เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย

ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย => ศาสนา กิจกรรมทางวัด => ข้อความที่เริ่มโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 20:57:29



หัวข้อ: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 20:57:29
ให้ดูภาพเปรียบเทียบ ไม่มีความเห็น แล้วแต่ท่าน


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 21:03:03
แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง วัดธรรมกาย


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 21:06:36
งานศพแบบสวนโมกข์ได้ปรากฏขึ้น เป็นการจัดการ   ศพโดย วิธีเผากลางแจ้ง   โดยตั้งโลงศพบนกองฟืน   แล้วจุดไฟเผาต่อหน้าสายตาของผู้มาร่วมรับการสอนธรรมอย่างไม่มีสิ่งปิดบัง   


ภาพงานศพ   แม่ชีจันทร์   ขนนกยูง   วัดธรรมกาย     
  อลังการงานสร้าง   เทียบชั้นงานเปิด   โอลิมปิค   "ปักกิ่งเกมส์" และพิธีเปิดฟุตบอลโลก   2010  ยังต้องอาย   


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: khonmieng ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 21:12:15
ธรรมดาของสัตว์โลก...... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Cupid ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 21:22:06

ได้เห็นความแตกต่างของการจัดงานครับ




หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: yuan lanna ที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2011, 22:32:16
จริง ๆ แล้ว ผมก็พยายามปฏิเสธตนเองถึงข้อข้องใจ เกี่ยวกับวัดธรรมกาย เพราะเข้าใจว่ามีผู้ศรัทธาในวัด ในบุคคล ในคำสอน ไม่น้อยเกรงว่าจะเป็นกระทู้ทุ่มเถียงกันไป เพราะศรัทธาในมุมมองที่แตกต่างกัน แม้แต่ผู้ปฏิบัติธรรม ที่เข้าถึงธรรมระดับหนึ่งผมก็ไม่กล้าถาม เคยได้ยินมานานแล้วตั้งแต่การสอนว่านิพพานเป็นอัตตา เป็นเรื่องราวเป็นข่าวอยู่พักหนึ่ง ผมเคยได้ยินหรืออ่านมาว่าธรรมกายนั่นมีจริงเป็นสภาวะที่เข้าถึงได้ แต่ไม่ใช่ของจริงตามธรรม ถึงตอนนี้จะเข้าป่าไปใหญ่ ท่านเมฆพัตรช่วยให้ความกระจ่างเรื่องธรรมกาย
(ที่ไม่ใช่วัด) หน่อยเถอะครับ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 00:05:17
เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้ศรัทธาสายธรรมกาย
พอเปิดใจเข้าไปศึกษา ฟังธรรมจากหลวงพ่อธรรมะไชโย
และอีกหลายๆ ท่านในสายธรรมกาย
พยามยามตั้งคำถามต่างๆ นานา เพื่อหาคำตอบ
ว่าทำไม เพราะอะไร
ทำไมคนที่เข้าวัดธรรมกายถึงได้มากมายมหาศาล
ทำไมคนที่เข้าไปถึงได้มีหลากหลายอาชีพ
ทำคนที่มีความรู้สูงๆ จบถึงปริญญาเอก และเป็นผู้มีหน้าที่การงาน
เป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม น่านับถือ ซึ่งท่านเหล่านี้ย่อมมีปัญญาแยกแยะ
ว่าสิ่งไหนควรไม่ควร ทำไมท่านทั้งหลายเหล่านี้ศรัทธาวัดธรรมกาย

พยายามหาเหตุและผลมาพิจารณา
ทำให้รู้และเข้าใจว่าทำไม เพราะอะไร
และที่สำคัญได้พบได้เจอกับผู้ปฎิบัติและพระสายธรรมกาย
แล้วรู้สึกได้ว่า ท่านสำรวมทั้งกิริยามารยาท น่าเคารพนับถือ
อีกทั้งการฝึกปฏิบัติที่เข้มงวด มีระเบียบ คำสอนที่ชัดเจนเข้าใจง่าย

และตอนนี้ตัดสินใจอย่างไม่ลังเล และบอกได้เต็มปากว่า ศรัทธาเต็มเปี่ยม

เชื่อว่าถ้าไม่ใช่พุทธจริง หรือหลักคำสอนผิดแผกไป
จะอยู่ไม่ได้ครับ แต่ธรรมกายนับวันจะขยายออกกว้างขึ้น
มีคนศรัทธามากขึ้น จนเดี่ยวนี้กระจายไปทั่วโลกครับ

มีหลายคนที่ยังมีอคติกับวัดธรรมกาย แต่พอเข้าไปจริงแล้วเปลี่ยนใจก็มากครับ
เชื่อว่าคนเราเมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารทางด้านลบมากๆ ย่อมมีความรู้สึกไปเช่นนั้นจริงๆ

เมื่อก่อนผมมักมีอคติกับพระ เพราะไปไหนก็มักจะเจอแต่พระปลอม
นั่นเป็นเพราะจิตเรามีอคติในทางลบ จึงนำพาไปเจอแต่เรื่องลบ

เปลี่ยนจิตใจเราคิดกับพระในทางบวก อธิษฐานให้เจอแต่พระที่ดี
คราวนี้ไปไหนก็มักจะเจอแต่พระดีหรือเจอแต่เนื้อนาบุญตลอด
เพราะทัศนคติที่เป็นบวก เปรียบเสมือนบุญจะส่งเสริมให้เราเจอแต่เรื่องดีครับ

 สิ่งที่เห็นชัดเจนอีกเรื่องหนึ่ง คือชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม
จากโครงการของวัดธรรมกายซึ่งปัจจุบันขยายไปสู่ชนบททั่วประเทศ
ชาวบ้านตอบรับและมีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นไ้ด้ชัด ยายแก่ชรา
เข้าวัดมาเกือบห้าสิบปี เพิ่งจะกราบพระ(ที่ถูกต้องเป็น) ยายแกเล่าว่า
เขาจะสอนเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวตั้งแต่เริ่มเข้าไปในวัด การเดิน
การนั่ง การเปลี่ยนท่านั่ง การลุก การยืน ทุกอริยาบถ ฯลฯ
จนถึงการปฏิบัติเอาใช้ที่บ้าน

 


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: khonmieng ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 07:35:47
การสอนการปฎิบัติที่ดีนั้นก็เป็นข้อดี...การที่ประกาศขายบุญโดยอ้างว่ามีลำดับชั้นนั้นไม่ดี....การที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้กว้างใกลนั้นดี.....การที่เอาบุญมาหลอกโดยอาศัยความอยากรวยของกิเลสให้ความหวังว่าจะรวยนั้นไม่ดี.....คำสอนหลักธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี....แต่การประพฤติปฎิบัติที่เป็นการสร้างภาพนั้นเป็นสิ่งไม่ดี.....พระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติถึงแล้วมักอยู่อย่างสงบ สันโดด พอเพียง รู้เท่าทันกิเลส........ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: LucKy99 ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 09:03:28
การสอนการปฎิบัติที่ดีนั้นก็เป็นข้อดี...การที่ประกาศขายบุญโดยอ้างว่ามีลำดับชั้นนั้นไม่ดี....การที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้กว้างใกลนั้นดี.....การที่เอาบุญมาหลอกโดยอาศัยความอยากรวยของกิเลสให้ความหวังว่าจะรวยนั้นไม่ดี.....คำสอนหลักธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี....แต่การประพฤติปฎิบัติที่เป็นการสร้างภาพนั้นเป็นสิ่งไม่ดี.....พระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติถึงแล้วมักอยู่อย่างสงบ สันโดด พอเพียง รู้เท่าทันกิเลส........ ;D ;D ;D

+100000


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Beebie13 ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 10:55:05
การสอนการปฎิบัติที่ดีนั้นก็เป็นข้อดี...การที่ประกาศขายบุญโดยอ้างว่ามีลำดับชั้นนั้นไม่ดี....การที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้กว้างใกลนั้นดี.....การที่เอาบุญมาหลอกโดยอาศัยความอยากรวยของกิเลสให้ความหวังว่าจะรวยนั้นไม่ดี.....คำสอนหลักธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี....แต่การประพฤติปฎิบัติที่เป็นการสร้างภาพนั้นเป็นสิ่งไม่ดี.....พระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติถึงแล้วมักอยู่อย่างสงบ สันโดด พอเพียง รู้เท่าทันกิเลส........ ;D ;D ;D

+1 ค่ะ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ZhuJiaoQian ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 10:58:49
ยิ่งบริจาคเงินเยอะ ยิ่งได้บุญเยอะ

เจอคำสอนนี้เข้าไป  ถอยกลับแทบไม่ทัน ธรรมกึ๋ยส์   :-X


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: น้าวัยทองฯ ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 11:10:23
เห็นความแตกต่างอย่างมากเลยครับ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆพัตร ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 11:15:31
การสอนการปฎิบัติที่ดีนั้นก็เป็นข้อดี...การที่ประกาศขายบุญโดยอ้างว่ามีลำดับชั้นนั้นไม่ดี....การที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้กว้างใกลนั้นดี.....การที่เอาบุญมาหลอกโดยอาศัยความอยากรวยของกิเลสให้ความหวังว่าจะรวยนั้นไม่ดี.....คำสอนหลักธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี....แต่การประพฤติปฎิบัติที่เป็นการสร้างภาพนั้นเป็นสิ่งไม่ดี.....พระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติถึงแล้วมักอยู่อย่างสงบ สันโดด พอเพียง รู้เท่าทันกิเลส........ ;D ;D ;D

......ตามนั้นครับ อนุโมทนาสาธุกับคุณ คนเมืองครับ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงหนาน ที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2011, 20:36:54
วัดไหนก็ดีหมด สำคัญก็คือเอาเราให้ดีก่อน.. วัดพระธรรมกายถึงแม้จะเป็นวัดที่ถูกเพ่งเล็งจากหลายๆ ส่วนด้วยกัน แต่ภาพโดยรวมแล้ว ในประเทศไทยยังไม่เคยมีวัดไหนสามารถทำให้พระสงฆ์รวมตัวกันได้เป็นแสนรูป และมีศรัทธาสาธุชนแสนๆ ในการร่วมบุญต่างๆ นี่คือข้อดีของวัดพระธรรมกาย หากว่า คนเหล่านั้นไปอยู่ในศาสนาอื่นล่ะ เราไม่เสียดายแย่หรอ ที่ศาสนิชนเราหายไป อย่างน้อยที่สุดคนไปงานบุญ ไม่ได้ไปทำบาป ความจริงผู้เขียนไม่ได้เป็นศิษย์สายพระธรรมกาย แต่มองแบบกลางๆ
ส่วนอีกแง่หนึ่ง สายหลวงพ่อพุทธทาศหรือพระสายป่า อันนี้ก็เป็นแนวทางปฏิบัติของท่านไป เพราะบารมีคนเราทำมาต่างกัน อนุสัยก็ต่างกัน แนวทางใครก็แนวทางมัน กรรมจำแนกสัตว์ให้ต่างกัน เอวัง


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 13 สิงหาคม 2011, 00:22:57
เห็นด้วยครับลุงหนาน  ;) ผมก็ไม่ได้เป็นศิษย์วัดธรรมกาย
เพียงแต่มีประสบการณ์ได้ปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อท่านหนึ่งที่สำนักสงฆ์ในป่า
ซึ่งมารู้ที่หลังว่าท่านเ็ป็นศิษย์หลวงพ่อสด วัดธรรมกาย ท่านมีเมตตาและสอน
นั่งปฏิบัติธรรมได้ดีมาก

ใช่ครับโครงการบวชหนึ่งแสนรูป ไม่มีวัดใดทำมาก่อน
แต่วัดธรรมกายทำได้และทำมาอย่างต่อเนื่อง นั่นเพราะความศรัทธา
บวกกับความสามัคคีของเหล่าพุทธศาสนิกชน
อีกทั้งเปิดรับให้ผู้หญิงก็บวชปฏิบัติธรรมได้ (อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน)
ซึ่งจัดขึ้นทุกปีทั่วประเทศ ซึ่งจะปฏิบัติธรรมตามวัดต่างๆ ในชนบท
ชาวบ้านให้ความสนใจมากขึ้น และที่สำคัญไม่มีการเรี่ยไรเงินใดใด
จากผู้ปฏิบัติธรรม หากยังแจกจ่ายเสื้อผ้าปฏิบัติธรรม อาหารให้ฟรี
ซึ่งรู้มาว่า มีผู้ต้องการทำบุญช่วยสนับสนุนการปฏิบัติธรรมอยู่มาก

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่วัดธรรมกายสร้างและทำในเรื่องดีดี
แต่ผู้คนมักไม่ค่อยนำมาเล่าขาน ส่วนใหญ่ก็รับข้อมูลที่คิดว่าไม่ดี
และมาต่อยอดกัน แต่หลายคนที่มีความคิดดีดีกับวัด แต่เขาเหล่านั้น
ไม่อยากออกมาพูดกัน เพราะเขาเชื่อมั่นด้วยศรัทธาของเขา และไม่ได้
ทำให้ใครเดือดร้อน เขามีสุขใจที่ได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม

อย่าลืมว่ามุมมี 360 องศา มีทั้งมุมสว่าง (มุมบวก) มุมมึด (มุมลบ)
หลายคนอาจมองมุมเดียวกัน
หลายคนอาจมองอีกคนละมุม
แล้วแ่ต่ว่าใครจะเลือกมองในมุมลบ หรือมุมบวก ที่สำคัญ คนที่มองมุมบวก
ย่อมมีความสุขใจ

ผมมีเพื่อนเกลอคนหนึ่งตอนนี้รับราชการครูสมัยตอนเด็กเขาบวชเรียนหลายพรรษา
เพิ่งมารู้ว่าเขาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ผมแปลกใจมาก เจอกันเลยสอบถามความเป็นมา  เขามีเหตุมีผลในการตัดสินใจของเขา เขามีมุมมองที่ดีของเขา คิดว่าคนเรามีบุญกรรมไม่เหมือนกัน  ศาสนาอื่นส่งผู้คนเข้ามาเผยแพร่ให้กับชาวพุทธตลอดเวลา
และเขาได้สร้างได้ช่วยเหลือชาวพุทธมากมายด้วย ที่เห็นๆ ก็คือชาวพื้นที่สูงหลายพื้นที่
ไม่ได้ถือพุทธเหมือนเรานะครับ
แต่ผมไม่เคยเห็นชาวพุทธเราไปเผยแพร่ศาสนาให้กับคนนับถือศาสนาอื่นนะครับ

การที่จะสร้างอะไรใหญ่โตให้กับพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ดีงาม โดยเฉพาะทางด้าน
จิตใจ ความเชื่อมั่น ซึ่งชาวพุทธก็ทำกันมาแต่โบราณแล้ว เช่นการสร้างโบสถ์สร้างเจดีย์
มีมากมาย ที่สร้างใหญ่โต เพราะอะไร  
หากเราได้ไปสักการะองค์เจดีย์ใหญ่ต่างๆ เราจะมีความรู้สึกทางใจที่ดี เมื่อเห็นและได้สัมผัส
หากเจดีย์ที่สำคัญนั้นเป็นเจดีย์องค์เล็กๆ สูงแค่มือเอื้อม ความรู้สึกภาคภูมิใจ ปิติ ยินดี
เลื่อมใส ศรัทธา จะเกิดขึ้นมากไหม

แม่ชีคำปุ๋ย ท่านมาจากสายวัดธรรมกาย เป็นตัวอย่างใกล้ๆ บ้านเรานี่เอง
จริงแล้วมีศิษย์สายธรรมกายที่ทำงานให้กับสังคมมากมายครับ หลายคน
ทำงานปิดทองหลังพระ สิ่งที่ทุกคนคิดคือบุญ ทำบุญ สะสมบุญเท่านั้น
แต่เราไม่ค่อยรู้จักท่านหรอกทั้งๆ ที่ท่านสร้างสิ่งดีดีให้กับชาวพุทธมากมายครับ :D

แม่ชีคำปุ๋ย  ไชยวงศ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2480  ณ บ้านศรีชุม ตำบลศรีชุม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา  บิดาชื่อ นายเสาร์  ไชยวงศ์  มารดาชื่อ นางฟ้า  ไชยวงศ์ มีพี่น้องรวมกันทั้งหมด 7 คน เป็นชาย 6 คน เป็นหญิง 1 คน ประกอบด้วย

          1. นายอ้วน       ไชยวงศ์  (เสียชีวิต)

          2. นายอ้น         ไชยวงศ์  (เสียชีวิต)

          3. นายอั๋น         ไชยวงศ์  (เสียชีวิต)

          4. นายบุญมา    ไชยวงศ์   (เสียชีวิต)

          5. นายอุดม       ไชยวงศ์   (เสียชีวิต)

          6. แม่ชีคำปุ๋ย     ไชยวงศ์   (อายุ 70 ปี)

          7. นายอิ่น         ไชยวงศ์   (อายุ 61 ปั)

           ในวันที่แม่ชีคำปุ๋ยถือกำเนิดขึ้นมาในโลกนี้ตอนใกล้รุ่ง ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและฝนตกลงมาอย่างหนัก  ท่านเกิดมาในครอบครัวของเกษตรกร มีชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างแร้นแค้น  แต่เป็นเด็กที่ขยันช่วยบิดามารดาทำงานอย่างขยันขันแข็ง  มีอยู่วันหนึ่งแม่ชีได้มาคำนึงว่าชีวิตคนนี้ช่างสั้นนัก มีแต่ทุกข์ จึงเกิดความเบื่อหน่ายก็เลยมีความคิดที่อยากจะบวช  ครั้นพออายุได้ 12 ปี ก็ได้รบเร้าบิดามารดาขอออกบวชเป็นชี แต่บิดามารดาเห็นว่ายังอยู่ในวัยเยาว์จึงไม่ยอมให้บวช ต่อมาพออายุได้ 16 ปี ก็ขอบวชอีก บิดามารดาทนไม่ไหวจึงยอมให้บวช โดยมีท่านพระครูธรรมรัตนจารีเป็นผู้บวชให้และมีแม่ชีหม่อม หนักตื้อ เป็นผู้สอนสมาธิ และวิปัสนาให้  พอบวชก็ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์ ไม่นานนักก็ได้เห็นดวงปฐมมรรค หลังจากนั้นแม่ชีหม่อม (ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของพระเทพมุนี วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ)ก็พาไปเรียนวิชาธรรมกายเพิ่มเติมกับหลวงพ่อสด (พระมงคลเทพมุนี) ในขั้นสูงต่อไปจนแตกฉาน

          อุปนิสัยส่วนตัวแม่ชีคำปุ๋ย  ไชยวงศ์ เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ชอบการให้ทานและรักษาศีล  เจริญเมตตาภาวนามาก ท่านมักจะกล่าวว่า "ความสุขใด ๆ ในโลกเทียบเท่ากับความสงบไม่มี รูปกายของเราเป็นเพียงภาพมายา ไม่ควรแก่การยึดติด ความดีเท่านั้นที่ติดตัวเราไป และจำทำให้โลกเกิดสันติสุขได้" ท่านมักจะส่งเสริมและคอยสอนให้ศรัทธาญาติโยมได้รักษาศีลและเจริญเมตตาภาวนา นอกจากนั้นท่านยังได้ก่อสร้างศาสนสถานและสาธารณะที่เป็นประโยชน์อีกเป็นอันมาก ดังนี้

          1. สร้างพระอุโบสถ (พระวิหาร) วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

          2. สร้างศาลาสงฆ์ 7 ชั้น วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

          3. สร้างศาลาพร้อมพระนอน วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

          4. สร้างโรงธรรมศาลาปฏิบัติธรรม วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

          5. สร้างพระเจดีย์ ณ วัดสบรู้ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

          6. สร้างพระเจดีย์ ณ วัดต้นผึ้ง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

          7. สร้างพระนอน ณ วัดบ้านปาง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

          8. สร้างพระเจดีย์ ณ วัดเข้าเจ้า อ.ลี้ จ.ลำพูน

          9. สร้างพระอุโบสถ ณ วัดใหม่ต้นฝาง อ.ปง จ.พะเยา

         10. สร้างพระธาตุวัดสันไม้ฮาม ณ วัดสันไม้ฮาม อ.พาน จ.เชียงราย

         11. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดผาสิงห์ ณ วัดผาสิงห์ อ.แสงดาว จ.น่าน

         12. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดทุ่งหนอง ณ วัดทุ่งหนอง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา

         13. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดแม่จั๋ว ณ วัดแม่จั๋ว อ.ปง จ.พะเยา

         14. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดผาแดง ณ วัดผาแดง อ.งาว จ.พะเยา

         15. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดบุญชุม ณ วัดบุญชุม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         16. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดสุขเกษม ณ วัดสุขเกษม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         17. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดจอมศีล ณ พระธาตุจอมศีล อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         18. สร้างแท่นพระพุทธรูปสันต้นแหน ณ วัดสันต้นแหน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา

         19. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดศรีปันต้น ณ วัดศรีปันต้น อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         20. สร้างแท่นพระพุทธรูปวัดท่าหล่ม ณ วัดท่าหล่ม อ.พาน จ.เชียงราย

         21. สร้างแท่นพระพุทธรูปถวายพระพุทธรูปวัดสวนดอก ณ วัดสวนดอก อำเภอเทิง จ.เชียงราย

         22. สร้างถวายพระพุทธรูปปางนาคปรกหน้าตัก 50 นิ้ว ณ วัดร่องห้า อ.เมือง จ.พะเยา

         23. สร้างพระพุทธรูปปางลีลาวัดหัวทุ่ง ณ วัดหัวทุ่ง อ.เชียงคำ จ.พะเยา

         24. สร้างพระอุโบสถวัดสันติสุข ณ วัดสันติสุข อ.เชียงคำ จ.พะเยา

         25. สร้างตึกสงฆ์โรงพยาบาลดอกคำใต้ ณ โรงพยาบาลดอกคำใต้ จ.พะเยา

         26. สร้างหอฉันสันกลาง ณ วัดสันกลาง อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         27. สร้างศาลาการเปรียญวัดบุปผาราม ณ วัดบุปผาราม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         28. สร้างสำนักงานทะเบียนอำเภอดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         29. สร้างห้องสมุดโรงเรียนดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         30. สร้างโรงทานสถานีตำรวจดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

         31. สร้างพระเจดีย์จอมมงคลคีรีจำปา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย

         32. สร้างพระเจดีย์จอมมงคลคีรีจำปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย

         33. สร้างพระเจดีย์จอมมงคลคีรีสารภี ณ บ้านน้ำแพร่ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย

               สร้างศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 19 ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย

               สร้างองค์เจ้าแม่กวนอิม ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย

               งานเสร็จเรียบร้อย เมษายน 2551 (เฉลิมฉลองยกยอดฉัตร 28 เมษายน 2551) และยังสร้างอื่น ๆ อีกมากมาย ตลอดทั้งส่งเสริมการศึกษา ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกมากมาย จนได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา เสมาทองคำ

         ด้านคำสอนนั้น ท่านมักจะสอนให้คนเป็นคนดี รู้จักให้ทาน เพื่อลดความตระหนี่ ท่านมักพูดว่า "ยิ่งตระหนี่ก็ยิ่งจน ยิ่งให้ทานยิ่งมีทรัพย์ ยิ่งยึดติดวิ่งวุ่น จิตสงบจบเรื่องทั้งมวล"

จาก
http://namphrae.khuntan.org/2010/index.php?option=com_content&task=view&id=78&Itemid=0


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: koyjang ที่ วันที่ 13 สิงหาคม 2011, 14:28:18
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ก่อนท่านมรณะภาพ ได้ไปฝึกปฏิบัติสติปัฐฐานสี่แบบยุบหนอ พองหนอ กับท่านเจ้าคุณโชดก  และก็ฝึกได้สำเร็จตามขั้นตอนที่ทางท่านเจ้าคุณได้สอน  แม้ว่าตอนแรกท่านจะติดอยู่กับแสงดวงแก้วที่ท่านได้เพ่งไว้  แล้วท่านก็ได้มอบรูปของท่านโดยเซ็นเอาไว้ว่าได้มาฝึกปฏิบัติที่วัดมหาธาตุจริง และอีกบางคำที่เคยอ่านแต่จำไม่ได้แล้ว เพื่อเป็นหลักฐานและได้มอบให้ท่านเจ้าคุณโชดก และหลวงพ่อจรัญไว้  ซึ่งหลวงพ่อจรัญก็เคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสดเหมือนกัน   และหลวงพ่อจรัญยังได้นำเอาบางสิ่งบางอย่างจากหลวงพ่อสดมาใช้ที่วัดเช่นกัน  คือการเปิดโรงทาน  ให้ทุกๆ คนที่มาวัดได้มาทานข้าวที่โรงทานได้ตลอดเวลา  ท่านได้เอาคำพูดของหลวงพ่อสดมาใช้ ตอนที่ท่านได้เคยรับใช้้ใกล้ชิดกับหลวงพ่อสด คอยบีบนวดให้ท่าน หลวงพ่อสดบอกว่า ให้จำไว้ว่า "ยิ่งให้ยิ่งได้ หวงก็อด หมดก็ไม่มา"  เนื่องจากได้ยินแม่ครัวที่วัดมาบอกหลวงพ่อสดว่าของใกล้จะหมดแล้ว แต่หลวงพ่อสดก็ไม่ทุกข์ร้อนใจ  บอกว่าเดี๋ยวก็มาเอง และก็มาจริง ๆ มีคนเอาข้าว เอามะพร้าว เอาหลายสิ่งมาถวายโดยที่หลวงพ่อสดมิได้บอกบุญใครเลย  ซึ่งสมัยก่อนมาทางเรือ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: boy013 ที่ วันที่ 13 สิงหาคม 2011, 22:08:30
http://bbs.spyhatyai.com/index.php?topic=2343.0 (http://bbs.spyhatyai.com/index.php?topic=2343.0)

ลองอ่านวิทยานิพนธ์ของท่าน ว.วชิรเมธี ตามลิงก์ครับ บางเรื่องมันลึกเกินสามัญสำนึก

เมื่อ๑๘ปีก่อน ผมก็เคยเดินไปกับธรรมกายครับ ไปได้หลายก้าว ได้ท่านพุทธทาสดึงออกมา จนกระทั่งมีกรณีธรรมกาย จนกระทั่งมีพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ฯลฯ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: koyjang ที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2011, 07:18:00
ลืมบอกไปว่าที่หลวงพ่อสดมอบรูปและเขียนประกอบในรูปให้เป็นหลักฐานนั้น  เพราะท่านรู้ว่าอีกไม่นานก็จะมีการเอาวิชาธรรมกายของท่านไปหากิน ท่านได้แต่บอกว่าถ้าท่่านยังมีชีวิตอยู่ ก็จะสอนหลักสติปัฐฐาน 4 ให้ลูกศิษย์ต่อไป  แต่ถ้าท่านละสังขารก่อนก็ขอให้ท่านได้หลุดพ้น     ได้เคยอ่านและัฟังบรรยายธรรมจากหลวงพ่อจรัญมา  และในcd ของคุณสุทัสสา อ่อนค้อม ก็มีด้วยในบางตอนนะคะ



หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 20:38:39
ภายหลังหลวงพ่อสดได้ไปศึกษาและปฏิบัติธรรมที่วัดมหาธาตุ ท่านจึงได้เปลี่ยนแนวความคิดเกี่ยวกับวิชาธรรมกาย


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ละอ่อนโบราณ ที่ วันที่ 16 สิงหาคม 2011, 21:03:00
มาติดตามอ่าน ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น  ;)


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: koyjang ที่ วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 08:47:48
สมัยเมื่อกว่าสิบปีมาแล้ว  เคยมีการขึ้นคัตเอาท์ภาพหลวงพ่อสดแถวถนนบางนา-ตราด กม.3  เพื่อการโปรโมทวัดธรรมกายเชิญชวนสร้างพระประจำตัวตามรูปแบบอย่างที่มีในวัดปัจจุบันนี้   เคยเห็นแผ่นพับการโปรโมทของแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง นี้ว่าได้เคยถอดกาย ไปปัดลูกระเบิดที่มาทิ้งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แถว ๆ ผั่งธน  ทำให้ไม่เกิดระเบิดในบริเวณนั้น    การโปรโมทนี้ก็ขอให้ลองใช้วิจารณญาณดู  แต่ส่วนตัวเชื่อในคำของพระพุทธเจ้าในหลักกาลามสูตร  :- อย่าปลงใจเชื่อตามคำที่บอกต่อ ๆ กันมา ฯลฯ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: boy013 ที่ วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 09:39:11
ข้อมูลที่คุณ koyjang นำเสนอนั้นเป็นข้อมูลเก่า แต่สำหรับผมบางเรื่องถือเป็นข้อมูลใหม่ครับไว้ประดับความรู้ ขอบคุณนะครับ ส่วนตัวผมนับถือหลวงพ่อสด หลวงพ่อจรัญ ถือว่าท่านเป็นครูบาอาจารย์ ถ้ามีโอกาสผมจะย้ายไปแถวสิงห์บุรีหรือชัยนาท ว่าจะแวะไปวัดท่านอยู่เหมือนกัน

เรื่องถอดจิตกับระเบิดของแม่ชีจันทร์ก็เคยได้ยิน นอกจากนี้ผมเคยได้ข้อมูลจากในหนังสือ ที่หลวงตามหาบัวเล่าถึงพระอาจารย์ฝั้นเกี่ยวกับญี่ปุ่นทิ้งระเบิดด้วยด้วย

พูดถึงแม่ชี อยากฝากเพื่อนสมาชิก ลองหาอ่านข้อมูลของอริยสาวิกา "คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ" ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น และได้หลวงตามหาบัวต่อยอดจนสำเร็จธรรมขั้นสูงสุด พระธาตุเป็นแก้วใสดั่งชื่อ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: koyjang ที่ วันที่ 17 สิงหาคม 2011, 11:42:28
เคยอ่านประวัติของคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ จาำกหนังสือที่ทางชมรมกัลยาณธรรมแจกให้  และก็ได้ถวายพระธุดงค์แถวบ้านไปแล้วค่ะ  ท่านก็เอาไปแจกให้คนอื่นอ่านต่อไป ที่วัดอัมพวัน หลวงพ่อจะลงมาพบญาติโยมเวลาเช้า 10.00 น. และบ่ายเวลา 14.00 น.ทุกวันนะคะ  ไม่ได้ไปกราบท่าน 2 ปีแล้ว  เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาก็เป็นวันคล้ายวันเกิดท่าน  ลูกศิษย์ลูกหามากันเต็มวัดทุกปี มีผู้ที่ศรัทธานำอาหารมาออกร้านกันเยอะมาก และท่านก็จะแจกหนังสือ กฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ ทุก ๆ ปีค่ะ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 20:56:45
ถาม:ทำไมจึงมีเสียงติติงการทำงานของวัดพระธรรมกาย

ตอบ:ที่ใดก็ตามที่มีการทำอะไรใหม่ๆเกิดขึ้น ก็ย่อมจะมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย มีเสียงติติงเสมอ เพราะผู้ที่ยึดติดอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ย่อมมีอยู่ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน เป็นการทำเพื่อคนหมู่มาก ย่อมเป็นที่สนใจ เสียงติติงก็อาจมีมากเป็นธรรมดา เป็นหน้าที่ของผู้ที่ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม จะต้องรับฟังแล้วนำมาพิจารณาด้วยใจที่เปิดกว้างว่า ที่ตนทำอยู่อย่างนั้นบกพร่องจริงหรือไม่ หากพบว่าจริงก็ให้ปรับปรุงแก้ไขเสีย หากพบว่าเสียงติติงนั้นไม่เป็นความจริง เกิดจากความไม่เข้าใจ ก็ต้องพยายามให้มีข้อมูลความจริงให้เขาได้ทราบ

อีกทั้งบางครั้งก็อาจเป็นได้ว่า เสียงติติงนั้นอาจเกิดจาก ผู้ที่มีใจไม่เป็นกุศล อาจด้วยความอิจฉาริษยา ความหมั่นไส้ หวาดระแวง หรือเสียผลประโยชน์ ก็ตามแต่ ก็จะต้องอดทน เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ตนทำอยู่ปรากฏผลชัดขึ้น ความจริงก็จะปรากฏออกมาเอง

อย่าว่าแต่เราสามัญชนเลย แม้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งพระองค์มีพระดำริ จะสร้างสวนลุมพินีเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ก็ยังมีเสียงติติงว่า ทำไมใหญ่โต ไม่มีความจำเป็น แต่ปัจจุบัน ทุกคนต่างก็ตระหนักซาบซึ้ง ในพระวิจารณญาณที่กว้างไกลของพระองค์กันถ้วนหน้า

หรืออย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อพุทธทาส ท่านเป็นผู้ริเริ่มการแสดงปาฐกถาธรรมโดยไม่ถือใบลาน ช่วงแรกๆก็ถูกต่อต้านมาก แต่ต่อมาทุกคนก็ยอมรับ

แม้ในทางโลก เมื่อคุณสมหมาย ฮุนตระกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศลดค่าเงินบาท เมื่อปีพุทธศักราช 2527 ช่วงแรกก็มีผู้โจมตี ด่าว่ากันอย่างสาดเสียเทเสียมากมาย แต่ต่อมาทุกคนก็ประจักษ์ชัดในคุณูปการที่ท่านสร้างไว้แก่แผ่นดินไทย หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของท่าน จึงมีจดหมายขอโทษจากบุคคลต่างๆ ที่เคยเข้าใจผิดมากมาย

ผู้ที่คิดจะทำประโยชน์เพื่อชนหมู่มาก จึงต้องเตรียมใจไว้แต่ต้น และต้องอดทน ขอให้พวกเราชาวพุทธ คลายความยึดมั่นถือมั่น ความยึดติดในรูปแบบเก่าๆ เราต้องใช้ความเคารพรักในการรักษาธรรมเนียม แต่ก็ให้ถือแก่นเป็นหลักมากกว่าติดที่เปลือกกระพี้ คือ หาทางปรับปรุงรูปแบบ วิธีการเผยแผ่ธรรมะ ปลูกฝังศีลธรรมในใจคนให้ได้ผล ให้คนในยุคปัจจุบันรับได้เข้าใจได้ โดยรักษาแก่นคำสอนในพระพุทธศาสนาไว้อย่างมั่นคง


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 20:57:55
ถาม:ทำไมต้องก่อสร้างศาสนสถานใหญ่ๆด้วย พระพุทธศาสนาสอนให้สมถะ ทำอะไรเล็กๆไม่ใช่หรือ

ตอบ:เราชาวพุทธเป็นลูกพระพุทธเจ้า การทำงานก็ควรดูแบบอย่างจากพระองค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำอย่างไร จึงประดิษฐานพระพุทธศาสนาได้อย่างมั่นคง เป็นปึกแผ่นสืบทอดมาถึงเราได้ถึง 2,500กว่าปีแล้ว


ในแง่ศาสนสถาน เราพบว่า วัดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่นานที่สุดถึง 20กว่าพรรษา คือ พระเชตวันมหาวิหาร ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย สิ้นทรัพย์ถึง 54โกฏิกหาปณะ คือ เท่ากับ 540ล้านกหาปณะ ซึ่ง 1กหาปณะนั้น เทียบค่าของเงินปัจจุบันแล้ว มีค่ามากกว่าดอลลาร์หลายเท่า ดังนั้นเมื่อเทียบค่าเงินปัจจุบัน การสร้างวัดพระเชตวันมหาวิหาร จึงสิ้นค่าใช้จ่ายหลายหมื่นล้านบาท อาจถึงแสนล้านบาท และพระเชตวันมหาวิหารนี่เอง ที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญในการวางรากฐานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้ขยายออกไปอย่างกว้างขวางในครั้งพุทธกาล และสืบทอดมาถึงเราในปัจจุบัน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้พระภิกษุเป็นผู้อยู่ง่ายเลี้ยงง่าย ตั้งใจปฏิบัติธรรม ฝึกฝนอบรมตนเอง แต่ในแง่ศาสนสถาน การสร้างวัดซึ่งเป็นสถานที่เผยแผ่ธรรมแก่ประชาชนแล้ว พระองค์กลับทรงชื่นชมอนุโมทนา สนับสนุนการสร้างวัดใหญ่ๆจำนวนมาก นอกจาก เชตวันมหาวิหารแล้ว ก็ยังมีอีกมากมาย เช่น วัดบุพพาราม ซึ่งนางวิสาขามหาอุบาสิกาสร้างถวาย เป็นโลหะปราสาท สิ้นทรัพย์นับเป็นค่าเงินเป็นหมื่นๆล้านบาทเช่นกัน พระองค์ถึงขนาดทรงให้พระมหาโมคคัลลนะ อัครสาวกเบื้องซ้าย ไปเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างตามคำของนางวิสาขา เพราะวัดใหญ่ๆ เมื่อสร้างขึ้นโดยมีการใช้ประโยชน์จริง ก็จะสามารถรองรับ ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งแผ่นดิน ผู้ที่ได้ประโยชน์ที่แท้จริง ก็คือประชาชนนั่นเอง

วัดพระธรรมกาย...เราเริ่มสร้างขึ้นจากวัดเล็กๆ มีศาลาปฏิบัติธรรมจุคนได้เพียง 450คน แต่เพราะการตั้งใจเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ประชาชนที่มาวัดจึงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหลักหมื่นหลักแสน จึงจำเป็นต้องสร้างศาลาอาคารมารองรับ

มหาธรรมกายเจดีย์...สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมใจปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์จำนวน 1หมื่นรูป สาธุชนจำนวน 1ล้านคน แม้ขณะกำลังก่อสร้างอยู่ ก็มีคนมาปฏิบัติธรรมกันในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ครั้งละกว่าแสนคนแล้ว

สิ่งก่อสร้างในวัดพระธรรมกาย จึงสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานจริง งบประมาณในการก่อสร้างก็มาจากประชาชนทำบุญ ผู้ใช้ก็คือประชาชน ประโยชน์ก็เกิดขึ้นกับชาวพุทธทั้งแผ่นดิน


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 21:00:04
ถาม:แทนที่จะสร้างวัด เอาเงินไปสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล ไม่ดีกว่าหรือ

ตอบ:การสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล ก็ควรทำ สร้างโรงเรียนทำให้คนฉลาดมีความรู้ สร้างโรงพยาบาลทำให้คนมีสุขภาพแข็งแรง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่ทว่า...ผู้มีสุขภาพแข็งแรง ฉลาดมีความรู้มาก หากไม่มีศีลธรรมแล้ว ก็จะสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมได้มาก เราจึงจำเป็นต้องสร้างวัด เพื่อเป็นที่ปลูกฝังคุณธรรมแก่ประชาชนด้วย
ขอให้ดูที่ความจริงอย่างหนึ่งที่มักถูกมองข้ามไป คือ คนในสังคมเมื่อทำงาน เกิดความเครียดขึ้นแล้ว ก็มักหาทางคลายเครียด พักผ่อนหย่อนใจกันด้วยวิธีการต่างๆ บ้างก็ดื่มเหล้า บ้างก็สูบบุหรี่ บ้างก็ไปดูภาพยนตร์ บ้างก็ไปเที่ยว บ้างก็ไปวัด

ผู้ที่ชอบดื่มเหล้า ก็จะใช้ทรัพย์เพื่อการซื้อเหล้า ทำให้เกิดโรงงานผลิตเหล้า เกิดบาร์ คลับ ผับ ขึ้นมารองรับ ผู้ที่ชอบสูบบุหรี่ ก็จะใช้จ่ายทรัพย์เพื่อบุหรี่ ทำให้เกิดโรงงานบุหรี่ และเครือข่ายขึ้นมารองรับ ผู้ที่ชอบดูภาพยนตร์ ก็จะใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการนี้ ทำให้เกิดการผลิตภาพยนตร์ โรงงานภาพยนตร์มารองรับ ผู้ที่ชอบเที่ยว ก็จะใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว ทำให้เกิดบริษัท ทัวร์ ดิสนีย์แลนด์ สถานท่องเที่ยวต่างๆขึ้นมารองรับ ผู้ที่ชอบเข้าวัด เขาก็จะนำงบหย่อนใจตรงนี้ ไปทำบุญแทนและก็เกิดเป็นวิหาร เจดีย์ โบสถ์ ศาลา มารองรับ

เราไม่สามารถบอกให้คนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ให้เลิกดื่ม เลิกสูบ แล้วเอาเงินไปสร้าง โรงเรียน โรงพยาบาล หรือสร้างวัดได้ มันเป็นความสมัครใจของเขา เราบังคับไม่ได้ ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราผลักดันให้คนเลิกทำบุญ เลิกเข้าวัด งบหย่อนใจของเขาตรงนี้ ก็อาจจะกลายเป็นโรงเรียน โรงพยาบาลก็ได้ หรืองบตรงนี้ของเขาอาจกลายเป็นโรงเหล้า โรงบุหรี่ หรืออะไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะเราบังคับเขาไม่ได้ เป็นเรื่องความสมัครใจของแต่ละคน

ดังนั้น ถ้าเราคิดว่าขณะนี้ผู้คนในสังคมมีศีลธรรมมากเกินไป เข้าวัดมากเกินไป ก็ควรจะช่วยกันรณรงค์ให้คนเลิกเข้าวัด แต่ถ้าคิดว่าผู้คนในสังคม ยังมีศีลธรรมน้อยเกินไป ก็ควรจะช่วยกันรณรงค์ให้เข้าวัด ทำความดีให้มากขึ้น พิจารณาดูสิว่าสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร
บ้านเมืองใด หากมีโรงเหล้า โรงบุหรี่ สถานเริงรมย์ มากมายใหญ่โต แต่มีศาสนสถานเล็กๆ ไม่มีคนสนใจ บ้านเมืองนั้นก็น่าเป็นห่วง แต่บ้านเมืองใดหากมีวัดใหญ่ๆ ศาสนสถานใหญ่ๆ ผู้คนเข้าวัดเข้าวากันมากมาย ก็เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็น ถึงความเจริญของศีลธรรมของผู้คนในสังคมนั้นๆ ศาสนสถานที่สร้างขึ้น หากสร้างขึ้นเพื่อใช้งานจริง มีประชาชนมาอาศัยใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมกันอย่างเนืองแน่น จึงเป็นที่ควรสนับสนุนมิใช่หรือ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 21:04:06
ถาม:ทำไม วัดพระธรรมกายจึงมักมีการบอกอานิสงส์ของการทำบุญ แบบเอาสวรรค์มาล่อ

ตอบ:การทำให้เกิดฉันทะ ความรัก ความสนใจ พอใจที่จะทำสิ่งใด ท่านบอกว่าจะต้องให้เห็นประโยชน์ว่าทำแล้ว ได้อะไร การเห็นประโยชน์ทำให้เกิดฉันทะ ฉันทะทำให้เกิดวิริยะ วิริยะทำให้เกิดจิตตะ จิตตะทำให้เกิดวิมังสา รวมเป็น อิทธิบาทสี่ ธรรมอันยังความสำเร็จให้เกิดขึ้น

แนวทางการแสดงธรรมแก่คฤหัสถ์ผู้ครองเรือน ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้อยู่เสมอ คือ หลักอนุปุพพิกถา ซึ่งเป็นการแสดงธรรมไปตามลำดับหัวข้อ มีเนื้อหาลุ่มลึกไปตามลำดับ เพื่อขัดเกลาอัธยาศัยผู้ฟังให้ประณีตขึ้นไปเป็นขั้นๆ คือ

1.ทานกถา ทรงแนะนำสั่งสอนให้ทุกคนให้ทาน มีความเอื้อเฟื้อต่อกัน เสียสละแบ่งปันกัน

2.ศีลกถา ทรงแนะนำสั่งสอนให้ทุกคนรักษาศีล มีความประพฤติที่ถูกต้องดีงาม


3.สัคคกถา ทรงพรรณนาซึ่งสวรรค์ ทรงชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่ตั้งใจให้ทาน รักษาศีล ดังที่กล่าวแล้วใน 2ข้อข้างต้น จะได้รับอานิสงส์ คือ การเข้าถึงโลกสวรรค์ ซึ่งมีความสุข ความเจริญ อย่างไร

4.กามาทีนพ หากบุคคลผู้ฟังธรรมมีอัธยาศัยที่จะออกบวชได้ พระองค์ก็จะทรงแสดงถึงโทษของกามว่า มีทุกข์มาก มีโทษมาก มีสุขน้อย อย่างไร


5.เนกขัมมานิสงส์ เมื่อทรงแสดงถึงโทษของกามหมดแล้ว ก็จะทรงแสดงถึงอานิสงส์ของการออกบวช เสร็จแล้วผู้ฟังธรรมนั้นก็มักทูลขอบวช และได้บรรลุธรรมไปตามลำดับ
หลักอนุปุพพิกถานี้ เป็นแนวทางสำคัญในการสั่งสอนประชาชนมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล วัดพระธรรมกายได้ใช้แนวทางนี้ในการอบรมสั่งสอนประชาชน ตามหลักการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางไว้แล้วนั่นเอง


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 21:05:58
ถาม:ทำบุญมาก ได้บุญมาก จริงหรือ

ตอบ:การทำทานให้ได้บุญมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า มีองค์ประกอบ 3ประการ คือ

1.วัตถุบริสุทธิ์ คือ สิ่งที่ให้ทานได้มาด้วยความสุจริตถูกต้อง

2.เจตนาบริสุทธิ์ คือ มีความเลื่อมใสศรัทธา ให้เพื่อหวังบุญจริงๆ ไม่ได้หวังผลตอบแทน หรือไม่มีเจตนาแอบแฝงหวังประโยชน์ และเมื่อให้แล้วก็ไม่นึกเสียดายภายหลัง

3.บุคคลบริสุทธิ์ คือ ผู้รับเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีคุณธรรม ยิ่งมีคุณธรรมมากเท่าใด บุญก็ยิ่งได้มากไปตามส่วน เช่น ทำบุญกับพระพุทธเจ้า ก็ได้บุญมากกว่าทำบุญกับบุคคลทั่วไป และยิ่งผู้ให้มีศีลบริสุทธิ์ด้วยแล้ว บุญก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก

ถ้าเงื่อนไขดังกล่าว คือ วัตถุ เจตนา และบุคคลผู้ให้-ผู้รับ มีความบริสุทธิ์เท่ากันแล้ว แน่นอนว่าผู้ที่ให้ทานเป็นจำนวนมากกว่าก็ย่อมได้รับผลมากกว่า เหมือนคนทำนา 100ไร่ ย่อมได้ผลมากกว่าคนทำนา 1ไร่

แต่หากผู้ที่ให้ทานด้วยทรัพย์แม้เป็นจำนวนน้อยกว่า แต่มีความตั้งใจ มีความเลื่อมใสศรัทธาเต็มเปี่ยม และได้ให้ทานกับคนที่มีคุณธรรมสูง ก็อาจได้บุญมากยิ่งกว่าผู้ทำด้วยทรัพย์มากยิ่งกว่าเป็นร้อยๆเท่าก็ได้ ดังตัวอย่างของมหาทุคตะในครั้งพุทธกาล ถวายข้าวเพียงมื้อเดียวแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ทำด้วยความเลื่อมใส ศรัทธาเต็มที่ ก็ได้อานิสงส์ผลบุญทันตาเห็น กลายเป็นมหาเศรษฐีประจำเมือง

ถาม:ทำบุญควรหวังผลหรือไม่

ตอบ:การทำความดี ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล หรือเจริญภาวนา ทำแล้วก็เกิดบุญ ผู้ที่ทำความดีแล้วก็หวังจะได้บุญ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำโดยรู้วัตถุประสงค์ รู้เป้าหมาย จากนั้นก็พยายามสร้างบุญที่ประณีตขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่บุญจากการให้ทาน ต่อมาเป็นบุญจากการรักษาศีล และบุญจากการเจริญสมาธิภาวนา จากบุญระดับโลกียะ เป็นบุญระดับโลกุตตระ จนกระทั่งหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ นี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำบุญแล้วหวังบุญก็เหมือนนักเรียนเรียนหนังสือแล้วหวังจะได้ความรู้ ซึ่งยอมได้ผลแห่งการศึกษาดีกว่าผู้ที่เรียนโดยไม่หวังความรู้



หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๋๋P ที่ วันที่ 22 สิงหาคม 2011, 21:39:24
ถาม:คำว่า ธรรมกาย มีในพระไตรปิฎกหรือไม่

ตอบ:คำว่า ธรรมกาย มีหลักฐานปรากฏในพระไตรปิฎกอยู่ 4แห่ง และในคัมภีร์อรรถกถา และฎีกาอีกหลายสิบแห่ง ดังรายละเอียดในหัวข้อเรื่องหลักฐานวิชชาธรรมกาย นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์พระไตรปิฎกจีนในส่วนที่เป็นเนื้อหาของหินยาน มีการกล่าวถึงคำว่า ธรรมกาย ในหลายๆแห่งระบุถึงความหมายของคำว่า พระธรรมกาย และแนวทางการเข้าถึงไว้อย่างน่าสนใจ แต่เนื้อหาในพระไตรปิฎก ฉบับบาลี ตกหล่นไป

คำว่า ธรรมกาย นี้จึงมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลอย่างแน่นอน โดยไม่มีข้อสงสัย และโต้แย้งใดๆ ที่เป็นประเด็นถกเถียงกันก็คือ ความหมายของคำว่า ธรรมกาย บ้างก็กล่าวว่า หมายถึงโลกุตรธรรมเก้า บ้างก็กล่าวว่าหมายถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า บ้างก็กล่าวว่าหมายถึงกายแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้า สิ่งที่สามารถสรุปได้อย่างมั่นใจอย่างหนึ่งก็คือ เราไม่สามารถอาศัยหลักฐานทางคัมภีร์ เท่าที่มีเหลืออยู่ในปัจจุบัน มาเป็นเครื่องยืนยันว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้น ความคิดอันใดอันหนึ่งถูกต้องอย่างปราศจากข้อโต้แย้งใดๆ

ดังนั้น สิ่งที่ชาวพุทธควรจะกระทำก็คือ ตั้งใจปฏิบัติตามหลัก ศีล สมาธิ ปัญญา ปฏิบัติตามหลักมรรคมีองค์แปด และตั้งใจทำความดี ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ลด ละ เลิก อบายมุข สมัครสมานสามัคคีกัน การถกเถียงกันด้วยเรื่องที่ไม่อาจได้ข้อสรุป ด้วยคำพูด และตัวหนังสือ เป็นสิ่งที่ไม่ให้ประโยชน์ กลับอาจนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง และการแตกแยก

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา พระองค์จะไม่ทรงพยากรณ์ในเรื่องที่เกินวิสัยของปุถุชนคนธรรมดาจะเข้าใจได้ด้วยคำพูด เช่น ไม่ทรงตอบเรื่องโลกนี้โลกหน้าว่า มีจริงไหม โลกมีที่สิ้นสุดหรือไม่ เป็นต้น เพราะตอบไปแล้ว ถ้าเขาไม่เชื่อก็หาข้อสรุปไม่ได้ สิ่งที่พระองค์ทรงกระทำก็คือ แนะนำให้เขาปฏิบัติธรรม ทำความดีและเมื่อปฏิบัติไปถึงจุดแล้ว เขาก็จะรู้ได้ด้วยตัวเอง เพราะธรรมะเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน
ดังนั้น สิ่งที่ชาวไทยชาวพุทธ ผู้รู้ ผู้มีความปรารถนาดีต่อพระพุทธศาสนา และสังคมไทยทุกคน ควรทำภารกิจเร่งด่วนในปัจจุบัน คือ ทำอย่างไร จึงจะยกระดับศีลธรรมของคนในสังคมได้ ทำอย่างไร เราจึงจะดึงคนเข้าวัดปฏิบัติธรรม ให้ชาวพุทธทุกคนเป็นชาวพุทธที่แท้จริง ให้สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบร่มเย็นเป็นสุข มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ผู้คนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เป็นส่วนหนึ่งของคำตอบจากศิษย์วัดธรรมกาย (คุณ Kenny Wattananon)
เอามาฝากครับ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: คูณบารมี ที่ วันที่ 25 สิงหาคม 2011, 23:13:43
มาติดตามอ่าน ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น  ;)

+111


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Beebie13 ที่ วันที่ 28 สิงหาคม 2011, 14:25:17
มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเวลาเราเจอกันเราจะคุยกันเรื่องธรรมะเสมอ และแล้ววันหนึ่งพี่คนนี้ก็บอกว่า แกเพิ่งเรียนและปฏิบัติสายพระธรรมกายอยู่ แกบอกว่าเข้าใจง่ายกว่าสายอื่นๆ เมื่อก่อนแกไปทางสายหลวงพ่อจรัญ (อันนี้เราไม่ว่ากันแล้วแต่จริตของตัวบุคคลว่าชอบสายไหนแต่จุดมุ่งหมายเดียวกันถือว่าใช้ได้) และแกก็เล่าต่อว่าจะไปสร้างพระที่นู่นที่นี่ ที่ไหนมีให้ทำบุญแกจะไปหมด และพยายามทำบุญให้ได้มากที่สุด หนูก็เลยถามกลับว่าพี่เที่ยวทำบุญไปนั้นเพื่ออะไรหรือ แกตอบว่าจะได้บุญเยอะๆไง ชีวิตจะดีขึ้นถ้าเราสะสมบุญไว้เยอะๆ หนูฟังคำตอบแกแล้วหนูก็นิ่งไปซักครู่หนึ่ง หนูก็เลยบอกแกว่าอย่ายึดติดการทำบุญ อย่ายึดติดต้องสายนั้น สายนี้ หนูดูท่าทางพี่แกแล้วชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ มันก็ดีนะ แต่ทำไมหนูถึงไม่รู้สึกศรัทธา ทำไมหนูจึงรู้สึกว่ามันต้องถึงขั้นตะลอนทำหรือถึงต้องได้บุญใหญ่ ต้องทำบุญเยอะๆหรือ ที่เล่ามาไม่ได้ลบหลู่สายธรรมกายแต่อย่างใดเลยนะคะ แต่รู้สึกฉงนเล็กน้อยกับเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ที่เปลี่ยนไป ท่านใดที่อยู่สายธรรมกายได้โปรดทราบว่าไม่ได้ลบหลู่นะคะ สายของท่านก็ดีค่ะสามารถนำพุทธศาสนิกชนมารวมกันได้เยอะขนาดนั้น บางทีหนูอาจยังมีความเขลาอยู่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสายของท่านก็เป็นได้


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: yuan lanna ที่ วันที่ 29 สิงหาคม 2011, 13:07:05
มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเวลาเราเจอกันเราจะคุยกันเรื่องธรรมะเสมอ และแล้ววันหนึ่งพี่คนนี้ก็บอกว่า แกเพิ่งเรียนและปฏิบัติสายพระธรรมกายอยู่ แกบอกว่าเข้าใจง่ายกว่าสายอื่นๆ เมื่อก่อนแกไปทางสายหลวงพ่อจรัญ (อันนี้เราไม่ว่ากันแล้วแต่จริตของตัวบุคคลว่าชอบสายไหนแต่จุดมุ่งหมายเดียวกันถือว่าใช้ได้) และแกก็เล่าต่อว่าจะไปสร้างพระที่นู่นที่นี่ ที่ไหนมีให้ทำบุญแกจะไปหมด และพยายามทำบุญให้ได้มากที่สุด หนูก็เลยถามกลับว่าพี่เที่ยวทำบุญไปนั้นเพื่ออะไรหรือ แกตอบว่าจะได้บุญเยอะๆไง ชีวิตจะดีขึ้นถ้าเราสะสมบุญไว้เยอะๆ หนูฟังคำตอบแกแล้วหนูก็นิ่งไปซักครู่หนึ่ง หนูก็เลยบอกแกว่าอย่ายึดติดการทำบุญ อย่ายึดติดต้องสายนั้น สายนี้ หนูดูท่าทางพี่แกแล้วชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ มันก็ดีนะ แต่ทำไมหนูถึงไม่รู้สึกศรัทธา ทำไมหนูจึงรู้สึกว่ามันต้องถึงขั้นตะลอนทำหรือถึงต้องได้บุญใหญ่ ต้องทำบุญเยอะๆหรือ ที่เล่ามาไม่ได้ลบหลู่สายธรรมกายแต่อย่างใดเลยนะคะ แต่รู้สึกฉงนเล็กน้อยกับเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ที่เปลี่ยนไป ท่านใดที่อยู่สายธรรมกายได้โปรดทราบว่าไม่ได้ลบหลู่นะคะ สายของท่านก็ดีค่ะสามารถนำพุทธศาสนิกชนมารวมกันได้เยอะขนาดนั้น บางทีหนูอาจยังมีความเขลาอยู่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสายของท่านก็เป็นได้
ลองอ่านกระทู้สงสัยมั๊ย ของท่านละอ่อนโบราณดู น่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย ที่ท่านหาทางออกให้สำหรับคนที่ยึดติดกับยึดมั่นอยู่ ผมอ่านแล้วยัง  เอ่อน่ะ ดังคนหลงทางที่มีคนชี้ทาง ลองพิจารณาดูครับ




หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: Beebie13 ที่ วันที่ 30 สิงหาคม 2011, 07:57:09
มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเวลาเราเจอกันเราจะคุยกันเรื่องธรรมะเสมอ และแล้ววันหนึ่งพี่คนนี้ก็บอกว่า แกเพิ่งเรียนและปฏิบัติสายพระธรรมกายอยู่ แกบอกว่าเข้าใจง่ายกว่าสายอื่นๆ เมื่อก่อนแกไปทางสายหลวงพ่อจรัญ (อันนี้เราไม่ว่ากันแล้วแต่จริตของตัวบุคคลว่าชอบสายไหนแต่จุดมุ่งหมายเดียวกันถือว่าใช้ได้) และแกก็เล่าต่อว่าจะไปสร้างพระที่นู่นที่นี่ ที่ไหนมีให้ทำบุญแกจะไปหมด และพยายามทำบุญให้ได้มากที่สุด หนูก็เลยถามกลับว่าพี่เที่ยวทำบุญไปนั้นเพื่ออะไรหรือ แกตอบว่าจะได้บุญเยอะๆไง ชีวิตจะดีขึ้นถ้าเราสะสมบุญไว้เยอะๆ หนูฟังคำตอบแกแล้วหนูก็นิ่งไปซักครู่หนึ่ง หนูก็เลยบอกแกว่าอย่ายึดติดการทำบุญ อย่ายึดติดต้องสายนั้น สายนี้ หนูดูท่าทางพี่แกแล้วชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ มันก็ดีนะ แต่ทำไมหนูถึงไม่รู้สึกศรัทธา ทำไมหนูจึงรู้สึกว่ามันต้องถึงขั้นตะลอนทำหรือถึงต้องได้บุญใหญ่ ต้องทำบุญเยอะๆหรือ ที่เล่ามาไม่ได้ลบหลู่สายธรรมกายแต่อย่างใดเลยนะคะ แต่รู้สึกฉงนเล็กน้อยกับเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ที่เปลี่ยนไป ท่านใดที่อยู่สายธรรมกายได้โปรดทราบว่าไม่ได้ลบหลู่นะคะ สายของท่านก็ดีค่ะสามารถนำพุทธศาสนิกชนมารวมกันได้เยอะขนาดนั้น บางทีหนูอาจยังมีความเขลาอยู่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสายของท่านก็เป็นได้
ลองอ่านกระทู้สงสัยมั๊ย ของท่านละอ่อนโบราณดู น่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย ที่ท่านหาทางออกให้สำหรับคนที่ยึดติดกับยึดมั่นอยู่ ผมอ่านแล้วยัง  เอ่อน่ะ ดังคนหลงทางที่มีคนชี้ทาง ลองพิจารณาดูครับ




เห็นคำตอบชัดเจนมากๆ ขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: newbum666 ที่ วันที่ 13 กันยายน 2011, 09:53:45
แอบมาอ่าน ;D


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: nazha ที่ วันที่ 13 กันยายน 2011, 11:30:34
ฝึกจิต วิสัยของคนชอบความสบาย ความสอาด แล้วความสงบก็ตามมา
ฝึกกาย แม้จะทุกข์หนัก ก็ฝ่าฟันลองดู จนสุดท้านก็รู้ ความสงบอยู่ไม่ไกล


....

อย่าไปวิพากษ์ วิจารณ์ มันเลย มันเป็นเช่นนั้นเอง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป กรรมใคร กรรมมัน

สาธุ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: แมงคอลั่น ที่ วันที่ 17 กันยายน 2011, 10:27:41
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมเห็นมีรถบัสไปรอรับ "แม่ออก" ที่หน้าอำเภอ ผมเลยถาม แม่ออกว่าจะไปไหน คำตอบคือ ไปวัดธรรมกาย  แล้วผมก็ถามว่าไปกี่วัน ค่ารถเท่าไหร่ คำตอบคือ "สามวัน ฟรีทุกอย่าง" นี่หรือคือกุศโลบายให้คนเข้าวัด


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: samurai_dek ที่ วันที่ 22 กันยายน 2011, 07:35:13
นานาจิตตัง


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: @@@ฮิเดโก๊ะ@@@ ที่ วันที่ 04 ธันวาคม 2011, 08:40:55
บุญ-บาป อยู่ที่ใจเราค่ะ ไม่ต้องไปแสวงที่ไหน ถ้าทำเพื่อให้ได้ถือว่ายังไม่สิ้นกิเลส ถ้ายังขัดแย้ง สงสัย ถือว่ากิเลสยังอยู่ พระพุทธเจ้าสอนให้ละกิเลส ต้องไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น แล้วจิตเราก็จะสงบ แค่นี้แหละค่ะบุญ เคยได้ยินมาว่าคนใส่บาตรกับคนที่ทอดกฐินใหญ่ ใครได้บุญเยอะกว่ากัน พระท่านตอบว่า ตอนใส่บาตรกับตอนทำกฐินเต็มใจ อิ่มใจ ตั้งใจหรือเปล่า ถ้าเต็มใจ อิ่มใจ ตั้งใจแค่ไหนบุญก็ได้ตามความตั้งใจ อิ่มใจ เต็มใจนั่นแหละ แสดงให้เห็นว่าบุญอยู่ที่ใจค่ะ ไม่ได้อยู่ที่มีคนรู้ หรือมีคนอ่านรายชื่อ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: แซมบัคแซมบัค ที่ วันที่ 07 ธันวาคม 2011, 22:27:11
       ....หลักปฎิบัติตามสายพระธรรมกายจริงของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำนั้นสามารถปฏิบัติได้จริง
       ....ส่วนที่นำไปปฏิบัติดี ก้อมีให้เห็นและดีจริง
       ....ส่วนที่มีการนำมาใช้หาประโยชน์ก้อจริง     
       ....แบ่งแยกชนชั้นการได้บุญตามจำนวนเงินก้อจริง
       .....ถ้อยคำที่ใช้ในการชักจูง สวยงาม น่าหลงใหล  มันก้อจริง
       .....การจัดงานศพ แม่ชีอลังการจริง ผู้คนเรือนแสน จริง
       .....ผู้คนที่มีจิตใจศรัทธา หลายประเทศมีจำนวนมากจริง
       ......แต่หลักปฎิบัติเพื่อให้ถึงนิพพาน มันต้องใช้เงินจริง...
       ...  บอกเล่าเพราะในวันงานศพ แม่ชี..เราคือหนึ่งในแสนผู้มีประสบการณ์จริง .. 

                มีหลายเรื่องราวที่หลายคนไม่รู้จริง แต่การที่ได้ไปร่วมงานในวันนั้นจริงก้อทำให้รู้ว่ามันจริง..เฮ้ออออ


                    ***จนวันนี้ก้อไม่เคยคิดไปอีกเลยจริงๆ***


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: tonkla ที่ วันที่ 12 ธันวาคม 2011, 19:41:39
ตามมาดูเช่นกัน ไม่กล้าออกความเห็นเช่นกัน


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: จงเชื่อมั่นในตัวเราเอง ที่ วันที่ 25 มกราคม 2012, 14:28:52
มาติดตามอ่าน ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น  ;)


เหมือนกันค่ะ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: poupoushop.com ที่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2012, 08:00:48

ได้เห็นความแตกต่างของการจัดงานครับ


+ เห็นด้วยค่ะ

การสอนการปฎิบัติที่ดีนั้นก็เป็นข้อดี...การที่ประกาศขายบุญโดยอ้างว่ามีลำดับชั้นนั้นไม่ดี....การที่ส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้กว้างใกลนั้นดี.....การที่เอาบุญมาหลอกโดยอาศัยความอยากรวยของกิเลสให้ความหวังว่าจะรวยนั้นไม่ดี.....คำสอนหลักธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดี....แต่การประพฤติปฎิบัติที่เป็นการสร้างภาพนั้นเป็นสิ่งไม่ดี.....พระอริยสงฆ์ผู้ปฎิบัติถึงแล้วมักอยู่อย่างสงบ สันโดด พอเพียง รู้เท่าทันกิเลส........ ;D ;D ;D

+ เห็นด้วยเหมือนกันค่ะ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: @เชียงแสน ที่ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 22:27:27
...แปลกตรงที่ วัดนี้บอกว่า ทำบุญเท่านั้น เท่านี้ เงินมาก มาก ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็จะบุญเยอะ...ได้แหวน ได้สร้อย ได้อะไรต่าง ๆ นานา ฯลฯ ไม่มีคำสอนนี้ในพุทธศาสนาครับ....บางคนบูชาพระพุทธรูปองค์ละหมื่น บอกว่าตายไปจะได้นั่น ได้นี่ ฯลฯ


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ๗๔๐ ปี เชียงรายเมืองเกิด ที่ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012, 23:39:00
ผมเชื่ออย่างหนึ่งคือการที่จะทำบุญให้ได้เห็นผลทันตาและยิ่งใหญ่นั้น
คือการทำบุญกับบิดามารดา ผู้ให้กำเนิด


หัวข้อ: Re: ภาพงานศพท่านพุทธทาสและแม่ชีจันทร์
เริ่มหัวข้อโดย: @เชียงแสน ที่ วันที่ 19 มีนาคม 2012, 11:48:45
ผมเชื่ออย่างหนึ่งคือการที่จะทำบุญให้ได้เห็นผลทันตาและยิ่งใหญ่นั้น
คือการทำบุญกับบิดามารดา ผู้ให้กำเนิด


...ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง บางท่านไม่ได้ดูแลพ่อแม่ กลับไปหาพระดัง ๆ ดี  ๆ แล้วพ่อแม่ ซึ่งคือ พระอรหันต์ของลูกกลับไม่ดูแล แบบนี้น่าคิดจริง ๆ ครับ...