคน ฮอร์โมน ยา
หรือโทษว่า ชาติพันธุ์ มันไม่ดี

รูดร่วงพ่าย ขายเข้า เตาอบแห้ง
หักค่าแรง กำไร ให้สมศรี
แตกเน่าเหม็น เห็นกอง เสียของฟรี
แตกอีกปี เลื่อยตัด มัดทำฟืน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 6
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 สิงหาคม 2014, 18:36:50

เริ่มหงุดหงิด บิดคร้าน เอ็นยานหย่อน
ยังอาลัย อาวรณ์ ที่นอน ฝืน
เกาะราวเตียง เอียงกาย หมายลุกยืน
เท้าแตะพื้น ลื่นล้ม โครม ลำไย

ก้นกระแทก แปลกดี เจ็บที่หัว
หมอบอกว่า น่ากลัว ชัวร์โรคใหม่
บ้างครั่นเนื้อ ครั่นตัว รวดหัวใจ
บ่นไม่ไหว โบกมือ ถือสากมอง

บ้างยิ่งแย่ แก้ผ้า ด่าโล้งเล้ง
บ้างเตะเข่ง ตะกร้า ด่าขึ้นล่อง
ชี้พ่อค้า ด่าแช่ง แกว่งกระบอง
ด่าฝรั่ง มังฆ้อง ฟ้อง คสช.

ว่าคนจีน อินโด สิงคโปร์งด
ซื้อลำไย แห้งสด สลดหนอ
สูญเงินก้อน ฟ่อนเทา ที่เฝ้ารอ
ไหว้วานขอ พ่อค้า อ้าปากวอน

อ้างเป็นเพื่อน เป็นพี่ ดีกับน้อง
แกมขอร้อง เถิดครับ รับซื้อร่อน
คิดเท่าไร ไม่ว่า เอื้ออาทร
แล้วค่อยย้อน เอาตังค์ หลังสัปดาห์

สภาพช้ำ ลำไย ในวันนี้
ชาวสวนทำ ทั้งปี โถมิน่า
สิ้นแรง ทุน ทุ่มเท และเวลา
แทบเป็นบ้า คร่ำครวญ อยู่สวนปรุง

 รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 7 (บ่นส่งท้าย)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 08 สิงหาคม 2014, 10:57:00

ทำสวนไร่ใช้เวลากว่ารู้ผล
แรงงานคนเงินถังสตังค์ถุง
วัสดุอุปกรณ์คอนกระบุง
ขนเข้ายุ้งขายขาดตลาดกลาง

สู้ซื้อขายง่ายดีเดียวไม่ได้
คิดกำไรซื้อมาบวกค่าจ้าง
กดราคาขายตรงส่งปลายทาง
ใครด่าทอก็ช่างนางจะเอา

เหมือนผีถึงป่าช้ามาต้องขาย
เห็นตัวเลขติดป้ายอยากตายเศร้า
ขึ้นไม่มีมีแต่ลงงงหนอเรา
เพราะพวกเขาโทรออกบอกทั่วกัน

ใครโอดโอยโวยวายสีหมายหัว
โยนเภทภัยใส่ตัวขุดชั่วปั่น
จะแสนดีชีวิตผิดพลาดพลัน
ด่าโจษจัณฑ์เน่าเหม็นถุยเป็นโจร

ลำไยมิใช่ข้าวมันยางรมแผ่น
ปลูกทดแทนอะไรใครยอมโค่น
จะตรากรอบขอบเขตเกษตรโซน
ละทโมนก๋ากั่นมันเชื่องาม

แล้วแต่โชคชะตาเทวาชี้
เกิดทั้งทีมีแต่ซวยรวยต้องห้าม
รูปไม่หล่อต้อเต่าเขาประณาม
ขออยู่ตามประสาจนพ้นชาติเอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 8 (คนแก่บ่นต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 09 สิงหาคม 2014, 08:49:00

ใช้เวลาเรียนรู้คู่พื้นฐาน
พอชำนาญขึ้นบ้างอย่างประถม
แค่ผู้เฒ่าเข้าวัดมัธยม
มัวคลำงมห่างไกลไร้ปริญญา

เกษตรสูตรดั้งเดิมเติมนมนิด
ยังลองผิดพบถูกผูกใจว่า
เก็บข้อมูลประสบการณ์ที่ผ่านมา
พัฒนาไม้ดอกออกผลดี

ลดต้นทุนแรงงานการผลิต
เลิกสารพิษใส่ต้นพ่นขัดสี
ใช้ปุ๋ยคอกน้ำหมักผักอินทรีย์
ของเหลือฟรีกินใช้ไม่กี่ตังค์

ทดลองลึกศึกษาอากาศน้ำ
ดินร่วนดำเหนียวแดงขาวแข็งปั๋ง
น้ำกร่อยเค็มเปรี้ยวฝาดธาตุผุพัง
ฝนลมถั่งย่ำแย่แก้ร้อนเย็น

หวังผลดกโตไวได้คุณภาพ
ดังสีฉาบเขียวขมเหลืองอมเห็น
หวานล่อนกรอบหอมจริงสิ่งจำเป็น
ชูประเด็นเลิศรสสดน่าทาน

เสร็จเก็บเกี่ยวเลี้ยวกลับปรับไร่สวน
จอบสับพรวนมีดแจงแต่งกิ่งก้าน
ลงเท้าลุยปุ๋ยน้ำฉ่ำดินดาน
เพื่อคอยการผลิช่อรอบต่อไป

เรื่องแปรรูปรูดเลือกอบเปลือกเนื้อ
ต้นทุนมากยากเหลือเชื่อทำได้
สร้างเครือข่ายรวมกลุ่มคุมกลไก
ยื่นต่อรองยักษ์ใหญ่ไวทันเกม

สู่ขั้นตอนเกษตรอุตสาห์พาณิชย์
บริหารธุรกิจฟิตข้นเข้ม
เราบ้านนอกคอกโคคนโนเนม
ว่าเซมเซมโนแฮพมันนี่โกโฮม

รพีกาญจน์


หาที่ลงไม่ได้ ดีที่คุณสุรพลช่วยไว้ทัน



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 9 (พ้นวันพระบ่นต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2014, 11:39:12

เพราะต้นปีอากาศเกินคาดหมาย
พอฝนคลายเย็นเหลือเจือหนาวโหม
ลมวันตกธิเบตพาเหรดโจม
เช้าชโลมน้ำค้างพร่างหมอกมัว

ลำไยในฤดูผลิชูช่อ
มิรั้งรอแทงยอดทอดไปทั่ว
ทุกจังหวัดภาคเหนือเห็นน่ากลัว
เอาละหัวตัวใครก็ตัวมัน

คิดจะจ้างมีดปัดตัดช่อทิ้ง
ถ้าเอาำจริงสู้ไหวละไหมนั่น
จ้างกี่ชายจ่ายทีกี่หมื่นพัน
ไม่กี่วันออกใหม่ทำไงดี

ต่างยินยอมต่างปล่อยไปตามเรื่อง
หนีเข้าเมืองเข้าป่าน้องน้าพี่
ก็รู้รู้ต้องเหนื่อยท้ายเมื่อยฟรี
เกิดชาตินี้มีจนติดตนมา

เฝ้าดูแลใจใส่ให้น้ำปุ๋ย
สืบเท้าลุยเป็นตายปลายดาบหน้า
หกเจ็ดเดือนคืบคลานผ่านพ้นมา
สุดถนนชนป่าตามืดลาย

คือเหตุการณ์เชื่อไหมในวันนี้
ลำไยดีขึ้นรถเที่ยวเร่ขาย
ปล่อยให้เน่าเฉาคาต้นหล่นกระจาย
รัฐดูดายลอยแพแย่เลยเรา

รพีกาญจน์


พ่อค้าหยุดซื้อลำไยร่วงหลายวันแล้วครับ



หัวข้อ: Re: ๐ เที่ยวสวน ๐ กว่าจะได้ขายลำไย 10
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2014, 05:28:57

รัฐแทรกแซงราคาหน้าตลาด
กำหนดบาทซื้อขายจ่ายเต็มที่
เบอร์จัมโบ้ ยี่สิบ พอดิบดี
เบอร์เอ,บี สิบ,ห้า ว่าตามกัน

พ่อค้าใหญ่รายย่อยถอยหลบมุด
เตาอบหยุดเดินเครื่องเคยสนั่น
ปิดประตูเคยอ้าท้าตะวัน
โน้ตสั้นสั้นสามตัว หยุดชั่วคราว!

หยุดแค่สองสามรายใช่เรื่องแปลก
นี่หยุดแหลกทุกหนจนอื้อฉาว
เช็คให้วุ่นหยุดดะหยุดระนาว
ตะกร้าขาว ลัง ร่วง เรียบหมดเลย

พอสายสายวันนี้(ที่11)มีประกาศ
เลิกแทรกแซงตลาดหมาดหมาดเผย
รีบขึ้นป้ายกลางแจ้งแสดงเคย
บอกเหวยเหวยเย็นย่ำซื้อลำไย

เบอร์ตามเกรดจัมโบ้ โลสิบสี่
เบอร์เอ,บี สี่,สอง ต่อรองได้
ร่อนมากกว่า ห้าร้อยโลขึ้นไป
จะเพิ่มให้ โลห้าสิบสตางค์

ยุติธรรมดีไหมใครว่าหรือ
คิดหาญหือสะบัดคอยขัดขวาง
เอากลไกตลาดฟาดขาดกลาง
หยุดพักมื้อซื้อบ้าง..เป็นอย่างไร?

รพีกาญจน์


ยังดีมีที่ขาย แต่ก็ตายอยู่ดี(ขาดทุน) บางรายยกให้เก็บฟรี



หัวข้อ: Re: ๐ พักยก ให้น้ำ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 ธันวาคม 2014, 05:57:31

สุขภาพกายใจใดดีหมด
แสนสลดอดอยากช่องปากฉัน
คงผิดศีลส่อเสียดสนุกมัน
เกิดปวดฟันเช้าค่ำอยู่ร่ำไป

สองตาตี่ถี่ห่างเห็นชัดแจ๋ว
หูยินแว่วตึงตังดังไกลใกล้
จมูกทู่รู้หอมดมดอมไช
ลิ้นแลบไล้หลากรสอร่อยจาง

สองบ่าแบกหาบคอนของเบาหนัก
มือตวงตักกำหมัดชกซัดขว้าง
เท้าก้าวเดินเพลินใจไปตามทาง
เข่างอง้างเหยียดตรงยืนทรงตัว

หายใจหาวยาวสั้นกลั้นเข้าออก
ชี้บ่งบอกไออุ่นหมุนเวียนทั่ว
ไร้โรคอืดหืดหอบเหี่ยวน่ากลัว
เบาหวานชัวร์แอ่นตูดฉี่ฉูดแรง

หนังเนื้อดูกมูกมันหมดปัญหา
กระเพาะท่าบีบบดย่อยสดแห้ง
ลงลำไส้ไหลซึมสู่เลือดแดง
เหลือกากแก้งเกาะปลายถ่ายถอกดิน

สุขภาพกายใจใดดีหมด
ลื่นจรดกลอนกานท์สืบสานศิลป์
หากปวดฟันโอดโอยฝันโบยบิน
หยิบยากินเว้นวรรคขอพักยก

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: อ้อ...เช่นนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 23 มกราคม 2015, 22:13:54

ถึงเตรียมตัวเตรียมใจไว้เนิ่นเนิ่น
แน่เหลือเกินครุ่นคิดแก้บิดผัน
ปานจรวดพรวดเดียวหมดเยียวทัน
วาดหวังกั้นล้มปังพังทลาย

เป็นไปตามความคำทำนายทัก
จะสูญเสียสิ่งรักสุนัขหาย
ออกเสาะหากว่ารู้เช้าตรู่ตาย
คนใจร้ายปาดเถือเอาเนื้อกิน

เกิดโต้แย้งแช่งชักหักประโยชน์
ชี้กล่าวโทษร่วมรับซ่อนทรัพย์สิน
ถูกใส่ร้ายป้ายร่างสร้างราคิน
ว่าแต่งบิลเงินสดส่อคดโกง

มีเหตุการณ์โกรธขึ้งเห็นซึ่งหน้า
จับมีดพร้าจ้วงฟันกันตายโหง
ญาติพวกพ้องสองฝ่ายขยายโยง
ต้องขึ้นโรงพักศาลรำคาญจัง

ทั้งงานหลวงงานราษฎร์โรงเรียนวัด
สภาวัฒนธรรมจ้ำจี้หลัง
ชมรมบำเหน็จบำนาญงานสตังค์
ประเดประดังสวนม่วงพวงลำไย

หกสิบสามยามล้าชะตาตก
แน่นสุมอกหนาวเหน็บป่วยเจ็บไข้
ปวดกรามฟันบั้นเอวดั่งเปลวไฟ
สุดทนไหวครวญครางจึงห่างกลอน

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: อ้อ...เช่นนี้เอง 2
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 24 มกราคม 2015, 21:26:04

สารพันปัญหาเคยคาค้าง
ถูกปล่อยวางยืนมองกองแน่นสุม
รีบแก้ไขคลี่คลายสิ่งรายรุม
ตริตรองทุ่มเทใจไวจัดแจง

เรื่องก่อนเก่าเบาลดหมดไม่เหลือ
ซับเช็ดเหงื่อแขนคอพอเหือดแห้ง
มีเรื่องใหม่ใหญ่น้อยค่อยมาแรง
ซิ่งแทรกแซงเป็นตับนับอนันต์

ปลีกหายหนีลี้หลบลับในสวน
ตามก่อกวนทิ่มพุงสะดุ้งฝัน
เราแค่คนธรรมดาเช่นสามัญ
ใช่เทียบชั้นปริญญาวิชาพราย

หากตอบตัดปัดไปคงใจเศร้า
เราหนอเราบอบบางช่างใจง่าย
เขาลำบากยากทิ้งนิ่งดูดาย
พอถึงจุดสุดท้ายกายเสื่อมโทรม

แต่ความคิดจิตในยังใสสด
ธรรมรสซาบซ่าสวาโหม
คอยสกัดกิเลสฤทธิโรม
คอยประโคมวันคืนชื่นเบิกบาน

ก็มีสุขทุกข์คละปะปนบ้าง
ประคองร่างหยัดอยู่สู่อวสานต์
เพียรสงบจบจินต์จำศีลทาน
แต่งกลอนกานท์ร่วมเรียงเคียงเพื่อนเอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ...ก็แล้วไปสิ ฮึ!
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 มีนาคม 2015, 15:36:15

บ้านสองตอนผ่อนกู้อยู่อาศัย
ปรากฎในบัญชี ธ.ก.ส.
หาค่ำเช้าเท่าไรเงินไม่พอ
วิงวอนขอสินเชื่อยืดสัญญา

เก่าคงจ่ายย้ายกลบดอกทบต้น
ฝ่ายบุคคลลงลึกขอปรึกษา
เสนอนำชำระกะเวลา
ท้ายกันยาบ่ายผันให้ทันที

ข้าวกรอกหม้อก่อไฟสุกได้มื้อ
ควักเบี้ยซื้อจากร้านผ่านโรงสี
ข้าวนาดำกำเคียวเกี่ยวทุกปี
คุ้มใช้หนี้ปุ๋ยยาฆ่าแมลง

กลั้นน้ำตาตกในกลัวใครรู้
ข้าวเปลือกตูชักลากกองตากแห้ง
สีขัดขาวขายคืนค่าแสนแพง
กินเรี่ยวแรงเหงื่อไคลหยดไหลริน

ทุกข์ของคนจนยากลำบากยิ่ง
ขาดสองสิ่งอยากได้ใคร่ถวิล
หนึ่งมีบ้านสานอู่อยู่ทำกิน
สองที่ดินพอเพียงเลี้ยงปลาปู

บ้านต้องเช่าข้าวเชื่อเหลืออดแล้ว
โอน้องแก้วอนาคตอ้ายหดหู่
หากทำไก๋ไม่เห็นมาเอ็นดู
จะไปอยู่กินฟรีบวชที่วัด

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ...จริงวันนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 08 พฤษภาคม 2015, 18:22:01

ผ้าปูเหนือเสื่อผืนบนพื้นฟาก
หลังคาจากตากยุงไร้มุ้งสาย
เย็นน้ำค้างพร่างพรมลมโชยชาย
ชมเดือนฉายดาวส่องมองเขาชัน

ยินจิ้งหรีดเรไรร้องรอบเถียง
ยินสำเนียงนกไพรไก่ป่าขัน
วัวอ้วนพีสีแหล่งแข่งตะวัน
ตื่นจากฝันพลันสางล้างหน้าตา

รีบนึ่งข้าวเป่าไฟไม้ฟืนซุก
เปลวโหมลุกมือยกหงายครกท่า
ใส่พริกดิบหยิบกระเทียมเตรียมปลาร้า
โขลกขิงข่ากรอกหม้อรอแกงปลี

ข้าวสุกใสไอพุ่งฟุ้งกลิ่นหอม
ถ้วยถาดพร้อมตักถวายวางเจ้าที่
กินมื้องายสายหน่อยอร่อยดี
ดื่มน้ำฟรีจากบ่อก่ออิฐโค้ง

เริ่มปรับดานงานสวนขุดพรวนไถ
แต่งกิ่งทำลำไยรากไชโปร่ง
ซ่อมแซมหลักปักเสาค้ำเค้าโคลง
ถางหญ้าเตียนเลี่ยนโล่งลงราบเรียง

มาจากดินอยู่กับดินถิ่นประเสริฐ
บ่ก่อเกิดกลัดกลุ้มชีพสุ่มเสี่ยง
ธรรมวิเศษเศรษฐกิจคิดพอเพียง
ชาติอาจเดี้ยงนอนเตียงนุ่มใช้ฟุ่มเฟือย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ...จริงวันนี้...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 มิถุนายน 2015, 21:45:00

ใช้ลวดมัดตัดต่อก่อโครงสร้าง
จากหลุมล่างเหล็กเส้นซีเมนต์ป่น
ผสมหินดินทรายละลายคน
ถอกเทบนแบบบังเสาตั้งคาน

เครนยกพื้นสำเร็จเสร็จวางนับ
ปูนโบกทับก่ออิฐปิดรอบด้าน
ช่องประตูหน้าต่างหว่างกี่บาน
ขื่อแปก้านเกาะลอนมุงหลังคา

จากงานหนักหยักหยาบฉาบในนอก
ละเอียดริ้วคิ้วขอกบอกบางหนา
ปูกระเบื้องเนื่องแน่นแผ่นตาตา
เพดานฝ้ากันร้อนผ่อนเสียงเย็น

สีรื่นรมย์กลมกลืนกับธรรมชาติ
ไฟแสงสาดอ่อนจ้าส่องตาเห็น
น้ำบนล่างอ่างใช้ไหลกระเซ้น
สิ่งจำเป็นสายล่อฟ้าผ่าลงดิน

สนามหญ้าหน้าบ้านลานราบโล่ง
ทางเชื่อมโยงสวนหย่อมหอมประทิ่น
เรือนไม้ดอกไม้ประดับงามจับจินต์
ธารน้ำตกหลั่งรินลงสระบัว

ใช้ลวดมัดตัดต่อก่อรากฐาน
ทึบสี่ด้านด้วยอิฐสูงมิดหัว
เป็นกำแพงแบ่งดินแดนส่วนตัว
เพื่อบรรเทาความกลัวชั่วคุกคาม

ยามว่างดูเพื่อนบ้านสร้างบ้าน


รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เรื่อยๆ...ไร้สาระ...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 สิงหาคม 2015, 13:13:54

หยุดสักห้านาทีดีไหมหือ
หยุดไม้มือแข่งขาอย่าขยับ
หยุดลืมตาพาปากเปิดปิดงับ
หยุดหูตรับดังดูดสูดสาบไอ

ชินโพล่งเผยเอ่ยอ้าสารพัด
ดุด่าจัดขัดคอส่อนิสัย
แตะตำหนิติชมถมหทัย
เหน็บเลศนัยให้งงหลงเชื่อตาม

เององค์อ่อนฟ้อนฟายโยกส่ายก้น
เคียดขึ้งข้นพุ่งพรวดอวดเบ่งกล้าม
แบ่งส่วนสีตีต่อยคอยคุกคาม
ก้มกราบงามสามหนวนพระปรางค์

กรายกลิ่นหอมดอมดะดอกมะลิ
โชยกะปิปลาร้าท่าถอยห่าง
ยินประกาศปล่อยกู้เห็นหูกาง
ทวงสตางค์หนี้ยืมทำลืมเลย

แฟนอยู่หลังทั้งคนยืนโทนโท่
ยิ้มหน้าโย้ยึกยักทักทายเฉย
ขับปาดหน้าฝ่าไฟแดงแซงซ้ายเคย
ต่อมตาเต่ยเปลือกปิดพิษมึนเมา

หยุดสักห้านาทีจะดีไหม
ล้างนอกในสะอาดปราศโง่เขลา
ละกิเลสเหตุเสื่อมสิ้นบางเบา
เวลาน้อยแล้วเราจวนเข้าโลง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: อ้ายทิดกับวิทยุใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 10 กันยายน 2015, 17:45:50

เปิดคลื่นนี้ถี่ดังเสียงฟังชัด
เนิ่นนานขัดสนั่นลั่นแก้วหู
หมุนคลื่นใหม่ไหงอ่อยค่อยอี้อู้
ฟังไม่รู้งึมงำคำอะไร

มือขวาย้ายซ้ายจับคอยปรับปุ่ม
เร่งวอลลุ่มลงเบาบิดเลื่อนไหล
เสียงฝรั่งอังกฤษฟุตฟิตฟอไฟ
เสียงไตใหญ่ส่างลองจองพะรา

เสียงแปลกแปลกแขกรัวลิ้นเร็วรี่
เสียงพะซี้ตีตายจีนอ๊ายหยา
เสียงน่องน่องยองย้ำกำล้านนา
เสียงอีหล่าฮอดบานอีสานเฮา

ข่าวขโมยขโจรปล้นเงินแบ๊งก์
ข่าวฆ่าแกงเลือดเย็นเป็นศพเผา
ข่าวชนแหลกแหกเหาะเพราะมึนเมา
ข่าวชาวเขาขนยาบ้าทั้งวัน

โฆษณาอาหารสารประสม
ขายพัดลมของแท้แอร์ดิฉัน
ตู้เย็นสดรถผ่อนเพียงแค่พัน
เตาไร้ควันคั่วผัดประหยัดทน

เปิดตั้งนานถ่านใหม่ใส่สามก้อน
หาละครลิเกทุกเหหน
หามีไม่ไวพจน์ทศพล
หากผ่านพ้นพรุ่งเช้าเอาไปคืน

รพีกาญจน์




หัวข้อ: แบบนี้จะมีอีกไหม?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 22 กันยายน 2015, 20:51:24

นั่งแล่เนื้อเกลือทาราไฟอ่อน
ไม้ก่ายขอนคืบห่างวางปลาปิ้ง
กลับไปมาห้าครั้งหนังแห้มจริง
มันหยดติ๋งสูดดอมหอมชื่นใจ

เข้าครัวแลซ้ายหาขวาว่างเปล่า
มุดใต้ถุนเปิดเล้าหยิบเอาไข่
ตั้งกระทะต้มตามสองสามใบ
แกะเปลือกใส่จานสับกับข้าวกิน

ท้ายหมู่บ้านธารเชี่ยวคดเคี้ยวไหล
ปูดำไต่หอยกาบเกาะแก่งหิน
ฝูงกุ้งฝอยถอยร่างริมรางริน
ปลาโดดดิ้นผุดดำน้ำกระจาย

บัวเต่งตูมอูมบานสคราญหนอง
ผำละล่องจอกแหนแพสาหร่าย
ตบชวากระจับตับเต่าพาย
ลอยเรียงรายผักบุ้งถึงทุ่งนา

เห็ดเต็มตอหน่อดอยสอยผักหวาน
หล่นเกลื่อนลานแคขาวสะเดาป่า
ตำลึงเลื้อยรอบรั้วฝักถั่วงา
พริกขิงข่าตะไคร้ขุดไพลมัน

คือสิ่งมีดีงามตามธรรมชาติ
สดสะอาดปราศปิดพิษมหันต์
ล้วนซื้อง่ายขายคล่องต่อรองกัน
ขอแบ่งปันก็ให้ในชุมชน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: หนาวนี้หนุน อุ่นกอดใคร ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 15 ตุลาคม 2015, 10:31:31

สองมือเกร็ง กำจอบ ใจหอบถี่
ถือเอสี่ ไวแน่น แผ่นจดหมาย
บรรทัดบนคนดี ถึงพี่ชาย
คำลงท้าย จำพราก จากสีลา

แม่นหยดย้ำ น้ำตา หลั่งบ่าไหล
ปนเหงื่อไคล หลุดร่วง ย้อยดวงหน้า
เห็นฟ้าแลบ ฟ้าร้อง สองหูชา
เสียงฟ้าผ่า อย่างไร ไม่ได้ยิน

อ่านทบทวน ซ้ำซ้ำ สามสี่ครั้ง
ข้อความดัง แรกเริ่ม เหมือนเดิมสิ้น
พ้อลำบาก ยากจน ทนทำกิน
อยู่ติดดิน เยื้องย่าง หมดทางรวย

ให้อิจฉา เสียจริง หญิงข้างบ้าน
เริงปอยงาน แต่งหน้า ทาเล็บสวย
ขนตาพริ้ว คิ้วโก่ง เกล้าผมมวย
เสื้อคอย้วย เกิบบาง กางเกงมัน

พกเงินพับ นับมือ ซื้อก๋วยเตี๋ยว
กรอบแกรบเคี้ยว งึมงำ ดูดน้ำปั่น
ควบซ้อนแฟน แอ่นท้าย ไปด้วยกัน
สุดอัดอั้น แล้วหนอ ขอลาที...

ไร้คำตอบ จอบสับ ลงกับพื้น
ไห้สะอื้น ยาวยัง ดังถี่ถี่
รักมาล่ม จมหาย ช่วงปลายปี
ละหนาวนี้ นอนหนุน อุ่นกอดใคร?

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: พ่ายแพ้แต่ไม่ท้อ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 ธันวาคม 2015, 21:09:56

หมั้นเพชรนิลจินดาค่าร้อยชั่ง
มอบเงินถังแบ๊งก์เทาถ้วนเก้าแสน
เหมาอาหารการกินสินทดแทน
เครื่องแห่แหนปี่กลองร้องครื้นเครง

สร้างสวรรค์จันทร์เดือนปลูกเรือนหอ
ขับบินปร๋อเคียงคู่หรูรถเก๋ง
เป็นผู้หลักศักดิ์ใหญ่ใครกลัวเกรง
ยอดนักเลงถือธรรมพร่ำสวดมนต์

ข้าวในนาอย่างน้อยห้าร้อยไร่
สวนลำไยผลดกหกพันต้น
ดอยทั้งลูกปลูกยางลุ่มกลางบน
แล่นเรือยนต์ชมบึงบ่อเลี้ยงปลา

ต้องหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวเบี้ยวไม่รับ
อายุจับอานามสามสิบห้า
ร่างสูงล่ำกำลังเทียบแรงม้า
ส.ว.อย่าครุ่นคิดหมดสิทธิ์รัก

ลูกคนเดียวลออของพ่อแม่
พี่พ่ายแพ้ตัวดำต่ำตระหนัก
จนติดตัวชั่วช้าน่าแช่งชัก
ถึงดีสักปานใดท่านไม่มอง

สงบปากตรากตรำจำรับจ้าง
เก็บสตางค์อดออมจ่อมกระป๋อง
ครบวันคืนชื่นใจได้แต่งดอง
วอนนวลน้องครองโสดโปรดจงรอ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: สบโอกาสลูกหลานมักเข้ามาอ่านเสมอ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 03 มกราคม 2016, 10:06:47

เมื่อล้มลุกคุกคลานบนลานหญ้า
สองแขนอ้ามือนุ่มอุ้มโอบหอบ
คอยพยุงจูงยื่นเดินชื่นชอบ
รีบปลุกปลอบหงายท้องร้องไห้โฮ

มือจับแฮนด์แอ่นอกยกเท้าถีบ
ปากปี๊บปี๊บแทนแตรแห่อวดโอ่
ล้อลื่นไหลลงลาดหัวฟาดโน
แม่วิ่งโร่โอ๋เป่าปัดเอาใจ

รุ่มทั้งตัวหัวค่ำคืนย่ำรุ่ง
นอนสะดุ้งตื่นหลับจับสั่นไหว
ขวัญคงผละเตลิดเปิดเปิงไป
คว้าแซะได้ช้อนซ้ำพร่ำขวัญมา

เย็บกระทงวงสายขดด้ายจุก
วางกล้วยสุกข้าวปั้นรับขวัญกล้า
ผูกข้อมือถือมั่นรวบขวัญคา
เกรงขวัญลาละจากเว้าวากย์วอน

นับตะวันจันทร์ดาวกี่หนาวศก
กี่ฝนตกน้ำซัดท่วมกัดกร่อน
กี่เปลวแดดแผดเผาแรงเร่าร้อน
เคยย่อหย่อนบ้างไหมแม้ไข้รุม

ทำงานครัวควบคู่ดูแลเฝ้า
โตส่งเจ้าเล่าเรียนจนเจียนหนุ่ม
อุปสรรคหนักนิดคิดกลัดกลุ้ม
เจ้าจงทุ่มอย่าท้อสู้ต่อไป

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ตาสุยคุยกับยายสี
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016, 10:21:30

พอนั่งพับหลับตา สมาธิ
ภาพผุดผลิภพเก่าดังเราฝัน
อดีตเผยเลยลุปัจจุบัน
ร่วมรักมั่นสัญญาตามสาบาน

เห็นตัวงูปู่เฒ่าขดเฝ้าถ้ำ
ถือศีลพร่ำบำเพ็ญเป็นสุขศานต์
ตัวเมียคู่อยู่ด้วยม้วยแก่กาล
ร้อยปีผ่านประเสริฐเกิดอีกคราว

ชายชื่อสิงห์หญิงงามนามเอื้อยแสง
เล็กเพื่อนแพงรักใคร่วัยหอมห้าว
นอนกระท่อมดอมดานลานนาลาว
ลูกหนุ่มสาวล้อมหน้าหลังห้าคน

จำนิมิตติดตา ไอ้ฟ้าก๊อม*
แกยินยอมเป็นไพร่ไปทุกหน
ปกป้องเจ้าเข้าตีคุมรี้พล
เหตุวิกลพานางหนีออกเมือง

บุพเพสันนิวาสพบชาตินี้
เพราะกรรมดีมีบุญช่วยหนุนเนื่อง
พอมีกินมีใช้ไม่ฝืดเคือง
แดนรุ่งเรืองศิลป์ศาสตร์ราชธรรม

ลองนั่งพับหลับตาอีกคราสิ
รักผุดผลิเที่ยงแท้ถึงแก่หงำ
เสมอต้นชนปลายไม่กลายคำ
เจ้าจงจำ รักฉันนิรันดร์

รพีกาญจน์

*ไอ้ฟ้าก๊อม จากกระทู้ "เพื่อน"



หัวข้อ: Re: เลือกเขาหรือเลือกพี่
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 มีนาคม 2016, 21:06:32

พี่ต่ำต้อยง่อยเปลี้ยเพลียแขนขา
แม่ชื่อตาก่อนงายขายข้าวถุง
พ่อชื่อจิวหิ้วปลาค้ากระบุง
บ้านปลายทุ่งหลังเก่าเช่าเจ๊ฮวง

เดิมความรู้ปูปลาจบปอสี่
นักธรรมตรีจรจัดจากวัดหลวง
รับจ้างกรองแยกก๊าซของอากวง
ปีเลยล่วงถูกไล่ไปเล่นกล

ตีพางพางปล่อยงูชูเช่าพระ
ตำรวจปะโดนจับปรับหลายหน
ตามรถฉายขายยาภาพยนตร์
เข้าหน้าฝนจอดนิ่งจึงทิ้งงาน

ตามรำวงคงดีจู๋จี๋สาว
แก้มขาวขาวนวลหน้านัยน์ตาหวาน
เต้นยิกยิกจิ๊กโก๋โจ๋รำคาญ
ตบกบาลหล่นกองสองซี่กราม

กลิ้งหลุนหลุนล้มลงตรงทางเข้า
โรงต้มเหล้าเถ้าแก่ยักแย่ห้าม
รองรับไว้ให้อยู่ดูเวรยาม
วันละสามสี่ขวดดวดฟรีฟรี

มัวซึมซึมงึมงำทำไมน้อง
มัวแต่มองตรวจเช็คสเปคพี่
ตัดสินใจได้เลยเหวยเร็วซี
รีบบอกทีีพี่หรือเขาเอ้าเลือกใคร

เมาได้ที่อากีพูดไม่เพราะเล้ย โอ้กกก อ้ากกก



หัวข้อ: Re: หมาจนตรอก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 เมษายน 2016, 14:55:19

ปากต่อปากจากเพื่อนเพื่อนบอกต่อ
สารบนจอพลาดผิดบวกคิดเห็น
อาจแต่งเติมเพิ่มคำนำประเด็น
ลบร่มเย็นเร่งร้อนทอนทำราน

รีบโดดสวมร่วมมือเพื่อนคือผู้
เก่งรอบรู้เรื่องแปลกเชี่ยวแตกฉาน
คอยจ่อจี้ตีรันบัญชาการ
เชื่อมสื่อสานเครือข่ายขยายความ

ใหม่มาอยู่รู้หน่อยพลอยพยัก
หงึกหงักหงักชั่งใจละไต่ถาม
เพราะเหตุผลกลใดไยวู่วาม
หนักประณามรุนแรงแช่งบรรลัย

รูปเหลี่ยมวงทรงกลมชมรอบด้าน
เห็นหัวล้านรูปรุทะลุใส
จิตหอบหุงปรุงแต่งตะแบงใน
เพื่อนว่าใช่ใช่เหมาเอาด้วยกัน

รามอดมุดจุดโหมประโคมข่าว
บนบอร์ดฉาวภาพลบชอบขบขัน
ไร้รู้สึกฮึกเหิมวันเติมวัน
ข้นบีบคั้นค้นคำตำให้ตาย

เคยบ้างไหม?
เพียงฉุกคิดนิดได้ยังไม่สาย
หมาจนตรอกบอกนะอันตราย
ถึงสุดท้ายแลกกันมันหรือยอม

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: ภาคเหนือ วันนี้ 60% ของพื้นที่
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 17 พฤษภาคม 2016, 20:00:51

มาละเหวย มาละวา อย่าตลก
หากโกหกตกเหว เปลวเพลิงหุบ
ถูกรุมล้อม พร้อมพา ฮูลาฮุบ
คันยุบยุบ ผงผุย หมามุ่ยลาม

รู้ข่าวล่า พยากรณ์อากาศ
มรสุม เคลื่อนพาด ผ่านสยาม
เริ่มฟ้าร้อง ลมถั่ง ดังตูมตาม
ทั่วเขตคาม รับฝน แน่หล่นพราย

ป่าไม้น้อย ดอยด่อน ความร้อนสูง
ไร้ยางยูง ราบลาด น้ำขาดหาย
เห็นผาหิน ดินแล้ง แห้งกรวดทราย
เหลือเหมืองฝาย ตั้งสง่า สาวรีย์

ระวังคำ น้ำป่า บ่าทะลัก
สัตว์พืชผัก ย้ายบน คนรีบหนี
ขุดลอกคลอง ร่องราง อ่างเท่ามี
รับเต็มปรี่ เอ่อไหล เผื่อใช้งาน

กาละมัง ถังโอ่ง ยกโล่งหงาย
ชิดเรียงราย ซ้ายขวา รอบหน้าบ้าน
หมวกกันน็อค ล็อคสาย สวมกบาล
เกรงหัวล้าน ปวดเจ็บ ลูกเห็บลง

เตรียมผ้าต่อง ตาราง วางสบู่
คาดขัดถู ไคลคราบ อาบสระสรง
หัวเราะรี่ ตีกล่อง ร้องรำวง
มงเท่งมง นานเก้อ ฝนเธอมา

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: ฝันหนะ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 01 มิถุนายน 2016, 12:25:16

สายแดงเข้มเข็มขัดรัดเอวมั่น
ซองเลื่อมมันถุงแถบแนบข้างขวา
เอาเชือกน้อยร้อยรัดซองศัตรา
แน่นติดขาควักคล่องยามต้องการ

เสื้อม่อฮ่อมย้อมเขียวสวมเตี่ยวฟิต
หมวกคลุมปิดใบหน้านัยน์ตาหวาน
รัดผ้าต่องคล้องคอพอประมาณ
สอดเกิบสานเบาบางยางรถยนต์

ประณมมือถือพระเรียกสติ
พร่ำพุทธิหมอบราบกราบสามหน
ค่อยคืบคลานว่านอมพรมน้ำมนต์
แหงนเบื้องบนไชโยโห่สามที

ด้วยข้าศึกคึกคิดประชิดบ้าน
ฤทธิโรมโหมหาญราญกรุงศรี
ยึดแผ่นดินถิ่นถ้ำน้ำมันมี
ข้าวพันธุ์ดีลำไยไม้พะยูง

แถมใจบาปหยาบต่ำหลงกำเริบ
ร้องเซิบเซิบย่างเยื้องหมิ่นเบื้องสูง
เลิกตั้งรับจับลากกระชากจูง
ควักปืนยิงปู้งปู้งตุงสะดือ

ถลันลุกปลุกนั่งยืนจังก้า
ตายละวาแม่ศรีฝันนี่หือ
ชุดนอนแฉะชุ่มฉ่ำเต็มกำมือ
ต้องรีบรื้อใครเห็นเหม็นจบกัน

"พ่อนี่แปลก ซักผ้าแต่เช้า ขยันจริ๊ง"
"เออ วันหวยออก เอาโชคเอาชัย" อิอิ

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: มีแต่องค์พระ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 กรกฎาคม 2016, 13:20:37

ยิ้มระรื่นยืนตรงโค้งคำนับ
ยื่นมือจับโอบกอดพรอดคะขา
ไม่ถนัดอัดอั้นหวั่นอุรา
จำนรรจาว่าไปอย่างไรดี

ประสานมือหรือควงล้วงกระเป๋า
เคาะเบาเบาเกานั่นคันคันนี่
ขยับแว่นขยับยันฟันปลอมที
ดึงเตี่ยวรี่กันหลุดหยุดลูบพุง

แค่คิดนิดวิตตกอกประหม่า
ล่วงชราไร้หญิงสิงวิสุง
หนังเนื้อนอกในเต้นเช่นตะลุง
สวดพาหุงยากจบสงบใจ

หกสิบขวบจวบจนผมขนหงอก
ไม่เคยออกจากเหย้าเข้าบางไหน
เป็นฤาษีซากผุธุดงค์ไพร
ผลไม้สุกเอาเผือกเผากิน

มาลีจะจำเราได้เปล่าหนอ
ชายมอซอจรจัดหลงพลัดถิ่น
ตามรูปเรียงเสียงจริงกริ๊งยลยิน
ถึงบัวดินผกากรองช่ำชองยุทธ

ยิ้มระรื่นชื่นนักจักพบเห็น
ทรงจำเป็นแรกหมายและท้ายสุด
เหลือเดินเดี่ยวเปลี่ยวตรมก้มเงยงุด
เช้าวันพุธหมอบราบกราบองค์พระ

รพีกาญจน์
29 มิถุนายน 2559




หัวข้อ: Re: เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝน บ่นจนไม่เป็นกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 30 กรกฎาคม 2016, 21:23:06

เพียงกะหยิบ ดิบดอง ของสดแห้ง
แพงแพ้งแพง ปล่อยมือ ซื้อไม่ได้
แค่ถั่วฝัก ผักงาม สองสามใบ
แม่ค้าใส่ จานวาง ช่าง(ชั่ง)กิโล

ยี่สิบบาท ขาดตัว ตัวห้ามต่อ
ซื้อไม่ซื้อ หรือรอ รอโมโห
หลุดปากออก บอกเธอ เธอโอ้โฮ
ทำตาโต โยนกลับ กลับที่เดิม

เลิกกินผัก กินเนื้อ เบื่อแล้วด้วย
เสาะซื้อกล้วยน้ำว้า อาหารเสริม
สุกอร่าม ยามยอง ดังทองเจิม
หวีเบ้อเริ่ม หกสิบ รีบจากมา

โอยโอ๊ยโอย จนจน ทนไม่ไหว
โอ๊ะซื้อไข่ เบอร์สี่ ต้มดีกว่า
แว่นขยาย ส่ายสอด มองลอดตา
ไข่ราคา ถูกถูก ลูกไม่มี

หลวงปู่ขา ไข่ไก่ ไปไหนหมด
คงไส้หด ไส้กิ่ว หิวเต็มที่
อาจเป็นลม เป็นแล้ง แรงไม่ดี
จุกลิ้นปี่ หามไป ไอ ซี ยู

คนรายรับ นับน้อย ถอยถอยเถอะ
คนรายรับ เยอะเยอะ เชอะเชิญอยู่
เหมาหอย เห็ด เป็ด ไก่ กุ้ง ปลา ปู
ฉันเปิดตู้ จี้จ้ำ น้ำพริกแดง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เหยื่อสงคราม
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2016, 13:43:13

สุดสัปดาห์รุ่งสางกลางถนน
เล่นซุกซนเฮฮาประสาเด็ก
แกก็รู้ดีว่าข้าตัวเล็ก
ควรตรวจเช็คแน่นอนก่อนกระทำ

แบบสบายซ้ายมือถือขนม
ขวาลูกอมติดแท่งสีแดงกล่ำ
ย่อกระโดดโลดแล่นแอ่นร้องรำ
ผิวปากฮัมหมุนวนบนริมทาง

เอิ้นกระเซ้าเย้าแหย่แฮ่ใส่เพื่อน
โยกเขยื้อนล่อหลอกเฉออกข้าง
เพื่อนแสร้งเฉยเลยเผลอเจอจับคาง
มือที่ว่างแย่งขนมดมกัดกิน

แปะหนึ่งทีชี้กลั้วยิ้มหัวเราะ
เตร่เกี่ยวเกาะแกว่งเท้าเราเจ้าถิ่น
อิสระเสรีที่ยลยิน
เมื่อเครื่องบินจรวดร่อนทำลาย

แตกอากาศแตกพื้นตื่นตระหนก
ระเบิดตกอกสั่นยืนขวัญหาย
ทั้งตึกลานบ้านแยกแหลกกระจาย
คนเจ็บตายก่ายกองร้องเสียงดัง

หนูเกิดปีมีผิดติดมาหรือ
แกลงมือเข่นฆ่าอย่างบ้าคลั่ง
ไร้ที่อยู่อู่เคยนอนจรเซซัง
เดียวดายนั่งครวญคร่ำลูกกำพร้า

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: จากจริงสิ่งที่ได้พบเห็น 1
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 20 กันยายน 2016, 20:42:14

ทำเกษตรเขตลุ่มทุ่มขยาย
เก็บเกี่ยวขายได้เงินเกินสิบแสน
ถึงฝนแล้งแห้งหาดน้ำขาดแคลน
เหลือกาบแกนยังหยิบสิบหมื่นบาน

เป็นนายหน้าค่าสิ่งวิ่งเร็วส่ง
ตามตกลงกำไรเท่าใดหาร
ตึกจับจองห้องหอบ่อบาดาล
เสนองานเบาหนักหักเปอร์เซ็นต์

มัวโงง่วนงานลืมดูแลลูก
เคยพันผูกลำบากยาวยากเข็ญ
แถมตระหนี่ถี่ถ้วนล้วนประเด็น
รักร่มเย็นร่วมรังท้ายพังภิน

โชว์ผ้าแผ่นแท่นถ้วยอวยเต็มตู้
ประกาศชูเกียรติกอปรมอบทรัพย์สิน
ทองเหลืองโล่โบสีมอบที่ดิน
ส่วนท้องถิ่นชื่นชอบเลี้ยงขอบคุณ

เจ้าภาพจองกฐินสิ้นพรรษา
รับช่อฟ้าซีเมนต์เหล็กเส้นหุน
หมื่นอิฐมอญก้อนแดงแจรงบุญ
เทใต้ถุนลานรอบขอบขัดมัน

ยกตัวอย่างอ้างทำความสำเร็จ
หวังหกเจ็ดบันไดไต่สวรรค์
ยามค่ำคืนยืนจ้องมองดาวจันทร์
ซึมจาบัลย์เปล่าเปลี่ยวแดเดียวดาย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ลาภลอย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 ธันวาคม 2016, 22:42:38

เหมือนอันเตเทวาเหาะมาช่วย
เราถูกหวยเฮลั่นกันทั้งย่าน
สวมผ้าสีตีเป่าเช้าอังคาร
จักรยานปั่นไปไม่รีรอ

กดบัตรคิวคอยท่าหน้าแช่มชื่น
นิ่งนั่งยืนห้องโถง ธ.ก.ส.
เพื่อนสนิทชิดชักทักชอบพอ
ถือสมุดผุดจ่อขอถอนตังค์

เศษเนื้อบางข้างเขียงเพียงแผ่นพับ
น้อยค่านับเศรษฐีมีถุงถัง
จนอุบัติรันทดหมดพลัง
ต่อชีวังยาไส้ได้ข้ามปี

ซื้อกะปิน้ำปลาอาหารแห้ง
หอมขาวแดงน้ำตาลข้าวสารสี
ผงชูรสหยดหยอดซอสอย่างดี
มาม่าแพ็กเส้นหมี่มีครบครัน

ตลาดขาดคนเดินเนิ่นนานนัก
เริ่มคึกคักเจี๊ยวจ๊าวราวสวรรค์
จับซื้อง่ายจ่ายให้ใบละพัน
เป็นของขวัญยามยากจากประยุทธ์

เตรียมจัดแจงแลงหุงปรุงคาวหวาน
ถวายทานแด่พระผู้พิสุทธิ์
บุญกลางคืนตื่นเต้นตรงเพ็ญพุธ
อุปคุตเสด็จโปรดเมตตา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: น้ำตาแท็กซี่
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 11 มกราคม 2017, 20:53:12

ผ่านทดลองต้องตาสารรูป
บอบบางซูบชะลูดสูงตูดโก่ง
ผิวดำดอกหยอกเอินเดินโทงโทง
จมูกโด่งผมสั้นแย้มฟันวาว

แลฉลาดปราดเปรียวเหลียวรอบด้าน
ประสบการณ์เลื่องลือไร้อื้อฉาว
ช้ารู้เร่งเร็วรู้ผ่อนว่างจรยาว
สั้นรีบสาวคาวอมขมกัดกลืน

รู้กำหนดกฎเกณฑ์จัดเจนคล่อง
รู้เข้าช่องซอกซอยถอยแข็งขืน
รู้ขยับจับจ่อย่อยืดยืน
รู้สะอื้นขบขันร้องลันลา

รู้ชมสาปบาปบุญค่าคุณโทษ
รู้ประโยชน์เชื้อชาติราษฎร์รักษา
รู้สืบเสาะเลาะเล็บเก็บทรัพยา
รู้รีดนาทาเร้นเค้นบังคับ

ฝ่าทดสอบตอบร้อยถ้อยบรรทัด
เก่งชะมัดยกก้นเป็นพลขับ
ท่องแท็กซี่โฉบเฉี่ยวเลี้ยวชนทับ
ร่างร่วงผล็อยย่อยยับนับโกฎิกอง

วันคืนครบภพเดือดเลือดเปื้อนเปรอะ
ยากกรองเกรอะกำพร้าม่ายหน้าหมอง
เพียงลูกจ้างอ้างธรรม์ตามครรลอง
น้ำตานองกล่าวคำเอยอำลา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ปู่ตอบว่าอายุย่างเก้าสิบ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 กุมภาพันธ์ 2017, 20:42:41

ปล่อยน้ำไหลลงนาคาคันปริ่ม
ซึมซับอิ่มอ่อนง่ายเทียมควายไถ
กลับหญ้ายอกอเก่ากลบเน่าใน
สัปดาห์ได้คราดครากแยกซากซัง

ขี้วัวใส่ขี้ไก่ยุ่ยหว่านปุ๋ยคอก
กล้าแบ่งออกฉีกกำดำถอยหลัง
ก่อนปู่ย่าตายายเหมืองฝายยัง
น้ำท่วมขังเนืองนองร่องระบาย

เติบโตเขียวเรียวยาวพราวไสว
แตกต้นใบชอุ่มพุ่มขยาย
วัชพืชโผล่พ้นบนกระจาย
ตีนเปล่าดายซอกย่ำดำมุดจม

น้ำมีปลานามีรูปูเกาะไต่
จอกแหนไรผำลอยเตาหอยขม
พริกขิงข่าตะไคร้ไพลชะอม
ร้องระงมกบเขียดเลียดเถียงนา

ค่ำคืนเย็นสบายลมพายพัด
เที่ยงร้อนจัดจดแลงแสงแดดจ้า
ข้าวอุ้มท้องออกรวงงวงงามตา
ถึงเวลาจับเคียวเกี่ยวตากกอง

เปิบข้าวคำยำผักตักแกงหยวก
ตำลึงลวกจิ้มจ้ำน้ำพริกอ่อง
ขบเห็ดถอบกรอบดังนั่งยองยอง
กินแต่ของโบราณปลอดสารพิษ

รพีกาญจน์





หัวข้อ: Re: ลองรักอีกสักหน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 21 มีนาคม 2017, 21:16:49

บรรจงเก็บเกล็ดพรายกระจายฝัน
เชื่อมผูกพันมวลงานประสานหวัง
บวกทุ่มเททุกสิ่งอย่างจริงจัง
เรียกพลังเติมตามความพากเพียร

จำเหินห่างจางใจให้เว้นวรรค
อุปสรรคนานาหันพาเหียร
คิดหวนคืนลื่นลับยากจับเจียร
ช่องวิเชียรช่างอืดเค็มจืดคลาย

ตั้งนะโมโอ้ลมเพลินชมทุ่ง
สูดฉมฟุ้งพฤกษาเพลาสาย
ประโคมขับกรับกลอนรำฟ้อนฟาย
เมียงชม้ายบังอรซ่อนอาบเย็น

เคาะกะโหลกโปกขันประชันหวัว
สูตรมูลวัวผสมซากกากเก่าเหม็น
เปิดวาล์วน้ำลำไยไหลกระเซ็น
ลากล้อเข็นผลผักตักต้มแกง

สีสะล้อซอซึงรำพึงพิศ
วิปริตจิตพร่องเดินต่องแต่ง
ปวดก้นกล้ามดามดิ้นสิ้นเรี่ยวแรง
เคยพลิกแพลงตอบต่อล้อเฮฮา

ลองเก็บเกล็ดเม็ดดาวพราวกะพริบ
ขยับหยิบแจ่มจันทร์ตะวันจ้า
รวมถักถ้อยร้อยรักอักษรา
อีกสักคราก่อนดับพร้อมกับไฟ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ลองรักอีกสักหน
เริ่มหัวข้อโดย: ning777 ที่ วันที่ 22 มีนาคม 2017, 11:36:01
 :)


หัวข้อ: Re: ลองรักอีกสักหน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 22 มีนาคม 2017, 21:31:00
ขอบคุณครับ
 ;D


หัวข้อ: Re: เศร้าใจครับ!
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 พฤษภาคม 2017, 22:08:27

เด็ดใยยึึดพืชผักหักกิ่งก้าน
ยาพื้นบ้านใบรากซอยตากแห้ง
เลาลำต้นผลตัดผัดต้มแกง
ร้อยขาวแดงดอกดวงพวงมาลัย

พนมมือสื่อคำพร่ำไหว้สา
ขอสูมาลาโทษโปรดวินิจฉัย
กินเพื่อโตโภชนานิรามััย
ปราบพิษภัยให้ร้ายกล้ำกลายกลัว

อันช้างม้าวัวควายตายเขาฆ่า
อีกหมูหมาเป็ดไก่เกิดใช่ชั่ว
จับมีดเถือเนื้อมันหั่นตามตัว
ขลุกในครัวหยดซอสหยอดน้ำปลา

หาบ่ายเบี่ยงเพียงเห็นเอ็นดูหนอ
น้ำลายสอลิ้นอยากเปิดปากอ้า
ให้เศร้าแสนแทนเหตุเวทนา
เจ้ากับข้าถูกกฎชดใช้กรรม

จุติใหม่ได้เกิดประเสริฐสุด
เป็นมนุษย์เทวัญพ้นชั้นต่ำ
อยู่วัดวาอารักษ์พิทักษ์ธรรม
สู่เนกขัมจำสงบจบนิพพาน

มันลงมือคือใครไยลอบกัด
เลวชั่วช้ากว่าสัตว์เดรัจฉาน
บาดเจ็บร้องล้มตายหงายดินดาน
แม้โรงบาลสาธารณะไม่ละเว้น

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: แบบสบายท้ายสัปดาห์
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 01 กรกฎาคม 2017, 21:48:11

แค่สนุกสุขใจใช้ภาษา
ครูเมตตายืนนั่งช่วยสั่งสอน
ขอสาธกยกนำเป็นคำกลอน
สื่อสะท้อนชีวิตจิตสังคม

จากได้ดูหูบังฟังขวาซ้าย
โยงขยายบานหุบสรุปสม
เรื่องเสนอเจอคลิปหยิบนิยม
ยอคำคมข่าวล่าจั่วหน้าวาง

คนแตกตื่นครื้นเครงเพลงยอดฮิต
เงินพ่นพิษพระสงฆ์ลงผีสาง
ขูดเลขหวยกล้วยกลองเสาสองนาง
โกทำกร่างปล่อยของยิงบ้องไฟ

สิ้นโศกทีปีกลายน้ำหายเหือด
เดือนนี้เดือดหลากร่วมน้ำท่วมไหล
ข้าวสารแพงแตงถูกปลูกผักใบ
เลี้ยงเป็ดไก่ขาดหมุนทุนมิมี

เดินละเลียดเฉียดแถวแนวสนาม
ลัดเลาะห้ามมุ้งเมืองเคืองบัดสี
ดื้อด้านแต่งแปลงสารหว่านวจี
จบสามทีฟ้อนฟายร่ายมนตร์ดำ

แบบสบายท้ายสุดสัปดาห์นะ
พ้องวันพระใส่มุขสนุกขำ
ป้ากะปู่กู้อีจู้ดูตาคำ
พาหมอหลำเป่าปี่แอ่อี๊แอ

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: พ่อหมอจ๋าตรวจลายมือให้หนูหน่อยจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 กรกฎาคม 2017, 11:45:02

ร้ายหรือดีชีวิตปริศนา
โชคชะตาโชติทรุดจุดประสงค์
บุญโน้มนำกรรมแต่งแจรงองค์
เจตน์จำนงค์หนักเบาเทพเจ้ามาร

ลงเส้นลากปากกามิสามารถ
สร้างจินต์วาดเด่นด้อยร้อยประสาน
ลบมรรคเข็ญเฟ้นงามตามต้องการ
วอนยมท่านกรานโอมพรหมเมตตา

มันคือสิ่งจริงนึกแท้ลึกลับ
ดวงแจ้งดับหับเผยยากเอ๋ยหา
ม่านมืดดำอำพรางกระจ่างซา
ชั่วชันษาเชื้อสายสืบลายลาง

ยอมลำบากพากเพียรปราชญ์เขียนค้น
ร่องรอยบนถี่ฐานขนานห่าง
มวลมนุษย์ผุดพรรณแต่บรรพ์บาง
จารึกร่างต่างพ้องสองฝามือ

ดังแผนที่ชี้เชิญเดินทางทิศ
สู่ถูกผิดเวียนวนซ้ำหนหือ
รักคู่แด้นแล่นอืดตะพืดตะพือ
จากมวนมื้อยื้อหยาบตราบม้วยมรณ์

รอช่างแลแปลเส้นความเร้นหมาย
เลี่ยงสิ่งร้ายรับดีสีกระฉ่อน
จังหวะเฮเวลาท่าแน่นอน
ดับเร่าร้อนช้อนเย็นเป็นสุขเอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เธอโทษฉันทำไม?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 สิงหาคม 2017, 09:00:31

ป้องหน้าผากปากพ่นก้นลอยพื้น
สลับยืนหยุดนั่งเสียงดังขรม
แต้มเลื่อนไหลลุกฮือปรบมือชม
ร่างลื่นล้มรองลูกถูกใจเฮ

ต้มแกงเสร็จเห็ดปลาฝาชีครอบ
ดูของชอบแน่นอนแข่งวอลเล่ย์
ลืมหวยกินสิ้นตังค์โต๊ดทุ่มเท
กุมหน้าเหยคอยอกไม่บอกบุญ

ลูกตบตั้งยังไงดีไปหมด
เสียงเชียร์กดดันที่ทีมญี่ปุ่น
สองเซตโอ้โฮเฮะเละเป็นจุล
ไร้สิทธิ์ลุ้นขึ้นชื่อไทยคือแชมป์

จิบฟองเบียร์เลียปากสมอยากดื่ม
แม่คุณปลื้มวอนครับส่งกับแกล้ม
ขอฉลองสองขวดรวดไอแอม
แด๊นซ์แทรมแทรมร้องลั่นลาลันลา

อีกสองเซตเหตุการณ์เกิดพลิกผัน
เขาป้องกันคืนรุกเร็วทุกท่า
บวกลูกโหดโดดตบสลบคา
จากเสียงฮาลดเบาเป่าปากเฮ้อ

ยอมแพ้บ้างช่างเถิดทีของเขา
ทีของเรามากมายรายการเกร่อ
โค้ชแก้ไขได้ชนะอีกจะเจอ
อ้าวนี่เธอโทษกันฉันทำไม?

ว่าเป็นตัวซวย เชียร์บอลเสียงดัง ทีมแพ้ทุกที

รพีกาญจน์






หัวข้อ: Re: จะเกี่ยวกันไหมหนอ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 ตุลาคม 2017, 21:58:17

เรื่องภาษีภาษาพาปวดเศียร
ก็ขีดเขียนเข้าใจในพวกสู
ประกาศปังบังคับกับพวกตู
เป็นกฎหมายว่ารู้ดูอ่านเป็น

ประดิษฐ์ถ้อยร้อยคำไว้จำกัด
สิบบรรทัดจัดวางอย่างที่เห็น
ประโยคด้วนห้วนสั้นปั้นประเด็น
แสนยากเย็นท้อแท้แปลนิยาม

ได้แต่มองจ้องตาหน้าเลิ่กลั่ก
อยากพบนักปราชญ์ไปล่ขอไต่ถาม
ได้แต่งงสงกาว่าเนื้อความ
ปรากฎตามสามข้อหนออย่างไร

ร่างสรุปปุบปับจับด่วนจี๋
ขาดเวทีชี้แจงแถลงไข
กำหนดกรอบอบครอบคลุมกลุ่มกิจใด
มากน้อยใครรวยจนผลกระทบ

มัวอึกอักชักช้าเปิดอ้าปาก
เดี๋ยวโดนสากเปรตปราดฟาดสลบ
อยากคบใครใช่ว่าเห็นน่าคบ
พลั้งเผลอจบเพื่อนเราเผาวอดวาย

เรื่องภาษีภาษาพาปวดเศียร
วอนขีดเขียนคำไทยเข้าใจง่าย
เช่น ผม จะ รัก คุณ จน วัน ตาย
คืน เดือน หงาย มืด มิด คิด ถึง เธอ

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: สัมผัสส่งพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 05 พฤศจิกายน 2017, 21:11:21

สวมหมวกใยไหมพรมกันลมหนาว
ฝ่าหมอกขาวพราวพร่างกลางถนน
เอาสิ่งอั้นกั้นกั้งกำบังตน
หายใจพ่นออกปากลำบากจัง

สัมผัสเย็นเป็นหวัดคัดจมูก
กินยาหยูกสมุนไพรไทยฝรั่ง
เข้าโรงบาลบัตรทองเบิกกองคลัง
ยายกลังหลายวันบ่บรรเทา

นั่งงองุดจุดไฟผิงไออุ่น
ฟืนดาษดุ้นกองลานวอดถ่านเถ้า
น้ำมูกใสไหลย้อยยังย้อยเอา
ผ้าต่องเก่ากว่าเมตรเช็ดไม่พอ

กรำฝนตอนร้อนเหงื่อลมเหนือพัด
ดึกสงัดช่วงคืนตื่นหลับต่อ
ขบกรามฟันครั่นตัวหัวคางคอ
ปวดแท้หนอขาแข้งไร้แรงทอด

ไอเจ็บจุกลุกลามจามฮัดชิ้ว
แปะฮวยอิ้วเหยาะหยดดมหมดหยอด
ย่างเดือนยี่ปีใหม่คงไม่รอด
หากได้กอดจูบทีสืบชีวา

หายมะโหกโรคภัยปราศไข้ป่วย
ดูแลช่วยหนุนตักคอยรักษา
ร้อยขนานหวานขมปรุงต้มยา
กับแก้วตาถ้าเปรียบอย่าเทียบเลย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ฝันกลางแดดแผดร้อน เพลินให้น้ำลำไย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2017, 20:45:27

เนื้อกำเนิดเกิดก่อนท่อนสัณฐาน
รวมดูกดานสานเส้นเอ็นกล้ามแกร่ง
สูงเฉลี่ยเตี้ยต่ำอ้วนหนำแรง
ผ่ายผอมแห้งแรงน้อยโรคพลอยเติม

หน้าโถถั่งดังโมมักโอ้อวด
อาบอบนวดแฟบดึงตึงผ่าเสริม
ผิวบ่งบอกพอกแป้งโป๊ะแต่งเติม
หอมหยาดเยิ้มโลชั่นน้ำมันทา

รูปสวยสมนมพันธุ์ขันชะเนาะ
งามเอ๊าะเอ๊าะใคร่ควงทุกท่วงท่า
ร่างระหงโปร่งขาวพริ้งพราวตา
ผ่านพฤกษาดอกบนหล่นร่วงพรู

แล้วแต่หยาบบาปบุญทุนนานนับ
มั่งมีทรัพย์อับจนทนหดหู่
เพื่อนขยันฝันเมาเรานั่งดู
แกงเกลี้ยงตู้มือแบแห่ยืมเงิน

โบกบอกปัดขัดข้องแสร้งหมองหม่น
ยื่นให้หนยิ้มพลันกล่าวสรรเสริญ
อนาถหนอพอดีที่ขาดเกิน
จะดำเนินชีวิตคิดอย่างไร

กำเนิดดั้งตั้งหกสิบห้าหนาว
หน่ายหนีสาวตามลูบจูบหลังไหล่
รูปไม่หล่อพ่อดำตื้อทำไม
สิบอกให้โทษทีมีเมียแล้ว

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: กลอนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 ธันวาคม 2017, 21:03:05

กลอนเอ๋ยกลอนสั้น
เราพบกันวันนี้ดีกว่า
รำเกี่ยวก้อยสอดสร้อยมาลา
ช่ะช่ะช่าเริงร่าอารมณ์
อย่างน้อยน้อยพลอยคลายหายหนาว
ลืมเรื่องราวคราวคืนขื่นขม
หลังจำพรากจากจารนานนม
หวนชื่นชมสมดีปีใหม่เอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ดอกสร้อย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 มกราคม 2018, 21:42:56

อิดเอ๋ยอิดอ่อน
ตากแดดร้อนกรำฝนเปียกทนหนาว
นานสะสมลมพร่างน้ำค้างพราว
ราตรียาวล้มพับจับไข้เพลีย
แถมปวดหัวมัวตาพาหงุดหงิด
ลำไส้บิดโอยร้องกุมท้องเสีย
จากอาเจียนเวียนถ่ายจนกายเปลี้ย
ได้แต่เงี่ยนอนฟังนั่งอ่านเอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: พักยก-ให้น้ำ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 มีนาคม 2018, 22:01:27

บนเส้นทางถ่างตารู้ว่าบ่อ
ไยเลื่อนล้อแล่นตรงยวบลงหลุม
หรือคับแคบแอบชิดอาจติดมุม
ยากควบคุมฟันฝ่าพวงมาลัย

ควรหยุดก่อนผ่อนคลายหายใจเข้า
ออกแผ่วเบาสงบจิตคิดแก้ไข
ขยับห่างทางโล่งโคลงเคลงไป
เอาปลอดภัยเวลาช้าช่างมัน

เมินประมาทขาดตรองประคองรถ
ทะยานบดถนนเกรงคนหยัน
ปรี่แซงซ้ายป่ายขวาปาดหน้ากัน
เสียงสนั่นลั่นรีบกดบีบแตร

ใช่โอ้อวดพรวดพลั้งผิดจังหวะ
จวนปะทะแฉลบเบรกแทบแย่
มือสับโขกโยกเกียร์เลียครัตช์แล
เท้าเหยียบแช่คันเร่งเกร็งลำคอ

บรรทุกเกินกำลังชั่งพิกัด
เสริมเหล็กดัดตัวถังเชื่อมหลังต่อ
วางซ้อนทับนับถ้วนจำนวนพอ
สูงขึ้นก่อกันใช้ผ้าใบคลุม

เปรียบสังขารนานนับคล้ายกับรถ
จิตกำหนดครอบครองสนองทุ่ม
เข้าสู่ช่วงล่วงวัยโรคภัยรุม
ปลีกจากกลุ่มเพื่อนรักพักเยียวยา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: สมการรัก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 09 พฤษภาคม 2018, 22:09:42

ของหนักเบาเราแยกบ่าแบกหาม
ดุ่มเดินตามยามย่อชะลอหลัง
ผ่านคูคลองร่องน้ำลำผุพัง
เผลอเซซังถั่งหน้าคว้าดุนดัน

หายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยมุดยอบหยุดพัก
ลุกตั้งหลักชักเชิญเดินผลุนผลัน
แบ่งหอบหิ้วนิ้วสอดส่ายช่างมัน
ก่อนตะวันวาววับจับนภา

ถึงเพิงสวนซวนลดปลดปลงหาบ
ปาดเหงื่ออาบคราบไคลเยิ้มใบหน้า
หายใจโล่งโพรงดังดัดหลังชา
ควักผืนผ้าซับพัดสะบัดวี

จับคนโทถือจอกเอียงถอกน้ำ
มือขวาคลำฉ่ำเย็นยื่นให้พี่
บรรจงหยิบจิบกลืนชื่นฤดี
พรักพร้อมมีมีดขวานจอบงานลุย

ขุดขุมกว้างวางกล้าหญ้ารองก้น
ถมรอบต้นป่นดินอินทรีย์ยุ่ย
แกลบดำเถ้าเข้าส่วนช่วยร่วนซุย
คือยอดปุ๋ยเปี่ยมสารอาหารคุณ

สบสายตาพร่าพรายสายตาสบ
หนุนนำพบพลอดพร่ำนำพบหนุน
บุญกอปรก่อช่อชอบกอปรก่อบุญ
รักเจือจุนครุ่นเคื้อเจือจุนรัก

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: เก่าจากไปใหม่มิมา
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 10 มิถุนายน 2018, 21:35:30

ชมภาพพื้นตื่นตาพราวพร่าสี
ชมวลีที่แปลกเปลี่ยนแตกต่าง
ชมลายมือสื่อชักกวัดกวักวาง
ชมนายนางร่างหล่อลออตา

เปรมมนัสปัจจัยให้ลุ่มหลง
สืบประสงค์ตรงความสอบถามหา
สัมผัสถ้อยร้อยผ่านกาลเวลา
ร่วมสัมมาอาจิณด้วยยินดี

ก่ออากัปจับใหม่ใคร่วาดหวัง
วันโด่งดังสั่งสมระดมศรี
โผยิ้มพรายส่ายสอดทอดไมตรี
ท่องเวทีรี่รำระบำบน

เหินโพยมโดมดาวสกาวแสง
พร้อมเพื่อนแพงพรั่งชูพรูพหล
กล่อมขัดเยาเกลาเยี่ยมเทียมสกล
นานท่วมท้นค้นคัดควรจัดคำ

จากซ่องเสพเศษสุดสู่จุดสูง
เช่นยางยูงย่อมปะภัยกระหน่ำ
แรงคลื่นลมลูกเห็บห่าฝนพรำ
เปรี้ยงปร้างดำคำรามฮามสะเทือน

หลังยืนยงทรงมั่นพันเสาหลัก
วิงวอนสักวรรคหนึ่งส่งถึงเพื่อน
เพิ่มบาทหวานกานท์บทหยดย้อยเยือน
เพื่อย้ำเตือนตระหนักรักมิลืม

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: จับแมวสี่ขาขึ้นมาบ่น
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 17 กรกฎาคม 2018, 05:40:41

สภาพเป็นเห็นอยู่รู้เต็มอก
เจ้าเหหกข้ามฟากหนีจากไหน
แหวกกอหญ้าฝ่าดงผ่านพงไพร
ยืนร้องไห้เสียงดังหลังสะเดา

มาอยู่คามงามขนชนลือทั่ว
แต่ทำตัวลึกลับจึงอับเฉา
สืบสกุลรุนสัตว์ยากขัดเกลา
คงคิดเจ้าของหวงห้ามล่วงเกิน

เนื้อคลุกข้าวคาวเค็มอิ่มเต็มคาบ
เล่นลุ่มราบแล่นโลดโดดเถาเถิน
หนาวห่มนอนร้อนจัดพัดลมเพลิน
ฉุยฉายเดินติดโบว์โชว์สร้อยคอ

กะพริบตาขากางสีข้างหมอบ
แสร้งพินอบยอบตัวทำกลัวหงอ
ลับตะกุยคุ้ยค้นเกลื่อนหม่นมอ
แน่นิ่งรอโจนปุบตะครุบไว

ย่องซอกแทรกแยกมุมเงียบซุ่มซ่อน
ทางสัญจรหนูออกกระรอกไต่
พิราบคูเขาเคียงนกเอี้ยงไซ
ลานลูกไก่พลัดแม่แลกัดปั๊บ

สภาพเจ้าเก่าดูรู้เต็มอก
นิสัยพกติดพันธุ์ห่อนหันกลับ
ต่อหน้าดีชี้ถูกปลูกมะพลับ
ไม่อยากนับเป็นเพื่อนเบื่อเตือนเอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ฝนไม่ตกให้น้ำลำไยเหนื่อยอารมณ์เสีย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 สิงหาคม 2018, 21:13:58

รู้รูปสร้างร่างส่อสรีระ
อ้วนเทอะทะต่ำตูดชะลูดผอม
กล้ามเนื้อโผล่โชว์เห็นเอ็นขอดคอม
หลังงอง้อมแบแบะเท้าแซะเนิน

ผิวล่อนลอกปอกเปิกหัวเถิกโล่ง
นับซี่โครงขีดขูดปูดโปนเขิน
เอวคอดเว้าเป้าคืบกระดืบเดืน
ป้อแป้เปิ่นเยิ่นยิ้มตาพริ้มพลาง

เพื่อนหัวเราะเยาะเย้ยเหวยเกรี้ยวกราด
ยกมือฟาดหน้าดำยืนทำกร่าง
สักสมิงสิงโตโหหลีกทาง
เจอวอกค่างย่างย้อยเตะต่อยยำ

ชอบกีฬาท้าทายทุกชนิด
สตาร์ทติดบิดเบ่งเร่งระห่ำ
ยกขึ้นหนักหักทุ่มรุมสกรัม
กอดรัดปล้ำงอขดกดกลางฟลอร์

เล่นฟุตบอลคอนโทรลโคนขาสั้น
เขาเหนือชั้นวิ่งรอบปอดแฟบฝ่อ
ตามลูกไล่ไม่พบจบสกอร์
สิ้นหวังท้อเสียบแทงขัดแข้งฟาล์ว

ละความหลังนั่งชมภิรมย์กว่า
ภาพถูกตาผุดผ่องกองเชียร์สาว
กรรมการพาลโกงโพล่งเรื่องราว
ใคร่เหินหาวเช็คบิลคาอินโด

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: จ่อมคืนละร้อยอีกหน่อยก็สบาย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 ตุลาคม 2018, 11:31:53

หลังได้เมียเสียผีจี่หัวหมู
ยอปลาทูเค็มมันจัดขันข้าว
พร้อมลาบเลือดเชือดไก่ใส่หวานคาว
ญาติสิบซาวยองยอบกอปรพิธี

อยู่ด้วยกันวันถัดปัดมือเปล่า
เสื้อเตี่ยวเก่าแขนก้อมผ้าย้อมสี
ตูบเสาหกยกพื้นพ้นผงคลี
ใต้ถุนมีหมูน่อยปล่อยขุดดิน

มีดจอบขวานเคียวคมคล้องข้างถุง
ก๋วยกระบุงปุ้งกี๋กอบทรายหิน
ล้วนเครื่องกำนำมาออกหากิน
บู้บิดบิ่นหลอมลับจับซ่อมแซม

ง่วนทำงานการค้าบ่าแบกหนัก
ขายตวงตักลดแหลกซื้อแจกแถม
ขนมไทยใบเตยตาลเนยแยม
ของกับแกล้มผัดพล่าส้าต้มแกง

เขาระริกปิกอัพขับเก๋งโก้
ตึกหลังโตโอฬารม่านสีแสง
ลงสวนไร่ไม้ปลูกลูกผลแพง
เงินฝากแบงก์เป็นฟ่อนวางซ้อนทับ

อยากจะมีสี่อย่างบ้างเช่นเขา
จะนอนเอาแบงก์จ่อมออมแล้วหลับ
สามสิบปีเปิดป๋องกองนั่งนับ
จ่ายรถกับสร้างบ้านกว้านซื้อนา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: คิดมากไปหรือไม่หนอ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019, 15:58:29

ลำไยฉันพันธุ์ดีสี่สิบต้น
ผลิดอกผลปีครั้งเก็บชั่งขาย
บ่ละเลยเฉยนิ่งทิ้งดูดาย
ขนขี้ควายปุ๋ยคอกถอกอินทรีย์

เอาร่างแลกแบกท่อสูบบ่อลึก
เสร็จล่วงดึกเลยสายบ่หน่ายหนี
เงยแหงนบนพ่นสเปรย์สารเคมี
ปวดหยุดฉี่ง่วงหลับนอนนับดาว

เกรงลมแรงแต่งง่ามไม้ดามค้ำ
เมฆมืดดำหวาดหวั่นหันยอสรวง
พร่ำร่ายมนตร์บนหมูลาบหลู้คาว
ขอดกพราวพวงเพี้ยงกลมเกลี้ยงเกลา

อุปกรณ์กะเกียมกล่องตะกร้า
ปลายเมษาสงกรานต์ผ่านพ้นเสาร์
ได้ฤกษ์งามยามดีฟ้าสีเทา
แปดโมงเช้าพร้อมกันพาดบันได

ตื่นปลุกตอนก่อนรุ่งสะดุ้งโหยง
เสียงลำโพงเพลงท่าปากปราศรัย
แล่นช้าสวนหวนแห่แซงแซ่ไป
หยิบยื่นใบรูปยิ้มพิมพ์เลขกา

แห้งขอดเขินเดินดอนร้อนหลบร่ม
ร้องระงมอกสั่นขวัญผวา
ย่ำกลียุตรุกเร้นเช่นตุลา
ลำไยข้าเหลืองลายจะขายใคร?

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: คิดมากไปหรือไม่หนอ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019, 16:00:37

ลำไยฉันพันธุ์ดีสี่สิบต้น
ผลิดอกผลปีครั้งเก็บชั่งขาย
บ่ละเลยเฉยนิ่งทิ้งดูดาย
ขนขี้ควายปุ๋ยคอกถอกอินทรีย์

เอาร่างแลกแบกท่อสูบบ่อลึก
เสร็จล่วงดึกเลยสายบ่หน่ายหนี
เงยแหงนบนพ่นสเปรย์สารเคมี
ปวดหยุดฉี่ง่วงหลับนอนนับดาว

เกรงลมแรงแต่งง่ามไม้ดามค้ำ
เมฆมืดดำหวาดหวั่นหันยอหาว
พร่ำร่ายมนตร์บนหมูลาบหลู้คาว
ขอดกพราวพวงเพี้ยงกลมเกลี้ยงเกลา

อุปกรณ์กะเกียมกล่องตะกร้า
ปลายเมษาสงกรานต์ผ่านพ้นเสาร์
ได้ฤกษ์งามยามดีฟ้าสีเทา
แปดโมงเข้าสวนกันพาดบันได

ตื่นปลุกตอนก่อนรุ่งสะดุ้งโหยง
เสียงลำโพงเพลงท่าปากปราศรัย
รถแล่นสวนหวนแห่เซ็งแซ่ไป
หยิบยื่นใบรูปยิ้มพิมพ์เลขกา

แห้งขอดเขินเดินดอนร้อนหลบร่ม
ร้องระงมอกสั่นขวัญผวา
ย่ำกลียุครุกเร้นเช่นตุลา
ลำไยข้าขายไหนใครจะซื้อ?

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: คิดมากไปหรือไม่หนอ?
เริ่มหัวข้อโดย: jaysmart2405sraporn ที่ วันที่ 19 พฤษภาคม 2019, 09:53:15
อ่านแล้ว กินใจจริงๆ


สอน Facebook (https://ceoonline.in.th/facebook-marketing-course/)


หัวข้อ: Re: คิดมากไปหรือไม่หนอ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 09 มิถุนายน 2019, 05:36:06

จะอยู่ยอต่อไปเพื่อใครเล่า
วัยแก่เฒ่าตามเตือนมาเยือนถึง
คอยซ่อมแซมส่วนสึกลึกรำพึง
พ้นวันหนึ่งน้อยสุขทุกข์ระคน

สูงต่ำพื้นยืนนั่งระวังเกาะ
หาที่เหมาะราบนอนค่อยหย่อนก้น
สืบสองเท้าเปล่าล่างเงยว่างบน
เกรงเฉี่ยวชนผิดท่าหูตามัว

นอนนั่งฝืนยืนนานพลิกพานปวด
มือบีบนวดตะคริวกดนิ้วทั่ว
หนังเนื้อตึงคลึงเส้นเคล้นลำตัว
มืดสลัวกันลมดมหม่องบาล์ม

บันทึกวันเวลาท่าพบหมอ
บึ่งรถจ่อเอาคิวลิ่วฟ้าฮ่าม
เพื่อรักษาชีวิตต้องติดตาม
โดนคุกคามสับโขกด้วยโรคใด

คุมอาหารการกินกลืนดื่มเคี้ยว
แข็งแน่นเหนียวย่อยยากลำบากไส้
ดิบหมักดองของเผ็ดล้วนพิษภัย
เนื้อเครื่องในลาบส้างดปลาทู

จะยั้งยอต่อไปอันใดเล่า
ลำบากหลานลูกเต้าเฝ้าตาปู่
ร่างหงึกหงักยักแย่ห่วงแลดู
ขอย้ายอยู่ศาลาอารามวัด

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เมื่อวันนั้นมาถึง
เริ่มหัวข้อโดย: Number9 ที่ วันที่ 22 มิถุนายน 2019, 11:46:03
แวะมาแอ่วหาเจ้า... ;D