เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

บอร์ดกลุ่มชมรม => ชมรมนักกลอน => ข้อความที่เริ่มโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 20 มิถุนายน 2012, 18:20:36



หัวข้อ: เรื่องหมูหมู
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 20 มิถุนายน 2012, 18:20:36


...มาทำไม ให้อายบ้านนา...

มาทำไม ไม่รัก เจ้ามักไผ
มาทำไม อ้ายเข็ด มาเฮ็ดหยัง
มาทำไม เย้ยใจ ให้ภินพัง
มาทำไม เยียะหัง จังละเนอ

๐ รักเอยเคยชื่นชู้    กลางสวน
เห็นหนุ่มใจเรรวน    ล่องใต้
ก็แค่ดอกลำดวน     หมดกลิ่น
พาร่างซมซานไซร้   สู่บ้านคืนนา

อยู่ด้วยกัน ฉันเมีย คลอเคลียพี่
อยู่กินดี มีสุข แล้วลุกผละ
อยู่บางกอก ชอกช้ำ เต้นจ้ำบ๊ะ
ชะ ชิ ชะ โผล่หน้า มาทำไม

๐ ใครกันนะเสี่ยเม้ง   เงินหนา
ใยมิเห็นพามา          ผ่อบ้าง
ไหนถอยรถราคา      เจ็ดหลัก
ใดว่าปลูกตึกสร้าง     สิบชั้นเทียมดาว

มิมีเหลือ เยื่อใย ไมตรีหมด
เชิญขึ้นรถ ล่องใต้ กลับไปเถอะ
ปล่อยกายใจ ให้หนำ ทำเลอะเทอะ
อย่าได้เจอะ วุ่นวาย อายบ้านนา

๐ ทอง โบตัน ๐





หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 21 มิถุนายน 2012, 14:47:34

มาทำไม...ให้อายบ้านนา

จากเมืองกรุง มุ่งมา ไร่นาสวน
จะช่วยพรวน กวนกน ปนเปื้อนเปรอะ
อยู่กับดิน กินกับทราย กายเลอะเทอะ
เชื่อ หรือ เชอะ จะจริง อิงนิยาย

ยังจำไหม ใครคลั่ง นั่งกอดรัด
ถูกสะบัด ปัดโครม ร่างล้มหงาย
ลุกคะมำ ร่ำร้อง มองฟูมฟาย
ตะเกียกตะกาย ตามเอ็ง เร่งรถไป

วิ่งลื่นล้ม จมโคลน ฝนลงเม็ด
ยกมือเช็ด ทั่วหน้า น้ำตาไหล
ต้องตรมตรอม ผอมแห้ง ขาดแรงใจ
คืนเดิมได้ เกือบปี ที่แสนนาน

ไหนละเฮีย เสี่ยใหญ่ ที่ใจกว้าง
เขาจะสร้าง ซื้อสด รถและบ้าน
สร้อยคอแขน แหวนเพชร เม็ดตระการ
โอนเงินล้าน กำนัล เข้าบัญชี

อ้างแต่เรื่อง เมืองกรุง ยุงเกาะกัด
จามไอหวัด เรื้อรัง ดั้งออกฝี
ปวดครั่นตัว หัวร้อน นอนเป็นปี
เลือดบวกสี่ อ่อนแอ แพ้หยูกยา

มาพูดพร่ำ ทำไม มิใช่หมอ
กลับไปขอ รอเสี่ย เฮียรักษา
พี่จนแย่ แค่พัน หมดปัญญา
หนุ่มชาวนา ยากไร้ ไม่ดีพอ

ทอง โบตัน


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: Yim sri ที่ วันที่ 21 มิถุนายน 2012, 14:55:49
ครูกานต์  นำชื่อเพลงลูกทุ่ง มาแต่งเป็นกลอน ได้ ม่วนขนาด ;D


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 24 มิถุนายน 2012, 10:22:53

ถาม - เมียหนีทำอย่างไรดี
ตอบ - ดี สบายมากครับ

หน้าดำแดง แช่งด่า หอบผ้าหนี
มุขทั้งปี เป็นนิตย์ ติดนิสัย
ชอบเอะอะ มะเทิ่ง เปิดเปิงไป
เหมือนหมูไก่ เคยออกเล้า เอาไม่ฟัง

จะงอนง้อ ทำไม ทำให้โง่
หยิบถ้วย.โถ.โอ.กา มาวางตั้ง
กล่องกระดาษ.ถาด.ถัง.กะละมัง
ตีเสียงดัง กึกก้อง รำร้องเพลง

กะ.จอง.งอง กะจองงอง เจ้าข้าเอ้ย
ขอเชิญเลย น้องพี่ เป็นที่เคร่ง(พยาน)
เป็นพยาน ให้ที กานตีเอง
เมียตูเลง ควบม้า หนีหน้าไป

สั่งกับแกล้ม มาสู่ ลาบหลู้ส้า
ฉู่ฉี่ปลา อ่องออแอบ ควายแคบไข
สามสิบห้า ยาดอง ของลาวไทย
แจ้งเมื่อไร ฟ้าเบิก ค่อยเลิกลา

แสนเปรมปรีด์ ชีวิต อิสระ
ถึงวันพระ ลงเลข เสกคาถา
จุดเทียนชัย ไหว้ขอ ต่อเทวา
พรุ่งพ่อตา นำโฉมยง มาส่งเอง

๐ ทอง โบตัน ๐


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 29 มิถุนายน 2012, 14:18:25


รูปตัวดำ ต่ำต้อ หน้างอหงิก
ผมหยองหยิก สาบสาง ท่าทางเฉิ่ม
หอบหมอนหมาก หยากยุ่ง เหมือนลุงเติม
เธอก็เริ่ม หันหน้า มามองเรา

ว่าจนยิ่ง จริงใจ ไม่หลอนหลอก
คนบางกอก โกหก ทำโศกเศร้า
เพียงเป็นยา สามัญ พอบรรเทา
ช่วยขัดเกลา ความช้ำ ซับน้ำตา
 
ครั้งแรกรัก รักเช่น ทะเล้นรัก
มิตระหนัก ตนเต่าตุ่น ไร้คุณค่า
เธอยืนร่าง สร่างโศก โบกมือลา
ปล่อยคนบ้า น้ำตาร่วง เจ็บทรวงใน

ทุกวันนี้ ไม่มีแน่ แม้ความรัก
ไม่ชอบสัก คนเลย เพราะเคยให้
ความเจ็บช้ำ ระทม ตรมหัวใจ
จะวันไหน หญิงใด ไม่สนเลย...ฮึ

ทอง โบตัน



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 15:01:39

รูปไม่สวย แววดับ อัปลักษณ์
ดั้งก็หัก ผมก็หงิก หยิกเป็นฝอย
ผิวกร้านดำ ขาล่ำ จ้ำขึ้นดอย
น๊อตเป็นรอย ร้อยเต็มขา นิจาเรา

ไร้ชายใด ใคร่ชม ภิรมย์ชื่น
ไร้จุดยืน กลืนขม ตรมอับเฉา
ไร้คนมา อิงแอบ แนบซบเนา
ไร้คนเฝ้า ยาเยียว เรี่ยวแรงโรย


(http://upic.me/i/8q/d59if.gif) (http://upic.me/show/4505701)

little girl



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 21:56:26

รูปไม่สวย แววดับ อัปลักษณ์
ดั้งก็หัก ผมก็หงิก หยิกเป็นฝอย
ผิวกร้านดำ ขาล่ำ จ้ำขึ้นดอย
น๊อตเป็นรอย ร้อยเต็มขา นิจาเรา

ไร้ชายใด ใคร่ชม ภิรมย์ชื่น
ไร้จุดยืน กลืนขม ตรมอับเฉา
ไร้คนมา อิงแอบ แนบซบเนา
ไร้คนเฝ้า ยาเยียว เรี่ยวแรงโรย


(http://upic.me/i/8q/d59if.gif) (http://upic.me/show/4505701)

little girl




เขาสูงชัน ยันยอด น๊อตมักหลุด
เบรครถหยุด คอแห้ง แรงระโหย
มีร้อยน๊อต ถอดมา มัวว่าโวย
เก็บกล่องโกรย ช่วยต้า ขาเรียวงาม

ถึงตอนนี้ มีหรือ ไม่ตื้อตอด
ชายพร่ำพลอด ชิดใกล้ เอาใจถาม
บินเป็นฝูง ยุงร้าย หมายติดตาม
กัดเรียงลาม มีน๊อต จอดเช่นเดิม

อ้ายทองว่าบ่าฮู้ไหนเน่อ...



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: little girl ที่ วันที่ 06 กรกฎาคม 2012, 12:20:53

โถเปรียบเทียบ ยุงลาย มาร่ายล้อม
รุมไต่ตอม พร้อมกัด ฟัดแข้งขา
มาเพิ่มรอย ร้อยน๊อต ตลอดเวลา
ช่างสรรหา  เปรียบเปรย เขยลำพูน

(http://upic.me/i/9z/vubp5.gif) (http://upic.me/show/36714839)


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ฮึ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 ตุลาคม 2012, 09:07:24

๐ สิ้นสุดเสียที ๐

ในโลกนี้..มีเขา เท่านั้นหรือ
ต้องอมมือ งอนง้อ รอแต่เขา
ยังอาลัย ไม่จาง ลงบางเบา
ก่นแต่เศร้า เฝ้าตรม จมน้ำตา

คงมิกลับ รับดี ที่ยื่นให้
แสร้งเฉไฉ ลำพอง เมินมองหน้า
แก้วหูตึง ขึงคำ จำนรรจา
นิ่งเย็นชา ตาค้าง ฟางมืดมัว

มันเลยเส้น เกณฑ์กาล นานคืนหลัง
สนิมกรัง เกรอะขอบ รอบจดขั้ว
ถึงจะเคาะ เดาะใจ ให้รู้ตัว
ยากจะจั่ว ร่างเหม็น ยึดเอนอิง

เพราะเพรงกรรม นำพา มาพานพบ
ชดใช้จบ ว่างเปล่า เขาก็ทิ้ง
เทียนสิ้นไส้ ไขละลาย หมายประวิง
คงยากยิ่ง เชื่อมมาน ประสานรอย

ควรสำรวจ ตรวจตรอง มองตัวบ้าง
สวยสล้าง ทุกจุด สูงสุดสอย
กลับซีดเซียว เหี่ยวแห้ง เหมือนแร้งคอย
แบกเหงาหงอย สองบ่า ล้าหลังลง

ในโลกนี้..ที่ประจักษ์ รักของแม่
รักเที่ยงแท้ จากใจ ไร้ประสงค์
ห่วงใยลูก ผูกพัน รักมั่นคง
รักยืนยง ชั่วฟ้า สถาพร...

กานต์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: Yim sri ที่ วันที่ 02 ตุลาคม 2012, 23:52:37
คุณครูกานต์ร่ายสารลานอักษร

เป็นคำกลอนสอนแท้ แน่ประจักษ์

ในโลกนี้ มิมีเขา  ให้เรารัก

ประหลาดนัก  ชักงง งง  ปลงยังไง

ไม่มีเขา  กวาง เก้ง ...ก้อยู่ไม่ได้ ;D



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 ตุลาคม 2012, 15:25:42

จะรักใคร ใดบ้าง ช่างพินิจ
ก่อนปลงจิต ตาพริ้ม ยิ้มเฉลย
ชายทุกผู้ ดูหมาย หวังก่ายเกย
พอชมเชย เบื่อหญิง ละทิ้งลง

แค่กรายผ่าน หวานพรอด เอ่ยออดอ้อน
อ้างกานท์กลอน พาพัด สัมผ้สส่ง
ถูดตัดพ้อ ต่อว่า ทำท่างง
ถ้า.คิด.คง อาจ.หรือ.คือ.งั้น.งี้

ทำเก๋ไก๋ ใบ้บ้า เอาห้าหาร
ทำเอาการ เป็นงาน หารด้วยสี่
ทำประจบ ขบขัน ลบทันที
ทำความดี บวกหนึ่ง พึงเล็งตา

เริ่มแต่นั้น วันนี้ ดีแค่ไหน
ตลอดไป ใช่ปี มีปัญหา
อย่าเชื่อน้ำ คำฝัน จำนรรจา
เอาเวลา รวบรัด ตัดสินไว

มาปุ๊บปั๊บ กลับทิ้ง ช่างหญิงเถิด
โอกาสเปิด งามนัก หารักใหม่
เดินมาชน คนดี ที่ถูกใจ
เศร้าทำไม เลิกพร่ำ เสียน้ำตา

...ว่าตัวเองอ่ะขรับ...

กานต์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 08 ตุลาคม 2012, 10:05:57

ชีพปี้ป่น คนทำ ใจดำนัก
ไม่ขอรัก ชิงชัง หญิงทั้งหลาย
ฝันที่หวัง พังภินท์ สิ้นมลาย
เลือกคนตาย ร้ายไม่มี ดีกว่า(คน)เป็น

รักผีโพง โยงโย่ โผล่ริมเหมือง
ไฟแดงเหลือง ติดจมูก สุกใสเห็น
ร่างระหง โปร่งขาว เสียงหนาวเย็น
ตรงประเด็น ดีไซน์ เก็บในคอม

รักกระสือ ลือลั่น ขวัญผวา
ยลใบหน้า ยิ้มแย้ม แก้มตอบผอม
จะเดินดิน บินบน ดลใจยอม
กลิ่นกายหอม สูดดม อมทุกคืน

รักป๊อบปอบ ลอบสิง ในหญิงร่าง
ลูบคิ้วคาง สองฟก หน้าอกยื่น
จับเอวบัง รั้งองค์ ลงภายพื้น
ยิ้มระรื่น ชื่นใจ เมื่อได้มอง

รักภูตพราย ตายโหง ข้างโรงหมู
กินลาบหลู้ ปากแดง แสยงสยอง
สวยเทียบสาว เกาหลี ฮีโอซอง
มือตระกอง กายแนบ แอบอุรา

รักม้าบ้อง ร้องฮี้ฮี้ ควบขี่หลัง
เนื้อแน่นปั๋ง หนังนวล ชวนหรรษา
ก้นกระดก อกแอ่น แล่นลีลา
เกิดชาติหน้า สมัคร รักนงเยาว์

ครบสัปดาห์ ห้าวัน ฉันรักผี
เว้นวันที่ ประสูติ องค์พุทธเจ้า
และวันพระ ละกาม ความมัวเมา
นอกนั้นเอา ประจำ ทุกค่ำคืน

กานต์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 11 ตุลาคม 2012, 16:13:29

หนึ่งสองสามงามเกินเดินเข้าบ้าน
เธอกล้าหาญรานรักหักใจฉัน
นี่นะหรือคือแฟนแสนรักกัน
สิ่งที่ฝันมากมายละลายลง

หน้าอวบอูมฟูมฟายแพ้พ่ายรัก
จำต้องหักตัดใจผลักไสส่ง
ปล่อยค้างเหลือเยื่อใยให้พะวง
ฉันก็คงครองช้ำนองน้ำตา

ร้องร่ำไรไห้หวนครางครวญคร่ำ
เพียรตอกย้ำซ้ำซุกทุกข์เจียนบ้า
ไหนว่ารักสักเดชวิเศษยา
รักแล้วพาสุขสันต์ทั้งวันคืน

พอได้ยลคนใหม่เลยใหลหลง
ถลาซบจบลงชงเชยชื่น
สี่ห้าหกผกไปให้กล้ำกลืน
คงถึงหมื่นคนหนอจะพอใจ

ทุกวันนี้ไม่มีแน่แม้ความรัก
ไม่ชอบสักคนเลยเพราะเคยให้
ความทุกข์ทมตรมช้ำระกำใน
ไม่ว่าใคร คิดเบียด ฉันเกลียดคุณ

กานต์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 21:46:32

รักแท้...แพ้อะไร

เลือดแดงเข้ม เต็มร้อย คอยรับใช้
ผู้ชายไทย ใจจริง สู่สิงขร
หมดสนุก สุขละ จากอมร
ห่วงบังอร เหลือเกิน วันเดินทาง

เฝ้าหงุดหงิด ติดต่อ ท่ารอสาย
ข่าวขาดหาย เจ็บไข้ หรือไม่ว่าง
ง่วนทำมา ค้ารับ นับสตางค์
รักอาจจาง พบหล่อ จ้อถูกใจ

ทนกล้ำกลืน ฝืนกิน ดิ้นกระสับ
ล้มนอนหลับ พับตา หาลงไม่
เงยผงะ ตระหนก เสียงนกไพร
ยิ่งพาให้ ตรอมตรม ซึมซมเซา

ก้าวย่างยาตร ลาดตระเวน จำเป็นนัก
มือล้วงควัก ยกจูบ รูปของเจ้า
เดินบุกน้ำ ย่ำโคลน ฝนสั่นเทา
ถึงรุ่งเช้า ฟ้าแดง แสงส่องตา

พอดาวเคลื่อน เดือนคล้อย ลอยล่วงลับ
เหงาจุกจับ กลางมาน สะท้านป่า
น้ำค้่างพรม ลมโชย โบกโบยมา
คนึงหา คราใด ให้ร้าวราน

สามสิบวัน ผันพ้น ไร้สนส่อ
จะไม่ขอ ทบทวน หวนกลับบ้าน
จะปลูกถั่ว คั่วผำ ทำทุกงาน
เก็บผักหวาน สองคน สาวบนดอย

กานต์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: HARLEY DAVIDSON ที่ วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 22:06:54
เข้าท่าดีแฮะ  ;D


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: >_อนัตตา_< ที่ วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 22:37:32
เข้าท่าดีแฮะ  ;D

อิอิ ^^ ลองดูสักบทบ๋อเจ้า
ท่านกานต์แต่งกลอนเก่ง ไพเราะด้วยค่ะ  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 15:17:05
เข้าท่าดีแฮะ  ;D

หมายถึง รูปของเธอ หรือกลอนของผม  ;D


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: Jampolo ที่ วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 07:31:16
ว่ากันไป ม่วนดีน้อ....


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 ธันวาคม 2012, 06:20:15

ผู้หญิงสวย หวย.บาท มิอาจแยก
ใช่เรื่องแปลก เก่ากาล นานสมัย
แยกรบ.รัก ทัก.ฝัน ยากฉันใด
ยากแยกได้ หวังรวย หวย.เงินทอง

สวยวิจิตร.พิชชา.กาเลข 1
สวยซาบซึ้ง ตรึงใจ.หทัย. 2
สวยเรือนร่าง.นางงาม. 3 เรืองรอง
สวยลำยอง.ฤดี. 4 พิศงาม

สวยสดชื่น.หมื่นทอง.จองเลย 5
สวย.ยาตรา.หยิบยก 6 หวาบหวาม
สวยสะเด็ด 7 ชั้น.ฝัน.พิราม
สวยทั่วคาม 8 บอก นาม.ดอกคูน.

สวยสะบัด.ลัดฟ้า.ค่าเทียม 9
สวยพริ้มเพรา.พิสุทธิ์.ตรงจุด 0
ถ้าชอบสวย ด้วยใด ให้เทิดทูน
หรือปรับจูน บนล่าง วางหวยเบอร์

จะแทง 1 2 3 ตามเด่น.โดด
จะเต็ง.โต๊ด กลับครั้ง กันพลั้งเผลอ
จะบิวเบิ้ล เชิญได้ ใจมั่นเธอ
พลาดไม่เจอ เก็บช้ำ ซ่อนน้ำตา

แทงเท่าไร ไม่สม อารมณ์คิด
อย่าน้อยจิต อาลัย ในวาสนา
ถนนกว้าง ทางไกล เคยไคลคลา
พลาดงวดนี้ มีงวดหน้า พาชื่นใจ...

พลาดคนนี้ มีคนหน้า พาชื่นใจ...

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 11 มกราคม 2013, 11:52:50

"หยุดเสียงแคนที่แสนสะเทือนใจ"    

แว่วเสียงซึง ตึง ตึง ถึงดวงจิต
อ้ายนั่งคิด ฮอดเจ้า เผาข้าวหลาม
ใต้เดือนแดง แสงดาว พราวฟ้าฮาม
ย่างเดือนสาม หลายวัน ไม่หันคืน

ยินเสียงอ่อ อี๋ ออ ซอออดอ้อน
เมื่อปีก่อน เราอยู่ คู่ชมชื่น
กินแฟงฟัก รักหวาน ปานจะกลืน
เจ้าหยิบยื่น ความช้ำ น้ำท่วมนา

ลืมเสียงแคน แลน แต แห่แอ่วสาว
ลืมผู้บ่าว ฟ้อนเวียน เทียนพรรษา
ลืมยามแลง แจ่งตูบ จูบอำลา
ลืมโอ่งฮ้า ปลาจ่อม หอมผักชี

เพลงดอกคูน เสียงแคน จำแม่นบ่
อ้ายเคยขอ ฟังร่วม กับ...ต่วมสี
น้องมอบเพลง ฮักแต๊ แก่...รพี
นานสองปี ยังปลื้ม ไม่ลืมเลือน

...คืนนี้...
ไม่มี เสียงซอขึง ซึงเฉือดเฉือน
ไม่มี เสียงพิณแล่น แคนคอยเตือน
อ้ายเหมือน เช่นตอไม้ ไร้วิญญาณ์

 :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ผู้หญิงไร้หัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 พฤษภาคม 2013, 17:06:19

เสียงสำราก ปากเปราะ พูดเลาะร้าย
ประจานชาย แช่งด่า โง่ห่าเหว
สั่นศีรษะ สะเด่า เท้าสะเอว
แลบดังเปลว ฟืนไฟ ไหม้ลุกลาม

เกิดปีเสือ เหนือใด ใช้อำนาจ
ชี้นิ้วกราด เท้าทุ่ม ทำบุ่มบ่าม
กระโปรงสั้น หันเหิน เกินพองาม
คนมองตาม ตาเต้น เป็นขบวน

เตือนถ้อยคำ ทำดี ทีก็เฉย
ไม่นึกเลย มือซัด ทิ่มหมัดสวน
หัวเราะลั่น ชันปาก ว้ากกวนกวน
เนื้อทุกส่วน ของฉัน มันเกี่ยวใคร

หนอพธู อยู่กัน วันเดือนพ้น
เชิญผู้คน หน้าบาน แต่งงานใหญ่
กะทะหม้อ มิทัน ดำควันไฟ
กู้เงินใช้ แบ๊งค์บ้าง ค้างยังมี

อยู่เปลืองตัว หัวใจ ไม่ไหวแล้ว
อ้ายทิดแก้ว ปวดหมอง จำต้องหนี
ขนฟูกนอน หมอนมุ้ง กระบุงดี
จบกันที เจ็บจับ กลับหละปูน

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ใจเธอรู้ดี
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 17 สิงหาคม 2013, 22:11:14

เธอล้มลุกคลุกคลานกลางลานวัด
ดึกสงัดใจเต้นนึกเป็นผี
ท่ามสายฝนบ่นพำช้ำฤดี
ขอบวชชีหนีพรางล้างตรอมตรม

เธอทุรนปนแค้นถูกแฟนทิ้ง
ขาดพึ่งพิงที่พักหลังรักขม
จึงปลอบใจให้อ่อนผ่อนอารมณ์
เกิดนิยมชมชอบตอบแต่งงาน

ช่วยทำมาหากินสิ้นปีวอก
เธอก็ออกลูกชายชื่อประสาน
ต้นปีไก่ได้หญิงชื่อสิงคาล
สุขสำราญเฮฮามิจาบัลย์

อาทิตย์ที่สี่สายบ่ายสิงหา
นักวิชาการเกษตรสู่เขตขัณฑ์
เป็นเพื่อนพี่ผูกเสี่ยวบ้านเดียวกัน
อีกสามวันเธอหายพร้อมชายไป

ฉันกระวนทนเศร้าเหงาอยู่หลัง
ด้วยความหวังออกหาหน้าเหนือใต้
ขึ้นแจ้งความตามตัวเสาะทั่วไทย
ลูกร้องไห้ไม่หยุดสุดกล้ำกลืน

สิบทิวาราตรีมีไหนหนอ
ฉันอาจท้อแต่ทดลองอดฝืน
มือกำหมัดสะบัดหน้าลุกท่ายืน
คงสักคืนเธอคลานซมซานมา

รพีกาญจน์

ชีวิตจริงสดๆร้อนๆของกรรมการวัดคนหนึ่ง



หัวข้อ: Re: ประชด...จบเสียที!
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 27 กันยายน 2013, 22:17:19

เขาทำร้าย กายใจ ให้ปวดเจ็บ
บาดแผลเย็บ ฟันแทง แยงกี่หน
ถึงปางตาย หมายย้ำ ซ้ำสกนธ์
ป่วนกมล วิปริต จิตฟั่นเฟือน

กราบก้มศอ ขอขมา ลุลาโกรธ
ยังยกโทษ รับไหว้ ให้เป็นเพื่อน
เลยเวลา นาที นานปีเดือน
เขาเยี่ยมเยือน เลี้ยงสู่ มิรู้จำ

มอบอภัย ใจกว้าง อย่างสมุทร
โดนเขาขุด ล้มครืน ยืนกระหน่ำ
กล่าวใส่ร้าย ป้ายเปลว เลวระยำ
ยังสร้างทำ ความดี พลีชีวา

ไร้ม่วงแดง แบ๊งค์เทา กระเป๋าแฟบ
เพื่อนลิ้นแลบ เรียกเขา เข้ามาหา
เย้าหยอกเอิน เชิญดื่ม ปลื้มสุรา
เมาเรียกว่า ลูกพี่ หลงดีใจ

ยึดอีหรอบ กรอบเดิม มิเสริมแต่ง
คิดเปลี่ยนแปลง ปรับทาง บ้างเอาไหม
เขาดีมา ถ้าดี ตอบดีไป
เขาชั่วช้า ถ้าใช่ ให้ชั่วมัน

ถ้าพูดดี กี่ครั้ง ยังเหมือนเก่า
จับเขย่า เข่าศอก ตอกหน้าสั่น
ทิ้งวาทะ อภัย ไล่ฟาดฟัน
คงพบวัน สงบ จบเสียที

เจ็บไม่รู้จำ/ให้อภัยใจกว้าง/สร้างสุขได้หรือ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...จบเสียที!
เริ่มหัวข้อโดย: theheroman ที่ วันที่ 28 กันยายน 2013, 08:33:30


...มาทำไม ให้อายบ้านนา...

มาทำไม ไม่รัก เจ้ามักไผ
มาทำไม อ้ายเข็ด มาเฮ็ดหยัง
มาทำไม เย้ยใจ ให้ภินพัง
มาทำไม เยียะหัง จังละเนอ

๐ รักเอยเคยชื่นชู้    กลางสวน
เห็นหนุ่มใจเรรวน    ล่องใต้
ก็แค่ดอกลำดวน     หมดกลิ่น
พาร่างซมซานไซร้   สู่บ้านคืนนา

อยู่ด้วยกัน ฉันเมีย คลอเคลียพี่
อยู่กินดี มีสุข แล้วลุกผละ
อยู่บางกอก ชอกช้ำ เต้นจ้ำบ๊ะ
ชะ ชิ ชะ โผล่หน้า มาทำไม

๐ ใครกันนะเสี่ยเม้ง   เงินหนา
ใยมิเห็นพามา          ผ่อบ้าง
ไหนถอยรถราคา      เจ็ดหลัก
ใดว่าปลูกตึกสร้าง     สิบชั้นเทียมดาว

มิมีเหลือ เยื่อใย ไมตรีหมด
เชิญขึ้นรถ ล่องใต้ กลับไปเถอะ
ปล่อยกายใจ ให้หนำ ทำเลอะเทอะ
อย่าได้เจอะ วุ่นวาย อายบ้านนา

๐ ทอง โบตัน ๐




แค่อยากมาหาหาพี่ที่คิดถึง
เพราะคิดถึงพี่มากพี่รู้ไหม
มันเจ็ษเข้าไปในหัวใจ
ยิ่งพี่ไปไกลๆน้องยิ่งทรมาร
.......................อาจาร์ใช้ได้ไหมครับ


หัวข้อ: Re: ประชดรัก...แข่ง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 ตุลาคม 2013, 19:59:06


โกลนไม้เก่า เบาข้าง กลางลำผุ
รอยปะปุ แล่นลาน นานแล้วเอ่ย
คราไร้เทียบ เสียบสอด จอดนิ่งเกย
ลูกเรือเคย เริงโลด หมดกำลัง

ก่อนกล้าแกร่ง แรงดี ต่อตีทั่ว
พอลืมตัว ว่าตน มากมนต์ขลัง
ถูกทักท้วง ตวงติ บ่อินัง
เบนหูบัง หลังตำ มิทำใด

หมดทีมสู้ ตูแน่ มีแม่ย่า(นาง)
ลงธารา พาเรือ ท่องเหนือใต้
ท่ามดนตรี ปี่กลอง คล้องมาลัย
ฉลองชัย สุดปลื้ม ลืมกองเชียร์

การแข่งขัน วันเศร้า เขาแพ้พ่าย
เพียรทุ่มเท ใจกาย คายละเหี่ย
ค้นหาหมุด จุดพร่อง ต้องรีบเคลียร์
ถกจบเจีย แก้ไข ใช้ปัญญา

เอาระยะ กะกาง วางชี้วัด
จ้วงพายงัด เต็มแรง แซงขึ้นหน้า
อาวุโส ศักดิ์สิ มินำพา
โชคชะตา เพรียงมือ คือเดิมพัน

โกลนเรือใหม่ ไม้หนา ยาอุดรั่ว
กลางลำตัว ซ้อนแผ่น แน่นทนสั่น
แข่งทุกครั้ง ดังกว่า คว้ารางวัล
ดูซิมัน ขุ่นขม คิดจมเรือ

 ;D

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชดรัก...ทำไมลงที่เรา?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 ตุลาคม 2013, 17:04:30

นั่งยันขาหน้าประตูคู้ข้างห้อง
ตาจ้องมองมิเบื่อตื่นเมื่อไหร่
รีบกระโดดโลดเต้นเห็นดีใจ
เล่นวิ่งไล่ชื่นชอบวนรอบลาน

ภาระแรกรุ่งเช้าเข้าครัวจัด
ปรุงข้าวผัดตับปอดยอดอาหาร
ชงชาแช่แก้อืดนมจืดทาน
บริการสุดรักสุนัขเธอ

ฉีดวัคซีนกินยารักษาโรค
เอา"บุญโชค"อาบน้ำทำเสมอ
บรรจงจัดปัดแปรงแต่งเลิศเลอ
คอยปรนเปรอเลี้ยงดูอยู่อย่างดี

หนาวลมเหนือเสื้อสวมผ้านวมห่ม
เปิดพัดลมครานอนไล่ร้อนหนี
คู่เคียงใกล้ได้ยลเพลงดนตรี
สุขครบสี่ปัจจัยใช่อย่างคน

มันรู้บุญคุณเจ้าของเฝ้าบ้าน
เลิกจากงานรอรับกลับทุกหน
ไม่โต้เถียงเสียงด่าว่าซุกซน
อีกเหตุผลห่อนหือรั้นดื้อดึง

หากป่วยไข้ไม่สบายหรือตายจาก
น้ำตาพรากอาทิตย์เพราะคิดถึง
คุณผู้ชายตายลงคงรำพึง
ร้องไห้หนึ่งคืนวันแค่นั้นพอ!

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...ใหญ่กว่าโลง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2013, 22:40:04

ทำอย่างไรได้ถึงซึ่งอำนาจ
คอยพิฆาตต่อหน้าฆ่าลับหลัง
ยุผู้คนก่นก้องร้องชิงชัง
เปิดโอ่งถังอัฐมอบให้ตอบแทน

กุประดอยร้อยคำนำเอ่ยอ้าง
ก่อหักล้างเชิญชวนขบวนแสน
จังหวะดีรี่รุดเร่งสุดแดน
ซ้ายขวาแล่นกลางโหมจู่โจมตี

ปิดสองหูดูแค่แลตาจ้อง
เหินลำพองชูหน้าควบม้าขี่
หลงระเริงเชิงชุดยุทธ์วิธี
ทฤษฎีความจริงทิ้งลงคลอง

หวังเต็มเปี่ยมเยี่ยมยอดถอดคราบโขน
ทุบกระโถนรองนั่งทรัพย์ทั้งผอง
จับนกเป่าเร้าฤดีตามปี่กลอง
ยื่นคอรองต้องอาชญ์รับศาสต์คม

เหล่าหญ้าแพรกแหลกรานคาดานกว้าง
เลือดเป็นทางร่างนอนซ้อนทับถม
ที่เท่าไรไต่ย่ามข้ามบนพรม
สู่บรมบัลลังก์อลังการ

ทำอย่างไรได้ถึงซึ่งอำนาจ
ใช้สิทธิ์ขาดคดงอบริหาร
เทพฉาบนอกลอกจางข้างในมาร
กี่ยุควารซ้ำซากล้วนกากเดน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...เปลี่ยนชื่อเพื่อน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 25 ธันวาคม 2013, 22:07:38

ชื่อประตูดูกว้างทางเข้าออก
ร่องซอยซอกตรอกแคบกว่าถนน
ล่างน้ำดินหินหินผาฟ้าเบื้องบน
ถ้าเป็นคนตั้งชื่อสื่อต้องการ

ชื่อแก้วแหวนเงินทองกองเกินนับ
ชื่อสินทรัพย์สมบัติพัสถาน
ชื่อนงลักษณ์พักตร์พริ้งยิ่งสคราญ
ชื่ออ้อยตาลมานมนสวยดลใจ

แต่ฝรั่งบ๊ายบายชายชื่่อแก้ว
เล่ห์พราวแพรวลิงหลอกแถมวอกใส่
เว้นสว่างชื่อจันทร์มักบรรลัย
เจอที่ใดกินเหล้าเมาเฮฮา

บ้างผอมแห้งแรงน้อยบ่อยเป็นไข้
ชื่อวิไลไม่ดีเปลี่ยนขี้หมา
ถูกโฉลกโรคกลายหายพริบตา
กินข้าวปลาของว่างถึงกลางคืน

นี่แหละคือชื่อนั้นสำคัญไฉน
ถ้าตั้งดีดีไปให้หวานชื่น
ถ้าตั้งผิดติดคำให้กล้ำกลืน
สร้างขมขื่นแก่ตัวคนทั่วคาม

เปลี่ยนชื่อเพื่อนดีไหมว่า อ้ายปั๋น
อีกคนนั้น อ้ายปอ เนอขอถาม
เปลี่ยนความคิดนิสสัยเป็นไปตาม
เมืองสยามสงบจบเสียที!

ปั๋น-ให้ รู้ให้   ปอ-พอ รู้พอ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...เรียกหาคุณธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 มีนาคม 2014, 16:45:29

คงเกาะกลุ่มสุมทุมพุ่มพงไม้
แทรกน้ำใสไหลลามอร่ามศรี
ฟุ้งกระจายหายลับกับธุลี
ท่องเมฆีเริงรมย์สุขสมจินต์

อาจมิดหมีมอดไหม้กลางไฟแล้ว
เจอลมแผ่วปลิวว่อนร่อนโผผิน
ถูถเหยียบย่ำดำลึกผลึกดานดิน
อสุรินทร์ขโมยหยิบโกยไกล

หรือหลวงปู่ปิดทองเก็บห้องพระ
เดินตุตะแปลงร่างเที่ยวห้างใหญ่
ในสเปรย์ปนหอมดอมชื่นใจ
ฉาบผิวนอกดอกไม้วิไลตา

ท่ามโลกหมุนคุณธรรมหนึ่งคำนี้
เปิดวจีทุกวันหันเรียกหา
ส่ายสอดส่องร้องทักมือกวักมา
เสาะสะดุดปุจฉาหาความจริง

เพราะอุตรินิยมชมต่างชาติ
ร้ายระบาดฟาดตีดังผีสิง
เบี้ยวกอบโกงกินเมืองเปลื้องปล้นชิง
เช่นวอกลิงลีลาปดน่าอาย

คุณธรรมนำใจในมนุษย์
งามพิสุทธิ์มากมีเดี๋ยวนี้หาย
สื่อสังคมตมชั่วมั่วอบาย
ดีสลายเป็นทาสอำนาจเงิน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...เก้าอี้เก่า
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 09 มีนาคม 2014, 22:06:03

ตอกตะปูถูปัดขัดเงาใส
เก้าอี้ใหม่ต้องตาค่าสนน
ตั้งวางโชว์โก้หรูอยู่ชั้นบน
รับใช้คนก้นวางท่าทางงาม

วันเดือนปีดีใช้ใหม่เริ่มเก่า
หมองหม่นเทาแทนประเทืองเรืองอร่าม
เคยทรงมั่นลั่นโย้โยกเยกตาม
สูญสิ้นความจำเป็นไม่เห็นคุณ

ชำรุดเก่าเจ้าของจึงมองผ่าน
เก็บหลังบ้านซ่อนไว้มุมใต้ถุน
ซุกเตาจ่อก่อไฟไหม้เป็นจุล
เศษชิ้นดุ้นยกให้เอาไปฟรี

เปรียบมนุษย์ผุดผลิปฏิสนธิ์
กายกมลพิไลใสสดสี
อยู่ท่ามสิ่งแวดล้อมห่อห้อมดี
ช่วยชีวีโน้มนำจ่องจำเริญ

หากขนาบกราบกลางหว่างขวาซ้าย
ถูกอบายครอบจิตคิดผิวเผิน
มีให้เห็นเป็นทาสอำนาจเงิน
ค้อมหัวเดินคะครับรับบัญชา

เทียบเก้าอี้สีมอก็ไม่ได้
จะอ่อนวัยเก่าแก่แท้หมดท่า
รกตาหูอยู่ไปไร้ราคา
อยากจับแกงแช่งด่าเรียกห่ากิน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...ซากกายที่เหลือเดน 1
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 17 มีนาคม 2014, 16:25:00

ทั้งที่รู้ ซ้อยท้าย รถอ้ายเสาร์
เมื่อวันเข้าพรรษา ข้าเห็นเห็น
ทานสลากภัตร ชัดตอนเย็น
น้องนั่งเบ๊นซ์ คลอเคลีย เสี่ยพุงโต

เต้นตุ้มมอง ร้องเพลง เขย่งยก
หน้าซบอก ระริก กอดจิ๊กโก๋
เสร็จกราบกราน กฐิน ร่อนบินโชว์
ชายโอบโอ๋ จูงมือ ชื่ออากวง

สวมกระโปรง สีแดง เสื้อแสงสี
ออดโจอี้ หน้าบาน งานปอยหลวง
ดูดกะแช่ แก้มวาว เป็นดาวดวง
เดินเคียงควง จู๋จี๋ เจียะหลี่ตอ

ปล่อยกระทง ลงวาง กลางน้ำไหล
เดาะชุดไทย ไล้ลูบ จูบปากหมอ
แข่งกีฬา สามัคคี มี ส.ท.
ขึ้นรถหวอ หายวับ ลับจากตา

ยืนชมดอก บัวตอง แม่ฮ่องสอน
เปลี่ยนคู่นอน กอดยาง ปางมะผ้า
วาเลนไทน์ หลงลืม ดื่มเหล้ายา
เพลินกามา พิศวาส กับการ์ดยาม

สงกรานต์ล่ะ พธู อยู่ที่ไหน
นี่คืบใกล้ แล้วหนอ จักขอถาม
อย่ามัวเหลิง ระรื่น คืนเขตคาม
ใต้ต้นจามจุรี พี่ยังคอย...

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...ซากกายที่เหลือเดน 2
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 17 มีนาคม 2014, 20:29:50

จะควงแขน แฟนใหม่ ใครก็ช่าง
โทรกริ๊งกร๊าง ตีห้า มาเปิดเผย
กอดหนุ่มล่ำ รวยเงิน เชิญเสบย
คิดเยาะเย้ย ย่ำยี พี่ทำไม

นั่งรถคู่ หรูหรา ค่าสิบล้าน
กินอาหาร ลงท้อง ห้องเย็นใหญ่
เคล้าผู้คน ดนตรี สีแสงไฟ
อิงอุ่นไอ ยอยิ้ม หลับพริ้มตา

นอนตึกกว้าง หว่างยาว ราวร้อยไร่
คนรับใช้ ติดตาม สามสี่ห้า
สวมสร้อยเพชร เม็ดโต โชว์ราคา
ซื้อเสื้อผ้า หนึ่งชิ้น สิ้นหมื่นพัน

แฟนรับเหมา เข้าหุ้น ทุนบรรษัท
เจ้าของทรัสต์ ธนาคาร บ้านจัดสรร
ตึกตลาด โรงแรม แหล่งสำคัญ
ปั๊มป์น้ำมัน เบียร์เหล้า เรือทะเล

หยุด พอ พอกันที เถิดที่รัก
หวังว่าจัก รักกัน มิหันเห
หากว่าหล่อน หย่อนยาน นานจำเจ
เขาทิ้งเท คอยรับ กลับลำพูน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...ซากกายที่เหลือเดน 3
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 มีนาคม 2014, 09:10:59

ก็วานวา หน้าบาน ขานระรี่
เย้าซิกซี้ เชิดคาง ร่างเผยอ
จมูกนิด ปากหน่อย ลอยเลิศเลอ
เดินละเมอ ยั้งหยุด สะดุดทาง

ใจครุ่นคิด อิจฉา แข้งขาสั่น
หนุ่มผู้นั้น ยิ้มรื่น ยืนเคียงข้าง
มือขวาซ้าย ส่ายสอด กอดเอวนาง
จูบแก้มบาง แสนนาน สะท้านกาย

ค่อยประคอง น้องนวล ชวนเข้าหอ
หัวใจฝ่อ ดูจน พ้นลับหาย
ปิดประตู ลงกลอน รอนใจชาย
แทบวางวาย อนาถ ปอดขาดลม

รู้สึกตัว อีกครั้ง แอบบังเสา
เราหนอเรา ยืนทุกข์ เขาสุขสม
เหงื่อเจ้ากรรม เม็ดใหญ่ หลั่งไหลซม
ทนระทม เงียบเหงา มือเท้าเย็น

ละวันนี้ ที่รัก ถูกผลักไส
เขาหายไป ไหนกัน มิทันเห็น
ฟูมฟายช้ำ น้ำตา ตกกระเด็น
กลับมาเป็น ขวัญใจ อ้ายเถิดมา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...รักไม่รัก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 เมษายน 2014, 16:37:28

สองมือซาวข้าวใส่ไหหม้อนึ่ง
ปั่นรถถีบรีบบึ่งถึงตลาด
จอดอิงเสาหายใจดังฟืดฟาด
ซื้อผักกาดถั่วเน่าเอามาจอ

ล้างถาดถังถ้วยโถโอชามช้อน
ปล่อยเชือกหย่อนชะลอมลงก้นบ่อ
สาวน้ำใสใส่ตุ่มเติมโอ่งหม้อ
หืดขึ้นคอเหงื่อไหลมิได้พัก

เสื้อดำหลวมสวมงอบจับจอบมั่น
เงื้อง่าฟันสับดินปลิ้นปลูกผัก
ม้วนผ้าเหลือเสื้อเก่าเอาไปซัก
ผงแช่หมักขยี้ตากที่ราว

คว้าข้องสุ่มดุ่มเดินหนองเขินขัง
กั้นพนังวิดตมงมปลาขาว
จับแมงจอนช้อนสาหร่ายสายบัวยาว
เด็ดมะนาวคั่วผำตำพริกแดง

กวาดเศษใบไม้วางก่อฟางสุม
ไล่ยุงรุมริ้นเกาะกัดวัวแหล่ง
สีสะล้อซอซึงถึงเพื่อนแพง
เธอตะแคงคอพับหลับสองตา

จ่องจับเส้นเอ็นปวดนวดคลึงเคล้า
น่องแข้งเข่ารวดบนรอบต้นขา
บอกตรงนี้ชี้ตรงนั้นร้องลันลา
ยังมีหน้าถามได้ รักไม่รัก

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...อ่อนอกอ่อนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 14 พฤษภาคม 2014, 20:35:28

ไหนว่าเป็นชาวพุทธผุดผ่องศรี
ว่าเรามีวัฒนธรรมล้ำสมัย
ชื่อสยามเมืองยิ้มพิมพ์หทัย
มีวินัยร่วมด้วยช่วยเหลือกัน

เป็นพุทธมามะกะแสนประเสริฐ
ปฏิบัติเป็นเลิศงามเฉิดฉัน
เช้าตักบาตรกรวดน้ำประจำวัน
วันสำคัญฟังธรรมพร่ำเวียนเทียน

รู้เคารพนบน้อมค้อมผู้ใหญ่
กล่าวโอภาปราศรัยไม่แปรเปลี่ยน
ใช้ถ้อยคำสุภาพเชิญกราบเรียน
ต้อนรับผู้มาเยียนด้วยยินดี

เมื่อผิดพลาดน้อยมากไม่ถือสา
ขอขมาไร้โทษโกรธน้องพี่
มิแค้นเคืองเรื่องใดผูกไมตรี
รู้ถ้อยทีพินอบตอบวาจา

ยามเกิดเหตุเภทภัยไฟลุกโหม
คลื่นจู่โจมลมพัดซัดน้ำป่า
แผ่นดินไหวฝนแล้งแห้งธารา
หนาวเสื้อผ้ามอบให้ของใช้กิน

ไหนว่าเป็นชาวพุทธพิสุทธิ์ใส
รู้สาเหตุเป็นไปใช้ตัดสิน
ตามกฏกรอบชอบธรรมนำชีวิน
แล้วทุกถิ่นไยชนอลเวง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...วันนี้ขอเสนอ "กำบะเก่า"
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 28 พฤษภาคม 2014, 22:18:07

เป็นคำแต่งแช่งด่าจารึกอ่าน
อ้างตำนานร้องกรองของปู่เฒ่า
ผู้พิทักษ์รักบ้านแต่นานเนา
กำบะเก่ากลัวนักจักหมองมัว

ผู้ใดแค่ครุ่นคิดผิดศีลห้า
หลับหูตามุ่งหมายทำร้ายทั่ว
กอบโกงโกยขโมยเขาเอาใส่ตัว
พูดปั่นหัวส่อเสียดก่อเกลียดชัง

เอาพวกมากลากไปใช้กฎหมู่
เอาตำแหน่งข่มขู่ถูขึงขัง
เอาสินบาทฟาดโคนโยนสตังค์
ให้สมหวังตามช่องสิ่งต้องการ

ไร้ประเสริฐเกิดก่อนรลักษณ์
ยมเสี้ยมสักอักษราติดหน้าก่าน
จุติจากขวากขุมหลุมหมู่มาร
ผุดดินดานตัวดำใช้กรรมบน

เมื่อวัยเยายากเย็นเป็นกำพร้า
ริได้ศอกลงวาพาก้อนป่น
อ่อนง่อยเปลี้ยเพลียยุบร่างทุพพล
ลูกเสียคนผิดเพศดังเปรตดง

หากดิบดูรู้สึกสำนึกได้
สติเพี้ยนเปลี่ยนไปใช่ประสงค์
ที่ว่าร้ายกลายดีมีมั่นคง
เกียรติธำรงเรืองรองก่องงามเอย

รพีกาญจน์





หัวข้อ: Re: ประชด...บอกให้ยิน "หยุดเสียที"
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 มิถุนายน 2014, 19:01:01

เราใช่ทาสสินไถ่ในเรือนเบี้ย
หรือใช่เมียผัวหายตายสนาม
ใช่เชลยต้อนจากซากสงคราม
ใช่เลวทรามพลีกายเร่ขายตัว

ใช่เข้าเมืองรับจ้างต่างวรรณะ
ใช่เฒ่าเถรเณรพระประพฤติชั่ว
ใช่โจรป่าห้าร้อยปล่อยเกาะกลัว
ใช่ควายวัวรุกไล่สั่งใช้งาน

ใช่เสือสางนางไม้สิงไพรสณฑ์
ตาปูดโปนกินรำดำเท่าถ่าน
สัมภเวร่องแร่งแย่งเศษทาน
ขุดดินดานไม้หมอนนอนหลุมรู

เรากับท่านรูปร่างต่างตรงไหน
ทั้งนอกในเปิดอ้าปากตาหู
โดนปาดเชือดเลือดแรงแดงชมพู
กินอาหารห้าหมู่รู้จัดจาง

สวมเสื้อผ้าหนาอ่อนเข้าร้อนหนาว
นับสิบซาวถูกผิดคิดสะสาง
จะขึ้นรถลงเรือบินเหนือทาง
คราวายวางเหม็นเน่าเผาฝังดิน

เราต่างคนต่างอยู่ดูดีกว่า
ใช่ทาสีขี้ข้าอย่าหยามหมิ่น
เราจะเก็บกวาดบางล้างมลทิน
บอกให้ยินกาเผือกหยุดเสือกที

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...บอกให้ยิน "รู้เท่าทัน"
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 03 มิถุนายน 2014, 16:45:12

แท้อัพเกรดเปรตดงแสร้งทรงศีล
ตกแต่งยีนเอิบอาบฉาบนวลขาว
ลงมุดน้ำดำดินบินบนพราว
เอิ้นปาวปาวจากแถนแดนพิมาน

ผมสั้นบางกางหูชูสองนิ้ว
ขยับคิ้วหลิ่วตาหน้าเยิ้มหวาน
แสยะแย้มแก้มดูกจมูกบาน
ปากหงับหงับจับสารอ่านคัมภีร์

สาธยายคายคำพร่ำชีวิต
สู่ระบอบชอบจิตสิทธิ์ล้นปรี่
แสวงออกอิสระสะเสรี
เสมอที่ยุติธรรมส่องนำทาง

มิปิดกั้นทัณฑ์โทษขังโดดเดี่ยว
มิบังคับขู่เคี่ยวหน่วงเหนี่ยวร่าง
แกมขอร้องจ้องยำตามอำพราง
ก่อนปล่อยวางจารสือมือลงนาม

ดันย่างเยื้องเบื้องหลังใครเล่าหนุน
ล้วนกลุ่มทุนนักเลงน่าเกรงขาม
หลงกลมันพันตูร้อนวู่วาม
อ้างนิยามกฏบัตรกัดแทรกแซง

ก็อัพเกรดเปรตดงเป็นองค์จ้าว
มากข่าวลืออื้อฉาวคาวแสลง
ผิดว่าถูกถูกว่าผิดจิตพลิกแพลง
ส่อสำแดงวิเศษแท้เศษคน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...ปราบมาร
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 23 มิถุนายน 2014, 20:52:44

ยากชะมัดจัดการมารนอกรีต
มันมีขีดสามารถฉลาดเฉลย
มักยัดเยียดเบียดบังรังแกเกย
แสร้งทำเฉยปล่อยชั่วโจมทั่วไป

ปรากฎจอทอร่างสว่างวาบ
แท้แมงสาบเลื่อมลอกนอกผิวไข
เป็นพี่เบิ้มเพิ่มพูนมูลข้างใน
กราดนิ้วใช้วางกรอบชี้ชอบธรรม

หวังปิดเกลื้อนเรื้อนกวางปมด่างด้อย
ขูดลบรอยแผลเก่าก่อนเน่าขำ
โลภไม้ข้าวขโมยโกยทองดำ
รุกครอบงำน้ำมันตีฟันแทง

สินส่งเรือเนื้อหนังสดมังสา
ขายศัสตราอาวุธผุดคลังแสง
ฝุ่นน้ำหอมดอมดมชมลิปแดง
โคตรแสนแพงยากินอมลิ้นเลีย

ป่าวโปงโปงโฉงเฉงข่มเหงขุด
ค้ามนุษย์ทาสไถ่ในเรือนเบี้ย
ใครประเดเคมีซุกซ่อนนิวเคลียร์
หลายแสนเสียชีวังดังผักปลา

สอนป้องลมห่มกายนั่นปลายเหตุ
ดับกิเลสเปรตปังกระหังกล้า
หลงยอซากกากเดนเป็นเทวา
สูบสุขาสาดใส่ไกลพ้นแดน

รพีกาญจน์


ก่อนเข้าพรรษาจอมยุทธ์ปราบให้หมดเน่อ



หัวข้อ: Re: ประชด...เชอะ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 29 สิงหาคม 2014, 21:22:39

มีใครมัดรัดมือยื้อไว้เล่า
กีดกันเจ้าคอยปรามห้ามประสงค์
มีใครยุดฉุดลากกระชากองค์
ยิ่งงวยงงร้องไห้แช่งใครตาย

กางเกงเสื้อสารพัดยัดกระเป๋า
รวมรองเท้าคีบสอดส้นสูงสาย
กองหลังรถวอร์มแล่นสแตนด์บาย
ร่างลับหายแค่ดันโยกคันเกียร์

อยู่ต่อไปให้ช้ำย่ำเหยียดหยาม
เสียดายความเป็นชายที่สูญเสีย
คนโจษจันกันทั่วว่าผัวเมีย
ฉันบ่อยนอนอ่อนเพลียเปลี้ยหมดแรง

สิ้นราศีขี้หูหนาขี้ตาแฉะ
ขี้มูกแยะฟันจากมุมปากแหว่ง
เส้นผมห่างย่างเท้าเต่ายังแซง
ก้นกวัดแกว่งปำปำเหมือนรำโทน

หล่อละลายหายต๋อมพร้อมสินทรัพย์
รักที่หวานจู๊ฟจั๊ฟลับล่องโหน
ผิดไม่มีดีน้อยต่อยตะโพน
ปากตะโกนปังปังด่าทั้งคืน

อยากจะไปไปเลยมิเคยว่า
อ้างชราเก่าบูดสูดเหม็นหืน
มาทางไหนไปทางนั้นแม่ขวัญยืน
ฉันสะอื้นร่ำไห้คงไม่ตาย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...แมงจั๊กกะคัน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 24 กันยายน 2014, 20:10:03

จะเอานี่ เอาโน่น ตะโกนเรียก
เสียงเจี๊ยกเจี๊ยก ตีฆ้อง ปากร้องลั่น
ว้ายกรี๊ดกรี๊ด ขีดคำ กำหนดวัน
เกินอัดอั้น มันปิด ติดลำคอ

อ่าเอวองค์ ทรงเครื่อง ดูเปรื่องปราด
เทวชาติ แลเห็น เร้นหลบหงอ
ยิ่งชาตะ ประเสริฐ เกิดปีจอ
ลูกของพ่อ นักจัด จันทร์ดีเจ

เคาะพางพาง วางกล แยบยลสืบ
ออกจากหลืบ วิ่งโร่ ไชโย เห้
พอเปิดฉาก กรากกร่าง อย่างลิเก
เอียงกระเท่ ร่ายร่อน รีบฟ้อนรำ

จะว่าหญิง จริงชาย ก็คล้ายหญิง
จะว่าจริง ก็บัง หลบหลังถ้ำ
เอาเด็กล่อ ก่อความ ลามระบำ
หลงเชื่อคำ เหลี่ยมเล่ห์ สเปโต

สำเร็จหนึ่ง พึงใจ ใคร่เลียนสอง
เหนือลำพอง กลางจุด ใต้ผุดโผล่
ตกตะคอก ออกรั้น พลันโฉบโชว์
มดแมงโง ขึ้นรู กรูเกรียวกราว

จะเอานี่ เอาโน่น โยนโยนเต้น
ชูแคมเปญ ทาฉาบ พิราบขาว
มันน่าจับ สับหนีบ บีบมะนาว
แกล้มเหล้าลาว ถอกริน ชมอินซอน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...การลงทุนมีความเสี่ยง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 05 ตุลาคม 2014, 22:36:13

ของแถมฟรี มีให้ บวกในเนื้อ
เกลือจิ้มเกลือ อุบาย เลวร้ายแสน
คุณภาพ น้ำหนัก หักทดแทน
จ้างวางแผน อวดโอ่ โฆษณา

มันรู้ซึ้ง ถึงแด มวลแม่บ้าน
ล้วนต้องการ เลือกรื้อ ชอบซื้อหา
เครื่องของใช้ ส่วนตัว ครัวนานา
หม้อถ้วยโถ โอชา กาละมัง

เพราะสะดวก ลวกต้ม นิยมชอบ
เฮกันหอบ หุยฮา เป็นบ้าหลัง
ของลดแหลก แพ็ครัด ประหยัดตังค์
ชื่นใจจัง โอฬาร เต็มบ้านเรือน

บ้างกรุเก่า เหลายี่ห้อ รอวันทิ้ง
สดซิงซิง เอี่ยมใส ไม่มีเพื่อน
พลิกดูวัน ผลิต ปิดปีเดือน
เจอปนเปื้อน น้ำหก สีตกจาง

ควรไตร่ตรอง สักนิด คิดก่อนซื้อ
อย่าเชื่อถือ ชื่อชั้น ประกันห้าง
เข้าประตู หรูหรา ตาฝ้าฟาง
มัวเดินร่าง ฟูฟ่อง ท่องสำราญ

พ่อค้าดี มีธรรม ประจำจิต
มิครุ่นคิด โกงบาท ฟาดชาวบ้าน
คงหากิน ถิ่นไทย ได้อยู่นาน
มีแต่มาร ขยอก ขนออกเมือง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ประชด...เทวดามาอีกแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 17 ตุลาคม 2014, 21:03:18

เอาอำนาจบาตรใหญ่ไล่ทุบถอง
เพื่อสนองความคิดจิตข้าสั่ง
เห็นไหมล่ะทะลึ่งทำตึงตัง
ไม่เชื่อฟังต้องโทษโอดโอยครวญ

ข้าจุติจากสวรรค์ชั้นพิเศษ
นามเทเวศเกรียงไกรเก่งไต่สวน
เทพฤทธิ์ติดเต้นเป็นขบวน
ถือดาบทวนชูเพลิงเริงระบำ

บอกชิดซ้ายย้ายขวาหน้าโยกเยก
กระโดกกระเดกก้นก่งเตี้ยลงต่ำ
มือยกสูงสิบนิ้วโบกพริ้วรำ
ย่างเยื้องย่ำซอยถี่พร้อมปี่กลอง

ข้ามือเดี่ยวเชี่ยวชาญการรบรุก
ถึงคราบุกตีตบสยบม่อง
พาพวกกลุ้มรุมทำเหินลำพอง
ยิงจากซองครบชุดใส่จุดตาย

ทรัพย์ในดินสินเก่ายึดเอาหมด
แกจะอดกินมื้อหรือฉิบหาย
เหลือซากซวนเซทรุดชำรุดกาย
เลวแรงร้ายฉลาดล้ำกำจัดคุม

ยินเห้-เห้-เทวดาเหาะมาแล้ว
เดินกร่างแกร่วเย้เย้ทะเลลุ่ม
รังฟอนเฟะเกะกะเกาะประชุม
นกตะกรุมหัวใส...ไม่ต้องการ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ แทงเลขอะไรครับ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2014, 22:10:13

จะใต้น้ำดำดินบินบนฟ้า
จะโสภาอ่าองค์บรรจงเขียน
จะจ่อมจิ้มพิมพ์ดีดขีดวนเวียน
ถูกใจเซียนอยากรวยหวยชะมัด

กระดาษเปล่าก๊อปปี้จดสีหมึก
เย็บผนึกต้นขั้วหัวหางบัตร
เลขสองตัวสามตัวจั่วเห็นชัด
หมายกำจัดสลากเกินราคา

เริ่มหัวท้ายที่หนึ่งพึงครบเครื่อง
เติมต่อเนื่องโต๊ดเต็งเก็งวิ่งห้า
เลขกระด้างล่างบนยลเลือกกา
ช่องปั๊มตราลายมือผู้ซื้อแทง

รักเลขล็อคเลขเรียงเคียงเลขฝัน
รับไม่อั้นเดินโพยโดยจัดแหล่ง
บริการร้านขายป้ายแสดง
หรือตั้งแผงริมทางวางง่ายเจอ

ถูกรางวัลปันครึ่งกึ่งเข้ารัฐ
แบ่งให้วัดโรงเรียนเพียรเสนอ
สอนคิดคัดจัดเจนเล่นหวยเบอร์
แสนเลิศเลอทางทิพย์ถึงนิพพาน

จะใต้น้ำดำดินบินบนฟ้า
ยอดวิชชาก่อเกิดประเสริฐสาร
ขอซูฮกยกโป้งเยี่ยมประธาน
ช่วยให้บ้านเมืองทองรองเจริญ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: วานเลนไทน์ปีนี้... ไม่มีรัก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2015, 16:26:01

รับปากต่อพ่อแม่แลปู่ย่า
ทั้งลุงป้าตายายพร้อมอ้ายพี่
จะทำบุญคุณงามสร้างความดี
จวบชีพนี้แน่นอนไม่หย่อนยาน

อ้างองค์อินทร์ดินฟ้ามหาสมุทร
กราบองค์พุทธครูบาหน้าวิหาร
แม่นมั่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผิดสาบาน
ทรมานผ่ายผอมใจตรอมตรม

คุกเข่าลงตรงดานฐานสถูป
ไฟวาบวูบธูปเทียนเวียนเถ้าถม
ไม่เคยขาดสารทตรุษผุดพนม
ยอกราบก้มถวายทานของหวานคาว

แสดงตนเป็นพุทธมามะกะ
ทุกวันพระจรุงนุ่งห่มขาว
อุปถัมภ์ค้ำจุนบุญแพรวพราว
เสียงปาวปาวประกาศพาดสื่อพิมพ์

จะเหาะเหินเดินไหนคนใกล้ทัก
เป็นที่รักมักคุ้นเคยกระหยิ่ม
ดีไม่นานพานพบเพื่อนประจิม
เล่ห์สลิ่มพูนพอกก็ออกไล(lie)

ทุกวันนี้ไม่มีแน่แม้คิดถึง
ความซาบซึ้งพังภินสิ้นสงสัย
เธอโกหกพกลมเก่งเหลือใคร
วาเลนไทน์ช้ำนักตัดรักลวง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: อิงนิทาน...แม่หมูชอบฟังเพลง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 มีนาคม 2015, 22:58:56

มาจะกล่าวบทกระทู้
มีแม่หมูอ้วนใหญ่ใฝ่หรรษา
เทพนำหนุนบุญสนองครองพารา
ฮ่าฮ่าฮ่าหัวเราะเคาะยินดี

ไล่กรมเมืองเปลืองตังค์ออกทั้งชุด
คว้าเยี่ยมยุทธ์สมาร์ทแมนมาแทนที่
รีบรัวฆ้องร้องป่าวประชาชี
บอกเมืองนี้มีปราชญ์ฉลาดดัง

ถึงวันหยุดสุดชื่นตื่นเช้าตรู่
ฟอกสบู่ถูฟันคันเกาหลัง
พอกแป้งร่ำอมราหน้าขาวจัง
ลิปสีปลังทาปากลากคิ้วลอน

พาเพื่อนหมูคู่เฮเตร่เตร็จ
เลือกหาเทปคาสเซ็ทเสียงกระฉ่อน
เนื้อน้ำดีมีชื่อระบือกลอน
ม้วนด้อยอ่อนหมดไฟเมินไม่เอา

ณ ห้างนั้น
เสียงคนธรรพ์น้าวโน้มโฉมเฉลา
บรรเลงหนักรักรุกบุกผ่อนเบา
ยอมโอนอ่อนร้อนเร่าโถมเข้าแทง

เสียงดาบสสดใสในเถื่อนถ้ำ
ปากพึมพำร่ายเวทวิเศษแสง
ความเก่ากรุบุราณชาญแสดง
ไร้รุนแรงชวนฝันสู่บรรทม

เสียงครืนครืนคลื่นซัดหาดทรายซ่า
รจนาวารินระบิลสม
ระเรื่อยเลาะเซาะฝั่งหลั่งคำคม
จนจ่อมจมลงดิ่งติ่งดวงมาน

หมูจะเอาเช่าเทปเครปหวานนี้
เบื่อมโหรีปี่พาทย์ระนาดด้าน
เสียบเครื่องเปิดเถิดเทิงระเริงงาน
จุดสว่างกลางชานสำราญเอย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เรื่องจริง อิงนิทาน...ผ้าขี้ริ้วห่อทอง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 28 เมษายน 2015, 09:40:25

มุมานะตระหนี่แถมถี่เหนียว
กินมื้อเดียวข้าวเปล่าไส้เน่าเหม็น
ผอมกะหร่องท้องผูกติดดูกเอ็น
หมอว่าเป็นเลือดพิษหมดสิทธิ์ยา

มีของขายหลายอย่างห้างสวนไร่
จะมอบให้ลูกลูกเรียกปรึกษา
หมดอาวรณ์ก่อนพ่อมรณา
หนึ่งร้านค้า"คนพี่"รี่จะเอา

สวนลำไยใบหนาร้อยกว่าต้น
ติดถนน"คนกลาง"อ้างของเขา
สิบกว่าตัววัวสาวสีขาวเทา
"น้องคนเล็ก"นั่งเศร้าจำเอาไป

คนพี่ค้าขายคล่องเงินทองเพิ่ม
สร้างต่อเติมขวาซ้ายขยายใหญ่
คราพลั้งพลาดขาดทุนหมุนกำไร
พอมีกินอยู่ใช้ไม่อับจน

ส่วนคนกลางวางแผนพ่นใส่สาร
ดอกช่อบานสะพรั่งกะหวังผล
หักปุ๋ยยาอาหารแรงงานคน
ส่งดอกต้นเครดิตเหลือนิดเดียว

น้องคนเล็กเลี้ยงไล่ไปทุ่งหญ้า
พักนอนรอนแรมป่าหน้าแห้งเหี่ยว
วัวตกลูกทุกปีไม่มีเบี้ยว
เล็มหญ้าเขียวดื่มน้ำริมลำธาร

ห้าหกปีมีวัวมั่วแต็มแหล่ง
จึงจัดแจงแบ่งขายครึ่งหนึ่งหาร
ตัวห้าหมื่นร้อยตัวถัวกลางดาน
โอนห้าล้านเข้าแบ๊งก์ยิ้มแฉ่งตู

ผ้าติดเนื้อเสื้อปอนปอนเร่ร่อนร่าง
หมวกปีกกว้างย่ามเฉียงไหล่เอียงลู่
คีบเกิบหนังหลังเห็นน่าเอ็นดู
เลี้ยงวัวหมู่แท้"ผ้าขี้ริ้วห่อทอง"

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เปลี่ยนอีกแล้วเหรอ เหนื่อยจัง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 04 มิถุนายน 2015, 16:58:06

มดแดงดำทำรังบังกิ่งก่าย
ไม้สอยส่ายพ่นยาฆ่าตายโหง
รู้จักหลบลงขุดมุดในโพรง
ยกโขยงพาแม่ไข่แพร่พันธุ์

หนอนกระดืบคืบไกลไต่กินยอด
หมดไม่รอดนกจิกกระดิกสั่น
ซ่อนโคนใต้ใบทับหลับกลางวัน
ดึกเงียบงันกัดแกะและเล็มปลาย

ยุงหากินบินต่ำช่วงค่ำเช้า
จับน้ำเน่าจืดจางวางไข่หมาย
เดี๋ยวนี้ไข่ใกล้หินปนดินทราย
น้ำหยดใส่ฟักฟายกลายเป็นตัว

พอฝนซาฟ้าแจ้งแมงมันโผล่
ยื้อแย่งโงขึ้นรูกรูกันมั่ว
คลี่ปีกหุบยุบยับถูกจับกลัว
เลี้ยวหันหัวหลีกเลี่ยงออกเที่ยงคืน

แม้หนูนกผกผินกินไม่เลือก
เม็ดข้าวเปลือกสุกสารหวานหอมหืน
มดแมลงแฟงฟักคาบสักกลืน
ดูสัตว์อื่นเกิดหลังยังพลิกแพลง

มนุษย์สุดประเสริฐเลิศไฉน
เนื้อนอกใสกาบแก่นกิเลสแฝง
พูดเมื่อวานวันนี้มีเปลี่ยนแปลง
ดั่งสำแดงยิ้มรื่นกลืนน้ำลาย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: วันสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 22 กรกฎาคม 2015, 10:20:33

ข้าวสักคำน้ำจิบวอนหยิบยื่น
อมเคี้ยวกลืนฝืนอยู่ดูโลกกว้าง
สืบชีวิตอีกวันก่อนวายวาง
ล้มทิ้งร่างคว่ำหงายตายชั่งมัน

อ้าปากหวอคอตีบไส้ลีบกิ่ว
จับตะคริวนิ้วเกร็งตะเบ็งลั่น
กระเพาะแฟบแสบท้องร้องลุกยัน
เรอสนั่นเอ็นบิดหวิดคะมำ

ลมเสียดซีกอกซ้ายหายใจฝืด
วูบหน้ามืดตามัวยอบตัวต่ำ
เกาะเสาแน่นแหงนฟ้าจ้าเป็นดำ
ฝนคงพรำหาใช่เหงื่อไหลริน

ข้าวคลุกเกลือเนื้อขาดไม่ครบมื้อ
จิ้มจ้ำคือพริกแดงแกงถ้วยบิ่น
หิ้วน้ำคลองกรองขุ่นขันตักกิน
หนุนหมอนหมิ่นบนฟากแบตากยุง

ไหนบอกน้ำคล่ำคลาปูปลาหอย
ไหนข้าวคอยเกี่ยวกองเต็มท้องทุ่ง
ไหนดอยเด็ดเห็ดห่อหน่อซางซุง
ไหนคุยฟุ้งเมืองทองรองเจริญ

ข้าวสักคำน้ำจิบวอนหยิบยื่น
ร้อยหวานหมื่นเคียมคัลยอสรรเสริญ
พืชผลสิ้นดินแห้งแล้งเผชิญ
หิวเหลือเกินทุรนทุรายตายแน่แล้ว

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: วันสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: tangpan ที่ วันที่ 28 กรกฎาคม 2015, 11:56:45
 ขอมาเยี่ยมเทพกวีนี้ปรากฏ
ค่าจรด คำจรุง ปรุงมาเขียน
รับศิษย์ไว้หรือเปล่าใต้เงาเซียน
อยากหัดเขียนได้แบบครูผู้ร่ายเรียน  

 อันคลังคำมีน้อยถึงน้อยมาก
ความจนยากลำบากอยู่สู้หัดเขียน
หวังจดจำคำกลอนสอนอ่านเรียน
มิอาจเปลี่ยคำจากครูผู้สอนคน


หัวข้อ: Re: วันสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Kaidee5555 ที่ วันที่ 29 กรกฎาคม 2015, 17:48:04
ในโลกนี้..มีเขา เท่านั้นหรือ


หัวข้อ: Re: ๐ ต้องสู้อย่าเสียขวัญ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 สิงหาคม 2015, 13:37:24

ผิดหรือเปล่าเราท้อไม่ต่อสู้
ย้ายที่อยู่ทิ้งฐานบ้านอาศัย
มือตีอกฟกช้ำพร่ำพิไร
เหตุยิ่งใหญ่ย่อมย่อยปล่อยค้างคา

อ้างบุญนำกรรมเน้นเร้นเซซัด
ขาดสมบัตินักเลงเคยเก่งกล้า
ละย่ำแย่แก้ไขภัยนานา
เกิดปัญหาซ้ำซากยากต่อเติม

น้ำขาดแคลนแทนที่ทำฝายก่อ
ขุดเจาะบ่อบังธารบาดาลเสริม
ปลูกพืชใหม่ใช้น้ำน้อยกว่าเดิม
หรือริเริ่มรวมกลุ่มประกอบการ

หากลำพังเพียงหนึ่งสองน้อยนิด
หลายคนคิดคงค่ามหาศาล
เฝ้างอนง้อของบขบกบาล
เหมือนขอทานกว่าถึงล้มตึงตาย

ลงห้างหุ้นทุนถือซื้อเครื่องท่อ
วางเชื่อมต่อจัดแจงแยกแบ่งสาย
สูบน้ำใส่ไร่สระสวนกระจาย
นาทุกรายปลูกข้าวขายเหลือกิน

เหงื่อไหลอาบหาบหามถามรับจ้าง
ยามหยุดว่างเทศกาลกลับคืนถิ่น
รักษาบ้านลานคำนำชีวิน
ธัมมะทินสุขกายสบายใจ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ...ต้องทำใจ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 12 กันยายน 2015, 05:56:23

อยู่ท่ามกลางกฎกรรมที่ย่ำแย่
หาสุขที่เที่ยงแท้แทบไม่ได้
สุขชั่วครั้งชั่วคราวครู่หายไป
แทรกหว่างในคืนค่ำประจำวัน

หัวใจช้ำซ้ำซากจากปัญหา
หลั่งไหลมาสารทิศยากบิดผัน
หนักจ่ายจับรับเบาไม่เท่ากัน
เชื่อกู้ยันหนี้พอกต้นดอกบาน

คิดคำนึงพึ่งใครที่ไหนเล่า
กระเพาะเปล่าแสบไส้ไร้อาหาร
อ้าปากเอิ้นเดินจ้ำเสาะทำงาน
แลกข้าวสารพอกินก็ยินดี

คิดคำนึงพึ่งจ้าวยุ่งฉาวร้อน
ยังตอกย้ำตำบอนย้อนอึงมี่
สังคมแตกแยกยักสามัคคี
หลายขวบปีทะเลาะไม่เลิกรา

คิดคำนึงถึงตัวครอบครัวด้วย
จะจนรวยเพศใดวัยชันษา
สรรพสิ่งสกลบนโลกา
ปรารถนาศรีสุขกันทุกคน

อภิรมย์สมหวังขาดดังคิด
วิปริตผิดทางสร้างสับสน
ยึดเหนี่ยวรั้งตั้งสติคอยเตือนตน
หยุดเถิดบ่นพึมพำต้องทำใจ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: คนแก่...แกบ่นต่อ...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 24 กันยายน 2015, 10:51:53

สะดุ้งตื่นคืนค่อนก่อนไก่โห่
นึ่งข้าวเหนียวหนึ่งโลสุกเกือบสาง
คดอุ่นไอใส่กล่องกระติกวาง
ตักน้ำล้างผักกาดสะอาดงาม

หม้อตั้งไฟใส่น้ำราวหนึ่งขัน
พอเดือดพลันลงผักฝักมะขาม
ทุบตะไคร้กะปิกระเทียมตาม
ชั่วครู่ยามยกออกถอกเทริน

กว่าชั่วโมงคงครัวทำกับข้าว
ช่างยืดยาวเวียนวนทุกวันสิ้น
แป๊บเดียวลิ้มอิ่มแปล้แค่นั่งกิน
อยู่ที่ลิ้นอร่อยกร่อยจืดจาง

ความรู้สึกประสาทสร้างปัญหา
เอาเวลาแรงงานเงินทิ้งขว้าง
มีรายรับจับจ่ายหายสตางค์
ทุกข์ท้องว่างขาดได้เจ็บไอจาม

คนวัยแก่กินกันวันละมื้อ
ควรแล้วคือวัยฉกรรจ์วันละสาม
บวกโปรตีนกินเพิ่มเสริมเด็กงาม
พวกพุงหลามพุงปลิ้นกินลมพอ

นึ่งข้าวเหลือเผื่อเลี้ยงเลยเที่ยงค่ำ
จะย่างยำตำแกงพะแนงห่อ
ปรุงอาหารวันหนจนก็จอ
เพื่อชะลอชีวันเท่านั้นเอง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ไม่มีฝน...แก่บ่นต่อ...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 08 ตุลาคม 2015, 13:12:29

เซซิกแซกแบกท่อไหล่ห่อเหี่ยว
หมดแรงเรี่ยวเมื่อยล้าเข่าขาอ่อน
หายใจฝืดหืดแห่ชแรทอน
ตัวเปียกปอนคะมำน้ำกระจาย

เสียบข้อต่อข้องอท่อหลวมหลุด
มีหลายจุดรูทะลุพุพ่นสาย
ซ่อมต้นทางกลางแตกแยกสุดปลาย
เดินวนว่ายขึ้นล่องน่องเอ็นตึง

ไม่ประมาทอาจพลั้งระวังแข้ง
แผลเริ่มแห้งเนื้อหนังยังเคร่งขึง
ถูกหนามทิ่มลิ่มแทงแยงเกี่ยวกึง
แผลนิดหนึ่งอักเสบเจ็บระบม

นาสวนไร่ใบงอกก้านดอกผล
ลุ่มล่างบนดอนหินดินทับถม
กระแสน้ำดำเดนเลนโคลนตม
แทรกสายลมพรมพัดสะบัดไกล

ล้วนเคมีสีพิษติดตกค้าง
เข้าสู่ร่างแผ่ซ่านฤาต้านไหว
เชื้อโรคร่อนซ่อนตัวเร่ทั่วไป...
ซึมอยู่ได้ไหลล้ำน้ำทะลัก

คันทะลายย้ายท่อจ่ออีกต้น
ร้อนทุรนแขนเสื้อปาดเหงื่อพลั่ก
วิงเวียนวืดมืดหน้ายาดมควัก
สูดชื่นพักนั่งโน้ตว่างโพสต์กลอน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: สำนึกเมื่อสาย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2015, 14:21:09

เหลือแต่เพียงเสียงนวลโอดครวญคร่ำ
รอยชอกช้ำดำเปื้อนเกลื่อนใบหน้า
ทุกข์ระคนหม่นหมองครองนัยน์ตา
สมองชาทื่อทึ่มซึมมึนตึง

น้ำเหลวใสไหลออกซอกจมูก
ใบหูหูกบวมบึ่งอลึ่งฉึ่ง
ไร้รับรู้กู่ก่นก้องอลอึง
สาดกูมึงสัตว์สีตะบี้ตะแบง

ดูกปูดโปนโนนแก้มแห้มหดหู่
บ่าไหล่ลู่แขนคล้อยห้อยต่องแต่ง
หลังคดโค้งโก่งงอยอสิ้นแรง
ผอมซีดเผือดเหือดแห้งก้นแกว่งไกว

ย่างเตาะแตะแบะขาราลากเท้า
ห่อปากเป่าหอบหันหัวสั่นไหว
มือสืบสาวราวรั้วพาตัวไป
กระแอมไอหืดแหบสากแสบดัง

ห้านิ้วกางสางผมลมสะบัด
ขมวดมัดรัดมวยหนีบด้วยหนัง
แสยะยิ้มแย้มเหงือกสีเปลือกปลัง
ยืนเก้กังก้าวเกิบเขยิบแล

เหลือแต่เพียงเสียงนวลโอดครวญแผ่ว
ละวี่แวววอกแวกวุ่นแถกแถ
เงยปะหงับจับเจ่าเศร้าดวงแด
อนาถแท้หลงกลเชื่อคนลวง

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ไม่จริง...ผมถูกใส่ร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 22 ธันวาคม 2015, 06:06:00

หลับคอเอียงเที่ยงคืนตื่นตีห้า
หลังล้างหน้าก่อไฟไหนึ่งข้าว
จวนสว่างล้างผักถั่วฝักยาว
เด็ดจากราวรั้วรอบขอบกำแพง

หงายครกพร้อมหอมเตรียมกระเทียมใส่
หั่นตะไคร้กะปิปลิดพริกแห้ง
รวมในครกโขลกตำซ้ำแรงแรง
ตั้งหม้อแกงเทน้ำสามกระบวย

ไฟแลบลุกสุกเหือดเดือดปุดปุด
ราฟืนหยุดเหยาะหยดชูรสช่วย
ปรุงเข้มข้นเค็มจืดจัดอำนวย
ตักใส่ถ้วยแต่งดาเรียกหาเมีย

แม่จ๋าแม่แม่จ๋ามากินข้าว
ไอพุ่งผ่าวปากเป่าเอาช้อนเขี่ย
อุ่นได้ที่มีขันน้ำวางเคลีย
มากินเสียอิ่มเสร็จล้างเช็ดจาน

เก็บผ้าเหลือเสื้อเก่าเบาในนอก
ขยี้ฟอกซักถูอยู่ข้างบ้าน
รดต้นไม้ให้ปุ๋ยซุยดินดาน
แม่สำราญนอนพับหลับแน่ชัวร์

เพราะเธอคือคนดีสุดที่รัก
ลับตามักเพื่อนลือระบือทั่ว
น่าอนาถชาติเสียคนเกียมัว
ขอแก้ตัวใครใครเขาใส่ร้าย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: หนาวหน้าค่อยว่ากันใหม่นะน้อง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 06 กุมภาพันธ์ 2016, 16:52:01

เก็บผ้านวมรวมพับกับผ้าห่ม
ผ้าไหมพรมคลุมพันคอกันหนาว
เสื้อหนาหนักถักแน่นแขนสั้นยาว
ซักแขวนราวรูดไว้ใกล้ปลายเตียง

เปิดประตูมู่ลี่คลี่ม่านห่าง
เปิดหน้าต่างถ่างบานทุกด้านเฉียง
เปิดระบายรูเล็ดบานเกล็ดเอียง
นอกระเบียงกันสาดม้วนพาดบน

สวมผ้าเหลือเสื้อกล้ามยามรู้ร้อน
เปิดโคจรเป่าปัดพัดลมพ่น
แบบตั้งพื้นเพดานก้านหมุนวน
คลายทุรนชั่วคราวเมื่อหนาวไป

เคยอาบน้ำสามขันวันละครั้ง
เกือบแทบพังคัดจมูกน้ำมูกไหล
ต้องนอนซมจมเบาะเพราะพิษไอ
จามเจ็บไข้ท้องเสียเพลียอาเจียน

มือเท้านิ้วผิวสดผดออกผื่น
แดงเป็นปื้นขุยขากวงสากเสี้ยน
ร่องรอยแตกแสกส้นรอบวนเวียน
ไร้นวลเนียนหนังนุ่มห่อหุ้มกาย

เก็บผ้านวมรวมพับกับผ้าห่ม
ผ้าไหมพรมเสื้อหนาว่าหนาวหาย
กลางกุมภาอากาศคาดสบาย
ขอผันผายแยกตนคนละเตียง

รพีกาญจน์







หัวข้อ: Re: ค้าน้ำ ร่ำรวย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2016, 21:04:54

รวบรวมหุ้นทุนน้อยค่อยผลิต
สินค้าติดตลาดตามคาดหวัง
งบสิ้นปีมีกำไรได้สตังค์
วางแผนผังเรือนโรงเชื่อมโครงการ

ใช่ลึกลับซับซ้อนขั้นตอนง่าย
จะขยายต่อยอดสอดประสาน
ของบรัฐจัดจ้างช่างชำนาญ
ดำเนินงานโดยกลุ่มนามชุมชน

เน้นส่วนร่ามคิดทำนำปัญหา
พัฒนางานเงินประเมินผล
บริบทบริการบริหารคน
คุมเข้มข้นคุณภาพโฆษณา

ทราบสั่งปั๊บฉับไวส่งไปถึง
สร้างพอพึงถูกใจในท่วงท่า
ทั้งยิ้มแย้มแจ่มใสใช้วาจา
ต่อลูกค้าเยื่อใยด้วยไมตรี

รับแนะนำคำบอกกรอกคิดเห็น
บันทึกเป็นข้อมูลจูนวันที่
แยกสาระประชุมกลุ่มเมื่อมี
ทำทันทีเรื่องด่วนไม่ควรดึง

ต้นทุนต่ำทำง่ายซื้อขายคล่อง
หากสบช่องรองท้ายกลายเต็งหนึ่ง
โลกร้อนแล้งแห้งธารบาดาลบึง
คนต้องพึ่งแน่น้ำค้าร่ำรวย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ยื่นคำขาด
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 19 มีนาคม 2016, 07:55:23

เตือนดีดีกี่ครั้งดังกี่หน
อ้าปากพ่นลมเหม็นกระเด็นใส่
ชูมือโบกบอกปวงด้วยห่วงใย
ปิดป้ายใบสื่อสารผ่านสายตา

กำหนดกรอบวันที่เดือนปีถัด
ปฏิบัติร่วมจิตคิดหันหน้า
หวังเสริมสร้างสุขสรวลมวลประชา
ปราศโรคาหายใจไร้พิษควัน

รณรงค์ตีกลองป่าวร้องขอ
อบต.เทศบาลขานแข็งขัน
ผู้ว่าฯนายอำเภอถึงกำนัน
กุมภาพันธ์ทุกจุดจงหยุดเผา

เศษขยะกระดาษพลาสติก
สุมพืชพริกซังข้าวซากเครือเถา
หากหุงหาอาหารติดถ่านเทา
ซุกฟืนเผาเขี่ยราเรื่องเล็กน้อย

แต่พวกที่เผาป่าเพื่อหาผล
พืชรับฝนผลิใบได้เสียบสอย
ระอุดินหินแยกแตกดงดอย
รับฝนคอยคุ้ยหาเห็ดถอบกิน

เตือนกี่หนบ่นกี่ครั้งยังฝ่าฝืน
สัตว์ป่าตื่นหนีตายย้ายฐานถิ่น
ท้องฟ้าอืดมืดมัวทั่วธานินทร์
อดทนสิ้นชักดาบฟันหลาบจำ

รพีกาญจน์

รัฐใช้มาตรการทั้งจำและปรับ ปีนี้อากาศดีไม่มีหมอกควัน



หัวข้อ: Re: ดีใจด้วยคนครับ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 03 พฤษภาคม 2016, 22:10:49

เขาตั้งจิตคิดเพลินเดินไขว่คว้า
ออกไล่ล่าบ้าบิ่นถึงถิ่นฐาน
ครั้นอยู่เหย้าเฝ้ารังระวังลาน
เพื่อสักสานยากเย็นให้เป็นจริง

รู้เปลี่ยนปรับจับจุดรุดมานะ
วางการกะขบวนคำนวณสิ่ง
เคลื่อนคล้อยตามยามจรดอดประวิง
พ่ายแพ้ทิ้งน้ำตาอาบอาวรณ์

หากนับตัวทั่วตนเพียงเพียงน้อย
แถมต่ำต้อยอักโขสโมสร
เอ่ยเล่าลือชื่อเสียงเรียงขจร
แดนนครเขียวสีขจีไพร

กำลังซื้อถือน้อยค่อยเจียดจ่าย
ตัวมั่นหมายเหมาะเหม็งเล็งลิ่วใฝ่
ชั่วข้ามคืนอื่นอวยฉวยเอาไป
เลียบรั้วได้จำกัดสิ้นอัฐตังค์

สู้ล้มลุกคุกคลานผ่านพรรษา
เดียงประดาฝ่าฟันมิหันหลัง
อุปสรรคหนักพยุงเบาพุ่งพัง
เพียงคาดหวังเชิดอกรอดตกชั้น

เขาตกลงรวมใจให้เป็นหนึ่ง
เบียดตะบึงหยิบดาวราวสวรรค์
สู้เกมศึกฮึกเหิมชีพเดิมพัน
แหละความฝันก่อนจบประสบชัย

ไชโย เลสเตอร์ คือ แชมป์

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ปวด โอย โอ๊ย ปวด
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 24 พฤษภาคม 2016, 17:26:00

ตาแลหลิ่ว คิ้วขมวด ปวดขมับ
คงนอนหลับ เที่ยงคืน ตื่นตีห้า
ปวดสุดกลั้น ฟันกราม สามเวลา
นี่คงท่า แลบลิ้น เคี้ยวฮินเล

เอาอีกละ อะไร ปวดในปาก
อ๋อคงพากย์ จนเพลีย เชียร์วอลเล่ย์
ปวดสองรู หูอื้อ ตื้อซวนเซ
แน่แน่เฮ กระหึ่ม ปลื้มทีมไทย

ยกสิบซาว ข้าวสาร อาหารหมู
จนบ่าลู่ เก้กัง ปวดหลังไหล่
ก็ตัวสั้น บั้นเอว ปวดเสียวไช
คืนวานไป แสกส่าย ร่ายรำวง

ปวดเป็นทุกข์ ลุกลาม แง่ง่ามตูด
นั่งเขาะขูด มะพร้าว ขาวผุยผง
ขาเข่าแข้ง แกร่งเกร็ง เขย่งตรง
กลับคดก่ง เปลี้ยปวด นวดหนมคน

โดนจะจะ สะดุ้ง ปวดอุ้งเท้า
เดินเปลีอยเปล่า หาบหาม หนามตำป่น
ปวดซ้ายขวา หน้ากลาง หลังล่างบน
มันแล่นร่น ลอดเลาะ เหาะรอบกาย

เฝ้าร้อรอ หมอหมวย ช่วยรักษา
กลืนพารา ทาถู ไม่รู้หาย
ปวดตับไต ไส้พุง เดี๋ยวยุ่งตาย
ช้าอาจสาย ร้ายแรง หยุดแต่งกลอน

รพีกาญจน์


หัวข้อ: Re: รักษาตัวรอดยอดดี
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 07 มิถุนายน 2016, 15:39:40

พรุ่งเช้า...
ตาเฒ่า จงฟัง คำสั่ง
นึ่งข้าว เป่าไฟ ให้ฟัง
อย่านั่ง หงายอ่าง ล้างจาน...ครับ

ต้มถั่ว คั่วผำต ำพริก
ขยิก เช็ดตู้ ถูบ้าน
เฝ้าดัก ตักบาตร กวาดลาน
อู้งาน อดกิน สิ้นงาย...ครับ

ชุดอาบ คราบไคล ในนอก
แยกออก เสื้อซิ่น ปลิ้นส่าย
โรยผง ลงซัก วักฟาย
ลบลาย สะอาด พาดราว...ครับ

ผ้าผูก ฟูกนอน หมอนมุ้ง
กลิ่นคลุ้ง พอทน หม่นขาว
รื้อลาก ตากรั้ว ชั่วคราว
ฝนมุด หยุดพราว หนาวซัก...ครับ

เร็วรีบ ถีบรถ สองล้อ
ขุดหน่อ เก็บแคแช่ผัก
ใครถาม ใครทอ อย่าทัก
นิดจัก หักเห เวลา...ครับ

โครมคราม...นอนคว่ำ...
ลื่นน้ำ มือแพลง แข้งขา
ผ้าก๊อซ สอดพัน พอกทา
จุ๊ อย่า เอ็ดไป ไม่จริง...อิ อิ

ยาวบั่น สั้นต่อ...เอาอย่างคุณมือขวา

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: ประทับใจในวาทะ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 กรกฎาคม 2016, 05:49:41

ทรุดโทรมเก่าเสาฝังหลังคาจาก
หุ้มฝาฟากกั้นห้องมองลอดเห็น
รอยซึมรั่วทั่วบนฝนกระเซ็น
ยอบหนาวเย็นดึกสงัดลมพัดพา

ซัดกรรโชกโยกไสไหวย่องแย่ง
โถมรุนแรงหลักลู่ประตูอ้า
เตี่ยวชุ่มเหงื่อเสื้อปลิวลิ่วหลายวา
ตุ่มปลาร้ากลิ้งหกตกลงคู

ระวังลื่นพื้นห่างระหว่างช่อง
เท้าหล่มร่องจ้ำมูลใต้ถุนหมู
ถ้วยพริกแดงแห้งคาหัวปลาทู
หม้อบุบบู้ก้นดำคว่ำติดเตา

น้ำขุ่นขลักตักคลองกรองถังสี
ข้างข้างมีง่ายฉวยกระบวยเปล่า
ผ้าขี้ริ้วแขวนขอมอหม่นเทา
ฝอยขัดเกลาลบคราบใช้กาบพร้าว

อิฐสามก้อนก่อเตาตั้งเส้ายื่น
ซุกดุ้นฟืนจุดไฟไหนึ่งผ่าว
ราถ่านดีจี่พริกหยิบฉีกยาว
บีบมะนาวจิ้มจ้ำน้ำปลาดอง

ก็อยู่กินดิ้นรนพ้นวันมื้อ
หลับทึดทือตื่นตัวหัวใจป่อง
เริ่มต่อสู้รู้งามตามครรลอง
กว่าแก่ม่องสูงวัยคงได้ดี

รพีกาญจน์


ประทับใจวาทะของนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรูด ปี 2545
"รอบ้านหลังสุดท้ายในชุมชนเป็นตึกเก่อน แล้วกระผมจะคิดสร้างสำนักงานหรู"
ขณะนั้น ใช้ห้องแถวไม้ชั้นเดียวเป็นที่ทำงาน ใช้รถซาเล้งเป็นรถประชาสัมพันธ์


หัวข้อ: Re: ตรวจเช้านี้ 150/90 มม.ปรอท
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 05 สิงหาคม 2016, 14:25:30

กินผลผักหมักนานใส่สารสี
สูบบุหรี่มีตรามวนยาฉุน
ดื่มเหล้าเบียร์เลียฟองดองเซี่ยงซุน
ดวดกระตุ้นเครื่องดื่มลืมอารมณ์

มักแดงดิบหยิบลาบเนื้ออาบเลือด
ของแห้งเหือดสะเดาเพลี้ยเจ่าขม
หมูสามชั้นมันคอครีมเนยนม
หรือนิยมชอกโกโดนัทพาย

หาบสาแหรกแบกหามยามแดดร้อน
โห่ดูบอลค่อนดึกคึกสุดสาย
เมียหน้างอต่อว่าด่าแม่ยาย
วัวทุรายตายซากซมตากยุง

เห็นพรายผีปีศาจขลาดไส้หด
วิ่งเข้าโบสถ์ไหว้สาสวดพาหุง
อิ่มห้ามื้อถือหมอนนอนเกาพุง
เบื่อการมุ้งยุ่งการเมืองเรื่องต่อยตี

ออกคำสั่งนั่งขดกดมือถือ
แสร้งซื่อบื้อเคร่งเครียดเกลียดทวงหนี้
อ้วนจุกปุกปากแข็งแรงโทษที
ออกกำลังตลอดปีไม่มีเลย

ทุกทุกข้อหมอคิดผิดทั้งนั้น
ที่ความดันสูงเสี่ยงเพียงเปิดเผย
มัวคลิกอ่านลานรมย์เงยก้มเงย
อีกอย่างเอยเพื่อนว่าเอ็งบ้ากลอน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เฮ้อ พลาดอีกตามเคย
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 01 กันยายน 2016, 21:29:11

สีเขียวแดงแบงก์ใบใช้ยางรัด
ม้วนเก็บยัดคับช่องร่องรูเสา
เหลือจ่ายค่าอาหารออมนานเนา
วันนี้เช้างัดแงะแกะทำทุน

คลี่ออกพับนับรวมห้าร้อยบาท
คิดหวังวาดฟูเฟื่องเรื่องล้อหมุน
มันเป็นปึกสุดท้ายหมายเบิกบุญ
เต็งโต๊ดลุ้นรางวัลฉันอยากรวย

ขูดตะเคียนเวียนร่างลูบคางคก
เครื่องบินตกดูหวีกาบปลีกล้วย
ผีวัดเก่าเต่าแต่งดอกแพงพวย
พ่อปู่ช่วยปลุกเสกขานเลขดัง

ชายแกร่งกล้าอาถรรพ์หมวกกันน็อค
ตำราล็อคท้ายหัวสองตัวหลัง
รถนายกฯบอกบ่งตรงอย่างจัง
เพ่งช้างพังติดหล่มหนักจมโคลน

รอดตายถมจมสิ้นแผ่นดินไหว
มหาภัยโยกย้ายดาวร้ายโหร
วางระเบิดปิดหน้าคาร์บอมบ์โจร
เขาเลี่ยนโล้นกี่หลังถูกพังทุบ

เบอร์ละสิบยี่สิบหยิบลงแผง
สามโมงแลงทีไรใจเต้นตุบ
พลาดอีกแล้วสิเราเมาจนยุบ
พรุ่งต้มซุปเปล่าเปล่าน้ำเต้าเกลือ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เฮ้อ ตีเองเจ็บเอง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 29 กันยายน 2016, 14:38:56

ไม่รักดีมีหน้ามาเขียนอีก
ถูกเขาฉีกอกอ้าว่าติฉิน
แสร้งหูพังบังตาหายลยิน
ก็ของกินโอชาข้าคือกลอน

แขม่วท้องจ้องพลางแอบข้างเสา
ถอนใจเบาเช้าเย็นเห็นสลอน
บ้างดูหนังฟังเพลงเร่งละคร
เชียร์ฟุตบอลแวบตนวนเว็บดัง

ทำไมนะละบ้านก่อนจารจด
ฤาบาทบทกร่อยจางสื้นลางขลัง
มุขงึมงำซ้ำซากจากจริงจัง
ปนเท็จบ้างสร้างหวังกำลังใจ

พอมีเคลื่อนเยือนย้อนซ่อนตัวอ่าน
ต่อกระดานลานเชื้อเพื่อลื่นไหล
จะย้ำผิดนิดชมขมอย่างไร
ยอมรับได้ไม่โกรธทอโทษเลย

ส่งสำเนียงเพียงหนึ่งวอนพึงหลาย
ร่วมระบายทุกข์ตรมสุขสมเผย
เพ้อตัดพ้อล้อเล่นดังเช่นเคย
ร้องเอิงเอยขันขำรำบนบาน

ไม่รักดีมีหน้ามาเขียนอีก
ถูกเขาฉีกอกแหว่งเลือดแดงฉาน
ท้อเพื่อนเมินหมางหมองไม่ข้องพาน
รพีกาญจน์คนหยาบขอกราบลา

ตั้งใจไว้ว่า ครบหกปีเลิกแต่งกลอนครับ



หัวข้อ: Re: ...วันนี้...ปวดหัวต่อ...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 20 ธันวาคม 2016, 20:31:50

เดินเซทรุดหงุดหงิดโทรติดต่อ
รนเฝ้ารอย่ำแย่ช่วยแก้ไข
เช็คซ่อมรื้อซื้อครบระบบไฟ
ท่าเท่าไรจดเย็นมิเห็นมา...

บอกตามคิวตามใครใดหลังก่อน
สู่ขั้นตอนนำส่งตรงหัวหน้า
อนุมัติชัดชอบมอบวาจา
คงเวลาเบิกจ่ายผ่านรายทาง...

ดึงชักรอกออกน้ำบ่อซัมเมิส
หมุนถอดเปิดแตะตรวจรวดเร็วช่าง
บริการงานรับนับสตางค์
บรรษัทห้างร่วมทุนหุ้นบวกแรง...

ต้นปลูกใหม่ใบอ่อนร้อนห่อเหี่ยว
แก่ใบเขียวเรียวรอบเริ่มกรอบแห้ง
หาบถังหิ้วลิ่วรดจดฟ้าแดง
ครึ่งค่อนแปลงร่วมร้อยค่อยว่ากัน...

หัวหนุนหมอนนอนแผ่กรนแน่นิ่ง
ลืมทุกสิ่งปุบปับหลับไร้ฝัน
ผิดจังหวะตะคริวนิ้วหดพลัน
ลุกถลันยันห้องร้องอย่างควาย...

หยิบสาแหรกแบกคานวานส่งหมวก
ตักแกงหยวกใส่หม้อไม่รอสาย
ออกจากบ้านหลานรักเอิ้นทักทาย
ตาสู้ตายเก็บไว้ตางค์ให้เอ็ง...

จ้า จ้า จ้า ตาไปละไอ้หนู...

รพีกาญจน์...






หัวข้อ: ...วันนี้...ปวดหัวต่อ...
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 21 มกราคม 2017, 20:41:27

รับสินจ้างรางวัลกำนัลนอบ
ยื่นมือยอบหน้าแดงแสร้งเบือนบิด
หลังร่วมก๊วนสรวลสันต์กันเนืองนิจ
ยิ่งใกล้ชิดลำบากยากแยกกาย

จะตั้งใจจำยอมคงค้อมหัว
ด้วยเกรงกลัวนายเหนือกลุ่มเครือข่าย
แค่ปิดปากดากหูอยู่สบาย
หรือแลกตายเปรี้ยงโป้งนอนโลงทอง

ชี้นกเห็นเป็นไก่ขานใช่เขา
เอ่ยอ้างเอาสิ่งชอบตอบสนอง
นานปีเดือนเงื่อนไขไร้ต่อรอง
แถมปกป้องวนเวียนเปลี่ยนข้อความ

ลืมปล่อยปละละเลยแสร้งเฉยแฉะ
อุบแบะแบะเงยง่วงเพื่อนทวงถาม
เมื่อหมดท่าตาจนพ่นคำราม
สร้างเรื่องลามสยบกลบไฟฟืน

ตัวกระจิดนิดแน่ปราดแส้ปราบ
ตัวใหญ่หยาบชูคอจ้อดาษดื่น
ปลิ้นสะดือมือผายส่ายก้นยืน
แสนขมขื่นย่อหย่อนผ่อนผันโทษ

ยื่นลาบถ้วยกล้วยหวีผีโม่แป้ง
รั้งตำแหน่งแบงก์บ่มสมประโยชน์
ได้จังหวะตะโพนโจนลิงโลด
เข้าสู่โหมดผับผับจับคืนดี

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เออ...เป็นงั้นไป
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2017, 21:05:27

ไร้รอยยิ้มพริ้มตาใบหน้าเศร้า
พูดแผ่วเบาไร้เสียงสำเนียงหวาน
แก้มเคยคลึงดึงด่อนปล่อยหย่อนยาน
จวนเนิ่นนานหันกลับขยับที

วูบผ่ายผอมซอมซมรวมอมโรค
สูงโย่งโยกโอนไหวหายใจถี่
ขาดอาหารสารยามาแรมปี
ซีดถอดสีกุมท้องร้องจามไอ

ผิดจังหวะคะมำหัวตำห้าง
ขวายันคางยืดอกยกหลังไหล่
เกาะกอดราวสาวลุกฉุกเร็วไว
ลื่นไถลเอนอิงพิงพะเพิง

ผ้าต่องปาดหยาดเหงื่ออาบเหนือคิ้ว
กางห้านิ้วเสยผมพันยุ่งเหยิง
ซ้ำสางสากหยากไย่ใยกระเจิง
ติดค้างเติ่งเกล็ดกรังรังแคคา

จัดเสื้อเตี่ยวเขียวเทาให้เข้าที่
ปัดผงคลีแขนเท้าให้เข้าท่า
คีบเกิบยางบางเบาดูเข้าตา
เหวี่ยงคล้องบ่าสะพายย่ามลายทอ

ไร้ปริบ่นทนฝืนยืนหยัดร่าง
คงเดินทางนัดเช้าเฝ้าท่าหมอ
ถึงโรงกลั่นควันลอยไม่คอยรอ
แบมือขอเหล้าจอกกรอกปากกิน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: สัญญาให้ไว้ยังจำ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 03 เมษายน 2017, 21:15:06

ช่วงหน้าร้อนนอนเถียงตะเกียงก๊าซ
หรี่แสงสาดไส้ส่องทั่วห้องหับ
จะแขวนขื่อหรือเสาเงาวาววับ
มือขวาจับซ้ายบังหลังใช้วาง

อยู่บ้านนอกขอกนาชายป่าเขา
คืนนอนเฝ้าท้องทุ่งจนรุ่งสาง
บึ่งสองล้อมอไซค์ไปสุดทาง
ลาดลงล่างตมต่ำน้ำขังคา

ผ่านคดเคี้ยวเลี้ยวรอบห่างขอบเหว
ฝ่าเปรี้ยงเปลวเผาผงร้อยองศา
ไต่สูงชันปั่นป่ายส่ายไปมา
ลื่นหินผาขายันคันเอนเอียง

รู้ผ่อนเร่งเกร็งตัวกลัวพลาดเผลอ
ครั้นมองเหม่อเสียหลักหักเฉเฉียง
สัมภาระกระจายกองรายเรียง
ล้วนเสบียงก้มเก็บเหน็บกล่องกำ

สำหรับปรุงหุงหาคืออาหาร
อิ่มมื้อทานพอเพียงเช้าเที่ยงค่ำ
ปลาแห้งจี่จ้ำจิกพริกโขลกตำ
ตักตวงน้ำดูดดื่มบ่อซึมทราย

ช่วงหน้าร้อนนอนเถียงไร้เตียงเสื่อ
ตะเกียงเรื่อส่องไกลฉวยไฟฉาย
เฝ้าลำไยใกล้สุกลูกมากมาย
เสร็จสรรพขายแบงก์ใบปันให้เธอ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ช้าเป็นการ นานเป็นโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 13 มิถุนายน 2017, 20:55:28

ใช่ปุบปับจับทานเป็นดานด่อน
รวมกลุ่มก้อนนอนนิ่งนานยิ่งแน่น
ลิ่มขัดลำน้ำยากแทรกกากแกน
พุ่งไหลแล่นกระฉอกพ้นออกปลาย

นับคืนวันบรรลุอายุขัย
ปฐมวัยกำเกาะเตาะแตะส่าย
ย่างเข้าสู่ปู่ตาหรือย่ายาย
จนสุดท้ายวายวางร่างไม่มี

ช่วงจีรังยังเป็นอยู่เย็นสุข
แสนสนุกกับการทานล้นปรี่
มิคำนึงถึงโทษประโยชน์ดี
ผงธุลีเถ้าทุ่นขุ่นขลักจม

นุ่มเด้งดูกถูกปากอยากหยิบยัด
จางรสจัดกัดกรอดแท่งทอดต้ม
แกงนรกหมกเตาเป่าควันรม
ลาบหลู้ขมข้นจี่หัวดีเพลี้ย

ตักน้ำคลองกรองผ่านทรายถ่านกรวด
น้ำจุขวดแสงใสไร้ตังค์เสีย
คลุกดำคราบอาบดินดื่มลิ้นเลีย
ซดเหล้าเบียร์เปลือกถากรากดองยา

ใช่ปุบปับจับจี้บี้สึกกร่อน
แข็งนวดอ่อนละลายง่ายเช่นว่า
ดันขับเคลื่อนเลื่อนล่างยังค้างคา
หมอต้องผ่าลงมีดคมกรีดไต

เพื่อนบอกว่าเป็นนิ่วครับ

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: บรรยากาศพิกล
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2017, 20:46:27

บรรยากาศดีดีช่วงมีอยู่
เพียงครั้งครู่ชั่วพักสักประเดี๋ยว
อาจถูกลบกลบเดิมเพิ่มซบเซียว
ต้องยาเยียวฉับพลันจึ่งบรรเทา

ความจำเป็นเข็นส่งเข้าโรงหมอ
เรียกรถหวอขอทางครั้งแล้วครั้งเล่า
ตรวจอาการขานซักชี้หนักเบา
ก็โรคเก่าเยี่ยมเยือนเตือนชรา

นั่งปวดจุกลุกโอยโกยกุกกัก
กินอึกอักติดคอลมรอท่า
กระดูกผุทุรนต้นแขนชา
ยกแข้งขาเป๋ไปล่ไร้กำลัง

เชื้อร้ายแรงลุกลามแทรกลำไส้
ต่อมตับไตถุงถันถึงสันหลัง
ม้ามฮอร์โมนโหนฮอดปอดเรื้อรัง
ยาฝรั่งยาไทยใช้ระงับ

เกินยั้งหยุดฉุดลากยากรักษา
เผยมีดผ่าสกัดเฉือนตัดฉับ
บ้างหายสิ้นยินดีผีไม่รับ
บ้างดวงดับจับขอนนิ่งนอนโลง

บรรยากาศดีดีมีไหมหนอ
พ้นถอยท้อพอรอดสู่ปลอดโปร่ง
เดือนปีเดินเนิ่นนานผ่านเชื่อมโยง
วนในโอ่งเกิดแก่แลเจ็บตาย

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ชาวสวน พ่อค้า ผู้กิน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 31 กรกฎาคม 2017, 15:22:22

เป็นเช่นนี้มีมาแต่คราไหน
ขายผลไปให้หลังเอาตังค์หมุน
เคลียร์หนี้สินกินกำเหลือทำทุน
ส่งเจ้าคุณ ธ.ก.ส. รอกู้เติม

บ้างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยมัวฟื้นตัวช้า
พักผ่อนห้าหกวันหันฮึกเหิม
ปรับสภาพต้นใบให้เหมือนเดิม
แร่ธาตุเสริมดินพร่องพืชต้องการ

รวมกลุ่มกะประดิษฐ์คิดปรุงแต่ง
ลองพลิกแพลงถนอมห้อมอาหาร
ตาก อบ รม บ่มยืดอายุนาน
แกะเปลือกคว้านจุซองกระป๋องภัณฑ์

จะขายสดขายแห้งหรือแปลงรูป
น่าจับจูบลูบไล้อยากใจสั่น
เป็นของฝากจากใครให้แก่กัน
เป็นของขวัญวันผูกปลูกไมตรี

หาพ้นเชื่อมเอื้อมมือคือพ่อค้า
จะปิดตราจางเค็มซดเต็มที่
ร่วมกำหนดกดเขกเลขทั้งปี
ล็อคบัญชีงบดุลย์ทุนกำไร

พ่อค้าทราบปริมาณการผลิต
ทราบชนิดมากขาดความเคลื่อนไหว
คุณภาพทราบแสดงแหล่งเกรดใด
กด(ราคา)ลำไยขื่นขมตรมน้ำตา

ลำไยซื้อจากชาวสวน รมกำมะถัน บวกกำไร
ขายส่งให้พ่อค้าปลายทางกรุงเทพๆ บวกกำไร
ขายให้พ่อค้าปลีกๆ บวกกำไร ขายให้ผู้ซื้อกิน
ด้วยเหตุฉะนี้แล ชาวสวนทำทั้งปีแทบไม่มีกำไร
พ่อค้าคนกลางกำหนดราคาได้กำไรเป็นรายวัน
ผู้ซื้อกินควักจ่ายราคาแพง เกรดAAมักส่งนอก

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: จะไหวไหมหนอเรา?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 23 สิงหาคม 2017, 21:40:10

ใช่หลงหรือถือโตโอ้อวดแน่
อายุแก่เท่าใครวัยวุฒิสูง
เทียบคุณค่ากากกยางนกยูง
ฉากออกฝูงล่องลมก่องก้มคอ

อมแก้มปูดพูดยากลำบากยิ่ง
ฟันกรามทิ้งบนล่างไม่เหลือหลอ
เดินสวนชิดสนิทยิ้มนิ่มนิดพอ
สาวเท้าต่อพาลำเร่งอำลา

เขาอู้เอิ้นเผินผินยังยินชัด
เสียงวิบัติปัดเปลี่ยนแปลงเพี้ยนพร่า
เขาว่าไข่ใช่ไก่ไยเป็นยา
เพ่งปากตาผสานภาษามือ

จริยปฎิบัติจัดรวมกลุ่ม
เชิญประชุมร่างลอกตอกหนังสือ
สิ่งล้ำลึกปรึกษาขอหารือ
โฆษกสื่อข่าวสารงานพิธี

ครบวาระกะออกแจ้งบอกเลิก
เอิกเกริกจุดไหนรีบไกลหนี
หยุดพร่ำบ่นสนทนาท่องพาที
สวดสัพพีขมุบหมิบหยิบต้นปลาย

อาจหลบเร้นเว้นวุ่นอย่างคุณคิด
ใช่ละมิตรลืมเพื่อนเลือนสหาย
ภาพชแรแก่ชราปรากฏกาย
จำโยกย้ายอี๋อ๋อหมอพยาบาล

เดือนนี้หมอนัดพบ 6 วัน คือ วันที่ 4 7 19 23 25 28

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: รู้นะแกจะดื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 12 ตุลาคม 2017, 09:45:04

แย่งญาติเกิดก่อนใครทำไมเล่า
ปุบปับเฒ่าเก่ากรังขับสังขาร
ช่วงยามหนุ่มยุ่มยับอยู่กับงาน
ขาดอาหารการกินเขียมสิ้นดี

เบื่อคบค้าปรารมภ์ยิ้มชมชอบ
เบื่อกฎกรอบหอบกรวยกลิ่นสวยสี
แต่ดูหนังฟังเพลงกลองเส็งตี
เพ็ญเดือนยี่ปี่โหมปล่อยโคมไฟ

เกิดเดือนสี่ปีวัวไม่กลัวร้อน
แบกจอบงอนคอนกล้าสู่นาไร่
ลงลุยน้ำย่ำโคลนกระโจนไป
ข้ามคลองไต่ไม้แก่นบนแผ่นปู

ท่ามกลางแดดแผดแผลงลมแรงพัด
ฝนสาดซัดสะเด็นเยือกเย็นสู้
ฝ่าหมอกขาวหนาวร่างหลายฤดู
เด็กเรียกปู่หนู(เรียก)ลุงสะดุ้งโหยง

ส่องกระจกตกใจลั่นไอ้หยา
นั่นใครหวาหน้าคล้ายผีพรายโหง
สองแก้มตอบปอบแปลงภูตเปรตโพง
ใกล้เข้าโลงล่วงลับนิ้วนับมื้อ

ชิงญาติเกิดก่อนใครไยทำเล่า
ถึงแก่เฒ่าเนานานด้านและทื่อ
ไม่ยอมผ่อนอ่อนงามตามเขาลือ
จะแสร้งดื้อดึงดันกันถึงไหน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ชีวิต...แค่นี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 08 พฤศจิกายน 2017, 20:32:25

ปู่เมตตาย่าให้ไหดำเคลือบ
รักษาเกือบเก้าปีดูดีหม่น
เก็บตั้งชิดติดชานนานแสนทน
กรอกเกลือป่นเกลือกปลาร้าหมักดอง

คดถอกรินกินบ้างแบ่งบ้างขาย
เงินเหลือจ่ายจัดออมจ่อมกระป๋อง
ซื้อรถถีบจีบหญิงดีดติงตอง
ปั่นขึ้นกองล่องกองร้องเฮฮา

เกิดอาเพศเหตุมีเมื่อปีก่อน
ดินลุ่มดอนร้อนรุดสุดพรรษา
ลมฝนแล้งแอ่งอ่างว่างหนองนา
เสาะกุ้งปลาหารูปูไม่มี

น้ำค่อนขอดตลอดสายปลาตายหมด
ข้ารันทดอดข้าวหุงซาวสี
หมดผักไม้ใยเยื่อเครือดอกปลี
แมงกุดจี่แกงจิคั่วกินูน

นั่งกอดเข่าเฝ้าเถียงฟังเสียงฟ้า
ฝนซัดซ่าป่าราบเรือนสาปสูญ
ท่วมพืชผลต้นล้มจมอาดูร
ซากเน่าพูนน้ำลงคงอาลัย

ยังไม่สิ้นกินแกะแคะกระป๋อง
เทเหรียญกองกะตำน้ำพริกไข่
บีบมะนาวข้าวปั้นเปิบกันไป
เตรียมล้างไหในนอกออกหาปลา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: พูดอย่างงี้ใช่ตายรึ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2017, 21:14:46

บ้างคะนองครองคิดติดตลก
บ่วิตกตายเน่าฝังเผาผง
ณ มื้อนี้มีกินดินอยู่ยง
แลงกรึ๊บก๊งสุราพาเพลินใจ

หมื่นแสนสุขตุ๊กตานั่งหน้ารถ
สิบโอสถดมดอมหอมแค่ไหน
มิเทียบแก้มแย้มผ่องน้องนวลใย
ตายเมื่อใดเฉยเฉยมิเคยแคร์

เดินตัวเบาเป๋าตุงเหน็บถุงอัฐ
แถมพกบัตรคนจนบัตรคนแก่
ร้านเจ๊กตงธงฟ้าหาเหลียวแล
จอดชอปแช่อินเทร็นด์เย็นบิ๊กซี

นั่งเชียร์บอลค่อนคืนตื่นสางสาย
ดื่มก่อนงายกาแฟแก่ขมปี๋
สาวนั่งด้วยสวยซึ้งตรึงฤดี
เจ็ดสิบปียังหนุ่มกระชุ่มกระชวย

คิดบวกลบครบร้อยค่อยเข้าวัด
เป่าปลัดปัดเสกเพ่งเลขหวย
ให้เช่ากลองฆ้องโมงโป้งแล้วรวย
ดวงชวดซวยพ้นหลืบสืบชะตา

บ้างคะนองครองคิดติดขบขัน
ซี่ช่างมันขอให้หายใจถ้า-
กินข้าวลำน้ำลงร่วมวงฮา
แรงอย่างม้าวิ่งจี๋ เท่านี้พอ

รพีกาญจน์

แลง - ค่ำ  งาย - เช้า  ลำ - อร่อย





หัวข้อ: Re: วันวันทำอะไรบ้างนะ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 30 ธันวาคม 2017, 20:22:00

กำหนดสุขยุคยามตามประสา
ชายชราขี้ลืมดื่มเกษียร
หลบทุกโขโรคามาวนเวียน
บางครั้งเพี้ยนเคลื่อนคล้องพ้องครื้นเครง

เพียรสงบจบจำทำวัตรเช้า
นั่งหน้าเตาเป่าไฟจ้องไหเพ่ง
ข้าวปลาสุกลุกพลันบิบรรเลง
แก้มพองเป่งเคี้ยวเอื้องเครื่องในครัว

ตะวันโด่งโกงโก้โร่ไปสวน
จ้างสับพรวนดินดานดูหว่านถั่ว
บ่ายอบอ้าวหาวหอนตาหม่อนมัว
จึงทอดตัวนอนเถียงคายเมี่ยงอม

ฝันตุตะสะดุ้งยุงกัดก้น
ตะวันพ้นดอยดงจิ้งก่งขรม
เย็นสยิวผิวกายต้องสายลม
เปล่าติดตมเว้นอาบคาบค่ำนี้

ปีเก่าล่วงบวงพ่อยกยอเจ้า
ประเคนเหล้าฟ้อนฟายขันบายศรี
ช่ะช่ะช่าคาลิปโซ่โด่เรมี
เคล้าเสียงปี่แอ่อี๊แออ่ออี๊ออ

แสวงสุขยุคยามตามประสา
เพราะชราวิ่งวุ่นคบคุณหมอ
รักว่องไวไร้ชังหวังเคลียคลอ
เอาเกียรติของสอวอขอประกัน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: โรคที่รักษายาก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2018, 14:36:49

ยิ้มหน้าซื่อถือขวดปากอวดอ้า
แนะนำยาผีบอกใช่หลอกขาย
ผ่านทดลองของดีมีมากราย
เป็นนิดหายหนักครางลงบางเบา

เช่นมะโหกโจ้กโลนตาโปนปูด
ตุ่มหิดหูดผุดขึ้นผื่นเห็บเหา
ยุงแลเหลือบริ้นไรไต่กัดเกา
เพียงเขย่าขวดแกะนิ้วแตะทา

ข้อบวมเก๊าท์เบาหวานน้ำตาลลด
เข่างอคดอ่อนแรงลากแข้งขา
ลุกโอดโอยโกยเก็บสั่นเหน็บชา
สามเวลาบดผงชงน้ำกิน

ปวดตับไตไขมันความดันต่ำ
บ่จดจำเงินยืมลืมคืนสิ้น
ท้องผูกร่วงเรื่อยมาเป็นอาจิณ
ต้มหม้อดินรินแค่นดื่มแทนน้ำ

เห็นสาวรุ่นหุ่นใสไอค้อกแค้ก
ซึมเปลี่ยนแปลกจ้องนานตาหวานฉ่ำ
ถามอะไรได้ข้ออ๋อตอบคำ
ไม้รำกำเคาะโขกโรคหายชัวร์

ซักผ้ากองห้องน้ำล้างชำระ
กวาดขยะปฏิกูลแม่ทูนหัว
สั่งยกหม้อก่อไฟขลุกในครัว
โรคเกียมัวเกิดใครหมอไร้ยา

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ท่านคิดจะกู้ไหมหนอ?
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 09 มีนาคม 2018, 21:13:55

ปลิดส้มจุกปลูกมันหลายพรรษา
พอเน็ตมาอยากรุ่งเข้ากรุงศรี
มโนนึกคึกคักนักกวี
โก้เก๋ดีใฝ่ฝันเป็นจันทร์ดาว

อาศัยโหมห่าเห้ลิเกเก่า
ร้องเพลงเฝ้าลุ่มหลงรำวงสาว
ท่องนักธรรมฮ่ำจ๊อยร้อยสิบซาว
กลอนสั้นยาวไม่ยากลำบากจาร

ม้วนผ้าต่องของใช้ใส่ถุงปุ๋ย
พาดบ่าลุยละนาลาถิ่นฐาน
ทิ้งพ่อแก่แลหมูอยู่กลางลาน
โปรยอาหารเป็ดไก่ไล่เลี้ยงควาย

โดดกระโจนโหนทันรถบรรทุก
ลงตุ๊กตุ๊กขึ้นเมล์เร่สุดสาย
ต่อรถไวไฟฟ้าหูตาลาย
ถึงจุดหมายสมัครพักบ้านกลอน

มือกราบกรานท่านท้าวที่เคารพ
น้อมนักรบรูปงามนามกระฉ่อน
หากผิดพลั้งครั้งคราอย่าตัดรอน
ผมหละอ่อนต่อนแต่นจากแดนไกล

สู้อุตส่าห์บ้าแต่งแข่งวันที่
กว่าเจ็ดปีคงมั่นบ่หวั่นไหว
จนกระทั่งดั่งฟ้าผ่าดวงใจ
กลอนหายไปเว็บล่มจมน้ำตา

เก็บกลอนไม่เป็น หายไปกว่าครึ่ง

รพีกาญจน์




หัวข้อ: Re: สุดที่รัก
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 11 พฤษภาคม 2018, 21:08:41

โลมหนังเนื้อเหงื่อไคลไหลชุ่มโชก
เปียกนูนโหนกโบกเบ้าเว้าแหว่งบ่าย
เสมอจดคดโค้งโก่งเรียวปลาย
งอแยกซ้ายศอกขวาวานวลเนียน

นุ่มน่าจูบลูบไล้กดไต่เต้า
แก้มบางเบาเงาผิวปราศสิวเสี้ยน
ไร้รอยต่อคอกลมกลึงวนเวียน
เอวคอดเคียนคาดผ้าท่าจัดแจง

ตาคมขำดำวาวเรื่อราวคิ้ว
สยายพลิ้วผมเผ้ารัดเกล้าแต่ง
ปากกระจับงับอ้าริมทาแดง
ก้นกวัดแกว่งก้าวเดินเจริญรมย์

ปลูกผลผักตักน้ำทำอาหาร
ยืนนั่งนานพล่านผึงนึ่งขนม
เลยคาบมื้อดื้อยาชราซม
เรื่อยทับถมจมโรคเชื้อโขกรุม

สังเกตย่างร่างไหวหายใจหอบ
สองแก้มตอบเต็มหน้าฝ้าปานตุ่ม
มือยันเข่าเท้าพื้นลื่นเกาะกุม
ลืมแว่นสุ่มเสาะของต้องควานคลำ

หนังหุ้มเนื้อเหลือยับพับหดหู่
ยังยิ้มสู้ชะตาคราตกต่ำ
ปรับปรุงสวนเช้าสายขายของชำ
กอดน้องพร่ำคำพี่...สุดที่รัก

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ยกองค์ทรงเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 12 มิถุนายน 2018, 12:33:10

สวมเสื้อผ้าแพรพรรณมันละเลื่อม
คลากระเพื่อมเอื้อมอ่อนสะท้อนไหว
พอกหน้าขาวคิ้วก่งวงนอกใน
พิ้มพิไลริมปากลากลิปแดง

สวมสร้อยแก้วโกเมนหลายเส้นสวย
ประดับมวยมุ่นผมเพชรส่องแสง
สองข้อมือคือคำกำไลแพง
สะพายแล่งแต่งเกร็ดเม็ดจินดา

ยามเยื้องย่างร่างรำทำเฉพาะ
เงยแหงนเหาะเหินไต่พุ่มไหว้สา
แลเลิกคิ้วนิ้วดัดทัศนา
พ้องลีลาลงบาทมิขาดตอน

อวดอ่าองค์ทรงจ้าวท้าวสักกะ
หมื่นขุนพระพักพิงครองสิงขร
หรือมุนีชีพราหมณ์คามสัญจร
ข้ามอุดรดอยดำน้ำทะเล

สวมโสร่งโจงกระเบนเป็นปู่ยักษ์
คอยพิทักษ์รักร่างมิห่างเห
คุ้นฉิ่งฉับกรับกลองร้องลิเก
หวัวฮาเฮฮิ้วหวานกุมารชาย

อย่าแบ่งฝูงสูงเทพเสพกษัตร
เลิกจำกัดสัดส่วนควรคั่นหมาย
เอาแบบอย่างวางงามตามสบาย
เพื่อสืบสายสากลประพนธ์พันธ์

รพีกาญจน์





หัวข้อ: Re: เคยเป็นมาหลายอย่าง ลองเป็นตัวนี้บ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 18 กรกฎาคม 2018, 22:02:59

เขาเห็นข้าหน้าแดงเลือดแรงข้น
ดังไก่ชนคนดงคงเก่งกล้า
ทรหดอดนักท่องมรรคา
พ้องลีลาร่อนเร่เฮร่วมงาน

ชวนกระเซ้าเย้าแหย่แส่ทุกเรื่อง
ผิดนองเนืองเปลืองคำขมาขาน
ความก่อนเก่าเผากลบกลับคลี่บาน
คนรำคาญต้านเบือเหลือละอาย

น่ามอบโล่โชว์วิ่งกระทิงดุ
ขวิดทะลุยุดันฟันสลาย
มิคำนึงถึงทัณฑ์อันตราย
เหล่าสหายทายว่าเริ่มบ้าบอ

บางครั้งรื่นชื่นชมชอบดมสูด
บีบเสียงพูดเพ้อพร่ำน้ำลายสอ
ฝากคิดถึงซึ้งทรวงห่วงทักทอ
วิงวอนขอออเจ้าเข้าฝันดี

ถูกตำหนิติเตือนเบือนเหม็นโฉ่
บ้างอวดโอ่โก้เก๋ก่องเกียรติศรี
ดูแลบอร์ดฉอดฉอจ้อวาที
ขึ้นแท่นที่เทียบเท่าเฝ้าสำนัก

เป็นวัวลายควายดินนกบินปร๋อ
กบในบ่อล่อลาคาประตัก
ลองเป็นไก่ในบ่อนออดอ้อนรัก
ทำคึกคักเคาะกลอนว่อนกระดาน

เขียนแบบสนุกๆไม่มีนยอันใด

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: วันนี้ไม่มีกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 26 สิงหาคม 2018, 21:36:06

ตื่นเร็วเถิดเปิดบ้านร้านขายของ
ลูกค้าร้องกวักมือขอซื้อขาย
เครื่องปรุงรสหยดหย่อนก้อนละลาย
น้ำตาลทรายไมโลโอวัลติน

นมกล่องชากาแฟเย็นแช่พร้อม
ขวดดื่มย้อมพลังเมาคั่งกลิ่น
ผักกาดดองของยำตำต้มริน
วิตะมินปนเกลือเจือหวานชง

ห่อวุ้นเส้นสั้นตัดวิมขัดถาน
ภัณฑ์ล้างจานแชมพูสบู่ผง-
ซักเสื้อสางบางหนาผ้านุ่มลง
รีดเรียบคงอัดกลีบจีบเฟื้อยคม

ธูปเทียนดำกำยานกราบกรานพระ
เด็กเอะอะเลือกรื้อถือขนม
บาล์มหมากหอมดอมฟอดหลอดยาดม
เจ็บคอขมข้อขัดจามหวัดไอ

มาพร้อมกันทันทีสั่งรี่เร่ง
อลเวงยืนเซ่อบ้าเบลอใส่
หลายครั้งรับนังตังค์พลั้งผิดไป
เหลือกำไรพออิ่มยิ้มยาเยียว

สายจัดของพร่องเพิ่มเติมที่ขาด
เหงื่อไหลหยาดแบกส่งลงข้าวเหนียว
บ่ายรอบต้นพ่นยาหน้าซีดเซียว
บอกคำเดียววันนี้ไม่มีกลอน

รพีกาญจน์





หัวข้อ: Re: ไปปักกิ่ง
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 02 ตุลาคม 2018, 21:00:37

ฟ้ามืดครื้มซึมเศร้าเล้าเมฆฝน
ปลายกิ่งสนสะบัดกวัดแกว่งไหว
โบกลาลานบ้านเรือนเยือนแดนไกล
ม่านแมกไม้หม่นดำแว่วคร่ำครวญ

รวบรวมแพ็กแบกนำสัมภาระ
เดินตุตะอ่อนแรงรถแซงสวน
ฟ้าพยับพรับพริ้มเช่นยิ้มชวน
ลมเหหวนม้วนหมุนฝุ่นกระจาย

ทุกคืบก้าวหนาวจัดยืนหยัดร่าง
บนเส้นทางเร่งรุดสู่จุดหมาย
 กรำห่าฝนทนสั่นมิหวั่นวาย
ลุยช่วงร้ายแดดไล่ไอร้อนรม

ถูกหนามเหนี่ยวเกี่ยวหนังพลั้งสะดุ้ง
เข้าท้องทุ่งกระถินเทศกลิ่นฉม
ลุ่มฉ่ำเลนเว้นว่างห่างแก่งตม
ย่ำขย่มกระดานพาดผ่านคลอง

สูดผ่อนคลายหายใจได้จังหวะ
พ้นขรุขระข้ามสันตะวันส่อง
ราวครึ่งลี้ลิบลับจับแว่นมอง
แค่ครางร้องเพลงหนึ่งถึงไร่รัก

มิรั้งรอต่อไปใช้จอบปรับ
ง้างดินกลับสับยุ่ยลงปุ๋ยหมัก
น้ำพ่นพื้นชื้นแฉะและรอพัก
กำกิ่งปักปลูกเฉียงเรียงชะอม

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: เรื่องหมูหมู
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ วันที่ 14 มกราคม 2019, 20:30:57

ย้อนเห็นหมูอยู่ขังคนบังคับ
กรงแคบหับพอตัวหัวจดหาง
ราวเหล็กกั้นปันแดนแหงนคอคาง
สูงบนล่างแค่เมตรเขตยืนนอน

ให้น้ำท่าอาหารสารผสม
เปิดพัดลมอบอ้าวไอผ่าวผ่อน
คราหมอบฝันบรรเลงเพลงกล่อมกลอน
แสงนีออนคืนคุ้นเย็นอุ่นกาย

เป็นปัจจัยใยโยงถึงโครงสร้าง
เสริมเรือนร่างสัดส่วนควรขยาย
เร่งหนังเน้นเส้นเยื่อเนื้อมากมาย
โตจับขายขึ้นเขียงปรุงเลี้ยงคาว

ต่างกับหมูอยู่คอกไม้ตอกมัด
เลยสายจัดไส้กิ่วร้องหิวข้าว
ขุดดินดอนนอนเกลือกวนเชือกยาว
บางตัวห้าวกล้าออกพ้นนอกคาม

วิ่งโลดเล่นเพ่นพ่านบนลานไล่
ปนเป็ดไก่ลุยลัดตัดสนาม
กินผักขมต้มหยวกลวกรำตาม
ไร้โมงยามลุกขยับหลับเสรี

หากเป็นหมูรู้คิดรักสิทธิ์เลือก
ใหม่แต่เปลือกปลอมบทกางกดขี่
หรือแบบเก่าเนานานโลกล้านปี
ไหนจะดีสนุกสุขเฮฮา

รพีกาญจน์