เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย => การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ => ข้อความที่เริ่มโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 20:49:39



หัวข้อ: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 20:49:39
เชิญทุกท่าน เข้ามาร่วมแชร์ความรู้ และประสบการณ์ เกี่ยวกับเรื่องยางพารากันหน่อยค๊าบบ ;D


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 20:52:53
ประเดิมด้วยการเพาะเมล็ดยางพาราเลยละกันนะครับ ;)
คัยเคยมีประสบการณ์การเพาะเมล็ดยางพารากันบ้างคร๊าบบ
แวะมาแชร์กันหน่อยเร้ววว :D


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ปัญญาวุฒิ ที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 22:09:40

ตามด้วยคำถามว่า ต้นยาง ห้าปี ควรจะโต สักกี่นิ้ว กี่เซนต์???? ;D


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: หล่อเล็ก ที่ วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 04:49:57
สงสัยภาพแรก จอกยางไส ๆ  ทำด้วยอะไรครับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 18 สิงหาคม 2011, 07:04:47
การเพาะเมล็ดยางพารา
สามารถปลูกได้หลายวิธีทั้งจากเมล็ดสด  เมล็ดงอก  ต้นกล้า  2  ใบ  และต้นกล้าสีน้ำตาล  แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ  เมล็ดงอกและเมล็ดสด
                                                                                
ไม่แนะนำให้เกษตรกรเจ้าของสวนยางขนาดเล็กใช้ เมล็ดสดสร้างแปลงกล้ายาง  เนื่องจากสิ้นเปลืองเมล็ดยางมาก  แต่ถ้าทำเป็นการค้าหรือทำเป็นแปลงขนาดใหญ่ๆ  การใช้เมล็ดสดสร้างแปลงกล้ายางจะสะดวกกว่า  ทุ่นแรงงาน  และทุ่นเวลากว่าการใช้เมล็ดงอกมาก  ส่วนต้นกล้า  2  ใบ  จะใช้เฉพาะการปลูกซ่อมเมื่อเมล็ดหมดเท่านั้น  สำหรับกล้าสีน้ำตาลไม่นิยมใช้กัน
ข้อดีของการสร้างแปลงกล้ายางโดยใช้เมล็ดงอกหรือเมล็ดสด  คือ
                1.  ไม่เกิดความเสียหายต่อระบบรากอันอาจจะเป็นผลกระทบถึงการเจริญเติบโตของต้นกล้ายาง
                2.  เมล็ดยางมีอาหารสะสมอยู่ภายในอย่างเพียงพอที่จะทำให้ต้นยางเจริญเติบโตและแข็งแรง
                3.  ต้นกล้ายางเจริญเติบโตสม่ำเสมอกัน
                4.  เมื่อนำเมล็ดไปปลูกในแปลงจะมีความเสียหายน้อยมาก
                5.  ต้นกล้ายางโตเร็ว  ทำให้สามารถติดตาได้เร็ว  มีผลต่อเนื่องทำให้ต้นยางโตได้ขนาดกรีดเร็วขึ้น
ระยะปลูก
                ระยะปลูกสำหรับแปลงกล้าที่ เหมาะสมคือ  ระยะระหว่างต้น  15  ซม.  และ  ระยะระหว่างแถว  70  ซม.  การปลูกแบบนี้  1  ไร่  จะได้ต้นยางประมาณ  15,000  ต้น  แต่ถ้าปลูกแบบคู่โดยใช้ระยะระหว่างต้น  ระหว่างแถว  และระหว่างแถวคู่  20 x 30 x 60  ซม.  ในเนื้อที่  1  ไร่  จะปลูกยางได้ประมาณ  16,000  ต้น
 วิธีปลูก
                1.  โดยใช้เมล็ดสดปลูก  วิธีนี้ใช้เมล็ดยางที่เก็บได้จากสวน  ไปปลูกในแปลงที่เตรียมไว้โดยตรงโดยใช้เมล็ดสดเรียงเป็นแถว  ตามแนวที่ได้เตรียมไว้แล้ว  พยายามให้ด้านแบนของเมล็ดคว่ำลงให้มากที่สุด  กดเมล็ดให้จมลงในดินเล็กน้อย  กลบดินบางๆก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการปลูก  ซึ่งง่ายและสะดวกกว่าการปลูกด้วยเมล็ดงอกมาก  แต่มีข้อเสียคือ  ต้นยางโตไม่สม่ำเสมอ  และต้องติดตาหลายรอบ

                                                                                   
                                                                                       ลักษณะการคว่ำเมล็ด
                        2.  โดยใช้เมล็ดงอกปลูก  วิธีนี้ยุ่งยากกว่าวิธีการใช้เมล็ดสดปลูก  เพราะต้องนำเมล็ดยางสดมาเพาะในแปลงเพาะเสียก่อน  จากนั้นจึงค่อยๆ คัดเลือกเมล็ดที่งอกแล้วไปปลูกในแปลงกล้าต่อไป  แต่ผลที่ได้คือต้นยางที่มีขนาดสม่ำเสมอ  ทำให้สะดวกในการติดตา  การเพาะเมล็ดทำได้โดย
                                2.1  เลือกทำเลสำหรับเพาะเมล็ด  ซึ่งวิธีการเลือกพื้นที่เพาะเมล็ดนั้น  ยึดหลักเดียวกันกับการเลือกพื้นที่สร้างแปลงกล้ายาง
                               
2.2  เตรียมแปลงเพาะเมล็ด  โดย
                                                1.  ขุดดินให้ลึกประมาณ  20  ซม.
                                                2.  พรวน  และเก็บเศษวัชพืช  รากไม้ ฯลฯ  ออกให้หมด
                                                3. ยกแปลงกว้าง  1  เมตร  สูง  15 – 20  ซม.  ยาวตามความเหมาะสม
                                4.  ใส่ทรายหรือขี้เลื่อยลงไปบนแปลง  เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน
                                แปลงเพาะอาจจะทำในระหว่างแถวยางใหญ่ก็ได้  และไม่จำเป็นต้องทำร่มกันแดดให้แปลงเพาะ  แต่ถ้าทำในที่โล่งแจ้งจะต้องทำเพิงคลุมแปลงเพาะให้ร่ม
                                2.3 เลือกเมล็ดสำหรับเพาะ เพื่อให้ได้เมล็ดที่สมบูรณ์และมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง  ควรเก็บเมล็ดยางจากต้นยางที่สมบูรณ์และเลือกเก็บเมล็ดที่หล่นจากต้นใหม่ๆ  รีบนำไปเพาะทันที  เพราะเมล็ดยางจะมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมากหลังจากร่วงหล่นมาใหม่ๆ  เท่านั้น  หลังจากนั้นเปอร์เซ็นต์ความงอกจะลดลงทุกวัน  วันละ  4 – 5 %
                                2.4  วิธีเพาะ
                                                - จัดเรียงเมล็ดบนแปลงเพาะโดยเกลี่ยให้สม่ำเสมอ  คว่ำเมล็ดยางเอาด้านแบนลงและกดเบาๆ  ให้ทรายหรือขี้เลื่อยกลบทับแปลงเพาะ  1  ตารางเมตร  จะใช้เมล็ดประมาณ 1,000  เมล็ด
                                                -  รดน้ำทุกวัน  เช้า – เย็น
                                2.5  การเก็บเมล็ดงอก
                                   -  หลังจากเพาะประมาณ  5  วัน  เมล็ดจะเริ่มงอกโดยมีปุ่มรากสีขาวโผล่ออกมา
                                   -  ตรวจเก็บเมล็ดงอกทุกวัน  เพื่อนำไปปลูก  เมล็ดงอกที่เหมาะสมที่จะนำไปปลูกควรมีรากโผล่ออกมาขนาดเท่าหัวไม้ขีด
                                  -  เมื่อเก็บเมล็ดงอกในแต่ละวันหมดแล้ว  รดน้ำเมล็ดที่เหลือในแปลงเพาะเช่นเดิมเพื่อช่วยให้เมล็ดที่เหลืออยู่งอกต่อไป
                                  -  เมล็ดที่ไม่งอกหลังจากเพาะไปแล้ว  14  วัน  ให้ตัดทิ้งให้หมด  เพาะเมล็ดที่งอกหลังจากนี้  จะเป็นกล้าที่ไม่สมบูรณ์  เจริญเติบโตช้าและไม่แข็งแรง
                                     2.6  วิธีปลูก
                                                วิธีปลูกที่ง่ายและสะดวก  ควรใช้เชือกที่ทำเครื่องหมายระยะปลูกระหว่างต้นไว้แล้วขึงตลอดแนวความยาวของ แถวปลูก  จากนั้นใช้ไม้สักหลุมลึกประมาณ  3  ซม.  ตามเครื่องหมายที่ทำไว้บนเชือก  วางเมล็ดงอกที่เก็บได้ลงตามหลุมที่สักไว้โดยให้ด้านแบนของเมล็ดคว่ำลง  กลบดินบางๆ  พอมิดเมล็ด  เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการปลูก


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 20 สิงหาคม 2011, 19:02:43
 ;D


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: kaewhilow ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 07:45:43
อยากรู้ตัวเลข พันธุ์ rrim600 ในเชียงราย ที่กรีดได้ ได้ผลผลิตเท่าไรครับ ต่อไร่/ปี


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 24 สิงหาคม 2011, 00:07:26
อยากรู้ตัวเลข พันธุ์ rrim600 ในเชียงราย ที่กรีดได้ ได้ผลผลิตเท่าไรครับ ต่อไร่/ปี
น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 - 300 กก./ไร่/ปี หน่ะครับ ไม่เยอะเท่าไหร่ ถ้าจะให้ได้น้ำยางที่เยอะน่าเล่นเป็น PB350 น่าสนกว่านะฮะ ลงทุนเพิ่มนิดหน่อย แต่ผลผลิตสุงกว่าเป็นเท่าตัว 

คุณลักษณะ PB350
1. สามารถทนต่อเชื้อราไฟทอปเทอร่า ที่มากับฤดูฝนได้ดี
2. สามารถทนสภาพพื้นที่แล้งหรือขาดน้ำในระดับที่ดีกว่าสายพันธุ์ RRIM 600 เนื่องจากโครงสร้างลำต้นจะอยู่ในลักษณะของไม้ป่า มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้นานกว่าและดีกว่า
3. ระบบรากแก้ว จะมีความยาวกว่า สายพันธุ์ RRIM600  เนื่อง จากลักษณะลำต้นที่ใหญ่แข็งแรงคล้ายไม้ป่า ระบบรากย่อย มีรากฝอยและรากแขนงที่ยาว ขนาดของรากใหญ่ แผ่กว้าง สามารถดูดน้ำและอาหารมาเลี้ยงลำต้นได้ดี
4. เปลือกยางไม่หนา และไม่บางจนเกินไปมีขนาดพอเหมาะ หน้ายางนิ่ม ความเหมาะสมของเปลือกไม่ก่อให้เกิดสภาวะหน้ายางแห้ง หน้าตาย หรือหน้ายางแตก
5. ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกยาง สามารถเปิดกรีดได้ในปีที่ 5 หลังปลูกเท่านั้น จะเปิดกรีดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ RRIM 600 ถึง1- 2 ปี ลดภาระการเลี้ยงดูให้สั้นลงและทำเงินได้เร็วกว่า
6. ลักษณะการเจริญเติบโตของลำต้น ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของลำต้น ได้ทำการวัดขนาดโตของลำต้นเมื่อได้อายุ 2 ปี เริ่มที่ 15 ซม.วัดหลังจากครบ 1 ปี ลำต้นโตที่ 28.8 ซม.เฉลี่ยโตเดือนละ 1.15 ซม.ในปีที่ 3 และโตเฉลี่ยเดือนละ1.27ในปีที่ 4 ลำต้นจะโตได้ขนาดเปิดกรีดที่รอบต้นวัดได้ 50 ซม.ในปีที่ 5 พอดี ทั้งนี้เป็นการวัดสูงจากพื้นดิน150 ซม.
7. ผลผลิต 450 กก./ไร่/ปี(กรีด 120 วัน/ปี)มากกว่าRRIM 600 เกือบเท่าตัว (RRIM 600 ผลผลิต 280 กก./ ไร่/ปี)ให้ผลผลิตได้สูงได้ถึง ปีที่ 35 หลังจากนั้นจะชะลอหรือคงที่ แต่การเพิ่มฮอร์โมน เอททีลีนจะเพิ่มปริมาณน้ำยางได้อีก ความเข้มข้นของน้ำยาง 38-40 % ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง
8. สามารถปลูกได้ที่เนินเขาความชันไม่เกิน 30 องศา พื้นที่ราบลุ่มและพื้นที่แล้งนาน
9.Pb350 เป็นแม่พันธุ์ของยางพาราพันธุ์ใหม่ๆ เช่น RRIM 2025และRRIM 3001
10.ที่ราบ ใช้ระยะปลูก 2.5x6 เมตร ได้จำนวนต้นและผลผลิต


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: AIT ที่ วันที่ 24 สิงหาคม 2011, 22:48:20
ขอเข้ามาเก็บเป็นข้อมูลนะครับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Northern@Southern ที่ วันที่ 25 สิงหาคม 2011, 12:34:28
อยากรู้ตัวเลข พันธุ์ rrim600 ในเชียงราย ที่กรีดได้ ได้ผลผลิตเท่าไรครับ ต่อไร่/ปี

อยากรู้ตัวเลข พันธุ์ 251 ในเชียงราย ที่กรีดได้ ได้ผลผลิตเท่าไรครับ ต่อไร่/ปี


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: blacky27 ที่ วันที่ 25 สิงหาคม 2011, 22:11:41
รับซื้อ ยางแผ่น เศษยาง ยางก้อนถ้วย น้ำยาง ให้ราคางามๆๆ
จำหน่ายอุปกร์สวนยางทุกชนิด อาทิ เ่ช่น จักรรีดยาง มีดกรีดยาง หินลับมีด ตวงน้ำยาง ปูนทาหน้ายาง อื่นๆอีกมากมาย
จำหน่ายกล้ายาง พันธุ์ RRIM600 ยางตาเขียว รับประกันคุณภาพ
จำหน่ายปุ๋ยเคมี ของบริษัทฟุกเทียนกรุ๊ฟ ทั้งปลีกและส่ง
                      ตรา ม้าเงา
                     ตรา มังกรทอง
                      ตรา PlantiGold

            ปุ๋ยอินทรีย์ ตรา R5

สถานที่จำหน่าย บ้านเนินสมบูรณ์ หมู่ที่ 8 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย
สนใจติดต่อ โอ๊ต โทรศัพท์ 084-3708244,089-8509844










ตอนนี้ผมมีกล้ายาง 350 ขายนะครับ ราคา อยู่ที่50-60บาทครับ มีหลายขนาด สามารถมาคัดได้นะครับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 26 สิงหาคม 2011, 19:53:37
รับซื้อ ยางแผ่น เศษยาง ยางก้อนถ้วย น้ำยาง ให้ราคางามๆๆ
จำหน่ายอุปกร์สวนยางทุกชนิด อาทิ เ่ช่น จักรรีดยาง มีดกรีดยาง หินลับมีด ตวงน้ำยาง ปูนทาหน้ายาง อื่นๆอีกมากมาย
จำหน่ายกล้ายาง พันธุ์ RRIM600 ยางตาเขียว รับประกันคุณภาพ
จำหน่ายปุ๋ยเคมี ของบริษัทฟุกเทียนกรุ๊ฟ ทั้งปลีกและส่ง
                      ตรา ม้าเงา
                     ตรา มังกรทอง
                      ตรา PlantiGold

            ปุ๋ยอินทรีย์ ตรา R5

สถานที่จำหน่าย บ้านเนินสมบูรณ์ หมู่ที่ 8 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย
สนใจติดต่อ โอ๊ต โทรศัพท์ 084-3708244,089-8509844










ตอนนี้ผมมีกล้ายาง 350 ขายนะครับ ราคา อยู่ที่50-60บาทครับ มีหลายขนาด สามารถมาคัดได้นะครับ

ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ กล้ายาง 350 ที่มีอยู่เป็นบัดดิ้งรึป่าวครับ แล้วมีอยู่ประมานกี่ต้นครับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 26 สิงหาคม 2011, 19:56:46
รับซื้อ ยางแผ่น เศษยาง ยางก้อนถ้วย น้ำยาง ให้ราคางามๆๆ
จำหน่ายอุปกร์สวนยางทุกชนิด อาทิ เ่ช่น จักรรีดยาง มีดกรีดยาง หินลับมีด ตวงน้ำยาง ปูนทาหน้ายาง อื่นๆอีกมากมาย
จำหน่ายกล้ายาง พันธุ์ RRIM600 ยางตาเขียว รับประกันคุณภาพ
จำหน่ายปุ๋ยเคมี ของบริษัทฟุกเทียนกรุ๊ฟ ทั้งปลีกและส่ง
                      ตรา ม้าเงา
                     ตรา มังกรทอง
                      ตรา PlantiGold

            ปุ๋ยอินทรีย์ ตรา R5

สถานที่จำหน่าย บ้านเนินสมบูรณ์ หมู่ที่ 8 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย
สนใจติดต่อ โอ๊ต โทรศัพท์ 084-3708244,089-8509844










ตอนนี้ผมมีกล้ายาง 350 ขายนะครับ ราคา อยู่ที่50-60บาทครับ มีหลายขนาด สามารถมาคัดได้นะครับ
ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ กล้ายาง 350 ที่มีอยู่เป็นบัดดิ้งรึป่าวครับ แล้วมีอยู่ประมานกี่ต้นครับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 26 สิงหาคม 2011, 20:23:20
อยากรู้ตัวเลข พันธุ์ rrim600 ในเชียงราย ที่กรีดได้ ได้ผลผลิตเท่าไรครับ ต่อไร่/ปี

อยากรู้ตัวเลข พันธุ์ 251 ในเชียงราย ที่กรีดได้ ได้ผลผลิตเท่าไรครับ ต่อไร่/ปี

ผลผลิตเฉลี่ย 10 ปีของพันธุ์ RRIM600 และ RRIT251 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 300 กก./ไร่/ปี และ 400 กก./ไร่/ปี ตามลำดับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 26 สิงหาคม 2011, 21:11:14
ยางพาราเป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ มีอายุยืนยาวหลายสิบปีเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ซึ่งมีส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้

ราก - เป็นระบบรากแก้ว ลำต้น - กลมตรง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ

1. เนื้อไม้ ยางพาราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน เนื้อไม้มีสีขาวปนเหลืองอยู่ด้านในกลางลำต้น

2. เยื่อเจริญ เป็นเยื่อบางๆอยู่โดยรอบเนื้อไม้มีหน้าที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับต้นยาง

3. เปลือกไม้ เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากเยื่อเจริญออกมาด้านนอกสุด ช่วยป้องกันอันตรายที่จะมากระทบต้นยาง เปลือกของต้นยางนี้มีความสำคัญต่อเกษตรกรชาวสวนยางมาก เนื่องจากท่อน้ำยางจะอยู่ในส่วนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลือกด้านในที่ติดอยู่เยื่อเจริญจะมีท่อน้ำยางอยู่มากที่สุด

ใบ - เป็นใบประกอบโดยทั่วไป 1 ก้านใบจะมีใบย่อย 3 ใบ มีหน้าที่หลักในการปรุงอาหารหายใจและคายน้ำ ใบยางจะแตกออกมาเป็นชั้น ๆ เรียกว่า "ฉัตร" ระยะเวลาเริ่มแตกฉัตรจนถึงใบในฉัตรนั้นแก่เต็มที่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ยางจะผลัดใบในฤดูแล้งของทุกปี ยกเว้นยางต้นเล็กที่ยังไม่แตกกิ่งก้านสาขาหรือมีอายุไม่ถึง 3 ปี จะไม่ผลัดใบ

ดอก - มีลักษณะเป็นช่อมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในช่อดอกเดียวกัน ดอกยางทำหน้าที่ผสมพันธุ์โดยการผสมแบบเปิด ดอกยางจะออกตามปลายกิ่งของยางหลังจากที่ต้นยางผลัดใบ

ผล - มีลักษณะเป็นพูโดยปกติจะมี 3 พู ในแต่ละพูจะม่เมล็ดอยู่ภายใน ผลอ่อนมีสีเขียวผลแก่มีสีน้ำตาลและแข็ง

เมล็ด - มีสีน้ำตาลลายขาวคล้ายสีของเมล็ดละหุ่ง ยาวประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร หนักประมาณ 3-6 กรัม เมล็ดยางเมื่อหล่นใหม่ๆจะมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมาก แต่เปอร์เซ็นต์ ความงอกนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็วในสภาพปกติเมล็ดยางจะรักษาความ งอกไว้ได้ประมาณ 20 วัน

น้ำยาง - เป็นของเหลวสีขาวถึงขาวปนเหลืองขุ่นข้น อยู่ในท่อน้ำยางซึ่งเรียงตัวกันอยู่ในเปลือกของต้นยาง ในน้ำยางจะมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ 2 ส่วนคือส่วนที่เป็น "เนื้อยาง" และส่วนที่ "ไม่ใช่ยาง" ตามปกติในน้ำยางจะมีเนื้อยางแห้งประมาณ 25-45 เปอร์เซ็นต์


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: romeo111 ที่ วันที่ 27 สิงหาคม 2011, 15:42:20
300-400 กก.ต่อปี สัก 10 ไร่ 3000-4000 กกต่อปี โอ้หักค่าแรงสักครึ่งหนึ่งค่าเสื่อมอีก
..ผมว่าคุ้มเหมือนกันนะครับ น่าสนใจจริงๆ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: blacky27 ที่ วันที่ 27 สิงหาคม 2011, 18:10:45
Rubber Boy. เป็นตาเขียวครับ จำนวนที่เหลืออยู่ตอนนี้ไม่น่าจะถึง 500 ต้น เพราะวันนึ้มีคนมาจองไปแล้ว500ต้นครับ


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 31 สิงหาคม 2011, 22:59:43
 ;D


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 06 กันยายน 2011, 22:18:17
แชความรู้และประสบการณ์ในการสร้างสวนยางพาราภาคเหนือกับอีสาน
ภาคเหนือกับอีสานไม่เหมือนภาคใต้ช่วงแล้งจะ ยาวนานกว่า และจะมีปัญหาลมพายุฤดูร้อน ไฟป่า เป็นหลักใหญ่ๆ ผมก็เป็นชาวใต้อีกคนที่ตามพักพวกไปลุยปลูกยางแถวพิษณุโลก ก็เจอปัญหาภัยแล้งต้นยางตายไปมากซึ่งยอมรับว่าทำสวนยางยากกว่าภาคใต้มากครับ
การที่เราจะไปสร้างสวนยางภาคนี้ก็ต่องเลือกที่ดินเป็นอันดับแรกเพื่อมาสร้าง สวนยางพารา ถ้าในพื้นที่บริเวณนั้นมีการสร้างสวนยางที่ให้ผลผลิตได้แล้วก็ถือว่าที่สอบ ผ่านเขาทำสวนยางได้เราก็ต่องทำได้ ส่วนหลักการเลือกที่ดินมีหลักดังนี้
ปัจจัยทางดิน
1. เป็นพื้นที่ที่ความลาดชันไม่เกิน 35 องศา ถ้าความลาดชันเกินกว่า 15 องศา จำเป็นต้องทำขั้นบันได
2. หน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 1 เมตร มีการระบายน้ำดี ไม่มีชั้นหิน หรือชั้นดินดาน
3. ระดับน้ำใต้ดินต่ำกว่าระดับผิวดินมากกว่า 1 เมตร
4. เนื้อดินเป็นดินร่วนเหนียวถึงร่วนทราย ไม่เป็นดินเกลือหรือดินเค็ม
5. ไม่เป็นพื้นที่นาหรือที่ลุ่มน้ำขัง สีของดินควรมีสีสม่ำเสมอตลอดหน้าตัดดิน
6. ดินไม่มีชั้นกรวดอัดแน่นหรือแผ่นหินแข็งในระดับสูงกว่า 1 เมตร เพราะจะทำให้ต้นยางไม่
สามารถใช้น้ำในระดับรากแขนงในฤดูแล้งได้ และหากช่วงแล้งยาวนานจะมีผลทำให้ต้นยาง
ตายจากยอด
Last sa
30 - พื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกยาง
7. ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 600 เมตร หากสูงเกินกว่านี้อัตราการเจริญเติบโตของ
ต้นยางจะลดลง
8. ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH)ระหว่าง 4.5-5.5 ไม่เป็นดินด่าง

ปัจจัยทางภูมิอากาศ
1. ปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 1,250 มิลลิเมตรต่อปี
2. มีจำนวนวันฝนตก 120-150 วันต่อปี


หัวข้อ: Re: ห้องแชร์ความรู้เรื่องยางพารา!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rubber Boy ที่ วันที่ 07 กันยายน 2011, 09:16:18
พันธุ์ยางพารา
1.ควรหาพันธุ์ยางที่ทนแล้งได้ดีที่สุด
2.ทนลมแรงได้ดี
3.ควรเป็นยางชำถุงที่มีระบบรากแก้วพวกยางบัดดิ้ง ฉัดเดียวหรือให้ดีสองฉัดใบแก่
แนะนำ PB 350 เป็นสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตดีมาก ลำต้นแข็งแรง เปลือกเรียบ บ้างเป็นหลุมเป็นบ่อเล็กน้อย ลำต้นยาวและตั้งตรงโค้งมนเล็กน้อยเรียบ  เนื้อไม้ 0.63 m3 ที่ 14 ปี ทรงพุ่มมีความหนาแน่นสูง, กว้างและสูง ใบสีเขียวเข้ม อ่อนแอต่อเชื้อรา Oidium และเปลือกสีน้ำตาล  ผลผลิตยางแห้งในช่วงห้าปีแรกของการกรีด 2,506 กก. / ไร่, 2,235 กก. / ไร่, 2,941 กก. / ไร่,2,833 กก. / ไร่และ 3,286 กก. / ไร่ตามลำดับ
คุณลักษณะ
1. สามารถทนต่อเชื้อราไฟทอปเทอร่า ที่มากับฤดูฝนได้ดี
2. สามารถทนสภาพพื้นที่แล้งหรือขาดน้ำในระดับที่ดีกว่าสายพันธุ์ RRIM 600 เนื่องจากโครงสร้างลำต้นจะอยู่ในลักษณะของไม้ป่า มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้นานกว่าและดีกว่า
3. ระบบรากแก้ว จะมีความยาวกว่า สายพันธุ์ RRIM600  เนื่อง จากลักษณะลำต้นที่ใหญ่แข็งแรงคล้ายไม้ป่า ระบบรากย่อย มีรากฝอยและรากแขนงที่ยาว ขนาดของรากใหญ่ แผ่กว้าง สามารถดูดน้ำและอาหารมาเลี้ยงลำต้นได้ดี
4. เปลือกยางไม่หนา และไม่บางจนเกินไปมีขนาดพอเหมาะ หน้ายางนิ่ม ความเหมาะสมของเปลือกไม่ก่อให้เกิดสภาวะหน้ายางแห้ง หน้าตาย หรือหน้ายางแตก
5. ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกยาง สามารถเปิดกรีดได้ในปีที่ 5 หลังปลูกเท่านั้น จะเปิดกรีดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ RRIM 600 ถึง1- 2 ปี ลดภาระการเลี้ยงดูให้สั้นลงและทำเงินได้เร็วกว่า
6. ลักษณะการเจริญเติบโตของลำต้น ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของลำต้น ได้ทำการวัดขนาดโตของลำต้นเมื่อได้อายุ 2 ปี เริ่มที่ 15 ซม.วัดหลังจากครบ 1 ปี ลำต้นโตที่ 28.8 ซม.เฉลี่ยโตเดือนละ 1.15 ซม.ในปีที่ 3 และโตเฉลี่ยเดือนละ1.27ในปีที่ 4 ลำต้นจะโตได้ขนาดเปิดกรีดที่รอบต้นวัดได้ 50 ซม.ในปีที่ 5 พอดี ทั้งนี้เป็นการวัดสูงจากพื้นดิน150 ซม.
7. ผลผลิต 450 กก./ไร่/ปี(กรีด 120 วัน/ปี)มากกว่าRRIM 600 เกือบเท่าตัว (RRIM 600 ผลผลิต 280 กก./ ไร่/ปี)ให้ผลผลิตได้สูงได้ถึง ปีที่ 35 หลังจากนั้นจะชะลอหรือคงที่ แต่การเพิ่มฮอร์โมน เอททีลีนจะเพิ่มปริมาณน้ำยางได้อีก ความเข้มข้นของน้ำยาง 38-40 % ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง
8. สามารถปลูกได้ที่เนินเขาความชันไม่เกิน 30 องศา พื้นที่ราบลุ่มและพื้นที่แล้งนาน
9.Pb350 เป็นแม่พันธุ์ของยางพาราพันธุ์ใหม่ๆ เช่น RRIM 2025และRRIM 3001
10.ที่ราบ ใช้ระยะปลูก 2.5x6 เมตร ได้จำนวนต้นและผลผลิต

ถ้าที่ดินไม่เหมาะสมก็สู้กับธรรมชาติกันมีวิธีดังนี้
1. ปรับปรุงดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดิน โดยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เพื่อช่วย
ให้โครงสร้างของดินดีขึ้น มีความร่วนซุย สามารถอุ้มน้ำและรักษาความชื้นในดินได้ดี
2. ดูแลรักษาสวนยางก่อนเข้าฤดูแล้ง โดยการใช้วัสดุคลุมดินรอบโคนต้นยางในช่วงอายุ 2 ปีแรก
หลังจากปลูก จะช่วยให้ดินเก็บรักษาความชื้นไว้ได้ในช่วงฤดูแล้ง และทาปูนขาวบริเวณลำต้นเพื่อ
ป้องกันลำต้นไหม้จากแสงแดด
3.ปลูกพืนคลุมดินรักษาความชื้นให้แก่ดิน พวกถั่วคลุมดินให้ดีก็พวกซีรุเลี้ยมหรอมอโคน่า
4.พืชแซมยางก็ดีครับก็ช่วยรักษาความชื้นในดินได้พวกกล้วย สับปะรด
5. ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นยางด้วยปุ๋ยเคมีร่วมปุ๋ยอินทรีย์ตามคำแนะนำเพื่อให้ต้นยาง สมบูรณ์แข็งแรง ให้ดีควรใส่ทุก45วันครั่งใส่ที่ละน้อยๆๆปุ๋ยยาร้า25-7-7 ใส่ครั่งละยิบมือก่อนปีแรกเร่งให้ต้นยางแข็งแรงโตเร็วได้ผ่านแล้งได้
6. สวนยางที่เปิดกรีดแล้ว ไม่ควรไถพรวนในระหว่างแถวยาง
7. กรณีที่ปลูกยางในดินที่มีการระบายน้ำไม่ดี หรือเกิดน้ำท่วมขัง ควรขุดคูระบายน้ำก่อนที่ต้นยาง
จะได้รับความเสียหาย โดยปกติควรขุดคูระบายน้ำให้ระดับน้ำใต้ดินอยู่ลึกจากระดับผิวดินมากกว่า 2
เมตร ขึ้นอยู่กับระดับน้ำใต้ดิน
8.ควร ปลูกยางให้ได้เร็วที่สุดเมื่อหน้าฝนมาเยือนเพื่อให้ยางได้โตยังรากได้ลึก ผ่านแล้งได้ถ้าช้าที่สุดก็ก่อนหมดฝนสองเดือนและปลูกแบบหลุมลึกพิเศษฝังฉัด ที่สองไปด้วยครับ
9.ควรทำแนวกันไฟไถรอบสวน3เมตรถ้าติดแนวป่าก็5เมตร ทำให้ดีในหน้าแล้ง
10.ดุทิศทางลมในช่วงต้นฤดูฝนช่วงลมพายุฤดูร้อนมาควรปลูกทำแนวกันลมพวกไผ่หรอไม่ยืนต้นก็ช่วยลดความรุนแรงจากต้นยางหักโค่นได้บ่างครับ
11.ทาง แก้ที่ดีที่สุดก็ควรหาที่มีแหล่งน้ำให้ใช้ตลอดปีถ้าหาไม่ได้ก็สร้างขึ้นมา ครับทำฝายทุนน้อยก็ฝายแม้วตามแนวพระราชดำริ ขุดสระเก็บน้ำ เจาะบ่อบาดาล ไว้ทำระบบน้ำหยดถ้าไฟฟ้าไม่มีก็ใช้เครื่องตะบันน้ำปัมน้ำใช้แรงดันน้ำสูบน้ำ โดยไม่ต่องพึงไฟกับน้ำมันแถมประหยัดอีก ก็แก่ปัญหาภัยแล้งได้ดีที่สุด ถ้าวางระบบน้ำได้จะลงพันธุ์อะไรก็ได้เพื่อๆได้ผลผลิตสูงกว่าภาคใต้อีกครับ